ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK

สารบัญ อาณาจักรวิญญาณ

••••••••••••••••••••

**บทที่****268:**เปลี่ยนเป้าหมาย

แม้ว่าเทพธิดาเหมยฮวาจะกล่าวเหมือนว่านางอ่อนโยน แต่ซ่งจงนั้นไม่ประมาทเพียงเพราะนางพูดเช่นนั้น เขาเงยหน้าขึ้นพร้อมกล่าวว่า “ข้าคิดว่าท่านคืออาวุโสผู้มีชื่อเสียงเทพธิดาเหมยฮวา ถูกไหม?”

“ฮ่าฮ่า ข้าไม่ได้คาดหวังว่าสายตาของเจ้าจะแหลมคมเช่นนี้!” เมื่อได้ยินเช่นนั้น เทพธิดาเหมยฮวาอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา “เจ้ารู้ได้อย่างไร?”

“นอกเหนือจากอาวุโสแล้ว ไม่มีผู้ฝึกตนสตรีคนไหนที่อยู่ในระดับหยวนหยินภายในสำนักเสวียนเทียน!” ซ่งจงหัวเราะในขณะตอบกลับ ก่อนที่จะกล่าวอะไรสักอย่างด้วยอารมณ์ที่หดหู่ “ข้านั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีกับศิษย์ของท่าน แม่นางฉุ่ยจิ้ง และไม่ต้องการต่อสู้กับท่านแม้แต่น้อย!”

“เจ้าหมายความว่าอะไร?” เทพธิดาเหมยฮวาอุทานออกมา “เจ้าคิดว่าข้ามาเพื่อต่อสู้กับเจ้างั้นหรือ?”

“อะไรนะ?” ซ่งจงไม่อาจช่วยได้เมื่อได้ยินเช่นนั้น “อย่าบอกนะว่าอาวุโสไม่ได้ต้องการที่จะขัดขวางข้า?”

“สิ่งที่ข้าจะบอกกล่าวในตอนนี้คือ นับตั้งแต่วันนี้ไปข้าจะตัดสัมพันธ์ทุกอย่างกับไอ้สามตัวข้างล่างนั่น และอีกอย่างก็คือข้าจะมีความสุขมากถ้าหากฮัวอวิ๋นตาย!” เทพธิดาเหมยฮวากล่าวออกมาอย่างโกรธแค้น

“เอะ?” ซ่งจงไม่คิดว่านางจะกล่าวเช่นนี้ แน่นอนว่าเขาประหลาดใจอย่างมาก

เมื่อเห็นว่าซ่งจงตกตะลึง เทพธิดาเหมยฮวาทำได้เพียงยิ้มเบาๆและกล่าวว่า “ข้ารู้ว่ามันแปลก แต่ทุกคำที่ออกจากปากข้าล้วนแต่เป็นความจริง ด้วยสถานะของข้าแน่นอนว่ามันไม่คุ้มค่าที่จะโกหกเจ้า!”

“ถ้าเช่นนั้นอาวุโสจงออกจากพื้นที่และปล่อยให้ข้ากวาดล้างนักบวชฮัวอวิ๋นให้หายไปจากโลกนี้เถิด!” ซ่งจงรีบกล่าวออกมา

“เช่นนั้นไม่ได้!” เทพธิดาเหมยฮวาส่ายหัวพร้อมกล่าวว่า “ดูเจ้าในตอนนี้สิ ช่างโง่เขลา! ข้าขอถามเจ้าสักข้อ ถ้าหากเจ้าสามารถทำลายสำนักเสวียนเทียนให้กลายเป็นผุยผง เจ้าจะสามารถสังหารนักบวชฮัวอวิ๋นได้อย่างแน่นอนงั้นหรือ?”

“เรื่องนั้น…” ซ่งจงคิดตามอย่างเงียบๆ แน่นอนว่าเขารู้ว่าผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินมักจะมีทักษะพิเศษเพื่อช่วยเหลือชีวิตตนเองในยามคับขัน แต่สำหรับซ่งจงนั้นต้องพึ่งพาเรือมังกรทองคำจึงจะชนะหรือสามารถหลบหนีได้ แต่สำหรับการสังหารพวกเขานับได้ว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่งทันที อีกฝ่ายใช้ความพยายามในการวิ่งหนีเท่านั้นและด้วยความเร้วของผู้ฝึกตนระดับหยวนหยิน เรือมังกรทองคำอาจจะไล่ตามได้ทัน แต่การใช้หินจิตวิญญาณที่มหาศาลไม่ใช่เรื่องที่ซ่งจงจะยอมรับได้ ดังนั้นแม้ว่าเขาจะสามารถทำลายสำนักเสวียนเทียนได้ในวันนี้แต่เขาไม่สามารถทำอะไรกับนักบวชฮัวอวิ๋นได้

เมื่อเห็นท่าทีของเขา เทพธิดาเหมยฮวารู้ได้ทันทีว่าซ่งจงนั้นเข้าใจทุกอย่างที่นางกล่าว นางจึงพูดต่อ “เด็กน้อยความจริงก็คือนักบวชฮัวอวิ๋นเป็นศัตรูของเจ้า แต่สำนักเสวียนเทียนนั้นไม่ใช่! ฮัวเฉียนหวู่ไม่ได้อยู่ที่นี่ แม้ว่าเจ้าจะทำลายทั้งสำนัก ผลลัพธ์ของมันเป็นเพียงผู้บริสุทธิ์เท่านั้นที่ล้มตาย อีกทั้งบางคนยังเป็นสหายของเจ้าอีกด้วย เจ้าสามารถมองดูพวกเขาตายได้งั้นหรือ?”

“เรื่องนั้น…” คำพูดเหล่านี้ทิ่มแทงเข้าไปในหัวใจของซ่งจง ใบหน้าที่คุ้นเคยของหานหลิงเฟิง เจ้าลิงและอาวุโสลุงฉิงเฟิงซีปรากฏขึ้นภายในหัวใจของเขา ตอนนี้จิตสังหารของเขาได้อ่อนแอลง แม้ว่าเขาจะเกลียดนักบวชฮัวอวิ๋นเข้ากระดูกแต่เขาก็ไม่อาจเสียสหายเหล่านี้ไปได้

เมื่อมองเห็นความเจ็บปวดของเขา เทพธิดาเหมยฮวายิ้มออกมา “เด็กน้อยอย่าได้ท้อแท้! ข้าขอกล่าวกับเจ้าว่าศัตรูที่แท้จริงของเจ้านั้นคือหอเฉวียนจี้ นั่นคือที่อยู่ปัจจุบันของฮัวเฉียนหวู่ ไม่เพียงนางเท่านั้น แต่ยังมีเทพธิดาชิงหยุนที่ไร้ยางอายอยู่ที่นั่นด้วย พวกนางทั้งสองเป็นต้นเหตุการณ์ตายของครอบครัวเจ้าอย่างแท้จริง เหตุใดเจ้าจึงไม่ไปที่นั่นเพื่อทำลายสำนักของพวกนางแทน?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของซ่งจงเปลี่ยนเป็นสีแดงพร้อมกับปรากฏจิตสังหารครั้งใหม่ออกมามหาศาล จากนั้นเขาถ่มน้ำลายออกมาอย่างดุร้าย “อาวุโสกล่าวถูก ความคับข้องใจนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ ทุกคนต้องชดใช้หนี้ให้กับข้า เช่นนี้ข้าไม่ควรโจมตีสำนักเสวียนเทียนโดยไร้เหตุผล เป้าหมายของข้าต้องเป็นหอเฉวียนจี้ ในตอนนี้ข้าจะมุ่งหน้าไปที่นั่นเพื่อแก้แค้น!” เมื่อเขากล่าวเช่นนั้น เขาโบกมือพร้อมกับเปลี่ยนเส้นทางเพื่อไปยังหอเฉวียนจี้ทันที

อย่างไรก็ตาม เขาถูกหยุดโดยเทพธิดาเหมยฮวาที่ตะโกนออกมา “รอเดี๋ยว!”

“อาวุโสมีคำแนะนำเพิ่มเติมงั้นหรือ?” ซ่งจงรีบหยุดทันทีพร้อมกับหันหลังกลับมาหานาง

 

 

“ใจเย็นก่อนเด็กน้อย ด้วยความแข็งแกร่งของเจ้าในตอนนี้จะสามารถต่อสู้กับหอเฉวียนจี้ได้อย่างไร? รูปแบบการป้องกันของพวกเขานั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าสำนักเสวียนเทียน นอกจากนี้มันยังถูกบำรุงรักษาอย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าเรือมังกรทองคำของเจ้าจะทรงพลังมากกว่า แต่เจ้าไม่อาจทำลายกำแพงป้องกันเหล่านั้นได้!” เทพธิดาเหมยฮวาพยายามกล่อมให้เขาใจเย็นมากกว่านี้

“อ่า เป็นเช่นนั้น…” ซ่งจงสูดหายใจเข้า เขารู้ว่าเทพธิดาเหมยฮวาไม่โกหกเขา ดังนั้นเขาจึงเปิดเผยความวิตกกังวลออกมา

เมื่อเห็นใบหน้าที่ตึงเครียดเช่นนั้น เทพธิดาเหมยฮวาเผยยิ้มน้อยๆพร้อมกล่าวต่อ “เด็กน้อยแท้จริงแล้วไม่มีอะไรยากเลย ในขณะที่รูปแบบการป้องกันของหอเฉวียนจี้นั้นอาจดูเหมือนว่าแข็งแกร่งกว่าเจ้า แต่สำหรับข้ามันเต็มไปด้วยช่องโหว่ มาดูนี่สิ!” ในขณะที่นางกล่าวจบ นางหยิบหยกขาวออกมาหนึ่งชิ้นพร้อมกับส่งมันให้กับซ่งจง

จากนั้นซ่งจงถามด้วยความสงสัย “สิ่งนี้คือ…?”

“นี่คือรูปแบบพลังของการป้องกันที่ยิ่งใหญ่ของหอเฉวียนจี้ ข้าทำแผนที่ไว้ให้เจ้าเรียบร้อยแล้ว ตราบใดที่เจ้ารู้จุดสำคัญทั้งหมดบวกกับความแข็งแกร่งของเรือมังกรทองคำ เจ้าจะสามารถทำลายมันได้อย่างแน่นอน!” เทพธิดาเหมยฮวาเผยยิ้มชั่วร้ายออกมาในขณะที่นางกล่าว

“เอะ?” ดวงตาของซ่งจงเปล่งประกายออกมาพร้อมกล่าวอย่างมีความสุข “ทำไมอาวุโสถึงมอบมันให้กับข้า?”

“เพราะว่าข้าไม่อาจทนได้ที่บางคนทำเหมือนข้านั้นโง่เขลาและเป็นคนงี่เง่า!” เทพธิดาเหมยฮวาตอบกลับอย่างเกลียดชัง

“เอะ?” ซ่งจงไม่ได้คาดหวังว่าคำตอบจะเป็นเช่นนี้พร้อมกับคิดในใจ ‘สิ่งที่เป็นไปได้มากที่สุดคือคนในหอเฉวียนจี้นั้นทำให้นางโกรธ นางจึงคิดจะยืมมือข้าเพื่อสังหารใครสักคน!’

เทพธิดาเหมยฮวากล่าวต่อ “นอกจากนี้เจ้าจะพบเจอกับปัญหาอื่น เรือมังกรทองคำของเจ้านั้นดุร้ายแต่พลังของมันส่วนใหญ่นั้นจะต้องใช้หินจิตวิญญาณระดับสูงและต้องใช้เป็นจำนวนมาก ถูกไหม?!”

“เป็นเช่นนั้น!” ซ่งจงตกใจทันทีพร้อมกับคิดว่าเทพธิดาเหมยฮวากำลังค้นหาจุดอ่อนของเขา ก่อนที่จะรู้ว่านางนั้นได้คิดทุกอย่างมาเนิ่นนานแล้ว เขาจึงไม่คิดปกปิดมันและกล่าวออกมาตรงๆ “ของเล่นชิ้นนี้น่ากลัวจริงๆ แต่ความจริงมันอยู่ได้ด้วยการเผาเงิน วันนี้การต่อสู้ทั้งหมดทำให้ข้าแทบจะกลายเป็นคนจน ถ้าหากข้าจะต้องไปต่อสู้กับหอเฉวียนจี้ต่อ ข้าเกรงว่าสิ่งที่ข้ามีอยู่นั้นจะไม่เพียงพอ!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เทพธิดาเหมยฮวาเผยยิ้มเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า “เด็กน้อย ข้าจะช่วยเพิ่มให้กับเจ้าอีกนิดหน่อย!” ในขณะที่นางกล่าวเช่นนั้น นางโยนกระเป๋ามิติของตนเองให้กับซ่งจงอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่รอคำตอบ

ซ่งจงรับมันไว้พร้อมใช้สัมผัสวิญญาณตรวจสอบมันทันที เขาเผยใบหน้าที่ตื่นตระหนักออกมา ในกระเป๋านี้มีหินจิตวิญญาณระดับสูงนับล้านก้อน

ซ่งจงไม่คิดว่าเทพธิดาเหมยฮวาจะมีน้ำใจกับเขาเช่นนี้ เขาได้แต่อุทานออกมา “อาวุโส สิ่งนี้มัน… ข้าจะรับมันไว้ได้อย่างไร?”

เทพธิดาเหมยฮวาโบกมืออย่างไม่ใส่ใจพร้อมกล่าวว่า “ถ้าหากข้าต้องการให้เจ้ามี เจ้าก็ไม่ต้องถามสิ่งใดอีก เจ้าแค่สัญญากับข้าว่าจะทำให้หอเฉวียนจี้แหลกสลายกลายเป็นขนม!”

“ศิษย์สัญญา ถ้าหากข้าไม่สามารถทำลายหอเฉวียนจี้ได้ แน่นอนว่าข้าก็ไม่อาจเป็นมนุษย์ต่อไปได้เช่นกัน!” จิตสังหารภายในใจของซ่งจงพุ่งขึ้นมาอีกครั้ง

“ยอดเยี่ยม!” เทพธิดาเหมยฮวาหัวเราะเล็กน้อย “ข้าเชื่อใจคำพูดของเจ้า!”

“แต่อาวุโส!” ซ่งจงขมวดคิ้ว “ทำไมท่านต้องทำเช่นนี้ หินจิตวิญญาณระดับสูงมากมายเช่นนี้ มันไม่ใช่จำนวนที่สามารถโยนให้ผู้ใดง่ายๆ!”

“ฮ่าฮ่า เด็กน้อย หินจิตวิญญาณเหล่านี้แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับเฟินเสินยังไม่อาจหาได้ แต่ไม่ต้องกล่าวถึงข้า ข้านั้นแตกต่าง เจ้าจงอย่าลืมว่าข้าคือใคร!” เทพธิดาเหมยฮวายิ้มออกมา

ซ่งจงตกใจชั่วขณะพร้อมกับเข้าใจทุกอย่างทันที ด้วยพรสวรรค์ของเทพธิดาเหมยฮวาในด้านการพยากร สถานที่ตั้งของสมบัติแห่งสวรรค์ รวมถึงที่อยู่อาศัยของผู้ฝึกตนโบราณ ย่อมหนีไม่พ้นการมองเห็นของนาง แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้อยู่ภายใต้มือของนางและความมั่งคั่งของนางคงไม่มีผู้ใดคาดเดาได้ แม้ว่าจำนวนหินจิตวิญญาณที่นางมอบให้ซ่งจงจะมากมาย แน่นอนว่ามันเป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กน้อยของนางเท่านั้น

ตามด้วยสิ่งนี้ เทพธิดาเหมยฮวากล่าวต่อ “สำหรับเหตุผลข้าจะไม่ปิดบังเจ้า ข้ามีเหตุผลสองอย่าง ประการแรกคือแก้แค้นหอเฉวียนจี้นั้นหยิ่งยโสเกินไป แต่เนื่องจากสถานะของข้าจึงไม่สามารถจัดการกับนางได้ ในตอนนี้ข้าจึงใช้เจ้าเป็นสื่อกลางเท่านั้น นี่ถือว่าเป็นการจ่ายหนี้ในครั้งนี้!”

“แต่ราคาของมันดูเหมือนว่าจะสูงเกินไป!” ซ่งจงหัวเราะอย่างขื่นขม

“ข้ารู้ ดังนั้นเหตุผลที่สองก็คือการโปรดปรานของข้าเอง!” เทพธิดาเหมยฮวากล่าวต่อ “ข้ากำลังวางเดิมพันกับเจ้าและรู้สึกว่ามันคุ้มค่าที่จะลงทุน เจ้าเข้าใจหรือไม่?”

“ข้าเข้าใจแล้ว!” ซ่งจงรู้ว่าเทพธิดาเหมยฮวานั้นรู้แล้วว่าอนาคตของเขาในอนาคตจะสดใสอย่างมาก นางตัดสินใจที่จะช่วยเหลือเขาด้วยหินจิตวิญญาณเหล่านี้เพื่อทดสอบซ่งจง แน่นอนว่าการกระทำของนางในครั้งนี้ทำให้ซ่งจงชื่นชมในความซื่อตรงของนาง แม้ว่าเขารู้ว่าตนเองถูกยืมเป็นเครื่องมือ เขาก็ยังคงทำความเคารพนางจากใจจริง “ขอบคุณที่อาวุโสเมตตาข้าในวันนี้ ข้า.. ซ่งจงจะระลึกถึงมันเสมอ!”

“ยอดเยี่ยม!” เทพธิดาเหมยฮวาเผยยิ้มออกมา ก่อนจะกล่าวขึ้นมาว่า “ข้าต้องการที่จะให้ของขวัญชิ้นอื่นกับเจ้า ในตอนนี้คิดจะแลกเปลี่ยนกับข้าหรือไม่?”

“ของขวัญอะไรงั้นหรือ?” ซ่งจงเงยหน้าขึ้น

“เรื่องมันเป็นเช่นนี้ ศิษย์ของข้านั้นออกจากบ้านไปเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านและมีความใกล้ชิดกับหานปิงเอ๋อในหอเฉวียนจี้ ไม่กี่วันที่ผ่านมาหานปิงเอ๋อนั้นส่งคำเชิญให้กับศิษย์ของข้า และในตอนนี้เหมือนว่าหานหลิงเฟิงสหายสนิทของเจ้ากำลังโชคร้าย ศิษย์ของข้านั้นรู้ว่ามีบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น จึงรีบวิ่งไปที่นั่นเพื่อไปหาคำตอบ ในกรณีเช่นนี้ข้าคิดว่าพวกนางอยู่ในหอเฉวียนจี้ ถ้าหากตอนนี้เจ้าไปที่นั่นในตอนนี้ เทพธิดาชิงหยุนรู้ตัวดีว่าไม่สามารถรับมือกับเจ้าได้ แน่นอนว่านางจะใช้ทั้งสองเป็นเครื่องมือเพื่อต่อรอง!” เทพธิดาเหมยฮวาเย้ยหยัน “ข้าตั้งใจจะไปที่นั่นในตอนนี้เพื่อนำพวกนางกลับมาและอนุญาตให้เจ้าร่วมมือกับหานหลิงเฟิง เช่นนี้เป็นอย่างไร? ของขวัญที่ดีหรือไม่?”

“แน่นอน!” ซ่งจงโค้งคำนับทันที “ข้าต้องขอบคุณอาวุโสอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องนี้!”

“ไม่ต้องมีพิธีอะไรมากมาย!” เทพธิดาเหมยฮวาโบกมือ “ถ้าหากเจ้าต้องการขอบคุณข้าจริงๆ ก็จงนำเมล็ดของดอกบัวแห่งองค์ประกอบทั้งห้าออกมา ข้านั้นไม่ได้โลภมาก ขอเพียงสามเมล็ดก็เพียงพอ!”

ซ่งจงชื่นชอบความตรงไปตรงมาของนางเป็นอย่างมาก มันทำให้เขารับรู้ถึงความจริงใจของนาง อีกทั้งเขาไม่ใช่คนขี้เหนียวและยังมีเมล็ดจำนวนมาก เขาหยิบมันออกมาทันทีพร้อมกับโยนเมล็ดให้กับนาง ด้วยการมองผ่านๆแน่นอนว่าเทพธิดาเหมยฮวาอาจเสียเปรียบ นางสูญเสียหินจิตวิญญาณระดับสูงนับล้านก้อนแต่ได้เมล็ดพืชกลับมาสามเมล็ด ซึ่งจำนวนเงินเท่านี้นางสามารถซื้อเมล็ดของดอกบัวแห่งองค์ประกอบทั้งห้าได้อย่างนับไม่ถ้วน แม้ว่านางจะขอเพียงเท่านี้ แน่นอนว่าซ่งจงได้ติดหนี้บุญคุณของนางเข้าแล้ว

“ฮ่าฮ่า เจ้านั้นตรงไปตรงมาจริงๆ ข้าไม่ต้องใช้ความพยายามในการพูดคุยกับเจ้าเลย!” เทพธิดาเหมยฮวารับเมล็ดไปพร้อมกับยิ้มออกมา “เอาล่ะ ในตอนนี้ให้ข้าไปก่อน เจ้าสามารถติดตามข้ามาได้ และข้าจะส่งหานหลิงเฟิงให้กับเจ้าก่อนที่เจ้าจะได้ทำลายล้างหอเฉวียนจี้! ฮ่าฮ่า ข้าตื่นเต้นกับเรื่องนี้จริงๆ!” ในขณะที่นางกล่าวจบ นางไม่ได้รอให้ซ่งจงตอบกลับก่อนที่จะหายไปในสายลมอย่างอ่อนโยน