บทที่ 730 ต้นสายปลายเหตุ (2)

Transmigration with QQ Farm สาวน้อยปลูกผัก

TQF:บทที่ 730 ต้นสายปลายเหตุ (2)

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวพูดเสียงเบาโม่ซวนซุนพยักหน้านิดหน่อยและเอ่ยขึ้น “ได้” เขาเพียงแค่โบกมือ 1 ทีแสงศักดิ์สิทธิ์หลากสีที่ปกคลุมอยู่ก็สลายไป ทุกคนในลานกว้างกลับมาเป็นอิสระ เคลื่อนไหวได้ปกติอีกครั้ง

 

“อาเฟิง เจ้าพาพวกมันไปเก็บกวาดสมาชิกของ 3 สำนักใหญ่ในชิงยาง รวมถึงเขตต้องห้ามของสำนักพวกเขาด้วย”

 

ขันทีชราอยู่ชิงยางมาหลายพันปี ย่อมรู้เรื่องพื้นที่ของ 3 สำนักใหญ่ดีกว่าใครๆ ฉะนั้นเฉิงเสี่ยวเสี่ยวจึงมอบหมายให้เขาไปทำ

 

“ขอรับคุณหนู” ขันทีชรารับคำสั่งและพาเผ่าอสูรนับแสนไปทันที

 

งานประลองการสกัดยาในวันนี้ถือว่าล่มแล้วโดยสิ้นเชิง เพราะเสาหลักสำคัญอย่างสำนักตันซือและสำนักวั่นตันตายกันหมดแล้ว ยังจะมีใครมาตัดสินการประลองครั้งนี้อีก

 

อีกอย่างผู้ฝึกฝนวิทยายุทธส่วนใหญ่ก็ไม่อยากเข้า 2 สำนักนี้แล้ว เพราะ 2 สำนักนี้จะต้องมีชื่อเสียงฉาวโฉ่อย่างแน่นอน ไม่มีใครอยากจะฝากอนาคตไว้กับสำนักแบบนี้

 

แต่คนนับล้านก็ยังไม่ได้ไปไหน พวกเขาแต่ละคนมองคนกลางอากาศอย่างคาดหวังนิดๆ

 

“พวกเรากลับบ้านตระกูลฟางกัน” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวบอกกับผู้คนรอบตัวเสียงเบา

 

พวกโม่ซวนซุนพากันพยักหน้า แต่ตาแก่ซอมซ่อเอ่ยปากขึ้นในตอนนั้น “เดี๋ยวก่อน”

 

“หืม….”

 

ทุกคนพากันหยุดลงและเหลียวหลังไปมองตาแก่ซอมซ่อตรงหน้า แม้เฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่ได้ทักทายเขาแต่ก็รู้ว่าเขาคืออาจารย์ของโม่ซวนซุน ถึงยังไงก็ต้องไว้หน้าเขา ขณะเดียวกันก็อยากรู้ด้วยว่าเขาจะทำอะไร

 

ไม่ใช่แค่เฉิงเสี่ยวเสี่ยว พวกโม่ซวนซุนล้วนจับจ้องไปที่เขา ถามไร้เสียง

 

ตาแก่ซอมซ่อถอนหายใจ “นักสกัดยานับแสนคนด้านล่างเตรียมตัวมาถึง 50 ปีเพื่องานประลองการสกัดยาในวันนี้ ซุนเอ๋อน้อย ไม่ว่าพวกเจ้าจะคิดอย่างไรก็ต้องให้คำตอบพวกเขาหน่อยใช่มั้ย”

 

“คำตอบ?” คิ้วคมของโม่ซวนซุนขมวดเข้าหากันและรีบทำนายในหัว ก่อนจะกลับมามีสีหน้าปกติอย่างรวดเร็ว และบอกกับเสี่ยวเสี่ยว “เสี่ยวเสี่ยว พวกเราใช้โอกาสงานประลองการสกัดยาในการจัดการปัญหาบ่วงกรรม แต่กลับดึงพวกเขาไปเกี่ยวกับอีกบ่วง ปัญหานี้พวกเราต้องแก้”

 

“ท่านเขย บ่วงนี้ร้ายแรงมากเหรอ” หยูเฮงน้อยถามด้วยความสงสัย

 

“ใช่ ร้ายแรงมาก”

 

โม่ซวนซุนพยักหน้า เหลือบมองตาแก่ซอมซ่อด้วยหางตา ถ้าไม่ได้เขาเตือน พวกเขาจะต้องแบกรับบ่วงกรรมของคนนับแสนคน คงเกิดผลกระทบต่อตัวพวกเขาทั้งหมดแน่ แอบขอบคุณในใจ

 

ดูเหมือนตาแก่ซอมซ่อจะเข้าใจความหมายของเขา หน้าเหี่ยวๆมีแววยินดี ดีใจราวกับเด็กที่โดนชม

 

หากเป็นคนอื่นที่พูดคำนี้เฉิงเสี่ยวเสี่ยวคงไม่สนใจ แต่เรื่องที่โม่ซวนซุนบอก นางเชื่อว่าเขาไม่โกหกตัวเอง

 

นางมองคนด้านล่างที่ยังไม่ไปไหน พูดขึ้นเสียงเบา “ทุกคน ที่รบงานประลองการสกัดยาในครั้งนี้เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ในเมื่อสร้างบ่วงกรรมครั้งนี้ขึ้นมากับทุกคน พวกเราต้องจัดการให้เรียบร้อย ข้ามีอยู่ 2 แผนด้วยกัน ทุกคนสามารถตัดสินใจเลือกได้”

 

“หัวหน้ากลุ่มเฉิง ท่านพูดมาเถอะ พวกเรายอมทำตามที่ท่านบอก”

 

“มีวิธีอะไรแก้ไขได้บ้าง พวกเราล้วนอยากเป็นนักสกัดยาขั้นสูง พวกท่านทำให้พวกเราเป็นนักสกัดยาได้มั้ย”

 

“หรือว่าจะให้ทรัพยากรเราเป็นการชดเชย หรือว่ามีวิธีอย่างอื่นในการชดเชย พวกเราสามารถเรียกร้องสินไหมชดเชยเองได้มั้ย”

 

“หัวหน้ากลุ่มเฉิง พวกท่านก็เป็นผู้ถูกกระทำเหมือนกัน พวกเราไม่โทษพวกท่าน”

 

“หัวหน้ากลุ่มเฉิง พวกท่านช่วยจัดงานประลองการสกัดยาให้พวกเราได้มั้ย ไหนๆทุกคนก็มาแล้ว อย่างน้อยๆก็ให้พวกเราได้พิสูจน์ฝีมือการสกัดยาของตัวเองหน่อย”

 

…….

 

ผู้คนพากันร้องตะโกนขึ้น ต่างยื่นข้อเสนอและเรียกร้อง ถึงแม้เสียงของฝูงชนจะโหวกเหวก แต่กับพวกเฉิงเสี่ยวเสี่ยวแล้ว สามารถได้ยินทุกอย่างชัดเจน

 

“ทุกคน ไม่ต้องใจร้อน ฟังแผนของข้าก่อนแล้วพวกเจ้าค่อยตัดสินใจ จากนั้นคนหมู่น้อยฟังเสียงคนหมู่มาก”

 

เสียงใสๆของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวดังก้องอยู่ในลานกว้าง ทุกคนเงียบลงนางจึงเอ่ยต่อ “แผนแรกคือ พวกเราจะชดเชยให้ทุกคน ทุกคนก็รู้ว่าของที่ตึกจงหยวนขายมีอะไรบ้าง หากทุกท่านยอมรับการชดเชยด้วยทรัพยากรละก็ ถือว่าบ่วงกรรมของเราสิ้นสุดลง”

 

“แผนที่ 2 คือจัดงานประลองการสกัดยาต่อเพื่อพิสูจน์ระดับฝีมือของทุกคน ทุกคนก็รู้ว่าพวกเราไม่ได้อยู่ที่ผืนดินฉางไห่นี้เป็นระยะยาว แต่ช่วงนี้ยังไปไม่ได้ ในหมู่พวกเรามีนักสกัดยา เชื่อว่าทุกคนก็พอเดาออก ด้วยยาเม็ดและยาเหลวที่พวกเราตึกจงหยวนขายทุกคนก็คงจะรู้ระดับของนักสกัดยาของเรา ไม่แย่ไปกว่าคนของสำนักวั่นตันและสำนักตันซือแน่”

 

เรียกได้ว่าทุกคนล้วนเคยซื้อยาเม็ดและยาเหลวของตึกจงหยวน พวกเขาย่อมรู้ระดับฝีมือของนักสกัดยา ในหมู่พวกเขาน้อยนักที่กล้าพูดว่าตัวเองเก่งกว่านักสกัดยาของตึกจงหยวน

 

ทุกคนพยักหน้าเงียบๆ เสียงของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวดังขึ้นอีก “คนของเราจะทำการสอบวัดระดับแล้วพวกเราจะตั้งสมาคมตันจงขึ้น คนที่มีฝีมือเยี่ยมยอดจะได้เข้าสมาคมตันจงของเรา นักสกัดยาของเราจะสั่งสอนเหล่านักสกัดยาที่มีฝีมือที่สุดในหมู่พวกเจ้าให้ หลังจากที่พวกเราไปแล้วสมาคมตันจงก็จะดูแลโดยพวกเจ้า หวังว่าพวกเจ้าจะไม่ทำให้เราผิดหวัง กระทำแต่เรื่องดีๆให้กับผืนดินฉางไห่ อย่าให้ผลประโยชน์มาบังตา ไม่อย่างนั้นสุดท้ายแล้วก็จะพบจุดจบที่ไม่ดี”

 

“เอาล่ะ แผนของข้าก็คือ 2 แผนนี้ พวกเจ้าเลือกเอาเอง เมื่อเลือกเสร็จแล้วพวกเจ้าก็ส่งตัวแทนมาบอกพวกเราที่บ้านตระกูลฟาง พวกเราจะเริ่มลงมือทำการชดเชยใน 3 วันให้หลัง”

 

“หัวหน้ากลุ่มเฉิง ไม่ต้องคิด พวกเราเลือกที่จะสอบวัดระดับและเข้าร่วมสมาคมตันจง”

 

“ใช่ พวกเราก็ไม่ต้องการทรัพยากรมาชดเชย พวกเราอยากได้นักสกัดยาของตึกจงหยวนมาเป็นอาจารย์ เรียนรู้อิทธฤทธิ์สกัดยาเม็ดและยาเหลว”

 

“หัวหน้ากลุ่มเฉิง พวกเราล้วนต้องการสกัดยา ต้องการเข้าร่วมสมาคมตันจง”

 

“พวกเราต้องการเป็นสมาชิกของสมาคมตันจง หัวหน้ากลุ่มเฉิง พวกเราสนับสนุนให้จัดการสอบวัดระดับ”

 

…….

 

 

ทุกคนไม่ได้ให้เวลาตัวเองได้คิด เลือกออกมาเลย นักสกัดยารวม 2 แสนคนเหล่านี้ (นอกจากเผ่าอสูรหลายหมื่นคน) ฝันอยากจะเรียนรู้วิชาสกัดยาเม็ดและยาเหลวระดับสูงมานานแล้ว

 

ตอนนี้มีโอกาสอยู่ตรงหน้า คนพวกนี้ไม่มีทางพลาดแน่

 

ส่วนเหล่าปีศาจเฒ่าและตัวแทนจาก 10 ตระกูลใหญ่ที่ยังนั่งอยู่บนที่นั่งประธานมองภาพนี้อ้าปากค้าง

 

เมื่อพวกเขาได้สติกลับมา แต่ละคนมองฟางเมิงเห้อที่ยิ้มจนหน้าจะแข็งอยู่แล้วด้วยสายตาอิจฉา

 

คุณชายใหญ่ตระกูลฟาง หรือก็คือผู้ที่จะได้สืบทอดตำแหน่งเจ้าบ้านตระกูลฟาง ฟางหมิงเห้อเบลอไปหมดกับข่าวแล้วข่าวเล่าที่น่าตกใจ กว่าจะเรียกสติกลับมาได้

 

เขารู้ว่ามีหลายๆเรื่องที่คงจะช่วยพวกเฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่ได้ ที่สำคัญคือเขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าตึกจงหยวนและกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนจะเป็นอิทธิพลที่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวสร้างขึ้น

 

และคิดไม่ถึงว่ามหาผู้อาวุโสแห่งสำนักต่างๆจะหน้าไม่อายได้ขนาดนี้ ทำร้ายกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนขนาดนี้ ในใจเขาแค้นเคืองอย่างมาก แต่ก็ทำอะไรคนพวกนี้ไม่ได้

 

ที่สำคัญคือนายน้อยวิหารสวรรค์เป็นสามีของหลานสาว วิทยายุทธก็สูงจนน่ากลัว นึกว่าตัวเองที่เป็นจักพรรดิ์อมตะด้วยอายุแค่นี้ถือว่ามีพรสวรรค์มากแล้ว เมื่อเทียบกับอีกฝ่ายก็แค่เศษเดนนี่เอง

 

  ไม่ว่ายังไงเขาก็ดีใจมาก โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นสีหน้าของอิทธิพลอื่น เขาแอบสะใจอยู่ไม่น้อย