น่าอัศจรรย์

 

ซูจิ้งไม่แปลกใจอะไรเมื่อเห็นรอยแผลหลงเหลืออยู่บนใบหน้าเพราะเขารู้ดีว่าพลังของเขาที่ใช้ในการรักษานั้นยังอ่อนแอเกินไป

เขาได้หยิบผงลบเลือนริ้วรอยออกมาแล้วแต้มไปที่หน้าของเซี่ยวหลู จริงๆแล้วผงลบเลือนริ้วรอยก็เป็นแค่ชื่อทางการค้าของโลกนี้เท่านั้น จริงๆมันคือผงยารักษาจากห้วงเวลาฯจูเซียน

ซึ่งผลของผงยาคือรักษาชีวิตแต่กว่าจะส่งผลในการลบเลือนริ้วรอยค่อนข้างนาน ด้วยเหตุว่าตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วที่จะเปิดงานผงเสริมทรวงอก เขาจึงตัดสินใจนำยาตัวใหม่ออกมาใช้ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีรอยแผลเป็นหลงเหลือไว้บนใบหน้าของเซียวหลู

 

แน่นอนว่าหลังจากที่ซูจิ้งรักษาเธอด้วยเวทมนต์สัมผัสแห่งใบไม้ฯหน้าของเซียวหลูยังคงหลงเหลือแผลเป็นน่าเกลียดไว้บนใบหน้า และแน่นอนว่าเธอไม่ยอมโผล่หน้าออกไปในงานเป็นแน่

ซูจิ้งได้นำยาตัวใหม่ออกมาแล้วมอบให้เซียวหลูพร้อมพูดว่า “ดื่มผงยานี่ซะ แล้วเธอจะดูดีสวยยิ่งกว่าเดิมซะอีก” เซียวหลูทำหน้าตาเหยเกทันทีเพราะไม่อยากทำอะไรผิดสำแดงอีก

แต่พอนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างซูจิ้งกับหวังซือหยาที่สามารถเชื่อใจซูจิ้งได้แน่นอน

ต่อให้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่แน่นอนว่าไม่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นกับเธอแน่ๆ

เธอนึกได้ดังนั้นเธอจึงรับผงยามาใส่ปากและดิ่มน้ำตามลงไป

หลังจากนั้นไม่นานเธอมัวแต่หลับตาหลังกินยาเข้าไปพร้อมหลับตาปี๋ทำให้เซี่ยวหลูไม่เห็นว่าใบหน้าของเธอมีการเปลี่ยนแปลงนั่นคือรอยแผลของเธอนั้นหายไปอย่างรวดเร็วอย่างสังเกตุเห็นได้

ไม่เพียงแต่นั้น จุดด่างดำส่วนอื่นทั้งจากเรื่องในคราวนี้และร่องรอยเก่าๆบนใบหน้าของเธอกลายเป็นสะเก็ดแล้วหลุดลอกไปอย่างรวดเร็ว

เธอรู้สึกประหลาดใจเพราะเธอรู้สึกดีขึ้นในทันทีพลางว่าคิดไปไปเองรึเปล่า เพราะข่าวลือเกี่ยวกับซูจิ้งที่เธอเคยได้ยินมานี่ก็ล้วนเวอร์วังทั้งนั้น

 

ในตอนนั้นซูจิ้งได้วางมือบนหน้าของเซียวหลูพร้อมทำการนวดต่อไป ความจริงแล้วการนวดนี้ไม่จำเป็นอีกต่อไปเพราะแค่ผงยาที่เขาให้ไปก็ถือว่าเพียงพอแล้ว

เพราะเขาเองก็ได้ทดลองอยู่หลายหนจนมั่นใจประสิทธิภาพ แต่เหตุผลที่เขายังคงทำการนวดต่อไปก็เพื่อเป็นการตบตาเซียวหลูไม่ให้เธอรู้ว่าที่เธอหายดีจนกลายเป็นสวยมากๆอย่างในตอนนี้เป็นเพราะผงยาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตามด้วยความเร็วในการรักษาที่ดีเกินคาดทำให้ซูจิ้งที่กำลังแกล้งนวดไปที่ใบหน้าของเซียวหลูยังต้องหยุดดูผล

ไม่ใช่เพราะตะลึงกับผลของการรักษาแต่เป็นการตกตะลึงเพราะทำให้ผุ้ใช้สวยขึ้นอย่างผิดหูผิดตา เขาพลางคิดไปว่าก่อนหน้านี้ที่เธอบอกกับใครต่อใครว่าสวยนี่คือแค่คิดไปเองหรอกหรอ

 

“เป็นยังไงบ้าง ไม่ได้ผลหรอ” เซียวหลูเห็นซูจิ้งจ้องมองมาที่หน้าของเธอแปลกๆจนเธอต้องแปลกใจเลยถามออกไป

 

“อ่ะแฮ่ม ก็ไม่เลวล่ะนะ” ซูจิ้งกระแอมก่อนพูดออกมา

 

“ไหนขอดูหน่อยซิ” เซียวหลูหันหน้าไปมองกระจกในทันที เธอนิ่งแข็งค้างในทันทีที่เห็นภาพในกระจก เธอลองเอานิ้วค่อยๆจิ้มแก้มตัวเองเบาๆ

ก่อนที่จะใช้ฝ่ามือปะไปตามใบหน้าป่ะหนึ่งเป็นการตรวจเช็คว่าภาพที่เห็นในกระจกคือภาพสะท้อนของเธอจริงๆรึเปล่า เมื่อเธอแน่ใจแล้วเธอสูดหายใจเข้าลึกๆพร้อมกรี๊ดออกมาสุดเสียงทันทื

 

“เกิดอะไรขึ้น เป็นอะไรไปหน่ะ” เหล่าสาวๆทั้งหลายที่รออยู่นอกห้องรีบวิ่งกรูเข้ามาทันทีที่ได้ยินเสียง

หลังจากเห็นหน้าของเซียวหลูพวกเธอต่างจ้องมองเป็นตาเดียวกัน พร้อมทั้งขยี้ตาพร้อมๆกัน

เพราะพวกเธอต่างก็ไม่มีใครเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่คนเดียว

 

“เป็นไปได้ยังไงกัน”

 

“คุณทำอะไรกันแน่น่ะ คุณซู”

 

เหล่าช่างแต่งหน้าทุกคนที่เห็นต่างก็ตื่นเต้นกันหมดทุกคน

 

ช่างเป็นการเปิดหูเปิดตาพวกเธอยิ่งนัก

 

“อาจิ้ง นายทำอะไรอีกเนี่ยบอกมาเลยนะ” หวังซือหยา ดงชุ่น และโจวเสวี่ยต่างหันไปมองซูจิ้งอย่างกับเห็นสัตว์ประหลาด

 

“ก็แค่แต่งหน้าน่า” ซูจิ้งพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

 

“แต่งหน้าตรงไหนกันมิทราบ มองออกกันเห็นๆเลยนะ” หวังซือหยาพูดด้วยความตื่นเต้น

 

“มันต้องไม่ใช่แค่การแต่งหน้าธรรมดาแน่ๆ มันต้องเป็นผ่าตัดเสริมความงามแหงๆ” ดงชุ่นพูดพลางเอามือจิ้มๆบนใบหน้าของเซียวหลูไปทั่วใบหน้า

 

“อ่าวเฮ้ อย่าไปแตะสิ” ซูจิ้งทำท่าทางรีบห้ามดงชุ่นทันทีพร้อมพูดอีกว่า “อย่าไปแตะมั่วซั่วสิ

เดี๋ยวหน้าก็หลุดกันพอดี การแต่งหน้าของฉันมันบางมากเลยนะ เดี๋ยวก็เห็นแผลอีกหรอก เธอเองก็ควรระวังไว้เหมือนกันนะเซียวหลู”

 

“อื้มฮืม” เซียวหลูพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน และเห็นพ้องตามคำขอของซูจิ้ง ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอไม่อยากเสียงานเป็นนางแบบในงานเปิดตัวผงเสริมทรวงอกนี้ไป อีกหนึ่งเหตุผลคือเธอเสียดายใบหน้าที่ซูจิ้งแต่งให้เธอซะสวยเลิศเลอขนาดนี้

 

ในตอนนี้ไม่เพียงแต่ผิวพรรณใบหน้าจะดูดีกว่าแต่ก่อนแล้ว แม้กระทั่งคิ้วของเธอก็ยังโค้งได้รูปเหมือนใบต้นหลิว ขนตาที่โค้งงอนยาวอย่างดูดีไม่มีด่างพร้อยแม้สักขนเส้นเดียว

สันจมูกที่โด่งขึ้นมานิดหน่อย มุมปากที่ดูเซ็กซี่เล็กๆ แก้มที่ดูพอเหมาะไม่มากหรือน้อยเกินไป และยิ่งไปกว่าหน้าโครงหน้าของเธอยังเปลี่ยนไปดูกระชับได้รูปมากกว่าเดิม

เมื่อดูรวมๆกันแล้วแค่พูดว่าสวยยังไม่ดีพอ ต้องบอกว่าสวยที่สุดในชีวิตของเธอเลยก็ว่าได้ เธอรู้สึกแบบนั้นจริงๆจนต้องหยิบกล้องโทรศัพท์ขึ้นมาเซลฟี่ตัวเองหลายรูปเพื่อพยายามเก็บช่วงเวลานี้ไว้ให้ได้มากที่สุด

 

“คุณซู นี่คือการแต่งหน้าจริงๆหรอ คุณทำได้ยังไงกัน” แม้แต่ช่างแต่งหน้ามืออาชีพยังไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นเลย

พวกเธอนึกไม่ออกเลยจริงๆว่าจะมีใครในโลกที่ทำแบบนี้ได้อีก

เพราะพวกเธอไม่เห็นร่องรอยการแต่งหน้าเลยแม้แต่น้อยแต่ใบหน้าของเซียวหลูกลับเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้

 

“มันเป็นการแต่งหน้าจริงๆแหล่ะ แต่ทำยังไงนี่ขอไม่บอกนะ” ซูจิ้งพูดพลางหัวเราะ

 

“คุณซู สภาพของฉันที่สุดแสนเลิศเลอในตอนนี้จะอยู่ได้นานแค่ไหนหรอ” เซียวหลูถามออกมา เธอตั้งใจว่าจะไม่ล้างหน้าไปซักปีนึงเลยเพื่อยอมให้ใบหน้านี้คงอยู่นานที่สุดเท่าที่จะนานได้

 

“นานแค่ไหนหรอ ถ้าคำนวณตามการสัมผัสกับอากาศแล้วน่าจะยู่ได้ราวๆครึ่งชั่วโมงไม่มากหรือน้อยไปกว่านั้นเท่าไหร่ ทางที่ดีเธอไม่ควรจะใช้เวลาในงานนานเกินสี่สิบนาทีนะ” ซูจิ้งพูดตามความจริง เขานั้นได้ลองกับหนูตัวนั้นมาแล้ว และทำการคำนวณตามน้ำหนักตัวที่ต่างกันของทั้งคู่

 

“อย่างงั้นหรอ” เชียวหลูรู้สึกหดหู่เล็กน้อย เธอรีบถ่ายรูปเก็บไว้มากขึ้นกว่าเดิม

แทบจะบอกได้ว่าถ่ายไว้ทุกอริยาบทและทุกมุมเท่าที่จะเป็นไปได้ ช่วงเวลาที่ดูดีที่สุดในชีวิตเธอขนาดนี้ต่างเก็บไว้ให้มากที่สุด เธออยากจะให้เขาเป็นช่างแต่งหน้าส่วนตัวของเธอเลยด้วยซ้ำแต่ก็รู้ดีว่าไม่มีทางเป็นไปได้

แต่เธอก็รู้สึกแล้วว่าอย่างน้อยๆการที่ได้มาอยู่ที่นี่ในวันนี้ภายใต้การดูแลของหวังซือหยาและบริษัทของซือหยาก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว

 

“อาจิ้ง นายจะสุดยอดเกินไปแล้วนะ” หวังซูหยาพูดพร้อมแสดงความรู้สึกออกมาอย่างเห็นได้ชัดเหมือนกับเธอแทบจะอยากกระโดดจูบซูจิ้งซะเดี๋ยวนั้นเลย เธอพูดด้วยรอยยิ้มต่อว่า “งั้นเราไม่ต้องหาใครมาแทนแล้ว เริ่มงานเปิดตัวได้เลย เซียวหลู เธอเตรียมตัวไว้นะ”

 

“ฉันพร้อมทุกเมื่อเลย” เซียวหลูพูดออกมาอย่างมั่นใจ

 

ทันทีที่เซียวหลูออกไปปรากฏโฉมในงานเปิดตัว ทุกสายตาต่างจ้องมองอย่างตกตะลึง

แม้แต่นักข่าวก็ยังจ้องจนลืมถ่ายรูปไป ความจริงแล้ววันนี้เซียวหลูต้องมีการเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเป็นนางแบบหลายชุดมากเพื่อแสดงให้เห็นความสวยงามหลังจากการใช้ผงเสริมทรวงอก

แต่ด้วยใบหน้าของเธอในตอนนี้นั้นแทบจะไม่มีใครสนตัวผงเสริมทรวงอกอีกต่อไป หลายคนอดไม่ได้ที่จะคิดว่าเธอไปทำการยกกระชับผิวหน้ามาแต่ก็ไม่มีทางเป็นไปได้เพราะเมื่อวานเธอก็เพิ่งไปร่วมงานเลี้ยงมาหมาดๆ

 

ในพื้นที่เล็กๆแห่งหนึ่ง ได้มีผู้คนกำลังแอบกระซิบคุยกัน

 

“ช่างสวยจริงๆ ไม่คิดเลยว่าเซียวหลูจะสวยขนาดนี้มาก่อน”

 

“ช่าย สวยหมดทุกองศา จะบอกว่า 360 องศาเลยก็ว่าได้”

 

“จะไม่สวยเกินไปหน่อยหรอ ตอนนี้ไม่มีใครสนใจอกของเธอแล้วนะ มีแต่คนจ้องหน้าเธออย่างเดียวเลย” ดงชุ่นโวยวายเล็กน้อย

 

“ฮ่าฮ่า คิดซะว่าเป็นการเปิดตัวผงเสริมความงามไปในตัวก็แล้วกัน ดีซะอีก เวลามีคนพูดถึงเรื่องในวันนี้พวกเขาจะไม่แค่มองแค่หน้าอกของเซียวหลูอย่างเดียวแล้ว” หวังซือหยาหัวเราะจนตัวสั่น