ในที่สุดคิมซูโฮก็พยักหน้า ณ จุดนี้คนอื่นไม่มีทางเลือกนอกจากต้องปฏิบัติตาม
พวกเขาวิง่ผ่านจินซาฮยอคไป ขอให้เธอโชคดี น่าแปลกที่โมแร็กซ์ไม่ได้รบกวนการจากไปของพวกเขา การจ้องมองของปีศาจถูกยึดเหนี่ยวไว้ที่จินซาฮยอค
จินซาฮยอครอจนกระทั่งทุกคนจากไปแล้วหันไปมองโมแร็กซ์
“ ในที่สุดเราก็อยู่ตามลำพังสักที”
ในขณะที่เธอพูดอย่างนั้น ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอ จินซาฮยอคทำหน้าบูดบึ้งเมื่อเธอหันมาเห็นใบหน้าเขา
“ ทำไมนายถึงยังอยู่ที่นี่?”
“ …ความล่าช้าเล็กน้อยไม่มีปัญหาอะไรกับชัยชนะของฉันหรอกนะ”
“อะไรนะ?”
ชายคนนั้นคือชินจงฮัก ดูเหมือนว่าเขากำลังพยายามช่วยจินซาฮยอคเอาชนะโมแร็กซ์ แม้ว่าเธอไม่เคยขอให้เขาชดใช้ให้เธอที่ทำให้เขาได้พบกับปู่ของเขาก็ตาม
“ ฉันพยายามจะช่วยเธออยู่ ยัยงี่เง่า”
“ แค่หุบปาก แล้วไป”
แต่ก่อนที่จินซาฮยอคจะสามารถทำให้เขาเปลี่ยนใจ โมแร็กซ์ก็เริ่มเคลื่อนไหว
Guuuuo …
มันเหมือนเสียงคำรามของสัตว์ร้าย โมแร็กซ์ส่งเสียงดังกึกก้องและเหวี่ยงแขนอันใหญ่โตของมัน
KOONG-!
**
[ปราการของ อียอนจุน]
แชนายอนเหวี่ยงบัลมุงก์ลง ดาบขนาดมหึมาปลดปล่อยพลังเวทย์ที่เจิดจ้าพุ่งตรงไปที่อียอนจุน บัลมุงก์เล็งไปที่อียอนจุนจากด้านหน้า ดาบบินของเธอโจมตีเขาจากด้านข้างและด้านหลัง ดังนั้นจึงไม่มีวิธีไหนทางกายภาพที่จะหลีกเลี่ยงการโจมตีของเธอได้
แต่กลับกัน อียอนจุนได้ใช้พลังจิตในการป้องกันการโจมตีของเธอ Kiiik— พลังเวทย์มนตร์ของแชนายอนชนกับกำแพงที่มองไม่เห็นและหายไปเนื่องจากแรงเสียดทาน
“ มันเจ๋งมาก”
แชนายอนพึมพำอย่างใจเย็น
“ มาดูกันว่าคุณจะอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่”
เธอสามารถสร้างการโจมตีก่อนหน้านี้ซ้ำๆได้อีกเป็นหลายสิบครั้ง กิฟต์ของเธอคือ [ผืนทะเลแห่งพลังเวทย์มนต์] มันได้รับการตั้งชื่อเช่นนี้เพราะพลังเวทมนต์ของเธอนั้นใหญ่พอ ๆ กับท้องทะเล
เมื่อต้องต่อสู้ เธอไม่เคยขาดพลังเวทย์แม้แต่ครั้งเดียว
ไม่มีปัญหาอะไรเลย เพราะความพิเศษของเธอคือการต่อสู้ที่ยาวนาน เธอเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องสตามิน่าอันไร้ขีดจำกัด
Woosh-
ในขณะนั้น ปราการก็เริ่มเคลื่อนไหว อียอนจุนพยายามที่จะบดขยี้แชนายอนโดยบีบอัดกำแพงของเขา แต่แชนายอนพยายามผลักกำแพงออกไป และคิมฮาจินก็ยิงเดสเซิทอีเกิลในช่วงเวลาสั้น ๆ เมื่อ อียอนจุนไม่ทันระวังตัว
Kwagwagwagwa-!
กระสุนบาซิลิสก์พิษนับไม่ถ้วนพุ่งตรงไปที่อียอนจุน เขาหลบกระสุนและจ้องกลับไปที่คิมฮาจิน
“…”
อียอนจุนรู้สึกถึงโกรธที่กำลังเดือดพล่านอยู่ข้างในของเขา
เบื้องหน้าของเขาคือผู้สร้างโลกนี้ น่าเศร้าที่อียอนจุนรู้สึกผิดหวังกับคิมฮาจิน เขาเกลียดความจริงที่ว่าผู้สร้างของเขาเป็นมนุษย์เช่นเดียวกับตัวเขาเอง ผู้สร้างไม่ได้ยิ่งใหญ่หรือแม้แต่สง่างาม
Kwaaaaa-!
’ฉันมีชีวิตเพื่ออะไร’ อียอนจุนสงสัย เขาพยายามป้องกันดาบของแชนายอนที่พุ่งตรงมาที่เขาจากทุกทิศทาง
เพราะเขาเกิดมาในโลกนี้โดยที่ไม่มีสิ่งใดเรียกได้ว่าเป็นของตัวเขาเอง เขาจึงต้องการทุกสิ่ง
เขาต้องการที่จะปกครองเพนเดอร์โมเนียมและทุกสิ่งที่เขาเห็น
ในหลุมแห่งความสิ้นหวังที่เรียกว่าชีวิต มีเพียงทรัพย์สมบัติของเขาเท่านั้นที่ให้ความหมายแก่เขา ความโลภและความหลงใหลช่วยให้เขามีชีวิตรอด หากไม่ใช่สิ่งเหล่านี้แล้ว อียอนจุนคงสูญเสียความหมายในการมีชีวิตและตายไปนานแล้ว….
ในขณะนั้น อียอนจุนนึกถึงสมบัติล้ำค่าที่สุดที่เขาเคยเป็นเจ้าของ ดวงตาของพลอยสีแดงเข้มและผมยาวสีดำที่เปล่งประกายราวกับคลื่นเขาจำได้หมด
ชื่อสมบัติคือ อีบยอล
แต่สมบัตินั้นไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป เธอเคยอยู่ในมือของเขาซึ่งเป็นที่ที่เธอควรจะอยู่ชั่วนิรันดร์ แต่ … ชายคนนี้ที่อยู่ในสายตาของเขา ขโมยเธอจากเขาไป
ชายธรรมดาคนนั้นได้ปล้นเอาทุกสิ่งทุกอย่างของเขาไป
ความโกรธของอียอนจุนกลายเป็นน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้มของเขา เขาเล็งไปที่คิมฮาจิน
เขาวางแผนที่จะระเบิดปราการของตัวเอง มันอาจจะหมายถึงการฆ่าตัวตายไปพร้อมกัน แต่อียอนจุน รู้สึกว่าชีวิตของเขาไม่มีความหมายอีกต่อไปแล้ว ชีวิตของเขาไม่มีอะไรนอกจากเรื่องในนิยาย
แต่ชีวิตของคิมฮาจินนั้นแตกต่างกัน ชีวิตของเขามีความหมายที่แท้จริง ดังนั้นหากอียอนจุนสามารถทำให้คิมฮาจินสูญเสียชีวิตนั้นไปได้ มันคงจะเป็นการกระทำครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่มีความหมายที่สุดของเขาเอง
!“-”
อียอนจุนคำราม จากนั้นเขาก็พยายามระเบิดปราการโดยใช้พลังเวทย์มนตร์ที่เหลือ เขาเก็บเกี่ยวผลผลิตแห่งความพยายามของเขาเมื่อกำแพงเริ่มพังทลาย เหลือเวลาอีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้นจนกว่าทุกคนในกำแพงจะตายอย่างเจ็บปวด
อย่างไรก็ตาม
อียอนจุนรู้ได้ทันทีว่าเขาไม่สามารถขยับร่างกายได้อย่างอิสระตามที่เขาหวังไว้ การบีบตัวของกำแพงกั้นหยุดลงชั่วคราวและวิสัยทัศน์ของอียอนจุนก็เริ่มเบลอ
เขาล้มลง เลือดสีดำปะทุออกมาจากร่างกายของเขาและอาบพื้นจนชุ่ม
“ อ่า….” อียอนจุนพึมพำ
ร่างกายของเขาสูญเสียความสามารถในการหายใจ แขนขาของเขาอ่อนแรง
‘ทำไม…?’ อียอนจุนสงสัย ‘นี่คือกลอะไร?’
คิมฮาจินไม่ได้ขยับแม้แต่นิ้วเดียว ดังนั้นเป็นไปได้อย่างไร
จากนั้น
นัยน์ตาของอียอนจุนได้สะท้อนสมบัติที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของเขาขึ้นมา
สมบัติ – อีบยอล – สวยงามกว่าที่เขาจำได้
อีบยอลมองดูเขาด้วยสายตาเย็นชา อียอนจุนมองเธอด้วยดวงตาที่ปิดสนิทครึ่งหนึ่ง เขาพยายามเก็บความงามของเธอไว้ในนั้น
และเธอ … ดีเกินกว่าที่จะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาเห็น
อียอนจุนไม่ได้กระพริบตาแม้แต่น้อยพร้อมกับลมหายใจที่กำลังจะหายไป