”ผู้นำเทวะสูงสุด?เจ้ามีหลักฐานรึ? แล้วความแข็งแรงของเขากับเจ้าละ มันต่างกันมากเพียงใด?”ชิงสุ่ยกล่าวถามหลังจากคิดเล็กน้อย
ชิงสุ่ยช่วยเหลือเธอและไม่ได้ต้องการทำให้ตัวเขาเองต้องกลายเป็นศัตรูกับผู้ใช้พิษสำหรับตัวของเขาการกำจัดพิษเป็นเหมือนเรื่องง่าย แต่สำหรับคนอื่นมันแตกต่างกันมาก หากผู้ใช้พิษคนนั้นรู้ตัวว่าใครเป็นคนแก้ไขพิษที่เขาวางไว้ ภัยร้ายก็จะตกสู่คนรอบข้างชิงสุ่ยด้วยเช่นกัน
”ผู้นำเทวะสูงสุดแม้จะดูเป็นคนรักความยุติธรรม แต่ข้ารู้ดีว่าลึกลึกในใจของเขาคือคนที่ชั่วร้าย หากเทียบกับด้านพลัง แน่นอนว่าข้าสู้ไม่ได้ และสาเหตุที่ทำให้ข้ามั่นใจว่าเขาคือคนที่วางยาข้า มันก็เป็นเพราะพฤติกรรมที่เขาพยายามจะทำให้ข้ากลายเป็นผู้หญิงของเขา แต่ทุกครั้งข้าก็เลือกปฏิเสธ ข้าคิดว่ามันต้องมีบางอย่างเกี่ยวข้องกันแน่”หญิงสาวอธิบายอย่างช้าๆหลังจากขบคิดมาได้สักพัก
ชิงสุ่ยมองดูหญิงสาวด้วยท่าทางแปลกๆนึกๆแล้วมันคงเป็นความรู้สึกผิดแปลก ทำไมชายคนนั้นต้องใช้วิธีวางยาพิษเพื่อควบคุมเธอ?
ในเมื่อชายคนนั้นแข็งแกร่งกว่าถ้าหากเขาเลือกวิธีขื่นใจเธอ มันจะไม่ดีกว่าและง่ายกว่าหรือ? หรือว่าผู้นำเทวะสูงสุดจะไม่ชอบวิธีการแบบนี้? ถ้าเป็นเช่นนั้นหากคนที่โดนวางยาพิษไม่ยอมแพ้และเลือกที่จะตาย พวกเธอก็จะตายเปล่า แต่ถ้าหากพวกเธอยอมแพ้ ผู้นำเทวะสูงสุดจะรักษาพิษชนิดนี้ได้จริงๆหรือ?
พิษอาสัญมฤตยูก็คงบอกตามชื่อมันคือพิษที่ทำให้ผู้คนตายอย่างว่องไว แม้ว่าผู้หญิงบางคนจะไม่กลัวตาย แต่ด้วยความสามารถของพิษร้าย มันจะบีบบังคับให้พวกเธอเริ่มสูญเสียใบหน้าอันงดงาม หรือว่าผู้นำเทวะสูงสุดจะใช้วิธีนี้เพื่อกดดันให้ผู้หญิงทุกคนยอมทำตาม?
พระราชวังอมตะเบญจพิษพระราชวังหมากรุกสวรรค์อมตะและมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ อาจจะมีบางอย่างเชื่อมโยงกัน? แล้วท่ามกลางขุมพลังทั้งสาม ใครคือผู้แข็งแกร่งที่สุด? ก่อนหน้านี้เธอเองก็บอกว่าการที่เธอมาเป็นผู้นำเทวะของมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์คือเรื่องบังเอิญ ทำไมมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์จึงยอมให้ค้นจากพระราชวังอมตะขึ้นมาเป็นใหญ่ในกลุ่มของตนเอง บางทีพวกมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์อาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้หญิงคนนี้มาจากพระราชวังหมากรุกสวรรค์อมตะ
”ผู้นำเทวะสูงสุดรู้ว่าข้าเป็นคนของพระราชวังหมากรุกสวรรค์อมตะ”หญิงสาวคนนั้นอธิบายต่อ
”เป็นไปได้หรือไม่ที่ผู้นำเทวสูงสุดจะใช้วิธีนี้เพื่อบีบบังคับให้พระราชวังหมากรุกสวรรค์อมตะหันหน้ากลับมาเป็นศัตรูกับพระราชวังอมตะเบญจพิษโดยไม่รู้ตัว?”ชิงสุ่ยกล่าวถามต่อ
”พวกเขาไม่ได้มีความขุ่นเคืองหรือบาดหมางใจกันถ้าจะให้กลายเป็นศัตรูกันก็คงอีกยาวไกล แต่อย่างไรก็ตามสถานะของพระราชวังอมตะเบญจพิษยังคงต้องตื่นและไม่ชัดเจนว่าจะอยู่ฝ่ายอธรรม แต่สิ่งที่ข้ารู้คือคนส่วนใหญ่ที่ใช้พิษมักจะไม่ใช่คนดี”
ก่อนจะเริ่มฝึกฝนการใช้พิษคนส่วนใหญ่จะมีภาพลักษณ์ที่ดูดีดูสง่า เมื่อเวลาผ่านไปธรรมชาติจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงสภาพจิตใจของผู้ฝึกฝนให้ค่อยๆมืดมน แน่นอนว่าพิษส่วนใหญ่ที่ใช้ฝึกฝนล้วนทำให้ผู้อื่นทุกข์ทรมานรวมถึงตัวเอง หลังจากเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของตนสู่ด้านมืด พวกเขาก็จะหันวิธีการจู่โจมกลายเป็นรูปแบบลอบโจมตีแทน
”เป็นไปได้หรือไม่ที่ผู้นำเทวะสูงสุดจะเป็นสมาชิกของพระราชวังอมตะเบญจพิษ?”
”ข้าเองก็ไม่แน่ใจนักแต่ที่ข้ารู้ ผู้นำเทวะสูงสุดแข็งแกร่งกว่าข้า ไม่ ข้าจะต้องออกจากที่นี่ ไม่ฉะนั้น ข้าจะกลายเป็นตัวนำพาหายนะมาหาพบเจ้า”หญิงสาวคนนั้นรีบลุกขึ้นก่อนจะกล่าวด้วยความกังวล
”มันคงจะสายไปแล้วล่ะผู้ชายคนนั้นคงรู้ว่าเจ้าอยู่ที่ไหนแล้ว เจ้านั่งลงเถิดและรับประทานอาหารเย็นให้เสร็จสิ้นก่อน เราค่อยมาคิดกันพวกเราจะใช้วิธีไหนรับมือ”ชิงสุ่ยกล่าวอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวคนนั้นแสดงท่าทางเหมือนคนขาดสติสำหรับคนอื่นๆทุกคนต่างรับรู้ถึงความกังวล เพราะเมื่อเทียบระหว่างความสามารถของพวกเธอกับผู้นำเทวะ หญิงสาวคนนี้ยังแสดงความกังวลเรื่องพิษ…..มันคงแปลกถ้าหากคนอื่นที่อยู่ในห้องอาหารจะไม่แสดงท่าทางกังวล