บทที่ 2365 อันสิ่งที่เรียกว่าบุญคุณช่วยชีวิต 4 / บทที่ 2366 อันสิ่งที่เรียกว่าบุญคุณช่วยชีวิต 5

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 2365 อันสิ่งที่เรียกว่าบุญคุณช่วยชีวิต 4

ระยะทางเช่นนี้สำหรับพวกกู้ซีจิ่วทั้งสองแล้วเป็นเวลาครู่เดียวเท่านั้น

แต่เธอเพิ่งจะดึงเขาลุกขึ้น สายฟ้าเส้นหนึ่งก็ผ่าลงมาแล้ว!

สายฟ้านี้เจิดจ้าพร่าตา กู้ซีจิ่วไม่คำนึงถึงสิ่งใดแล้ว ฉุดตัวเขาแล้วใช้วิชาเคลื่อนย้ายทันที

พริบตาเดียวทั้งสองคนก็มุดเข้าไปในโพรงถ้ำแห่งหนึ่งแล้ว

ด้านนอกมีฟ้าผ่าเปรี้ยงปร้าง สายฟ้าเส้นแล้วเส้นเล่าผ่าลงมาด้านนอกถ้ำ ส่องสว่างไปทั่วผืนปฐพี

ไม่น่าเชื่อว่าจะมีลูกสายฟ้าสองกลุ่มมุดตามเข้ามาอย่างไม่ยอมเลิกรา เมื่อเห็นว่ากำลังจะไล่ตามฝีเท้าของคนทั้งสองทันแล้ว ตี้ฝูอีก็ดึงกู้ซีจิ่วไปอยู่ด้านหลัง สะบัดแขนเสื้อพรึบ ลำแสงสีรุ้งส่องวาบ เข้าห่อหุ้มสายฟ้าที่สะท้านสะเทือนสองเส้นนั้นไว้…

เกิดเสียง ‘เปรี้ยง! เปรี้ยง!’ ดังสะเทือนเลือนลั่น ทั้งร่างของตี้ฝูอีถูกสายฟ้าส่องจนคล้ายว่าจะเรืองแสงได้แล้ว…

โพรงถ้ำก็สั่นสะเทือนไปด้วยเช่นกัน! สะเก็ดหินนับไม่ถ้วนหล่นลงมา

หลังจากฟ้าแลบผ่านพ้นไป ร่างกายตี้ฝูอีก็ส่ายโงนเงน เซถอยหลังไป…

กู้ซีจิ่วอยู่ด้านหลังเขา แก้วหูถูกสะเทือนจนแทบหนวกแล้ว หัวใจเต้นกระหน่ำโครมคราม แทบจะเด้งออกมาจากลำคอ

อานุภาพของอัสนีจากทัณฑ์สวรรค์ เพียงพอจะเคลื่อนภูเขาเขย่านที ทำลายโลกาได้เลย!

ต่อให้พลังบำเพ็ญจะบรรลุขั้นจินเซียนแล้ว ถ้ารับอัสนีเช่นนี้ได้สักสายก็นับว่ามีฝีมืออย่างยิ่งแล้ว

แต่เขากลับใช้แขนเสื้อรับไว้ถึงสองสาย!

เขานึกว่าแขนเสื้อของเขาคือถุงเอกภพ[1]หรืออย่างไร?!

เขายังคงเยาว์วัยเกินไปจริงๆ! ลูกโคแรกคลอดไม่กริ่งเกรงพยัคฆ์ ปัญหาเช่นใดก็กล้าก่อทั้งนั้น!

เขาเซถอยหลังมา ย่อมถูกเธอรับเอาไว้ โอบไว้ในอ้อมแขน ก้มหน้ามอง

เห็นสีหน้าเขาขาวซีด ดวงตาปิดสนิท เขาแน่นิ่งอยู่ในอ้อมแขน

คงมิใช่ว่าถูกฟ้าผ่าจนบาดเจ็บสาหัสไปแล้วกระมัง?!

เธอยังหวาดหวั่นว่าสายฟ้าจากด้านนอกจะตามเข้ามาอีกครั้ง จึงกอดเขาไว้แล้วเคลื่อนเข้าสู่ส่วนลึกของถ้ำ

โชคดีที่ถ้ำแห่งนี้ลึกอย่างยิ่ง พอเธอเข้าสู่ส่วนลึกของภูเขา ถึงสายฟ้าด้านนอกอยากจะไล่ตามก็ตามเข้ามาไม่ได้แล้ว

ภายในถ้ำลึกมืดมิด เธอล้วงไข่มุกราตรีเทเม็ดหนึ่งออกมาให้ความสว่าง

มองสีหน้าของเขาดูก่อน แล้วจับชีพจรของเขาเล็กน้อย ดูเหมือนจะบาดเจ็บภายในจนสลบไปจริงๆ

เขาหลับตาอยู่ตลอด ปล่อยให้เธอลากไปลากมา กู้ซีจิ่วมองเขาที่อยู่ในอ้อมแขน หัวใจผุดขึ้นผุดลงดุจกระแสน้ำ

เขาคิดจะทำอะไรกันแน่นะ?

ในมือเขายังคงกำเนื้อหงส์ครามอีกครึ่งหนึ่งเอาไว้ ฝ่ามือมันเยิ้ม

เธอนวดหว่างคิ้วอย่างปวดหัวนัก ดึงเนื้อหงส์ครามอีกครึ่งหนึ่งออกมา พลางวางไว้ด้านหนึ่ง จากนั้นก็ทำความสะอาดให้เขา ทอดถอนใจแล้วเอ่ย

“บนโลกนี้ใช่ว่าจะสามารถกินได้ทุกอย่างนะ อย่างเช่นสัตว์วิเศษ…หนนี้ได้รับบทเรียนแล้วกระมัง?!”

ขนตาเขายาวเป็นแพ ริมฝีปากบางเม้มนิดๆ นอนอยู่ในอ้อมแขนเธอเช่นนี้ ทำให้คนใจสั่นขึ้นมาอย่างน่าประหลาด

กลิ่นอายบนร่างเขาน่าสูดดมอย่างยิ่ง ท่ามกลางกลิ่นหอมเย็นที่คุ้นเคยแฝงกลิ่นบุปผาชนิดหนึ่งที่ไม่อาจบรรยายได้เอาไว้ ทำให้คนรู้สึกหวั่นไหว

เธอกับเขาไม่ได้ใกล้ชิดกันขนาดนี้มาเนิ่นนานมากแล้ว การที่เธอกอดเขาไว้เช่นนี้ หัวใจพลันหนึบชาขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ในใจคล้ายมีเข็มบางเฉียบทิ่มแทงเข้ามา

เป็นเพราะในใจเขามีคนอื่นแล้ว ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจจะปล่อยมือแล้ว เติมเต็มความปรารถนาของเขา

และพยายามจะลบเลือนเงาของเขาออกไปจากหัวใจอย่างสุดชีวิต ไม่คิดจะข้องแวะกับเขาอีก เลี่ยงไม่ให้อารมณ์สูงขึ้นดิ่งลงเหมือนรถไฟเหาะ

กลับคาดไม่ถึงเลยว่าจะจับผลัดจับผลูได้ข้องเกี่ยวกันเช่นนี้อีก…

จิตใจเธอว้าวุ่นอยู่พักหนึ่ง จึงหยิบเตียงไม้ไผ่หลังหนึ่งออกมา จัดให้เขานอนอยู่บนเตียง

เมื่อก่อนตอนอยู่ที่ดินแดนเบื้องบนเธอยึดใต้หล้านี้เป็นบ้านเสมอมา ในถุงเก็บของจึงบรรจุอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตส่วนหนึ่งไว้ แต่เธอมีนิสัยเกียจคร้าน ของที่พกไว้จึงเป็นของที่ธรรมดาที่สุด อย่างเช่นพวกถุงนอนและกระโจม

ส่วนการพกเตียงหลังจากได้รู้จักกับตี้ฝูอีก็เรียนรู้มาจากเขา เพียงแต่สิ่งที่เขานำออกมาเป็นตั่งที่อ่อนนุ่มสบาย ส่วนของเธอกลับเป็นเตียงไผ่ธรรมดา

————————————————————————————-

บทที่ 2366 อันสิ่งที่เรียกว่าบุญคุณช่วยชีวิต 5

ร่างกายของตี้ฝูอีที่สลบอยู่หนักอึ้ง ตอนที่นำไปไว้บนเตียงไผ่จึงเกิดเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดขึ้น

ปกติแล้วกู้ซีจิ่วนอนบนเตียงไผ่นี้ก็ไม่รู้สึกว่ามีอะไร แต่ตอนนี้พอวางตี้ฝูอีไว้บนเตียง เตียงลั่นขึ้นมา เธอก็มีความรู้สึกไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง

เพียงแต่การที่เขาถูกสายฟ้าฟาดจนสลบไปทันทีค่อนข้างอยู่เหนือความคาดหมายของเธอ

เธอก้มมองเขา ดวงตาเขาปิดสนิท ริมฝีปากบางเม้มอยู่ หว่างคิ้วถึงขั้นที่ขมวดอยู่นิดๆ คล้ายว่าหลายวันมานี้ชีวิตของเขาไม่ปกติสุขยิ่งนัก…

ทำไมเขาถึงไม่เป็นสุขล่ะ?

เธอยัดลูกกลอนวิญญาณเม็ดหนึ่งใส่ปากเขา เขาก็ว่านอนสอนง่าย ถึงแม้จะสลบอยู่ แต่ง้างปากของเขาเล็กน้อยเขาก็ยอมอ้าปากแล้ว ป้อนน้ำให้ดื่มเขาก็ดื่ม ป้อนยาใส่ปากเขาก็กิน

กู้ซีจิ่วจับชีพจรเขาดูแล้ว ถึงแม้จะได้รับการโจมตีจากสายฟ้าสองสาย แต่ก็ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต สาเหตุที่สลบไปคงเป็นเพราะถูกช็อต รอให้ฟื้นขึ้นมาแล้วให้กินโอสถวิญญาณอีกนิดหน่อยเพื่อบำรุงก็ไม่เป็นไรแล้ว

“ตี้ฝูอี…”

เธอกระซิบเรียกเขา ดวงตาแสบเคืองขึ้นมาอย่างน่าประหลาด

เธอละสายตาไปทันที เกรงว่าตนจะถลำลึกเข้าไปจริงๆ ขณะที่เธอกำลังจะลุกขึ้นไม่ทันระวังจู่ๆ แขนก็ยืดออกมา คล้องคอเธอไว้…

กู้ซีจิ่วไม่ทันตั้งตัว ร่างกายพลันอ่อนยวบ ศีรษะมุดเข้าในอ้อมอกของเขา!

กลิ่นอายอันคุ้นเคยที่เข้าปะทะหน้าทำให้เธอใจสั่น

หัวใจเธอเต้นแรง สองแขนพลันค้ำยัน กำลังจะลงจากเตียง ทว่าถูกอีกฝ่ายกอดเอวเอาไว้อีกครั้ง

เธอขยับไม่ได้ชั่วขณะ พอเงยหน้าขึ้น เขาก็ก้มหน้าลงมาเช่นกัน ประเหมาะบังเอิญ ริมฝีปากของเธอเฉียดผ่านปลายคางเขา แนบโดนริมฝีปากเขา…

กลีบปากสองคู่บดเบียดเข้าหากัน ในสมองกู้ซีจิ่วระเบิดดังตูม รีบเงยหน้าขึ้น!

ในที่สุดก็เว้นระยะห่างจากเขาหนึ่งฉื่อแล้ว

แต่ก็เป็นเพียงระยะห่างของใบหน้าเท่านั้น ร่างกายยังคงแนบสนิทเป็นเนื้อเดียวกันอยู่

เขาลืมตาแล้ว ทั้งสองอยู่ในท่าซ้อนทับหันหน้าชนกัน สายตาประสานกัน

“เจ้าฟื้นแล้วหรือ?”

จิตใจกู้ซีจิ่วกระสับกระส่าย เอ่ยถามด้วยถ้อยคำไร้สาระประโยคหนึ่ง

ตี้ฝูอีหยักมุมปากนิดๆ เขาที่เพิ่งตื่นท่าทางอารมณ์ดียิ่งนัก

“อืม”

เขาไม่ได้พูดมาก แต่สายตาที่มองเธอกลับลึกซึ้งอย่างยิ่ง

หนังหัวกู้ซีจิ่วชาหนึบ พลิกกายหมายจะลงจากเตียง

แต่แขนข้างหนึ่งของเขายังคงโอบรัดอยู่ที่เอวเธอ การเคลื่อนไหวนี้ของเธอสลัดเขาให้หลุดไม่ได้ กลับถูกแขนของเขากักเอาไว้ด้วย ร่างกายสนิทแนบแน่นยิ่งขึ้น

ตัวเขาร้อนผ่าวอยู่บ้าง กู้ซีจิ่วนอนฟุบอยู่บนร่างเขาแล้วเสมือนนอนฟุบอยู่บนเตาผิงร่างมนุษย์

รมให้แก้มเธอแดงก่ำ เธอไม่อยากฝืนผลักเขาออกไปอย่างรุนแรง ป้องกันไม่ให้เขาได้รับบาดเจ็บเป็นครั้งที่สอง ดังนั้นเธอจึงดิ้นรนอีกครั้ง ตะคอกเสียงแผ่ว

“ปล่อยนะ!”

ตี้ฝูอีโอบนางไว้ในอ้อมแขน ความอบอุ่นที่คุ้นเคย ทำให้ดวงตาของเขาแสบร้อน

ไม่ได้กอดนางมาเนิ่นนานมากแล้วจริงๆ!

เขาโหยหานางยิ่งนัก!

โดยเฉพาะหลังจากได้ร่วมอภิรมย์กันครั้งนั้น เขาก็ติดใจในรสชาติ โหยหาเรือนร่างของนางยิ่งขึ้น

บัดนี้ได้โอบกอดนางไว้ ฉากผาดโผนกระสันซ่านในอดีตวาบเข้ามาในสมองเขา กระแสความร้อนพุ่งไปรวมตัวตรงส่วนที่เพิ่งผงาดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว…

แววตาเขาลุ่มลึกนัก กระซิบเรียกชื่อนาง

“ซีจิ่ว!”

พลันหมุนพลิกกาย กู้ซีจิ่วรู้สึกเพียงว่าฟ้าดินกลับตาลปัตร

ลักษณะที่เธออยู่บนเขาอยู่ล่างกลับแปรเปลี่ยน กลายเป็นเขาอยู่บนเธออยู่ล่าง

ท่วงท่าเช่นนี้…

ขณะที่กู้ซีจิ่วยื่นมือไปหมายจะผลักเขาออก เขาก็ประทับจุมพิตลงมาแล้ว

กลีบปากสองคู่แนบชิดกันทันที บดเบียดกัน…

สมองกู้ซีจิ่วระเบิดตูม ปฏิกิริยาตอบสนองยังไม่ทันกลับมาอย่างสมบูรณ์ ก็ถูกเขาดุนง้างกรามให้เปิดออกแล้ว เขารุกรานเข้ามา…

“อ๊ะ เจ้า…”

เธอคิดจะพูดอะไร ยังไม่ทันได้พูดออกมา ก็ถูกเขาสอดลิ้นเข้ามาแล้ว!

จุมพิตอันเร่าร้อน! ร้อนแรงและบ้าคลั่ง!

ไข่มุกราตรีที่ให้ความสว่างในมือเธอร่วงลงบนพื้น กลิ้งออกไปไกล…

————————————————————————————-

[1] ถุงเอกภพ หนึ่งในมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์แห่งบรรพกาลทั้งสิบ เป็นของพระศรีอริยเมตไตรย ภายในถุงมีมิติพิศวง มิตินี้ใหญ่มากจนคล้ายว่าสามารถเก็บฟ้าดินไว้ข้างในได้