“บัดซบ นั่นมันอะไร?” เซียวอวี๋มองดูเหล่าแมลงประหลาดที่จู่ๆก็โผล่ขึ้นจากพื้นดินอย่างกังวล แม้แมลงเหล่านี้ดูธรรมดาเหมือนไม่มีอะไร แต่สีที่ดำสนิทของมันก็ทำให้ดูแปลกตาอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ตาม เซียวอวี๋ได้ฉวยโอกาสที่พวกมันเพิ่งขึ้นมาและไม่ทันระวังโจมตีเข้าใส่พวกมัน “บิดาเป็นพยัคฆ์ไม่ใช่ลูกแมว ต่อให้เกรดิ้งจะมีทักษะทรงพลังแค่ไหนก็ยังตายได้อยู่ดี…คาสโซ่ ไม่ต้องพยายามฆ่าพวกเงานั่นแล้ว แค่คอยถ่วงพวกมันตอนที่คนอื่นๆโจมตีเกรดิ้งก็พอ” เซียวอวี๋สั่งการต่อ การโจมตีของเกรดิ้งเป็นการโจมตีด้วยเวทมนตร์แบบหมู่ ไม่ใช่การโจมตีเป้าหมายเดี่ยวอย่างรุนแรง แม้ว่าโล่ของคาสโซ่จะไม่มีอำนาจคุกคาม แต่เขาก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีในการซื้อเวลาจากเกรดิ้ง ครืน…… ฟีนิกซ์เพลิงพุ่งเข้าชนใส่ร่างของเกรดิ้งและผลักให้เขาต้องก้าวถอยหลังไป แน่นอนว่าฟีนิกซืเพลิงตัวนี้ย่อมเป็นฝีมือของคาเอล ในเวลานี้ไม่มีวิธีใดดีไปกว่าการโจมตีเต็มกำลังและกำจดเกรดิ้งโดยเร็วที่สุดอีกแล้ว เซียวอวี๋ย่อมไม่ขาดแคลนผู้เข้มแข็งในสังกัด เมอีฟ กรอม ทิรันด้า อิลิดันและคาเอลล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือเชิงรุกที่แข็งแกร่ง เซียวอวี๋ไม่ได้นับรวมมังกรน้อยเข้าไปในการโจมตีเกรดิ้ง หากแต่ปล่อยให้มันไปจัดการกับพวกเงาดำ เซียวอวี๋ทราบว่าเกรดิ้งย่อมไม่มีทักษะเพียงเท่านี้ เขายังมีไพ่ตายซุกงำเก็บไว้ มังกรน้อยเองก็เป็นไพ่ตายของเซียวอวี๋เช่นกัน “เหล่าศิษย์แห่งข้าเอย จงลุกขึ้นมาจากหลุมของพวกเจ้าและกำจัดพวกมันเสีย” เกรดิ้งตะโกนขณะที่ร่างกายของเขาปลดปล่อยพลังงานแปลกประหลาดออกมา “เพื่อความรุ่งโรจน์แห่งสโคโลแมนซ์!” พร้อมกันกับเสียงตะโกนของเกรดิ้ง เหล่าศิษย์นับไม่ถ้วนต่างก็โผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน ทั้งหมดล้วนแต่อยู่ในชุดดคลุมสีดำที่ปลดปล่อยกลิ่นอายขมุกขมัวออกมา ที่เหลืออยู่ล้วนเป็นเพียงซาก พวกเขาทั้งหมดกลายเป็นอันเดดไปแล้ว “มังกรน้อย อูเธอร์ พวกเจ้าไปจัดการพวกมัน” ไม่ต้องคิดมาก เซียวอวี๋ก็ออกคำสั่งโจมตีทันที จำนวนศิษย์ของสโคโลแมนซ์นั้นมีมากมาย นั่นจึงยากที่จะรับมือได้ทั้งหมด ไม่เพียงเท่านั้น ทั้งหมดยังตายเป็นอันเดดไปแล้ว พวกเขาไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดหรือหวาดกลัวใดๆ ดังนั้นทุกการโจมตีจึงเป็นการโจมตีแบบแลกชีวิต แม้ว่าภาคีหัตถ์เงินจะได้รับการฝึกจากอูเธอร์ไปบ้างแล้ว แต่ต่อหน้าศัตรูที่มากมายจนดูไม่หมดไม่สิ้นเช่นนี้พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้มาก อย่างไรก็ตาม เหล่าสมาชิกใหม่ของภาคีต่างก็มีขวัญกำลังใจดี ภายใต้บัพของอูเธอร์ พวกเขาก็พุ่งเข้าต่อสู้กับพวกอันเดดอย่างกล้าหาญ สำหรับพวกเขาแล้ว การรบครั้งนี้นับเป็นเกียรติประวัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขาที่ได้ทำสงครามกับพวกอันเดดภายใต้การนำของอูเธอร์ และด้วยการนำของอลอนโซ่ ภาคีหัตถ์เงินก็เป็นกองกำลังหลักที่เข้าโรมรันกับพวกศิษย์อันเดด ขณะที่กองกำลังอื่นๆจะคอยสนับสนุน เวทแสงสายแล้วสายเล่าพุ่งเข้าถล่มใส่พวกศิษย์อันเดดและเปลี่ยนพวกมันให้กลายเป็นขี้เถ้า ทุกคราที่สมาชิกของภาคีหัตถ์เหล็กสังหารอันเดดศิษย์ลงได้ พวกเขาก็จะพึมพำ “ขอจงสู่สุขคติ” แทนคำว่า “ชำระล้างสิ่งชั่วร้าย” ที่เคยใช้ในกองกำลังอัศวินสีชาด คำสวดที่แปรเปลี่ยนก็ได้เปลี่ยนแนวคิดของพวกเขาด้วยเช่นกัน พวกเขาไม่ใช่กองกำลังอัศวินสีชาดที่กระหายการฆ่าฟันอีกต่อไป แต่เป็นภาคีหัตถ์เงินที่ดำรงอยู่เพื่อพิทักษ์ธรรม ที่สนามรบอีกด้านหนึ่ง เมอีฟ อิลิดันและคนอื่นๆก็โอบล้อมเกรดิ้งเอาไว้ แม้เกรดิ้งจะเรียกเงาดำมากมายออกมาปกป้อง กระนั้นก็ยังมีการโจมตีเล็ดลอดเข้าไปตกกระทบบนเกราะกระดูกขาวของเกรดิ้ง พลังป้องกันของเกราะกระดูกขาวนั้นสูงมาก แม้จะรับการโจมตีเข้าไปหลายครั้งก็ยังไม่สามารถสร้างบาดแผลให้กับเกรดิ้งได้ เกรดิ้งยังคงร่ายเวทโจมตีใส่ทั้งหมดอย่างไม่สะทกสะท้าน แม้เกรดิ้งจะเป็นเนโครแมนเซอร์และเวทมนตร์ที่ถนัดจะเป็นการอัญเชิญ กระนั้น เวทมนตร์สายอื่นๆของเกรดิ้งก็ไม่ได้อ่อนด้อยแต่อย่างใด “หึหึหึ….ศัตรูแห่งข้าเอย จงฟังคำข้า” ในตอนนั้นเอง จู่ๆเกรดิ้งก็ระเบิดเสียงหัวเราะที่แฝงมนต์ในเสียงออกมา ทุกคนพลันรู้สึกมึนงงในศีรษะราวกับวิญญาณกำลังถูกบางสิ่งฉุดดึงออกไป การเคลื่อนไหวของคนทั้งหมดพลันหยุดชะงัก แววตาของคาร์นพลันเปล่งแสงสีเขียวก่อนจะหันไปมองเหล่าฮีโร่ที่อยู่ใกล้เคียง จู่ๆคาร์นก็สับขวานในมือเข้าใส่กรอมที่อยู่ใกล้ๆ “อะไรของเจ้า?” กรอมตกตะลึงเพราะคาดไม่ถึง กระนั้นการตอบสนองของเขาก็ยังว่องไวและหลบหลีกได้ทัน เมื่อการโจมตีแรกพลาดเป้าไป คาร์นก็เหวี่ยงขวานเข้าใส่เมอีฟที่อยู่ใกล้ในลำดับถัดมา ด้วยความคล่องตัวของเมอีฟแล้ว แน่นอนว่านางย่อมหลบได้อย่างสบายๆ ทำให้ขวานของคาร์นจามเข้าใส่ผนังที่ด้านหลัง “บัดซบ ในที่สุดมันก็เผยไพ่ในมือแล้ว” เซียวอวี๋คาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะเลือกทิ้งไพ่เร็วเช่นนี้ “คาสโซ่ เจ้าเข้าไปสกัดคาร์นเอาไว้ เขาถูกควบคุมจิตใจ ที่เจ้าต้องทำก็แค่ถ่วงเขาเอาไว้ ไม่ต้องโจมตีให้บาดเจ็บ” ในตอนนี้ เงาดำนั้นถูกกำจัดจนหมดสิ้นแล้ว ดังนั้นความกดดันทางด้านของคาสโซ่จึงมีไม่มาก ตอนนี้คาร์นถูกเวทมนตร์ควบคุมจิตใจเอาไว้ และด้วยผลของมนตร์ดำนี้เอง ความแข็งแกร่งของคาร์นก็มากขึ้นกว่าปกติ ตอนนี้มีเพียงโล่ของคาสโซ่ที่สามารถต้านทานการโจมตีของคาร์น นอกจากนี้ คาสโซ่ยังอยู่ในขั้นที่หก ขณะที่คาร์นนั้นอยู่เพียงขั้นที่ห้า และถึงแม้ว่ามนตร์ดำจะสามารเพิ่มความแข็งแกร่งให้คาร์นได้ แต่นั่นก็ยังอยู่ในระดับที่คาสโซ่สามารถรับมือไหว “ทั้งหมดโจมตีไปที่เกรดิ้งและกำจัดเขาให้ได้โดยเร็ว!” เซียวอวี๋ตะโกนสั่งการ ทว่าก่อนที่ทุกคนจะลงมือโจมตีนั้นเอง บอลแสงสีเขียวก็พลันปรากฏขึ้นในมือของเกรดิ้งก่อนที่มันจะพุ่งไปยังหน้าผากของคาเอล ไม่นานแววตาของคาเอลก็เปล่งแสงสีเขียว เขาแสยะยิ้มแปลกๆก่อนจะหันไปลงไม้ลงมือกับเหล่าสหายร่วมรบ เหตุการณ์สร้างความตกตะลึงให้กับเซียวอวี๋มาก คาเอลนั้นไม่เหมือนกับคาร์น คาร์นมีเพียงการโจมตีระยะประชิด ไม่มีระยะไกล ดังนั้นเพียงคาสโซ่ก็รับมือได้ ทว่าคาเอลนั้นเป็นจอมมนตราผู้ทรงพลัง ยิ่งได้รับการหนุนเสริมจากมนต์ดำในเวลานี้ด้วยแล้ว พลังโจมตีของเขาก็รุนแรงจนยากจะต้านทาน เขายังอันตรายยิ่งกว่าคาร์นเสียอีก “กระจายกำลัง! พวกดรูอิดให้โอบล้อมและร่ายเวทหลับใหลใส่คาเอลซะ!” เซียวอวี๋รีบตะโกนสั่งการ เวลานี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำให้คาเอลหลับไปก่อน แม้ว่าคาเอลจะทรงพลัง กระนั้นก็ยังไม่มีความสามารถต้านทานเวทมนตร์โดยสมบูรณ์ ยิ่งเมื่อต้องเผชิญกับเวทหลับใหลจำนวนมากในเวลาเดียวกันด้วยแล้ว แม้จะทำให้เขาหลับได้ไม่นาน กระนั้นก็น่าจะเพียงพอต่อการจัดการกับเกรดิ้ง เหตุการณ์เป็นไปตามแผน คาเอลวูบหลับไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกรดิ้งเพียงแค่นเสียงและหันไปร่ายมนต์ใส่อิลิดัน ความแข็งแกร่งของอิลิดันนั้นไม่มีข้อกังขา หากว่าเขาถูกควบคุมจิตใจได้แล้วล่ะก็ มันจะเป็นหายนะทันที ทว่าไม่นาน ใบหน้าที่หยิ่งทะนงของเกรดิ้งก็แปรเปลี่ยนเป็นสับสน หลังจากร่ายมนต์ใส่อิลิดันแล้ว มันกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่อย่างใด “นี่เป็นไปได้อย่างไร?” เกรดิ้งไม่อาจทำใจเชื่อได้ลง อิลิดันแค่นเสียง “ข้าเป็นตัวตนที่ไร้ซึ่งวิญญาณ คิดจะควบคุมวิญญาณของข้างั้นรึ? ฝันไปเถอะ” “อา….ปีศาจ เจ้ามีพลังชั่วร้ายที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร? เจ้าเป็นผู้ใดกัน?” เกรดิ้งพลันสัมผัสได้ถึงพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ในร่างของอิลิดันและโพล่งออกมาอย่างตกตะลึง อิลิดันไม่ตอบคำ หากแต่ตอบด้วยการสะบัดดาบเข้าฟาดฟัน……