บทที่ 126 โดย Ink Stone_Romance
บทที่ 126 กลับมาอีกครั้ง (8)
อี้เป่ยซีนั่งอยู่บนรถของเซี่ยเช่อ ไม่รู้ว่าเขาขับมานานแค่ไหน เธอนั่งอยู่บนรถของเขาเฉยๆ เห็นพระทิตย์ตกหลายครั้งและเห็นพระอาทิตย์ขึ้นหลายครา ราวกับว่าเซี่ยเช่อไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย พาเธอไปเรื่อยๆ ไปเรื่อยๆ
“เป่ยซี ไม่เป็นไร เธอกินก่อนเถอะ ไม่ต้องเสียใจขนาดนั้น”
“ฉันไม่ได้เสียใจนะ ฉันแค่ไม่อยากกินอะไร เซี่ยเช่อ ตอนนี้พวกเราจะไปที่ไหนเหรอ ฉันไม่อยากเจอพวกเขาแล้วก็ไม่อยากเจอคนอื่นด้วย นายพาฉันไปที่แบบนี้ได้ไหม”
เซี่ยเช่อกอดอี้เป่ยซี ร่างกายที่ผอมบางทำให้เขารู้สึกเจ็บปวด อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจกับผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขน “เป่ยซี ฉันคิดไม่ถึงเลย ฉันคิดไม่ถึงเลยจริงๆ”
ใบหน้าของเธอเผยรอยยิ้มซีดเซียว “ไม่โทษเขาหรอกนะ เขาเองก็ควบคุมตัวเองไม่ได้”
“ตอนนี้เธอยังจะพูดแทนลั่วจื่อหานอีก ฉันนึกถึงคำโบราณคำนั้นจริงๆ คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ”
“อาจจะเป็นเพราะลู่เยี่ยจิ่ง เขาวางยาน่ะ”
เซี่ยเช่ออึ้งอยู่ตรงนั้นทันที หลังจากรู้สึกตัวแล้ว กระแทกกำปั้นแรงๆ บนพวงมาลัย “ไอ้คนเลวคนนั้น เห็นปกติเขาท่าทางหยิ่งยโสยังกะอะไรดี คิดไม่ถึงว่าจะใช้วิธีต่ำๆ แบบนี้ นี่มันเกินไปแล้วจริงๆ เป่ยซีเธอวางใจเถอะ ฉันจะไม่ปล่อยเขาแน่นอน”
“มันก็ไม่เกี่ยวกับเขา” อี้เป่ยซีก้มหน้า กอดตัวเองแน่น “มันเป็นเพราะฉันนี่นา ทำเรื่องผิดมากมายแบบนั้น นี่คือสิ่งที่ฉันสมควรได้รับ”
“เป่ยซี ทำไมเธอยังไม่ยอมเดินออกมา ลู่เยี่ยหวาเอง เขาไม่อยากให้การตายของตัวเองทำลายคนที่เขารักที่สุดแน่นอน ทำไมเธอถึงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเพื่อเขาไม่ได้ล่ะ”
น้ำตาที่อี้เป่ยซีข่มเอาไว้นั้นไหลอาบแก้มราวกับว่าหาทางระบายเจอแล้ว “เขาจะอยากให้ฉันมีความสุขได้ยังไง ฉันทำผิดตั้งมากมาย ฉันทำให้เขาตาย ทำไมเขาถึงอยากให้ฉันมีความสุข”
“ทั้งๆ ที่เขาควรจะโทษฉัน เกลียดฉัน เขาควรจะสาปแช่งให้ฉันไม่ตายดีต่างหาก ทำไม ทำไมก่อนจะตาย เขายังคิดถึงฉัน ทั้งๆ ฉันทำไม่ดีกับเขาขนาดนั้น ฉันเป็นคนที่แย่ที่สุดในโลกจริงๆ”
“ฉันทำให้บ้านลู่สูญเสียลูกชายที่น่าภาคภูมิใจที่สุดของพวกเขา ทำให้ลู่เยี่ยจิ่งสูญเสียพี่ชาย ฉันทำลายชีวิตครอบครัวพวกเขา ลู่เยี่ยจิ่งทำถูกแล้ว พูดก็ถูกด้วย ฉันเป็นคนประเภทที่ไม่ควรมีชีวิตอยู่ต่อไปในโลกใบนี้”
อี้เป่ยซีสะอื้น ยกหลังมือปาดน้ำตา “ตอนนี้ฉันทำให้ชีวิตของลั่วจื่อหานยุ่งเหยิงอีก ฉันผิดไปหมดทุกอย่าง ทำไม่ดีเลยสักอย่าง ทำไม ทำไมพวกเขายังอยู่ข้างหลังฉัน ยังต้องคิดถึงฉัน เซี่ยเช่อ ทำไมเหรอ”
“น่าจะปล่อยให้ฉันเหนื่อยตายไปเลยก็ดี หรือตายจากอารมณ์ซึมเศร้าแบบนี้ก็ดี ฉันไม่สมควรได้รับการปฏิบัติที่อ่อนโยนจากพวกเขาเลย”
“แล้วก็พี่เป่ยเฉิน เขาก็เป็นคนดีขนาดนั้น ฉันนี่มัน เซี่ยเช่อ ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวซวย ทุกคนที่ชอบฉัน ที่อยู่ข้างกายฉันจะต้องจบลงไม่ดี”
เซี่ยเช่อหยิบทิชชู่ออกมาซับน้ำตาให้เธอ ซับอย่างไรก็ซับไม่หมด สุดท้ายจึงทิ้งมันไป ดึงเธอเข้ามากอด ปล่อยให้น้ำตาของเธอไหลอยู่บนเสื้อของตัวเอง
“เป่ยซี เธอดีกว่าที่เธอพูดมาก จริงๆ นะ เธอรู้ไหม ก่อนที่จะเจอกับเธอ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าลู่เยี่ยหวายังยิ้มได้ ฉันนึกภาพที่คนอย่างลู่เยี่ยหวามีความสุขได้ยากมาก แต่เธอทำได้ ไม่กี่ปีที่เขารู้จักกับเธอ คือช่วงเวลาที่เขามีความสุขที่สุดในชีวิต”
“เธอได้แต่งแต้มชีวิตของเขาจริงๆ ทำให้เขาได้สัมผัสชีวิตที่มีความสุขเหมือนคนทั่วไป เขาจะเกลียดเธอ จะโทษเธอได้ยังไง ถ้าเขารู้ว่าการจากไปของเขาจะทำให้เธอเป็นแบบนี้ล่ะก็ ตอนนั้นเป็นไปได้ว่าเขาจะท้าทายความตายกับยมทูตเพื่อเอาชีวิตของตัวเองกลับมาแน่นอน”
“เป่ยซี เธอรู้ไหม ลั่วจื่อหานเขาเจอเธอตั้งนานมากๆ แล้ว ฉันได้ยินเขาพูดถึงในตอนหลังว่า ตั้งแต่ตอนนั้น เขาได้เรียนรู้ที่จะสัมผัสกับความงดงามของโลก ถึงได้มีผลลัพธ์อย่างทุกวันนี้”
“เธอทำเพื่อพวกเขามากมาย ยังมีพี่ชายของเธอ ถ้าหากไม่ใช่เพราะความรับผิดชอบที่มีต่อเธอ เขาก็คงไม่เป็นอย่างทุกวันนี้ไม่ใช่เหรอ?”
อี้เป่ยซียังต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง เซี่ยเช่อปล่อยมือทันที เหยียบคันเร่งอย่างแรง รถออกตัวราวกับโบยบิน “ตอนนี้ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว ฉันจะพาเธอไปที่คนน้อยๆ เธอคิดด้วยตัวเองให้ดีๆ อีกที ดีไหม”
อี้เป่ยซีกัดริมฝีปาก มองไปข้างหน้า ดวงตาที่สดใสขยับเขยื้อน พยักหน้าอย่างว่าง่าย
เซี่ยเช่อจึงโล่งอก ไหล่ก็ผ่อนคลายลงมาด้วย พูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันผิดปกติ “เธอรู้สึกว่าตัวเองละทิ้งใครคนนึงมานานมากแล้วบ้างไหม”
อี้เป่ยซีส่ายหัว “เปล่านี่ ช่วงนี้เกิดเรื่องเยอะไปหน่อย ฉันรู้สึกว่าฉันไม่ได้เข้าใกล้ใครเลย”
เซี่ยเช่อจมดิ่งอยู่ในความคิด ผ่านไปสักพักจึงรวบรวมความกล้า พูดขึ้น “เป่ยซี เธอรับได้ไหมถ้าที่นั่นมีหลานฉือเซวียนด้วย”
อี้เป่ยซีกระพริบตา ระคนความความรู้สึกสับสนงงงวย เซี่ยเช่อจึงพูดต่อ “ฉันกับหลานฉือเซวียนน่ะ เธอวางใจเถอะ ครั้งนี้ฉันเอาจริง ฉันเองก็ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะชอบคนนึงได้ขนาดนี้ อยากเจอหน้าเขาทุกวัน อยาก**ทุกวัน คุยกับเขาทุกวัน แม้ว่าอยู่ด้วยกันก็ไม่รู้สึกรำคาญ ครั้งนี้ฉันอยากอยู่กับใครสักคนอย่างจริงจังมากจริงๆ”
ได้ยินคำพูดของเซี่ยเช่อ อี้เป่ยซีก็รู้สึกซาบซึ้งใจมาก ทำไมเธอจะไม่อยากอยู่ด้วยกันกับลั่วจื่อหานแบบนี้ล่ะ แต่ว่าทำอย่างไรเธอก็ไม่สามารถเดินออกมาจากปมนั้นในใจได้เลย อี้เป่ยซีกระแอมไอ “ฉันรู้แล้ว ยินดีกับพวกนายด้วยนะเซี่ยเช่อ หวังว่าพวกนายจะมีความสุขได้ ไม่เป็นไรหรอก ถ้าหากเป็นหลานฉือเซวียน ฉันไม่รังเกียจเลยสักนิด ขอเพียงพวกนายอย่าพลอดรักต่อหน้าฉันตลอดเวลา ฉันก็ขอบคุณฟ้าดินแล้ว”
“เรื่องนี้วางใจเถอะ ฉันคุยกับเขาเรียบร้อยแล้ว จะไม่ทำแบบนั้นกับเธอแน่นอน เธอพักรักษาใจที่นั่นสักสองสามวันก็ได้”
เซี่ยเช่อหยุดไปครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อ “งั้นเธอจะลั่วจื่อหานจะเอาไงต่อ”
อี้เป่ยซีหลับตา พิงหน้าต่างรถ คำพูดลอยออกมาจากปากของเธอแผ่วเบา “ขับรถนายไปเถอะ อย่ายุ่งให้มากเรื่อง”
เซี่ยเช่อยักไหล่ มองข้างหน้าต่อไป อี้เป่ยซีปลอบประโลมตัวเองในใจไม่หยุดหย่อน
ไม่เป็นไรนะเป่ยซี คิดเสียว่านี่เป็นการทำเพื่อลั่วจื่อหานก็พอ จากนี้ต่อไป พวกเธอสองคนก็ไม่ติดค้างต่อกันแล้ว
อี้เป่ยซีเอ๋ยอี้เป่ยซี ในที่สุดเรื่องทั้งหมดก็สิ้นสุดแล้ว เธอก็จะเริ่มต้นใหม่ได้แล้ว
ลั่วจื่อหาน อี้เป่ยเฉิน ลู่เยี่ยหวา ลู่เยี่ยจิ่ง ขอบคุณที่พวกนายปรากฏตัว ขอโทษนะ ที่ทำร้ายพวกนายมากมายขนาดนั้น
“ฮัลโหล” เซี่ยเช่อกดรับสาย ดวงตามองอี้เป่ยซีเป็นครั้งคราว สุดท้ายก็พูดว่า ‘ไม่รู้’ อย่างไม่เกรงใจเพื่อสิ้นสุดการโทร
“ใครน่ะ? ลั่วจื่อหาน?”
เซี่ยเช่อหรี่ตา มีประกายที่ต่างออกไป “เปล่า พี่ชายที่แสนดีของเธอน่ะ อี้เป่ยเฉิน”
อี้เป่ยซีสูดหายใจ
————