ภาคที่ 4 บทที่ 177 เจรจาใหม่

ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)

บทที่ 177 เจรจาใหม่

เรือเหาะจันทราเงินบินสบายราวกับนก มุ่งเข้าสู่ชายแดนเผ่าคนเถื่อน

หลังชิงสมบัติจักรพรรดิอสูรกายมา ก็นับว่าซูเฉินทำภารกิจในแดนสัตว์อสูรสำเร็จแล้ว จึงไม่แปลกที่ตอนนี้หมายจะกลับ

เรือเหาะจันทราเงินบินผ่านอากาศไปโดยไร้สิ่งกีดขวาง

มีอสูรกายที่เร็วกว่าเรือเหาะจันทราเงินบ้าง แต่ที่เหลือไว้ปกป้องแดนมีอยู่ไม่มากนัก

ท้องฟ้ากระจ่าง ไร้ก้อนเมฆให้เห็น

เรือเหาะจันทราเงินรุดหน้าไปรวดเร็ว เบื้องล่างคือทุ่งหญ้า ที่หน้าต่างเผยให้เห็นทิวทัศน์งดงาม

ด้วยไม่ได้ถูกไล่แล้ว ซูเฉินจึงบินไม่ช้าไม่เร็ว เคลื่อนไปด้วยความเร็วพอดี ค่อย ๆ ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ที่ผ่านไป

ฉับพลันก็เห็นทหารทัพใหญ่กำลังมุ่งหน้ามาทางเรือช้า ๆ มองดี ๆ แล้ว เป็นทหารเผ่าคนเถื่อน

ทหารเผ่าคนเถื่อนเหล่านี้เหมือนเพิ่งเจอศึกใหญ่ บาดเจ็บล้มตายไปบ้าง ดูไม่เต็มที่พร้อมรบสักเท่าไหร่

ซูเฉินรู้ทันทีว่านี่คือทหารที่เหลือจากศึกปะทะกับเจ้าอสูรวาโยทมิฬ

แม้เจ้าอสูรกายจะทรงพลัง แต่ก็รับมือทหารเผ่าคนเถื่อนนับหมื่นคนเดียวไม่ไหวแน่ เขาเดาออกตั้งแต่แรกแล้ว

แต่ซูเฉินก็สนใจอยากรู้ว่าเจ้าอสูรวาโยทมิฬตายหรือหนีไปได้มากกว่า

หากเจ้าอสูรวาโยทมิฬยังไม่ตาย สุดท้ายมันก็จะฟื้นตัวแล้วกลับมาโจมตีเขาอีก หากเขาล่อมันให้ตีกับเผ่าคนเถื่อนอีกครั้ง ทั้งสองฝ่ายก็อาจไล่ตามเขาไม่ได้อีกแม้อยากทำ

นี่เป็นข้อได้เปรียบที่ผู้เชี่ยวชาญที่มีอำนาจมีเหนือบุคคลที่อ่อนแอกว่ามี

ทั้งทัพคนเถื่อนตอนนี้กำลังอยู่มุมต่ำกว่า

ซูเฉินไม่เห็นกลิ่นอายซากราชันอสูรกาย จึงรู้ว่าเผ่าคนเถื่อนคนพลาดท่ามา ตัดสินใจได้แล้ว ความคิดหนึ่งพลันผุด เขาหัวเราะร่วนแล้วบังคับเรือเหาะจันทราเหินให้เหินลงไป

ฉือหมิงเฟิงเห็นแล้วตกใจยิ่งนัก “ท่านจะทำอะไร ?”

ซูเฉินว่า “ข้าอยากไปทักทายเพื่อนเก่าสักหน่อย”

ฉือหมิงเฟิงตะโกนลั่น “บ้าไปแล้วหรือ ? นั่นมันเผ่าคนเถื่อนนะ !”

ซูเฉินจ้องเขานิ่ง “คิดสอนข้าหรือ ?”

ฉือหมิงเฟิงนิ่งไป

จากนั้นเอ่ยว่า “เปล่า… ข้าเพียงอยากเตือนว่าเผ่าคนเถื่อนนิสัยดุร้าย ไม่เหมาะจะสานไมตรีด้วยเท่านั้น”

“ข้าว่าเทียบกับมนุษย์แล้วก็ไม่ได้รับมือยากมากกว่ากันเท่าไหร่”

ฉือหมิงเฟิงได้แต่ถอนใจ ด้วยเป็นความผิดตนเองที่ปล่อยความละโมบเข้าครอบงำจิตใจ

ในตอนนี้ จึงได้แต่ปล่อยให้ซูเฉินทำตามใจ

แม้จะอยู่ด่านสู่พิสดาร แต่ก็ไม่ได้สำแดงอำนาจที่พึงมีต่อหน้าซูเฉิน สัญชาตญาณภายในบอกเขาว่าแม้จะเป็นการสู้กันตัวต่อตัว ก็ยากจะมั่นใจว่าตนเองจะชนะ

เรือเหาะจันทราเงินบินวนสองคราก่อนจะลงจอด อยู่เหนือทัพเผ่าคนเถื่อนพอดี

กระนั้นเผ่าคนเถื่อนก็ยังเห็นเรือเหาะ ทั้งร้องลั่นร้องตะโกน มังกรบินที่สร้างขึ้นจากของเหลวพิษก็สยายปีกบินออกมา

เรือเหาะจันทราเงินพุ่งออกไป ทิ้งระยะห่างจากมังกรบิน ในเวลาเดียวกันนั้น ซูเฉินก็ดึงเอาผลึกแก้วไมกาก้อนหนึ่งส่องมาที่ตนเอง จากนั้นเขวี้ยงมันออกไป

ผลึกแก้วไมกาเป็นสสารประหลาดที่สามารถบันทึกรูปร่างหน้าตาของคนได้ ภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ อาจใช้ส่งคำพูดเลยก็ยังได้ เป็นของชิ้นนี้ที่ทำให้ซูเฉินสามารถหลอกตานปาเมื่อครั้งศึกที่หนองน้ำได้สำเร็จสำเร็จ

ทหารเผ่าคนเถื่อนทั้งหลายมองเห็นภาพซูเฉินเหินลงมาจากฟ้า จนลงมาถึงพื้นแล้วส่งยิ้มให้ “เผ่าคนเถื่อนมีความเอื้อเฟื้อให้แขกจริง ๆ”

“มนุษย์นี่ !”

ทหารเผ่าคนเถื่อนแต่ละคนเริ่มส่งเสียงดังขึ้นแล้วทำท่าจะพุ่งเข้าใส่

“หยุด !” ตานปาสั่งเสียงดัง

พวกทหารแยกออกเป็นสองฝั่ง ตานปาเดินออกมาจากฝูงชน

เขาแหงนหน้าขึ้นมองฟ้า จากนั้นมองร่างปลอมของซูเฉินที่อยู่บนพื้น “ความกล้าหาญของเจ้าทำเอาข้าประหลาดใจนัก ยังจะกล้าปรากฏตัวในสถานการณ์เช่นนี้หรือ ?”

“ทำไมจะไม่กล้า ? เพียงเพราะมังกรบินไร้ค่าของเจ้านั่นน่ะหรือ ?” ซูเฉินคำรามเสียงต่ำ “เจ้าจัดการข้าเหมือนที่ทำกับวาโยทมิฬไม่ได้หรอก”

“ก็เลยมาที่นี่เพื่อยั่วยุข้า ?”

“คิดว่าข้าจะใช้ผลึกแก้วไมกากับเจ้าแค่เพราะอยากยั่วยุหรือ ?”

“เช่นนั้นมาทำไม ?”

“จำที่ข้าแนะนำไปครั้งก่อนได้ไหม ?”

ตานปาหรี่ตาลง

เขาย่อมจำได้

เขาจะลืมได้หรือ ?

คำก่อนหน้าของซูเฉินเหมือนพิษกัดกร่อน เข้าหูมา ฝังลึกในจิตใจ ไม่อาจลืมได้ลง

การเพิ่มความสามารถในการใช้พลังต้นกำเนิดของเผ่าคนเถื่อน !

คนเถื่อนนับไม่ถ้วนใฝ่ฝันถึงสิ่งนี้

แต่เมื่อมันออกจากปากซูเฉิน ทุกคำที่เอ่ยพลันเจือแววเย็นยะเยือก

เจ้ารู้ว่าเขาไร้เจตนาดี แต่เหยื่อก็หอมหวานเสียจนไม่อาจบอกปฏิเสธได้

เขาเงียบไปชั่วครู่จึงเอ่ยขึ้นว่า “เจ้าต้องการอะไรกันแน่ ?”

เกินคาดที่ซูเฉินเพียงส่ายหัว “สิ่งที่ข้าต้องการไม่สำคัญกับเจ้า ที่สำคัญคือเจ้าไม่อาจให้ข้าได้”

“แล้วจะมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ทำไม ?”

“วันนี้ไม่อาจมอบให้ได้ ไม่ได้หมายความว่าวันหน้าจะมอบให้ไม่ได้” ซูเฉินตอบพร้อมยิ้มสดใส “ข้ามาหาเจ้า หลัก ๆ เพื่อต่อรองและมอบโอกาส ทำไมไม่ฟังข้อแม้ข้าก่อนเล่า วันไหนเจ้าอาจจะรู้สึกรับได้ขึ้นมา จะได้มาหาข้าอย่างไรเล่า”

“ข้อแม้คืออะไร ?” ตานปาถาม

ซูเฉินเอ่ยเสียงเรียบ “ข้าอยากได้กระดูกต้นกำเนิดอารามเพลิงที่บรรพชนเจ้าใช้”

“เจ้าว่าอะไรนะ ?” ตานปาถลึงตาเกือบหลุด

หากเผ่าคนเถื่อนจะมีสมบัติล้ำค่าใด ชิ้นแรกคงเป็นอารามพลังต้นกำเนิด เพราะทำให้คนเถื่อนสามารถคุมพลังได้ สองก็คือกระดูกต้นกำเนิดนี้นั่นเอง

‘กระดูกต้นกำเนิด’ นี้ แท้จริงแล้วคือกระดูกของมังกรสุริยะ

เมื่อเทพอสูรบรรพกาลสิ้นใจ จะไม่สลายไปตามปกติ เพราะมันทรงพลังมาก ทุกส่วนในร่างจึงกลายเป็นขุนเขา หุบเขา แม่น้ำ เป็นพืชพันธุ์ ซากที่เหลือจึงหาได้ยากนัก

หากแต่มังกรสุริยะก็ยังทิ้งแก่นเลือด กระดูกต้นกำเนิด และแก่นแก้วหยกเอาไว้

เผ่ามนุษย์ได้แก่นโลหิตไป และเปลี่ยนมันเป็นสายเลือดเทพอสูรบรรพกาล

กระดูกต้นกำเนิดเป็นเผ่าคนเถื่อนเอาไปใช้พัฒนาเป็นนักพยากรณ์กระดูก ต้นพลังของนักพยากรณ์กระดูกก็มาจากความสัมพันธ์กับกระดูกต้นกำเนิดนั่นเอง มังกรสุริยะมีพลังมากมาย เห็นอดีตและอนาคต ความสามารถนี้ถ่ายทอดลงในกระดูกต้นกำเนิดของมันเป็นบางส่วน นักพยากรณ์กระดูกของเผ่าคนเถื่อนจึงสามารถเอาพลังนี้มาใช้ได้

ซูเฉินล่วงรู้ถึงความลับนักพยากรณ์กระดูกด้วยการเค้นคอเล่อน่าครั้งแล้วครั้งเล่า

ความต้องการของซูเฉินไม่มีวันพอแค่ขอเพียงกระดูกต้นกำเนิด และแน่นอนว่าตานปาไม่อาจตกปากรับคำ และแม้จะอยาก เขาก็ไม่มีอำนาจให้ทำเช่นนั้นได้

กระดูกต้นกำเนิดถูกเก็บอยู่ในใจกลางอารามศักดิ์สิทธิ์ มีแค่ชนเผ่าเพลิงอันเป็นชนเผ่าที่ครองอาณาจักรเหล็กเลือด จึงจะมีอำนาจจัดการเรื่องนี้

“เรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้”

“หากเป็นไปไม่ได้ โทเทมทั้งสามที่พวกเจ้าทิ้งไว้ก็ย่อมได้เช่นกัน” ซูเฉินเอ่ยเสียงสบาย “เลือกหนึ่งในสองที่ข้าเสนอไปก็พอ”

โทเทมทั้งสามนั้น ตอนนี้อยู่ในพระราชวังเพลิง ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่ตานปาจะมอบให้ซูเฉินได้

ตานปาเอ่ยเสียงโกรธ “เจ้าเสนอข้อแลกเปลี่ยนที่เป็นไปไม่ได้ !”

“เป็นไปไม่ได้ในตอนนี้ไงเล่า” ซูเฉินเอ่ยเสียงเบา

ตานปาได้ยินก็ใจสะท้านไปเล็กน้อย

ซูเฉินว่าต่อ “แน่นอนว่าหากไม่เห็นด้วย ข้าไปคุยกับชนเผ่าเพลิงเองก็ได้ พวกเขาอาจตอบตกลง”

“เจ้ายังสร้างวิธีให้เผ่าคนเถื่อนคุมพลังไม่ได้ แต่จะขอค่าตอบแทนสูงเช่นนั้นแล้ว ไม่คิดว่ามากไปหน่อยหรือ ?”

ซูเฉินหัวร่อ “งั้นหรือ ? แท้จริงแล้วไม่ว่าข้าหรือเจ้าต่างก็สงสัยว่าจะทำสำเร็จหรือไม่งั้นสินะ ?”

ตานปาเงียบไป

ซูเฉินยกนิ้วขึ้น “หนึ่งเดือน ! ขอเวลาข้าหนึ่งเดือน แล้วข้าจะแสดงสิ่งที่เจ้าไม่อาจเมินเฉยได้ และถ้าทำไม่ได้ เจ้าก็ทำเสียว่าข้าไม่ได้พูดอะไร”

“ตกลง !” ตานปาพยักหน้า คว้าทหารเผ่าคนเถื่อนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แล้วผลักไปข้างหน้า “เอาคนของข้าไปด้วย ชั่วเวลาหนึ่งเดือน หากเจ้าคนนี้ใช้วิชาต้นกำเนิดได้จริง ข้าจะเชื่อเจ้า”

“ตกลง ส่งเขาขึ้นมา”

มังกรบินสร้างจากพิษพลันพุ่งลงมารับทหารเผ่าคนเถื่อนแล้วพาเขาขึ้นฟ้าไป