ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK

สารบัญ อาณาจักรวิญญาณ

••••••••••••••••••••

บทที่ 269: เทือกเขาเฉวียนจี้

เมื่อเห็นว่าเทพธิดาเหมยฮวาออกไป แน่นอนว่าซ่งจงก็ไม่มีเหตุผลต้องอยู่ต่อเช่นกัน แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะตะโกนลงไปด้านล่าง “จิ้งจอกเฒ่าฮัวอวิ๋น ล้างคอของเจ้าให้สะอาดเพื่อรอข้า สักวันข้าจะออกตามหาเจ้าและแก้แค้นให้กับครอบครัวของข้า!”

เมื่อเขากล่าวจบ ซ่งจงไม่รอให้นักบวชฮัวอวิ๋นตอบกลับพร้อมกับหันหัวเรือมังกรทองคำออกไปทันที

ในขณะที่คุณชายใหญ่และคุณชายรองได้ยินสิ่งที่ซ่งจงกล่าว ทั้งสองหลั่งเหงื่อเย็นเฉียบออกมา ในตอนนี้ความสามารถของซ่งจงสามารถต่อสู้กับพวกเขาได้แล้ว ถ้าหากเขาประสบความสำเร็จและเข้าสู่ระดับหยวนหยิน พวกเขาทั้งหมดจะไม่ตายตกไปจนหมดสิ้นงั้นหรือ?

สำหรับนักบวชฮัวอวิ๋น เขานั้นไม่ได้กังวลเกี่ยวกับคำพูดของซ่งจง เขาตัดสินใจที่จะออกจากตำแหน่งจ้าวสำนักและเข้าสู่การฝึกฝนแบบปิดกั้นที่สำนักเสวียนเทียนใหญ่ สถานที่แห่งนั้นมีผู้ฝึกตนระดับเลื่อนจื่อและเฟินเสินคอยปกป้องเขาอยู่ถ้าหากซ่งจงต้องการจะสร้างปัญหา

แต่ปัญหาในตอนนี้ก็คือเทพธิดาเหมยฮวาไม่ได้ปิดกั้นคำพูดของตนเองและทุกคนได้ยินสิ่งที่นางกล่าวชัดเจน เขารู้ว่าเทพธิดาเหมยฮวากำลังจะสร้างปัญหาให้กับพี่สาวของเขา นักบวชฮัวอวิ๋นรู้สึกกังวลจนแทบจะเผาไหม้ตัวเองด้วยไฟแห่งความโกรธ

แม้ว่าคนอื่นจะไม่รู้ว่าเทพธิดาเหมยฮวานั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด แต่เขาจะไม่ทราบเรื่องนี้ได้อย่างไร? อาวุโสผู้นี้นั้นแข็งแกร่งและลึกลับอย่างมาก มันไม่สำคัญถ้าหากนางไม่ทำอะไร แต่เมื่อนางคิดจะทำ แน่นอนว่านางจะไร้ความปราณี อีกทั้งยังบอกกล่าวกับซ่งจงเกี่ยวกับรูปแบบการป้องกันของหอเฉวียนจี้และการมอบหินจิตวิญญาณระดับสูงมหาศาลเหล่านั้นให้กับเขา นักบวชฮัวอวิ๋นได้แต่นึกภาพหอเฉวียนจี้ถูกทำลายเป็นผุยผง ในเวลานั้นพี่สาวของเขาจะต้องรับภาระทั้งหมดเนื่องจากนางเป็นผู้นำและแน่นอนว่านางจะต้องแบกรับความทุกข์ทรมานใจอย่างแน่นอน!

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ นักบวชฮัวอวิ๋นตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก เขารู้ว่าไม่อาจอ้อนวอนขอความเมตตาจากเทพธิดาเหมยฮวาได้อีกแล้ว ดังนั้นเขาจึงใช้ดาบบินเพื่อส่งข้อความให้กับเทพธิดาชิงหยุน หวังว่ามันจะช่วยกอบกู้สถานการณ์ได้เล็กน้อย สำหรับเรื่องอื่นมันคงจะต้องเป็นไปตามโชคชะตา!

ทางทิศตะวันออกของเทือกเขาใหญ่ มีภูเขายาวนับพันลี้ถูกเรียกว่าเทือกเขาเฉวียนจี้ สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยปราณจิตวิญญาณที่หนาแน่น ซึ่งมันเป็นสถานที่ตั้งของหอเฉวียนจี้อายุนับพันปี

ยอดเขาของมันสูงกว่าแสนฟุตและด้านบนเต็มไปด้วยหิมะตลอดทั้งปี ซึ่งอาคารใหญ่ของมันตั้งอยู่ที่จุดสูงสุดนั้น

ทุกคนในหอเฉวียนจี้ล้วนแต่เป็นสตรีและผู้ฝึกตนหญิงสาวเหล่านี้ได้สร้างพระราชวังที่สวยงงามอย่างยิ่ง เรียกได้ว่ามันสวยงามที่สุดในเทือกเขาใหญ่ ทุกคนที่เดินทางมาที่นี่จะรู้สึกว่าได้พบกับความอัศจรรย์

วันนี้ปรากฏแสงดาบสีเขียวขึ้นพร้อมด้วยหญิงสาวสวมชุดคลุมสีขาวปรากฏตัวขึ้นที่โถงเฉวียนจี้ซึ่งอยู่บนจุดสูงสุดของเทือกเขา สตรีผู้นี้งดงามและสง่าอย่างยิ่ง แต่คำพูดของนางกลับหยาบคายอย่างถึงที่สุด หลังจากนางได้มาถึง นางตะโกนออกมาอย่างดุร้าย “ฮัวชิงหยุน ออกมาพบข้าเดี๋ยวนี้!”

ปราณจิตวิญญาณของนางนั้นทรงพลังอย่างมาก นางเพียงพูดออกมาประโยคเดียวล้วนแต่เต็มไปด้วยปราณจิตวิญญาณที่หนาแน่น ทำให้เสียงของนางกระจายไปทั่วบริเวณครอบคลุมรัศมีกว่าพันลี้

ฮัวชิงหยุนนั้นเป็นผู้นำแห่งหอเฉวียนจี้และชื่อเทพธิดาชิงหยุนนั้นเป็นเพียงชื่อทางโลกเท่านั้น ภายในหอเฉวียนจี้คนที่มีตำแหน่งสูงสุดคือผู้นำสำนัก สำหรับใครบางคนที่กล้าตะโกนเรียกชื่อของผู้นำอยู่ด้านหน้าเช่นนี้ มันคงไม่ใช่การยั่วยุใช่หรือไม่? แน่นอนว่าผู้คนจากหอเฉวียนจี้จะไม่อดทนต่อการยั่วยุเช่นนี้ จากนั้นจึงปรากฏแสงดาบขึ้นมาจากทุกทิศอย่างรวดเร็ว

ช่วงเวลาเพียงอึดใจเดียว ผู้ฝึกตนระดับจินตันนับร้อยมาถึงสถานที่แห่งนี้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่พวกนางมาเพื่อที่จะตั้งคำถามกับผู้ที่มาเยือน ทั้งหมดสูญเสียจิตใจทันทีเมื่อเห็นว่าผู้ที่ยืนอยู่คือใคร ทั้งหมดได้แต่มองหน้ากันอย่างทำอะไรไม่ได้

สตรีผู้นี้มีชื่อเสียงมากเกินไป เทพธิดาเหมยฮวาผู้ที่เป็นอันดับหนึ่งแห่งเทือกเขาใหญ่แห่งนี้ นางสามารถสังหารผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินด้วยมือข้างเดียว ความโหดร้ายของนางนั้นผิดปกติเกินไป มันไม่สำคัญถ้าหากนางไม่ทำอะไร แต่ถ้าหากนางทำ บุคคลผู้นั้นจะต้องบาดเจ็บสาหัสหรือตายตกไป ในอดีตนางสังหารผู้คนไปมากมายเมื่อครั้งที่ออกสำรวจโลก ผู้คนต่างเปรียบเปรยว่านางคือเทพเจ้าแห่งความตาย!

เมื่อเผชิญหน้ากับบุคคลเช่นนี้ ใครกันที่กล้าจะต่อกร? แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินในหมู่พวกนางยังคิดที่จะปิดปากเงียบพร้อมกับคิดในใจ ‘เนื่องจากนางต้องการพบเจอกับผู้นำของเรา ไม่ใช่ข้า เหตุใดข้าจึงต้องเสนอตัวเข้าไปยุ่งด้วยล่ะ?’

ในตอนนี้ ประตูของโถงเฉวียนจี้ได้เปิดออกและมีสามคนเดินออกมา ด้านหน้าเป็นหญิงสาววัยกลางคนสวมชุดคลุมสีเขียว ใบหน้าของหน้าเย่อหยิ่ง เห็นได้ชัดถึงสถานะของนาง โดยไม่ต้องสงสัยแน่นอนว่านางคือผู้นำแห่งหอเฉวียนจี้ ฮัวชิงหยุน!

ทางด้านซ้ายของฮัวชิงหยุนนั้นเป็นผู้ฝึกตนระดับจินตันขั้นสมบูรณ์ เป็นศิษย์ของสำนักเสวียนเทียน ฮัวเฉียนหวู่

ด้านขวาของนางเป็นผู้ฝึกตนหญิงสาวสวมชุดคลุมสีขาวสีหน้าเคร่งขรึม นางไม่ได้หมุนเวียนปราณจิตวิญญาณอย่างตั้งใจมากนัก จึงทำให้มีไอเย็นหลุดออกมาจากร่างกายของนาง ถ้าหากซ่งจงมาถึงที่นี่เขาจะต้องจดจำผู้หญิงคนนี้ได้อย่างแน่นอน นางอยู่ในระดับปฐมภูมิขั้นสมบูรณ์แล้ว ซึ่งนางคือหานปิงเอ๋อที่เคยร่วมต่อสู้เคียงข้างเขาภายในการล่าผลไม้วิญญาณ

หลังจากที่ทั้งสามคนออกมา ทั้งหมดเคลื่อนไหวอย่างสงบนิ่งต่อหน้าเทพธิดาเหมยฮวา

เทพธิดาชิงหยุนขมวดคิ้วพร้อมถามออกมา “ศิษย์พี่หญิงมาสถานที่แห่งนี้พร้อมกับจิตสังหารที่เต็มเปี่ยม เห็นได้ชัดว่าท่านไม่ต้องการดื่มชา ใช่ไหม?”

“แน่นอนว่าไม่” เทพธิดาเหมยฮวาตอบกลับอย่างเย็นชา

“อือ ท่านมาที่นี่เพื่อถามเกี่ยวกับอาชญากรรมของข้างั้นหรือ?” ฮัวชิงหยุนถามออกมาพร้อมกับขมวดคิ้ว “ข้าสงสัยว่าข้าไปทำสิ่งใดให้ท่านขุ่นเคืองใจงั้นหรือ?”

“ฮัวชิงหยุนหยุดแสร้งทำเป็นไม่รู้!” เทพธิดาเหมยฮวากล่าวออกมาอย่างรังเกียจ “เจ้าไม่สามารถซ่อนสิ่งเหล่านี้จากพวกเขาทั้งสองคนได้อีกต่อไป! ว่าผู้ใดเป็นแม่ของเด็ก”

สำหรับเทพธิดาเหมยฮวาที่กล่าวออกมาเช่นนั้น ใบหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปทันที ทุกคนนั้นรู้ว่าเทพธิดาชิงหยุนนั้นไร้คู่ครอง เป็นไปได้อย่างไรที่หญิงสาวฝึกฝนแต่เพียงผู้เดียวมาตลอดจะมีบุตร?”

สำหรับฮัวชิงหยุนที่ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของนางเปลี่ยนไปทันทีและกล่าวว่า “เทพธิดาเหมยฮวา ท่านกำลังกล่าววาจาไร้สาระอันใด? ข้าเคารพท่านในฐานะศิษย์พี่หญิง แต่เหตุใดท่านจึงให้ร้ายข้าเช่นนี้?”

“ให้ร้ายเจ้า? ฮ่าฮ่าฮ่า!” เทพธิดาเหมยฮวาระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันที “ข้านั้นฝึกฝนเคล็ดวิชาพยากรมานานหลายปีแล้ว เจ้าคิดว่าข้านั้นไม่รู้ความจริงที่เจ้าและฮัวเฉียนหวู่เป็นแม่ลูกกัน?”

“อ่า!” ผู้ฝึกตนหญิงสาวทั้งหมดร้องอุทานออกมาทันที พร้อมกับจ้องมองที่ฮัวเฉียนหวู่และเทพธิดาชิงหยุนอย่างสงสัย

ฮัวเฉียนหวู่แสดงสีหน้ากังวลออกมาทันที อย่างไรก็ตามฮัวชิงหยุนนั้นเป็นจิ้งจอกเฒ่า นางไม่คิดยอมรับและคำรามออกมาทันที “บัดซบ! ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าฮัวเฉียนหวู่นั้นเป็นบุตรสาวของน้องชายข้า? อย่าคิดว่าท่านสามารถทำอะไรก็ได้เพียงแค่ฝึกฝนเคล็ดวิชาพยากร!”

“เป็นเช่นนั้น!” ฮัวเฉียนหวู่กล่าวออกมา “อาวุโสป้า ข้าไม่รู้ว่าข้าทำให้ท่านขุ่นเคืองได้อย่างไร แต่หวังว่าท่านจะยกโทษให้กับข้าและช่วยรักษาคำพูดของตนเอง อย่าได้พ่นเรื่องราวไร้สาระออกมาโดยไร้หลักฐาน!”

“ฮ่าฮ่า พวกเจ้าทั้งสองคนเป็นแม่ลูกกันอย่างแน่นอน!” เทพธิดาเหมยฮวาหัวเราะออกมา “เลิกทำตัวไร้ยางอายเสียเถิด”

เทพธิดาชิงหยุนโกรธจัดจนใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีเขียว ถ้าหากไม่ใช่เพราะนางไม่สามารถเอาชนะเทพธิดาเหมยฮวาได้ แน่นอนว่านางจะเปิดฉากโจมตีแล้ว นางหายใจเข้าลึกๆพร้อมระงับความโกรธภายในใจและกล่าวว่า “เทพธิดาเหมยฮวาถ้าหากท่านมาเพื่อใส่ร้ายข้าเช่นนี้ ต้องขอโทษด้วยถ้าหากข้าไม่สุภาพ!”

เมื่อนางกล่าวเช่นนั้น ฮัวชิงหยุนส่งสัญญาณออกไปด้วยสายตาของตน ผู้ฝึกตนหญิงสาวทั้งหมดเข้าใจทันทีพร้อมกับล้อมรอบเทพธิดาเหมยฮวา พวกนางนำดาบบินของตนเองออกมา ราวกับว่าถ้าหากเทพธิดาเหมยฮวากล่าวออกมาอีกคำ ทั้งหมดจะล้อมรอบนางและเริ่มโจมตีทันที

เทพธิดาเหมยฮวาแสดงออกอย่างเย็นชาและไม่สนใจผู้ฝึกตนที่เข้ามาล้อมรอบนางและกล่าวต่อ “ฮัวชิงหยุนเจ้ายังคงปฏิเสธได้อยู่ในตอนนี้! แต่ซ่งจงกลับมาแล้ว ข้าจะรอดูว่าเจ้าจะสามารถเย่อหยิ่งไปได้อีกนานเพียงใด!”

“อะไรนะ? ซ่งจงกลับมาแล้ว?” ฮัวชิงหยุนและฮัวเฉียนหวู่อุทานออกมาพร้อมกันเมื่อได้ยินเช่นนั้น

“แน่นอน!” เทพธิดาเหมยฮวากล่าวออกมาอย่างเกลียดชัง “ขอบคุณอีตัวอย่างพวกเจ้าทั้งสองคน เจ้าโง่ฮัวอวิ๋นนั้นบังคับให้ซ่งจงออกจากสำนักเสวียนเทียนด้วยการกักขังเขาไว้ในหอคอยลอยฟ้าทันทีเมื่อเขากลับมา พวกเจ้าทั้งสองคนรู้สึกดีหรือไม่?”

เมื่อได้ยินว่าเทพธิดาเหมยฮวากล่าวอะไร ทุกคนอยู่ในสภาวะมึนงงทันที แต่ฮัวชิงหยุนและฮัวเฉียนหวู่นั้นรู้ดีว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้น

 

ฮัวชิงหยุนแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง “ถ้าหากข้าได้ยินมาไม่ผิด ซ่งจงนั้นเป็นสายลับให้กับอสูรกาย เป็นเขาไม่ใช่หรือ? ถ้าหากไม่จริงแล้วสำนักเสวียนเทียนจะกักขังเขาไว้ได้อย่างไร? แล้วถ้าหากเขาเป็นสายลับจริงก็ถูกแล้วที่เขาต้องพบเจอเหตุการณ์เช่นนั้น”

“เป็นเช่นนั้น ไอ้สารเลวผู้นี้ควรถูกประหาร แม้เขาจะถูกประหารชีวิตก็ยังไม่เพียงพอกับความหม่นหมองของสำนัก!” ฮัวเฉียนหวู่กล่าวออกมาอย่างเขร่งขรึม

เห็นได้ชัดว่าทั้งสองแม่ลูกนั้นคิดว่าซ่งจงตายอยู่ที่หอคอยลอยฟ้าแล้ว เพราะสถานที่แห่งนั้นสามารถกักขังผู้ฝึกตนระดับเฟินเสินได้ แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินอย่างเช่นตาเฒ่าเฟิงยังแทบจะเอาชีวิตไม่รอด ไม่ว่าทรงจงจะทรงพลังมากเพียงใด แน่นอนว่าเขาต้องถึงจุดจบในครานี้!

ในขณะที่ทั้งสองคนร่าเริง หานปิงเอ๋อขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น ความเศร้าเกาะกินหัวใจของนางอย่างลึกซึ้ง

หลังจากที่เทพธิดาเหมยฮวาได้ยินเช่นนั้น นางระเบิดเสียงหัวเราะออกมาทันที “ฮ่าฮ่า ทั้งสองคนช่างงี่เง่านัก พวกเจ้าประเมินอ้วนน้อยต่ำเกินไป! ข้าจะบอกความจริงให้นะ ซ่งจงไม่ได้ถูกฆ่าด้วยหอคอยลอยฟ้า ยิ่งไปกว่านั้นเขายังทำลายหอคอยลอยฟ้าย่อยยับพร้อมกับหนีออกมาได้ อีกทั้งในตอนนี้เขาทำลายสำนักเสวียนเทียนไปกว่าครึ่ง!”

เมื่อฮัวชิงหยุนได้ยินเช่นนั้น นางอุทานออกมาทันที “อะไรกัน! เป็นไปไม่ได้! เด็กบัดซบนั้นอายุเท่าไหร่กัน? เขาทำลายหอคอยลอยฟ้าได้อย่างไร?”

“ฮ่าฮ่า ไม่ว่าเจ้าจะเชื่อหรือไม่ เจ้าจะได้พบเขาอย่างแน่นอนในเร็ววัน!” เทพธิดาเหมยฮวากล่าวออกมาอย่างร่าเริง “ถ้าถึงเวลานั้นก็อย่าแปลกใจจนเกินไปล่ะ!”

หลังจากที่ฮัวชิงหยุนได้ยินเช่นนั้น นางตอบกลับด้วยความตกใจ “ท่านหมายความว่าอย่างไร?”

“ง่ายมาก หลังจากที่ซ่งจงทำลายหอคอยลอยฟ้าและสร้างฉากที่น่าสยอสยองในสำนักเสวียนเทียน เขาจะต้องมาที่นี่แน่นอน!” เทพธิดาเหมยฮวากล่าวออกมาอย่างเยือกเย็น “เขาจะมาคิดบัญชีเก่ากับพวกเจ้าทั้งสองคน!”

หลังจากที่ฮัวเฉียนหวู่ได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของนางซีดขาว อย่างไรก็ตามฮัวชิงหยุนยังคงไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใดพร้อมกล่าวออกมาอย่างไม่สนใจ “ยอโทษให้ข้าด้วยที่ข้านั้นไม่รู้ว่าท่านกำลังกล่าวถึงสิ่งใด ซ่งจงและข้านั้นไม่ได้เป็นศัตรูกัน เหตุใดเขาจึงต้องค้นหาข้าด้วย?”