ตอนที่ 279: ซาบซึ้ง โดย Ink Stone_Romance

คำพูดของซินห้าวยืนยันความคาดเดาของเฉินเยี่ยน ดูเหมือนซินห้าวก็รู้ว่าซูเหม่ยลี่ไม่ใช่คนดี เตรียมป้องกันเธอไว้ก่อน ไม่ว่าเธอจะมาไม้ไหน ขอแค่ตัวเองและซินห้าวมีใจเดียวกัน เฉินเยี่ยนไม่กลัวเธอ

เฉินเยี่ยนกับซินห้าวไปถามข่าวคราวที่โรงงานก่อน รู้ว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี เธอคุยกับเฉินจงไม่กี่คำ เฉินจงไล่เธอกลับไปพักผ่อน

แล้วไปทักทายที่บ้านซินหลังเก่า รู้ว่าเธอซื้อยากลับมาแล้ว คุณปู่และป้าสองก็ดีใจมาก บอกว่าลำบากเธอแล้ว ทำอาหารให้เธอกิน ไป๋ซิ่วเหมยจะต้มน้ำร้อนให้เธอ เฉินเยี่ยนไม่ให้ทำ เธอและซินห้าวกลับบ้านพวกเขา ซินห้าวต้มน้ำร้อนให้เฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนล้างตัว

เปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าสะอาด เฉินเยี่ยนค่อยรู้สึกสบายตัว เธอโยนเสื้อผ้าสกปรกลงในอ่าง เธออยากจะซัก ซินห้าวกลับอุ้มเธอขึ้นมา บอกว่าหลายวันนี้เธอลำบากแย่แล้ว ไม่ให้เธอซัก

จนอุ้มเธอมาบนเตียง ซินห้าวจูบเธอ ถึงแม้เฉินเยี่ยนจะเหนื่อย แต่ก็รู้ว่าหลายวันนี้ซินห้าวทนมาตลอด ดังนั้นเธอเลยไม่ขัดขืน

แต่ไม่ได้มีเรื่องที่เธอคิดเกิดขึ้น ซินห้าวจูบเธอสองที แล้วโอบกอดเธอไว้ ตีเธอเบาๆ

มองเฉินเยี่ยนที่มองเขาอย่างไม่เข้าใจ นัยน์ตาซินห้าวมีแววยิ้ม “เด็กโง่ รีบนอนเถอะ ใต้ตาคุณคล้ำหมดแล้ว”

ซินห้าวไม่ได้คิดเรื่องนั่นหรอกหรือ

เฉินเยี่ยนรู้สึกขำที่ตัวเองเข้าใจผิด

ไม่ ไม่ใช่ว่าเขาไม่คิด เพียงแต่เขาสงสารตัวเอง

เฉินเยี่ยนพลิกตัวมากอดซินห้าว เอาศีรษะซุกไว้บนไหล่เขา ไม่นานก็หลับไป

จนตอนที่เฉินเยี่ยนตื่นขึ้นมาก็เป็นวันรุ่งขึ้นแล้ว หลับครั้งนี้เธอรู้สึกสบายมาก เธอบิดขี้เกียจ มองผู้ชายข้างตัว เฉินเยี่ยนก้มตัวลงไปจูบซินห้าวเบาๆ

สองแขนซินห้าวโอบกอดเฉินเยี่ยน ทั้งสองคนจูบกันสักพักแล้วค่อยปล่อย

จนตอนที่เฉินเยี่ยนเตรียมจะเอาเสื้อผ้ามาซัก เธออึ้งไป เสื้อผ้าตากอยู่บนเชือกในลานบ้านแล้ว เธอลูบดู เสื้อผ้าเกือบแห้งแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เพิ่งซัก น่าจะซักเมื่อคืน

“คุณซักหรือ?”

เฉินเยี่ยนถามซินห้าวที่เข้าไปกอดเธอจากด้านหลัง

“คุณเหนื่อยขนาดนั้น ยังไงก็ไม่ให้คุณซัก”

คำพูดซินห้าวอ่อนโยนมาก เหมือนว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเลย แต่นัยน์ตาเฉินเยี่ยนกลับแดงขึ้นมา

ซินห้าวซักแม้กระทั่งกางเกงในให้เธอด้วย ไม่ต้องพูดเรื่องซักสะอาดหรือไม่สะอาด ที่สำคัญคือน้ำใจของเขา

ในสายตาคนอื่นเรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับเธอนั้นมีความหมายไม่เหมือนกัน

กลับไปคิดถึงชาติที่แล้วที่เธอแต่งงานกับอวี๋เหวยหมิน ช่วงแรกความสัมพันธ์ของพวกเขาดีมาก ตอนที่คบกับอวี๋เหวยหมินทำดีกับเธอมาก เอาอกเอาใจ ดูแลใส่ใจไปหมดทุกอย่าง

หลังแต่งงาน มีครั้งหนึ่งเฉินเยี่ยนป่วย อาเจียนและท้องเสีย แม้แต่ข้าวเช้าก็ไม่ได้กิน เธอนอนอยู่บนเตียงใบหน้าขาวซีด เธอรู้สึกว่าเธอลุกไม่ขึ้น

ตอนเที่ยง อวี๋เหวยหมินกลับมา เธอถามว่าทำไมเขากลับมา

อวี๋เหวยหมินบอกว่าเขาเป็นห่วงเธอ เห็นเธอทรมานขนาดนี้เลยกลับมาดูเธอ

ตอนนั้นสีหน้าอวี๋เหวยหมินดูกังวลมากจริงๆ พูดปลอบเธอมากมาย

เธอรู้สึกซาบซึ้ง เพราะว่าเธอป่วย อวี๋เหวยหมินเลยอาศัยช่วงเวลาพักกลางวันกลับมาดูเธอ แสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจเธอ

รู้ว่าอวี๋เหวยหมินไม่ได้กินข้าว เธอเลยฝืนลุกขึ้นมาทำกับข้าวให้อวี๋เหวยหมินกิน

ทำกับข้าวเสร็จเธอรู้สึกมึนหัวไปหมดเลยไปนอนบนเตียง เธอกินอะไรไม่ลงเลยสักคำ อวี๋เหวยหมินกลับพูดว่าเป็นห่วง แต่กินข้าวหมดเลย จากนั้นเขาพูดว่า ภรรยาคุณพักผ่อนเยอะๆ นะ

แล้วเขาก็ออกไป ทิ้งกับข้าวที่กินเสร็จแล้วไว้บนโต๊ะให้เธอเก็บ

ตอนนั้นเฉินเยี่ยนเสียใจมาก เธอคิดว่าถ้าอวี๋เหวยหมินเป็นห่วงเธอจริง ตอนเที่ยงที่กลับมาก็น่าจะทำอาหารง่ายๆ ให้เธอกินได้ไม่ใช่หรือ? ในเมื่อเธอไม่กิน เขาก็สามารถทำกับข้าวด้วยตัวเองได้ ไม่อย่างนั้นก็ซื้อของกินกลับเข้ามาก็ได้ รู้อยู่ว่าภรรยาตัวเองป่วย แต่ไม่กินอะไรแล้วกลับมา พูดว่าอะไรเป็นห่วงเธอ แต่กินข้าวเสร็จก็สะบัดตูดออกไป นี่ไม่ได้ยิ่งเพิ่มภาระให้เธอหรือ?

ยังมีอีกครั้งหนึ่งเธอประจำเดือนมา ครั้งนั้นไม่รู้ว่าทำไมเธอปวดท้องมาก แต่ปกติแล้วเธอจะซักชุดชั้นในด้วยมือ ชุดชั้นในเธอวางไว้ตรงนั้นหลายวันแล้ว รวมถึงของอวี๋เหวยหมินด้วย อวี๋เหวยหมินบอกว่า ที่รัก คุณทรมานขนาดนี้ ไม่ต้องซักหรอก

คำพูดเขาเต็มไปด้วยความสงสาร แต่ชุดชั้นในแช่อยู่ในอ่างมาหลายวันแล้ว อวี๋เหวยหมินเดินไปเดินมาก็เห็นอยู่ แต่ก็ไม่ได้ยื่นมือมาช่วย ก็เพราะรอเธอหายก่อนค่อยให้เธอซัก

เธอยังเคยป่วยครั้งหนึ่ง ที่บ้านไม่มียา อวี๋เหวยหมินเห็นเธอแล้วก็พูดด้วยความสงสาร ที่รัก ดูท่าทางคุณแล้ว ถ้าผมเป็นแทนคุณได้จะดีแค่ไหน

แต่เขาก็ไม่ได้ออกไปซื้อยาให้ตัวเอง บอกว่าตอนนั้นจะตีหนึ่งแล้ว ร้านยาปิดหมดแล้ว

ตัวเองทรมานมากจริงๆ จะลงไปข้างล่าง เขารีบลนลานบอกว่าไม่ได้ ที่รัก มันดึกมากแล้ว จะเจอคนไม่ดีเอา ผมเป็นห่วงคุณ

เขาเป็นห่วงตัวเอง แต่เขาก็ไม่ลงไป สุดท้ายตัวเองลากสังขารไปซื้อยาด้วยความทรมาน เขาพูดหลายครั้งให้ตัวเองระมัดระวัง หลังจากที่ตัวเองซื้อยากลับมา เขากอดตัวเองแล้วพูดว่าเขาเป็นห่วง แต่เขาไม่ได้คิดจะไปเป็นเพื่อนตัวเองเลย

ตอนนี้มาคิดดูแล้ว ตัวเองนี่ช่างเป็นหญิงแกร่งเสียจริง อะไรก็ตัวเอง อวี๋เหวยหมินนอกจากพูดจาไร้ประโยชน์แล้ว เขาไม่เคยรับผิดชอบตัวเองแม้แต่นิดเดียว

เมื่อคืนเธอคิดว่าซินห้าวเห็นเธอเหนื่อย เลยไม่ให้เธอซักเสื้อผ้า แต่คิดไม่ถึงว่าซินห้าวจะซักให้เธอ

เธอเชื่อว่าถ้าเธอป่วย ซินห้าวไม่มีทางเป็นแบบอวี๋เหวยหมินแน่นอน

ผู้หญิงเราบางครั้งก็ไม่ได้ต้องการชีวิตที่ร่ำรวยอู้ฟู่ เธอหวังแค่ว่าในยามที่เธอต้องการ จะมีไหล่ให้คอยซบ มีผู้ชายที่ดีกับเธอ แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ไม่ใช่มาพูดจาไร้สาระว่าสงสาร แต่กลับไม่ช่วยเธอเลยสักนิด

เฉินเยี่ยนพิงศีรษะไปด้านหลัง เธอเจอรักแท้ของเธอแล้ว ชีวิตที่ได้อยู่กับซินห้าวคือชีวิตที่เธอต้องการ

แสงแดดจากลานบ้านสาดส่องมาที่ตัวของทั้งสองคน ภาพนี้ดูแล้วน่าประทับใจยิ่งนัก

กินอาหารเช้าเสร็จแล้ว ซินห้าวพาเฉินเยี่ยนไปโรงพยาบาลในเมืองอีกครั้ง ไปเยี่ยมคุณย่าดูอาการก่อน จากนั้นซินห้าวค่อยไปโรงงาน

“ลุงสองคะ ลุงก็กลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ หนูอยู่ที่นี่ก็พอแล้ว”

เฉินเยี่ยนเห็นช่วงนี้ลุงสองดูผอมไป ดูแลคนป่วยนี่เหนื่อยที่สุด

ลุงสองอยากจะปฏิเสธ แต่คุณย่าและเฉินเยี่ยนโน้มน้าวเขา สุดท้ายเขาเลยตกลงกลับไปอาบน้ำ พักหน่อยแล้วค่อยมาใหม่

เฉินเยี่ยนนั่งอยู่หน้าเตียงคุณย่าปอกแอปเปิ้ลให้กิน

ซุนหม่านเซียงและซูเหม่ยลี่ไม่ได้มา สองย่าหลานพูดคุยกัน บรรยากาศในห้องสงบสุขมาก

“เยี่ยนจื่อ เหม่ยลี่นั่นเธอระวังไว้หน่อยก็ดี”

อยู่ๆ คุณย่าก็พูดประโยคนี้กับเฉินเยี่ยนขึ้นมา

มือเฉินเยี่ยนหยุดเคลื่อนไหว เงยหน้าขึ้นมามองคุณย่า

“เยี่ยนจื่อ ฉันรู้ว่าเธอไม่ใช่คนโง่ แม่สามีเธอคนนั้น ฉันจนปัญญาจะว่าแล้ว ถึงแม้ฉันจะไม่ชอบเธอ เธอนิสัยไม่ดีมากมาย แต่ที่จริงแล้วเธอไม่รู้จักคิด ตอนแรกเธอแต่งงานกับซินชาน เธอก็คิดจริงจังที่จะอยู่กับซินชาน เธอเป็นคนในเมือง เธอเอาแต่ดูถูกพวกฉัน ฉันรู้ ฉันพูดจาไม่น่าฟัง แต่เธอไม่รู้จักเก็บอะไรไว้ในใจ คนแบบนี้ คิดร้ายแอบแฝงไม่เป็นหรอก”

คุณย่าพูดประเมินซุนหม่านเซียงให้ฟัง