ฉึกก-!
เสียงเนื้อมนุษย์ที่ถูกของมีคมแทงดังขึ้น ใบมีดสีดำเจาะท้องของอียอนจุน ในที่สุดเขาก็ล้มลงอย่างช้าๆ และทำอะไรไม่ถูกเหมือนหุ่นเชิดที่ตัดสายทิ้ง
“…”
ผมดึงเดสเซิทอีเกิ้ลลงแล้วมองไปข้างหน้า
บอสปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าของผม เธอยืนอยู่ข้างหลังอียอนจุนที่ล้มลงอยู่บนพื้น เลือดของเขากำลังหยดลงพื้นจากมือของเธอ
“อา-“
อียอนจุนร้องออกมาเบาๆ เขาพยายามขยับคอ แต่มันก็ยากเกินไปที่จะต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด อียอนจุนแสดงออกราวกับว่าเขาต้องการจะเก็บภาพของบอสไว้ด้วยดวงตาที่ว่างเปล่าของเขาให้ได้นานที่สุด
แต่ทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น? เป็นเพราะเขาอยากรู้ว่าใครฆ่าตัวเอง? หรือว่าเขาต้องการเห็นบอสเป็นครั้งสุดท้ายกันแน่?
ผมไม่สามารถหาคำตอบได้ แต่ผมก็ไม่ได้อยากรู้อยากเห็นเรื่องนี้มากนัก
สิ่งที่ผมอยากรู้จริงๆก็คือทำไมบอสถึงมาที่นี่
โชคดีที่ความอยากรู้ของผมก็ถูกเติมเต็มในไม่ช้า ผมมองเห็นสปาร์ตันที่โผล่หัวออกมาจากด้านหลังขาของบอส
เห็นได้ชัดว่าเขาคือคนที่นำทางบอสมาที่นี่ แม้ว่าผมจะไม่ได้ถามก็ตาม บอสอาจขอให้สปาร์ตันพาเธอมาที่นี่ บางทีสปาร์ตันอาจตัดสินใจอย่างอิสระเพื่อช่วยผม สถานการณ์ที่แน่นอนยังไม่อาจรู้แน่ชัด แต่เห็นได้ชัดว่าสปาร์ตันดูเหนื่อยมากจากการเดินทางหลายครั้งผ่านช่องว่างของมิติที่บิดเบี้ยวนี้
“เกิดอะไรขึ้น?”
แชนายอนมองบอสสลับกับผมด้วยความสับสน เธอยกดาบบัลมังตั้งกาดขึ้น เมื่อคิดว่าบอสอาจเป็นศัตรู แต่บอสมองกลับมาที่แชนนายอนโดยไม่ได้แสดงถึงความเป็นศัตรูใดๆ
แชนายอนค่อยๆลดดาบลง จากนั้นเธอก็หันมามองผม
“… เฮ้.”
แชนายอนเรียกผม ผมหันไปยิ้มตอบกลับด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆของตัวเอง
“สักพักหนึ่งแล้วนะ”
“…”
แชนายอนจ้องมองมาที่ผมเงียบๆ ริมฝีปากของเธอขยับในขณะที่กำลังเลือกคำพูดอย่างระมัดระวัง แต่ในที่สุด สิ่งที่ออกมาจากริมฝีปากนั้นหลังจากการตรึกตรองมานานก็สังเกตเห็นได้ชัดว่าถูกบิดเบือนออกไป
“ ค่อยว่ากันทีหลัง ตอนนี้เราไม่มีเวลาแล้ว” เธอพึมพำด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ
คำพูดของเธอทำให้ผมรู้สึกผิดหวังนิดๆ ผมเหลือเวลาเท่าไหร่ในโลกนี้? ผมจะสามารถได้พูดคุยสิ่งต่าง ๆ กับเธอก่อนที่ทุกอย่างจะจบลงได้ไหมนะ?
“ไม่ รอเดี๋ยว”
แชนายอนขมวดคิ้วราวกับว่าเธอเปลี่ยนใจฉับพลัน
“ เฮ้ นาย!”
เธอตะโกนและคว้าที่คอเสื้อของผม แม้ว่าเธอจะทำให้ผมตกใจเล็กน้อย แต่ผมก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา นิสัยที่คาดเดาไม่ได้ของเธอคือสิ่งที่ผมชอบมากที่สุดเกี่ยวกับเธอ
“ …ฉันหมายถึง – โง่…คน…ที่มักจะวิ่งหนี”
แชนายอนเลือกคำพูดของเธออย่างระมัดระวัง การดิ้นรนเพื่อให้หลุดออกจากสถานการณ์นี้ทำให้เสียงเธอฟังดูอึดอัดเล็กน้อย
“ เธอกำลังคิดอะไร ที่เธอหมายถึง…. และ…. อ่า. เพียงแค่บอกฉันมา อธิบายทุกอย่างให้ฉันฟัง”
ตอนนั้นเองบอสก็เคลื่อนไหว เธออุ้มร่างอียอนจุนพาดไว้บนไหล่ของเธอ แชนายอนสะดุ้ง
“ เธอต้องการศพไปทำไมกัน? เดี๋ยวก่อน ที่สำคัญกว่านั้น เธอเป็นใคร?” แชนายอนกระซิบกับผมเบาๆ
ปราการนั้นหายไปทันทีเมื่อบอสเคลื่อนย้ายร่างของอียอนจุน เปลือกของปราการสั่นสะเทือนและเปิดออก
“บอส! คุณคือ บ-”
เรากลับมาสู่ปราการของบาอัล เจนและสมาชิกคนอื่น ๆของคณะคมีเลียนเดินเข้ามาต้อนรับบอส เจนรีบวิ่งไปหาบอสด้วยรอยยิ้ม แต่สีหน้าของเธอพลันเปลี่ยนเป็นแข็งทื่อทันทีเมื่อเธอเห็นร่างของอียอนจุนที่พาดอยู่ด้านหลังของบอส บอสพยักหน้าโดยไม่ได้พูดอะไรแล้ววางศพของอียอนจุนลงบนพื้น
“ …ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี ~”
เจนพูดพึมพำและก้มมองดูอียอนจุนอย่างใกล้ชิด ในดวงตาที่เบิกกว้างของเขามีเงาของบอสพาดผ่าน
เจนถอนหายใจเล็กน้อย เธอปิดดวงตาของอียอนจุนให้เขา
หลังจากนั้น
“ นั่นใช่นายอนไหม”
ยูยอนฮาที่อยู่ในป้อมปราการก็ตะโกนเสียงดังขึ้นอย่างกระทันหัน จากนั้นเพียงไม่นานเจนถึงสังเกตเห็นว่ามีอีกหนึ่งคนที่นี่นอกเหนือจากบอสและผม
แชนายอนหันไปมองยูยอนฮาด้วยความประหลาดใจ
“ยอนฮา?”
สายตาของพวกประสานกัน ทั้งสองลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะรีบเข้าไปในอ้อมแขนของกันและกัน
ผมมองดูพวกเขาซักพักแล้วถึงหันมามองป้อมปราการที่อาราชิสร้างขึ้น
===
[ป้อมปราการเวทมนตร์ของอาราชิ]
– ป้อมปราการเวทมนตร์ที่สร้างโดย ฮิราโนะ อาราชิ ซึ่งเป็นเจ้าแห่งการสร้างป้อมปราการ
* เพิ่มการโจมตีจากภายในป้อมปราการสู่ภายนอก 20%
* เพิ่มการป้องกันการโจมตีจากภายนอกป้อมปราการ 20%
– ศักดิ์ศรีของมาสเตอร์
* เพิ่มพลังสัตว์ที่ถูกอัญเชิญ
* ปืนใหญ่อัตโนมัติภายนอก
…
มีฟังก์ชั่นที่มีประโยชน์มากมายที่ติดอยู่กับป้อมปราการ แต่ถ้าจะเจาะจงในรายละเอียดคงต้องเอาไว้ทีหลัง ผมมีสิ่งที่สำคัญกว่าที่ต้องทำในตอนนี้
“…”
บอสยืนอยู่ด้วยความงุนงงและก้มมองดูร่างกายของอียอนจุน ไม่มีความโศกเศร้า ความสุขหรือความไม่พอใจในสายตาของเธอ ราวกับว่าเธอติดเชื้อมาจากความว่างเปล่าของอียอนจุน
ผมเดินเข้าไปหาเธอช้าๆ แต่เธอหลีกเลี่ยงที่สบตากับผม ผมกระซิบชื่อของเธออย่างช้าๆ
“ อีบยอล”
ร่างกายของบอสสั่นไหว ดวงตาที่ไร้ชีวิตชีวาของเธอหันมามองที่ผม พวกมันยังคงสวยงามเหมือนกับสีของแก้วภูเขาไฟเพียงแต่สูญเสียความประกายภายในนั้นไป
ผมอยากกอดเธอเอาไว้
[เริ่มอาร์คสุดท้าย]
แต่จากนั้น ประโยคข้อความหนึ่งได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าผม ซึ่งดูเหมือนจะเตือนผมว่ายังไม่ใช่เวลานี้
ผมอ่านประโยคนั้น
[ความสมบูรณ์ของอาร์คนี้จะปลดล็อค ‘???’]
โค้งสุดท้าย
ปลายทางสุดท้ายของการเดินทางที่ยาวนาน
ผมกำหมัดของตัวเองแน่น
ผมต้องทำให้อาร์คสุดท้ายนี้เสร็จสิ้นเพื่อให้ทุกอย่างจบลงอย่างเหมาะสม
สิ่งนี้เชเท่านั้นที่ผมสามารถระบุการมีอยู่ของตัวเองได้
ผมตัดสินใจที่จะบันทึกความรู้สึกของตัวเองไว้ในวันสุดท้าย
“…”
ผมจับมือบอสไว้ด้วยมือของตัวเอง มือของเธอเย็นชาและสั่นไหวราวกับว่าพวกเขากำลังร้องไห้เพื่อเธอ
“ เฮ้ บอส”
ผมถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเบา ๆ แล้วจับมือเธอไว้แน่น
“ คุณยังจำชื่อของผมได้ไหม”
****2****