TQF:บทที่ 732 อวสาน (1)
“เรื่องมันเป็นอย่างนี้”โม่ซวนซุนไม่ได้ปิดบัง รีบเล่าเรื่องที่ตัวเองมาถึงโถงหลักวิหารสวรรค์ให้นางฟังอย่างรวดเร็ว
จนกระทั่งเขาบรรลุเป็นออกจากการเก็บตัวถึงได้รู้ว่าสามีภรรยาอาจารย์โม่อู๋เซอมาตามหาเขาที่โถงวิหารสวรรค์และรู้เรื่องของนาง
แม้จะมีเรื่องไม่คาดคิดบ้างแต่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ไม่ได้อาละวาด ยื่นมือไปลูบใบหน้าเขาเบาๆด้วยแววตานุ่มนวล “เจ้าลำบากแย่เลย”
“ไม่ เสี่ยวเสี่ยว เจ้าสิลำบาก”
โม่ซวนซุนส่ายหัวเบาๆด้วยแววตาปวดใจ แม้เขาจะไม่สามารถทำนายได้ว่านางผ่านอะไรมาบ้างแต่ก็พอสัมผัสได้ลางๆ จะไม่ให้ปวดใจกับความทุกข์ทรมานของนางได้อย่างไร
“ข้าสบายดีมาก” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวยิ้มอ่อนโยน นัยน์ตาเป็นประกายและคลี่ยิ้ม “เจ้าสลักรูปปั้นหยกของข้าไว้เยอะเหรอ”
“ใช่”
โบกมือเบาๆเพียงครั้งเดียวก็มีรูปแกะสลักด้วยหยกนานาชนิดปรากฏออกมาเยอะแยะมากมาย ที่สำคัญคือรูปปั้นพวกนี้ไม่ใช่แค่ดูมีชีวิตเท่านั้น ไม่มีรูปปั้นไหนที่ทำหน้าเหมือนกันเลย ไม่รู้ว่าเขาสลักรูปปั้นพวกนี้ออกมาได้อย่างไร
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวจับจ้องรูปปั้นหยกที่เหมือนตัวเองอย่างกับแกะแล้วรู้สึกหวานชื่นในใจ หวานอย่างกับเอาน้ำผึ้งมาราด มีรอยยิ้มแห่งความสุขระบายอยู่บนใบหน้ารูปงาม
พวกนางหวานแหววกันอยู่ในมิติ แต่ด้านนอกนั้นเป็นอีกแบบนึง
นางมารน้อยหยูเฮงน้อยที่ชอบใช้กำลังไม่ได้ออกไปอัดใคร นางกลับมาที่บ้านตระกูลฟางเหมือนกันและกำลังจ้องมองตาแก่ซอมซ่ออย่างพิจารณาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
เห็นท่าทางของนางแล้วโม่อู๋เซอและฟางซูหยุนไม่รู้จะพูดยังไงดี
แม้ว่าอยู่ต่อหน้าพวกเขาหยูเฮงน้อยจะเหมือนแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่ง แต่พวกเขารู้ว่าหยูเฮงน้อยมีความคิดของตัวเอง
เมื่อเป็นเรื่องสำคัญ นอกจากคำสั่งของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวจะห้ามนางได้ คำพูดของคนอื่นนางอยากฟังก็ฟัง ไม่อยากฟังก็อย่าได้มีคนมาก้าวก่ายการกระทำของนาง ไม่ว่าจะเป็นใคร
ตาแก่ซอมซ่อเป็นปีศาจเฒ่าที่อยู่มาแสนกว่าปีแล้ว เรียกได้ว่าเป็นคนที่อายุยืนที่สุดในโถงวิหารสวรรค์ถ้าต้องนับจริงๆเขามีรุ่นใหญ่กว่าใครจนน่ากลัว
แต่ที่โถงวิหารสวรรค์แม้เขาจะไม่ได้มีวิทยายุทธระดับจักพรรดิเทพเซียน แต่เขาคือคนที่ได้รับสืบสานบ้านถ้ำของอาจารย์ปู่รุ่นแรก
แม้เขาจะไม่มีโอกาสวาสนาอย่างโม่ซวนซุน ไม่อาจบรรลุเป็นเซียนสวรรค์ นั่นก็เพราะเขาไม่ได้สืบสานจิตเทพ และพรรสวรรค์ของเขาไม่เท่าโม่ซวนซุน ถึงจะเป็นเช่นนั้นแต่เขาก็เป็นคนพิเศษ อายุของเขาก็ยืนยาวกว่าคนอื่นๆ
ถ้าไม่มีการปรากฏตัวของโม่ซวนซุน วิชาวิหารสวรรค์ของเขาเป็นอันดับ 1 ในโถงวิหารสวรรค์หลายหมื่นปีมานี้ไม่มีใครกล้าไม่ให้เกียรติเขา รวมถึงปีศาจเฒ่าทุกคนที่ผืนดินฉางไห่ก็ให้ความเคารพนับถือเขา ไม่มีใครกล้าเสียมารยาท
ตาแก่ซอมซ่อกล้ารับประกันว่าเขาเพิ่งเคยพบแม่หนูคนนี้เป็นครั้งแรกจริงๆ และด้วยความสามารถของเขา รู้สึกได้รางๆว่าแม่หนูคนนี้ไม่ธรรมดา นางไม่ใช่มนุษย์และไม่ใช่เผ่าอสูร ราวกับเป็นอีกเผ่าพันธุ์หนึ่ง
แม้เขายังไม่ค่อยมั่นใจ แต่ก็รู้สึกได้ว่ายัยหนูคนนี้ไม่ใช่คนที่ควรจะมีเรื่องด้วย ต่อให้เป็นปีศาจเฒ่าที่อายุยืนที่สุดอย่างเขาก็ยังรู้สึกหวั่นใจเมื่ออยู่ตรงหน้ายัยหนูคนนี้
นอกจากลูกศิษย์โม่ซวนซุนที่ทำให้เขารู้สึกลึกล้ำยากจะหยั่งแล้ว อย่างน้อยๆเขาก็เป็นเซียนสวรรค์ ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ยัยหนูตรงหน้าทำให้เขารู้สึกลึกล้ำยากจะหยั่งเหมือนกัน และตาแก่ซอมซ่อมีลางสังหรณ์ว่าถ้าทั้งคู่สู้กันจริงๆ ตัวเองไม่ใช่คู่มือของยัยหนูคนนี้แน่
เพราะฉะนั้นไม่ว่าหยูเฮงน้อยจะมีสีหน้ายังไง ตาแก่ซอมซ่อนอกจากจะนั่งนิ่งๆแล้วไม่กล้ามีท่าทีอย่างอื่น ยังไงซะเขาก็เดาอารมณ์แม่หนูนี่ไม่ถูกจริงๆ แล้วเขาจะเผชิญกับนางยังไง
ความเงียบสยบทุกสิ่ง เขาจะนั่งนิ่งๆอยู่ตรงนี้แหละ ไม่พูดอะไรทั้งนั้น
ส่วนฟางเต๋อหยวนยุ่งอยู่กับการจัดการเรื่องในบ้านตระกูลฟาง ถึงอย่างไรหลังจากที่ตระกูลฟางเกิดเรื่องก็มีเรื่องมากมายให้เขาต้องลงมือจัดการเอง เรื่องที่คนในตระกูลฟางใจไม่เข้าใจที่สุดคือนอกจากศพของฟางเต๋อถังแล้ว หาคนอื่นๆที่เกี่ยวข้องไม่เจออีก
แต่พวกฟางหมิงเห้อไม่ได้ไปไหน เขาและเหล่าตาเฒ่าแห่งตระกูลฟางอยู่เป็นเพื่อนแขก แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ไปลานกว้าง แต่พวกเขาที่วิทยายุทธคืนกลับมาแล้วก็พพอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ลานกว้าง
พวกเขาเป็นเจ้าบ้านตระกูลฟางก็จริง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนพวกนี้ก็ไม่ได้มีสิทธิ์ออกเสียงอะไรนัก
ถึงยังไงความแข็งแกร่งของหยูเฮงน้อย ชื่อเสียงของตาแก่ซอมซ่อก็เพียงพอให้ตาเฒ่าพวกนี้ไม่กล้าคิดเป็นอื่น ล้วนนั่งอยู่ในห้องรับแขกอย่างกับหุ่นไม้
ส่วนเฉิงเสี่ยวเสี่ยวและโม่ซวนซุนไปไหนนั้นไม่มีใครถาม และไม่มีใครสนใจเรื่องนี้ หรือต่อให้พวกเขาอยากจะสนก็ไม่มีสิทธิ์
“เจ้าคืออาจารย์คนใหม่ของท่านเขยข้าเหรอ”
หยูเฮงน้อยเป็นคนตรงไปตรงมาโดยตลอด โดยเฉพาะเมื่อเจอกับศัตรู ไม่เคยรู้จักคำว่าเกรงใจเลยจริงๆ
เสียงใสและเย็นชาดังขึ้นทำลายความเงียบ ทำให้สายตาของทุกคนทอดไปที่ตัว 1 เฒ่า 1 ตัวเล็ก โดยเฉพาะโม่อู๋เซอที่จะพูดบางอย่าง แต่ก็ได้แค่ขมุบขมิกปาก ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น
ตาแก่ซอมซ่อพยักหน้าเบาๆ มีสีหน้าเย้ยหยันตัวเอง “ถือว่าใช่ วาสนาอาจารย์ศิษย์นี้ข้าฝืนมาเอง”
เมื่อคำนี้ออกไป คนอื่นๆนอกจากสามีภรรยาโม่อู๋เซอและหยูเฮงน้อยล้วนมีสีหน้าตกตะลึง
หยูเฮงน้อยขมวดคิ้ว เหลือบมองเขาด้วยแววตาเป็นประกาย “ผู้หญิงชุดแดงคนนั้นล่ะ ตายรึยัง”
“แย่แล้ว” ตาแก่ซอมซ่อแอบสบถในใจ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเศร้าๆ เขาเข้าใจบ่วงกรรมนี้ดี ต่อให้ลูกศิษย์ตัวเองโม่ซวนซุนไม่ไปจัดการ แม่หนูตรงหน้าและภรรยาของลูกศิษย์ก็ไม่ปล่อยหยินเฟิ่งแน่
คิ้วของตาแก่ซอมซ่อสั่นไหวเบาๆ พยักหน้านิดหน่อย “ยังไม่ตาย อยู่ที่โถงวิหารสวรรค์”
——————————————–