TQF:บทที่ 728 วิถีสวรรค์เป็นพยาน (3)
ส่วนปีศาจเฒ่าอีก 2 คนมีแววกระเสือกกระสนอยู่ในตา แต่จะเจ็บใจแค่ไหนตอนนี้พวกเขาก็ทำได้แค่เสียใจทีหลัง
ในนาทีนั้นสามีภรรยาโม่อู๋เซอก็ปรากฏตัวขึ้น ตาแก่ซอมซ่อก็ปรากฏตัวขึ้น พวกเขาทุกคนล้วนมาอยู่ข้างกายโม่ซวนซุนและเฉิงเสี่ยวเสี่ยว โดยเฉพาะหรงจิ้งซือที่จับว่าทีลูกสะใภ้ไว้สำรวจดูอย่างดีใจ
ตาแก่ซอมซ่อมองคู่รักนี้และหันไปบอกกับคนนับหมื่นด้านล่าง “ข้าคือเสวียนเจินจื่อแห่งโถงวิหารสวรรค์เชื่อว่าทุกคนต้องเคยได้ยินชื่อเสียงเรียบนามของข้าโม่ซวนซุนผู้นี้เป็นนายน้อยวิหารสวรรค์ของเรา และเป็นลูกศิษย์ของข้าเสวียนเจินจื่อด้วย วันนี้พวกเราจะมาไขความสงสัยให้ทุกคนว่าทำไมกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนถึงมาอยู่ที่ผืนดินฉางไห่ เชื่อว่าเมื่อทุกคนฟังจบก็จะเข้าใจว่าทำไมวิถีสวรรค์ถึงยอมเป็นพยาน”
คำพูดของเขาทำให้คนด้านล่างเริ่มถกกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ทุกคนไม่ได้พูดอะไรกันมาก ไม่นานนักก็เงียบลง ถึงอย่างไรชื่อเสียงเรียงนามของเสวียนเจินจื่อในผืนดินฉางไห่ไม่มีใครไม่รู้จัก
ที่สำคัญคือทุกคนก็อยากรู้ว่าเรื่องมันเป็นมายังไงกันแน่ การเอาเผ่าอสูรเข้ามามากมายขนาดนี้ต้องเป็นปัญหาใหญ่แน่นอน แม้จะไม่ถึงขั้นมีแผนร้ายอย่างที่มหาผู้อาวุโส 3 คนพูดเมื่อกี้ แต่ก็ต้องมีเหตุผลแน่ๆ
“สาเหตุเริ่มแรกมาจากลูกศิษย์คนนี้ของข้าไม่ใช่คนของผืนดินฉางไห่ พวกเขามาจากสถานที่ที่เรียกว่าแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์จงหยวน เนื่องจากเขาเป็นลูกศิษย์ของโถงวิหารสวรรค์เช่นกัน เขาได้รับสืบสานจิตเทพจากท่านอาจารย์ปู่รุ่นแรกของเรา ทำให้ทุกโถงวิหารสวรรค์สาขาในผืนดินของเราเกิดปฏิกิริยาตอบสนอง จริงๆแล้วการสืบสานนี้เป็นความลับของพวกเราโถงวิหารสวรรค์ไม่ควรเอามาพูด แต่การได้รับสืบสานจากอาจารย์ปู่รุ่นแรกของเราแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมานานหลายล้านปีแล้ว เมื่อพวกเรารู้ว่ามีลูกศิษย์แบบนี้อยู่ย่อมต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหาเขาให้พบ”
“คำพูดของอาจารย์ปู่ทวดถูก”
นาทีนั้นโม่อู๋เซอก็พูดขึ้นเช่นกัน เขามองทุกคนและพูดอย่างจริงจัง “ข้าชื่อโม่อู๋เซอ เป็นเจ้าโถงวิหารสวรรค์แห่งผืนดินศักดิ์สิทธิ์จงหยวนโม่ซวนซุนคือลูกศิษย์ของข้า อายุแค่นี้ก็ได้รับสืบสานจากโถงวิหารสวรรค์และได้เป็นเจ้าโถงที่อายุน้อยที่สุด พรสวรรค์ยอดเยี่ยม อาจารย์อย่างข้าภูมิใจในตัวเขามาก ส่วนแม่นางคนนี้ที่ชื่อว่าเฉิงเสี่ยวเสี่ยวเป็นคู่หมั้นของลูกศิษย์ข้า ตอนที่พวกเขากำลังจะแต่งงานกัน ลูกศิษย์ของโถงวิหารสวรรค์แห่งผืนดินฉางไห่ปรากฏตัวขึ้นและพาเขาไป”
“เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เพื่อตามหาการสืบสานจากอาจารย์ปู่รุ่นแรก ลูกศิษย์ของเราไปถึงแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์จงหยวนเพื่อพาตัวโม่ซวนซุนมา เรื่องนี้เป็นการกระทำของลูกศิษย์วิหารสวรรค์ของเราจริงๆ” ตาแก่ซอมซ่อพูดขึ้นต่อเพื่อเป็นพยานให้กับโม่อู๋เซอ
ฟางซูหยุนที่พรางตัวอยู่ในฝูงชนหายตัวมาอยู่กลางอากาศเช่นเดียวกันและบอกกับคนด้านล่าง “ข้าฟางซูหยุนเป็นพยานได้ เพราะตอนนั้นข้าเองก็อยู่ที่แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์จงหยวนเหมือนกัน ไม่มีความเท็จใดๆเลยสักนิด”
การปรากฏตัวของฟางซูหยุนสร้างความฮือฮาเช่นกัน เพราะเมื่อหลายสิบปีก่อนชื่อเสียงของนางก็ไม่เลวเลยในชิงยาง ผู้ฝึกฝนวิทยายุทธที่ชิงยางรู้จักนางหมด
แต่โม่อู๋เซอไม่ได้สนใจความฮือฮาของผู้คน พูดด้วยเสียงเข้ม “เพื่อจะตามหาลูกศิษย์ของเราแล้ว พวกเราหาวิธีทะลุมิติมายังผืนดินฉางไห่ เมืองที่พวกเราปรากฏตัวเป็นอำเภอระดับ 3 ชื่อว่าเฉาซาง และลงทะเบียนแผ่นคริสตัลประจำตัวที่นั่น ใครที่ต้องการสามารถไปสืบค้นได้ตลอด ที่พวกเรามาอยู่ที่นี่ไม่ได้มีแผนร้ายอะไรทั้งนั้น และไม่ได้แย่งชิงสิ่งใดจากพวกเจ้าด้วย พวกเรามีแค่เป้าหมายเดียวก็คือตามหาลูกศิษย์ของข้า เฉิงเสี่ยวเสี่ยวได้เจอคู่หมั้นของนาง แล้วมันผิดอะไร”
“ทุกคนก็รู้ว่าผืนดินฉางไห่นั้นกว้างใหญ่ไพศาล พวกเราเพิ่งเคยมาผืนดินกว้างใหญ่แบบนี้เป็นครั้งแรก การจะตามหาใครสักคนด้วยกำลังของพวกเราเองนั้นยากเย็นแสนเข็ญมาก อีกอย่างตอนนั้นลูกศิษย์โถงวิหารสวรรค์ไม่ได้บอกเลยว่านางเป็นใครมาจากไหน การที่พวกเราจะตามหาข่าวคราวในสถานการณ์แบบนี้ก็ต้องคิดหาวิธี ดั้งนั้นพวกเราจึงติดสินใจลงทะเบียนกลุ่มทหารรับจ้าง”
“พวกเราลงทะเบียนกลุ่มทหารรับจ้างที่ไหนทุกคนคงทราบดี สิ่งที่กลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนทำทุกคนก็รู้ เรื่องอื่นที่ว่าความรุ่งเรืองของกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนไปข้ามเส้นกลุ่มทหารรับจ้างเอ้าชัง อีกอย่างพวกเรามีตึกจงหยวน สินค้าที่จำหน่ายก็ทำให้สำนักตันซือและสำนักวั่นตันเสียผลประโยชน์ พวกเขาถึงได้ไล่เข่นฆ่าสมาชิกของกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุน”
พูดถึงตรงนี้โม่อู๋เซอเงียบไปแปปนึง สายตาของเขากวาดผ่านทุกคนและเอ่ยต่อเสียงเข้ม “เรื่องของสมาชิกกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุน เฉิงเสี่ยวเสี่ยวผู้นี้คือหัวหน้ากลุ่ม เป็นเจ้าแห่งการฝึกสัตว์ สัตว์อมตะที่มีในครอบครองสามารถแปลงกายเป็นมนุษย์และแฝงตัวอยู่ในผู้คน ที่พวกเราก่อตั้งกลุ่มทหารรับจ้างก็เพียงเพราะอยากจะตามหาคนเท่านั้น ไม่ได้ทำการใดที่เป็นการแก่งแย่งชิงอำนาจหรือเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ แต่กลับกลายเป็นเสี้ยนหนามในสายตาของอิทธิพลใหญ่ต่างๆ จะต้องข่มกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนลงไปให้ได้และแย่งชิงทรัพยากรของตึกจงหยวน จึงได้เป็นเหตุของเหตุการณ์ในวันนี้”
“ร่างเดิมของสมาชิกกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนคือสัตว์อมตะ หลังจากที่เหล่าผู้อาวุโสแห่งกลุ่มทหารรับจ้างเอ้าชังก็ได้ส่งกลุ่มสมาพันธ์มหาผู้อาวุโส 10 กว่าคนไล่ล่าสังหารสมาชิกของกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุน เมื่อหัวหน้ากลุ่มเฉิงเสี่ยวเสี่ยวรู้เข้าจึงรีบเรียกเผ่าอสูรกลับมา สาเหตุที่ปิดตัวตึกจงหยวนลงก็เพื่อรักษาชีวิตของเผ่าอสูร”
“กลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนถูกถล่มโดยไร้สาเหตุ เหล่าผู้อาวุโสแห่งสำนักต่างๆยังไม่อยากปล่อยเผ่าอสูรไป จึงหารือกันว่าจะล้มล้างหัวหน้ากลุ่มเฉิงเสี่ยวเสี่ยวในงานประลองการสกัดยาด้วยข้ออ้างที่ว่า ต่างเผ่าพันธุ์กันย่อมเห็นต่าง เพื่อแอบบีบคั้นให้นางยอมมอบเผ่าอสูรให้ และใช้ร่างเดิมสัตว์อมตะสกัดยาเม็ด ข้าชี้แจงไว้ ณ ที่นี้เลยว่าทุกอย่างเป็นเรื่องจริงๆ ไม่ได้โกหกทุกคนแต่อย่างใด”
พูดจบสายตาของโม่อู๋เซอทอดไปยังที่นั่งประธานและจ้องมองเหล่าผู้อาวุโส “ผู้อาวุโสทุกท่าน ต้องให้ข้าสาบานถึงความจริงของเรื่องนี้มั้ย ถ้าผู้อาวุโสทุกท่านให้ตายก็ไม่ยอมรับข้าก็สามารถสาบานเพื่อพิสูจน์ความจริงของเรื่องนี้ได้”
“…..” เหล่าผู้อาวุโสบนที่นั่งประธานหน้าดำคร่ำเครียดอย่างถึงที่สุด ตอนนี้พวกเขาจะไปเอาความกล้าจากไหนมาพูด มาเถียงอีกฝ่าย คิดแต่จะหาวิธีหนีเอาชีวิตรอดแล้วตอนนี้
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง”
“ตายจริง ไม่อยากจะเชื่อเลย”
“ที่แท้หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนก็เดินทางเป็นพันๆลี้เพื่อตามหาสามี พวกเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย”
“คิดไม่ถึงเลยว่าผู้อาวุโสจากสำนักต่างๆจะจิตใจโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้ มิน่าล่ะพวกเขาถึงเป็นเซียนสวรรค์ไม่ได้ ทำเรื่องชั่วๆซะมากมายขนาดนี้ วิถีสวรรค์ยังไม่ต้องการเชิดชูพวกเขา”
“ข้าว่างานประลองการสกัดยาครั้งนี้ไม่เข้าร่วมจะดีกว่า สำนักที่มีผู้อาวุโสโกหกหน้าตายขนาดนี้เข้าร่วมไปก็ขายขี้หน้าของพวกเราเปล่าๆ”
“นั่นน่ะสิ เลวเกินไปแล้ว จะบีบให้คนของกลุ่มทหารับใช้ซื่อหุนตายเลยรึไง ดีนะที่พวกเรารู้แล้วว่าความจริงเป็นอย่างไร”
“ตาแก่พวกนี้บีบให้ตึกจงหยวนปิดตัวลงเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ทำให้พวกเราไม่มีที่จะซื้อทรัพยากร ข้าว่าให้คนของกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนอยู่ต่อจะดีกว่า”
“ของที่ตึกจงหยวนขายดีกว่าของจากสำนักต่างๆตั้งเยอะ และถูกกว่าเยอะด้วย ข้าก็เลือกให้ตึกจงหยวนอยู่ต่อที่ผืนดินฉางไห่ของเรา”
…..
ทั้งลานกว้างส่งเสียงกันอย่างคับคั่งอีกครั้ง สมาชิกเผ่าอสูรของกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนนอกจากจะไม่เป็นที่รังเกียจของผู้คนแล้ว กลับกัน การกระทำของกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนใน 2 ปีนี้ยิ่งเป็นที่ยอมรับของพวกเขามากกว่า
แน่นอนว่าก็ไม่ใช่ร้อยทั้งร้อยที่จะยอมรับ ยังมีคนส่วนน้อยที่เฉยเมยใส่ราวกับไม่เกี่ยวกับพวกเขา แท้จริงแล้วพวกเขาคิดเห็นอย่างไรนั้นก็มีแต่พวกเขาที่รู้
“ทุกคน….”
———————–