เซียวอวี๋กำลังพักผ่อนอย่างสบายอารมณ์อยู่ภายในห้องโถง จู่ๆสกาเล็ตก็วิ่งเข้ามาก่อนจะโถมเข้าหาอ้อมอกของเขาด้วยน้ำตานอง “เกิดอะไรขึ้น?” เห็นสกาเล็ตร้องไห้ไม่หยุด เซียวอวี๋ก็ตื่นตระหนก “ผู้ใดรังแกสกาเล็ตของข้า? บอกมา เดี๋ยวข้าจะไปจัดการมันเอง” สกาเล็ตร้องไห้อยู่นานสองนานก่อนจะกล่าวออกมา “ไม่มีผู้ใดรังแกข้า ข้าเพิ่งจัดการพวกทรยศเหล่านั้นไป ข้าจึงดีใจ ขอบคุณ ขอบคุณท่านจริงๆเซียวอวี๋ หากไม่ได้ท่าน ข้าคงไม่อาจล้างแค้น และครอบครัวของข้าคงต้องตกนรกทั้งเป็น” เซียวอวี๋ยิ้มก่อนจะกล่าวอย่างอ่อนโยน “เช่นนี้เอง คนพวกนั้นสมควรโดนแล้ว หลังจากเสร็จเรื่องแล้ว พรุ่งนี้พวกเราก็จะกลับดินแดนไลอ้อน ที่นั่นจะเป็นบ้านหลังใหม่ของเจ้า เจ้าจะต้องมีความสุขอย่างแน่นอน” เซียวอวี๋หรี่ตาลงอย่างมีความสุข การเดินทางครั้งนี้ช่างคุ้มค่านัก ไม่เพียงได้สมบัติกองเป็นภูเขา เขายังได้สาวงามสองนางอย่างสกาเล็ตและหมี่ไค่เอ๋อร์ และนั่นยังไม่รวมหยินเค่ออีก ยิ่งคิดก็ยิ่งมีความสุข เป็นบุรุษนี่ช่างดีจริงๆ ด้วยเหตุนั้น วันนี้ทั้งวันเซียวอวี๋จึงปล่อยให้คนของเขาค้นและรวบรวมสิ่งของจนแทบจะเต็มรถม้าทั้งหมดที่หาได้ในเมืองเม็ก แม้เซียวอวี๋จะมีแหวนมิติอยู่มากมาย กระนั้นมันกลับไม่เพียงพอจะขนสิ่งขนทั้งหมด ส่วนที่เหลือจึงจำต้องขนใส่รถม้าไป ทางด้านการสู้รบป้องกันเมืองนั้น ทั้งคาสโซ่และอลอนโซ่สามารถจัดการพวกทหารที่บุกมาได้สำเร็จ หลังจากนำศีรษะของอัสตูชูขึ้นเหนือกำแพงเมือง พวกทหารของแลนซ์ก็รีบล่าถอยหลบหนี หลังจากคาสโซ่หารือกับอลอนโซ่แล้ว ทั้งคู่ก้ตัดสินใจส่งกำลังไล่ติดตามไปบดขยี้กากเดนที่เหลือ ด้วยเพราะคำสั่งจากเซียวอวี๋ที่บอกว่า พวกเขาจะจากไปในพรุ่งนี้ ดังนั้นเขาจึงต้องการกำจัดพวกทหารนอกเมืองให้สิ้นซาก มิเช่นนั้นทหารเหล่านี้อาจจะไล่ติดตามพวกเขา การเก็บกวาดเป็นไปอย่างราบรื่น วันรุ่งขึ้น เซียวอวี๋ก็นำคนของเขาออกเดินทาง เหตุผลที่ออกจากเมืองเร็วถึงเพียงนี้ก็เนื่องเพราะเซียวอวี๋รู้ว่า หากยืดเวลานานออกไป กองทหารของแลนซ์จากเมืองอื่นๆจะต้องเคลื่อนทัพมาแน่ ในคราแรกนั้น เป็นเพราะมิรันด้าไม่ได้เรียกขอกองหนุนเพระาคิดว่าตัวเขาสามารถจัดการเซียวอวี๋ได้ ทว่าท้ายที่สุดแล้ว เขาก็คิดไม่ถึงว่าเซียวอวี๋จะโผล่ออกมากลางเมืองจนทำให้พวกเขาต้องพ่ายแพ้เช่นนี้ มิรันด้าย่อมไม่อาจทนทานรับได้ เขาจะต้องส่งคนมาไล่ล่าเซียวอวี๋อย่างแน่นอน ดังนั้นพวกเซียวอวี๋จึงต้องออกเดินทางเร็วขึ้นหน่อย เซียวอวี๋ออกเดินทางโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย ทั้งยังทำร่องรอยหลอกล่อเอาไว้หลายทิศ ดังนั้นคนของมิรันด้าจึงไม่ทราบว่าเขาไปทิศทางใดกันแน่ เซียวอวี๋เดินทางไปยังเมืองเล็กที่เขาพบเป็นเมืองแรกหลังออกจากบึงตะวันลับก่อน เขายังไม่ได้มุ่งหน้าสู่ดินแดนไลอ้อนโดยตรง “เจ้าสารเลวนั่น ข้าต้องจัดการมันให้ได้!” ในเวลาเดียวกันนั้น ในสถานที่อยู่ห่างไกลออกไป ใบหน้าของมิรันด้าบิดเบี้ยวจนดูราวกับปีศาจที่ผุดขึ้นจากขุมนรก วันนั้นมิรันด้าหลบหนีออกมาด้วยม้วนคัมภีร์เวท ถึงอย่างนั้น แม้ว่าเขาจะหลบหนีได้สำเร็จ แต่ผลกระทบจากความพ่ายแพ้ครั้งนี้ก็มากมายนัก นอกจากต้องเสียเมืองเม็กแล้ว เขายังสูญเสียไพร่พลไปเรือนแสน แม้เขาจะเคียดแค้นเซียวอวี๋จับใจ แต่การจะไล่ล่าเซียวอวี๋ไหนเลยจะง่ายดายปานนั้น เขาได้เห็นกับตาตัวเองมาแล้ว แม้เซียวอวี๋จะไม่ได้มาจากตระกูลใหญ่ที่สืบทอดมาเป็นพันๆปี แต่ความแข็งแกร่งทางขุมกำลังของเซียวอวี๋นั้นทรงพลังยิ่ง ยิ่งไปกว่านั้น ดินแดนไลอ้อนของเซียวอวี๋ยังอยู่ห่างจากจักรวรรดิแลนซ์มาก อล้วเขาจะตามไปล้างแค้นได้อย่างไร? เดินทางไปดินแดนไลอ้อนเพื่อลอบสังหารเซียวอวี๋น่ะหรือ? นั่นช่างเพ้อเจ้อนัก ไม่เห็นหรือว่าองค์รักษ์ข้างกายของเซียวอวี๋แข็งแกร่งปานใด? มิรันด้ามาถึงเมืองใกล้เคียง เขารีบออกคำสั่งต่อกองทัพให้ส่งคนไล่ติดตามเซียวอวี๋ไป เขาหวังจะยับยั้งไม่ให้เซียวอวี๋กลับดินแดนไลอ้อน นี่เป็นเพียงโอกาสเดียวของเขา หากเซียวอวี๋ข้ามผ่านชายแดนของอาณาจักรพยัคฆ์เมฆาไปได้แล้วล่ะก็ ความหวังล้างแค้นของเขาคงต้องกลายเป็นหมันแล้ว หากเขากล้าส่งทหารล่วงล้ำติดตามเข้าไป นั่นคงกลายเป็นชนวนสงครามระหว่างสองจักรวรรดิยักษ์ใหญ่ มิรันด้าย่อมไม่มีกำลังขวัญถึงเพียงนั้น ถึงมี มันก็ยังไม่ถึงรอบให้เขาตัดสินใจ เขายังต้องถามเสด็จพ่อก่อน หลังจากไล่ล่าเซียวอวี๋ได้สองสามวัน พวกเขาก็ยังไม่พบแม้แต่ร่องรอยของอีกฝ่าย มิรันด้าหน้าเขียวคล้ำ เขากระทั่งคิดไล่ติดตามเข้าไปในอาณาจักรพยัคฆ์เมฆาและฉวยโอกาสหาผลประโยชน์โดยการปล้นสักครา อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขาเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่นั้น ทหารของเขาก็วิ่งเข้ามาก่อนจะรายงาน “ฝ่าบาท! พวกเราถูกซุ่มโจมตีพะย่ะค่ะ! กองทัพออร์คนับหมื่นของเซียวอวี๋กำลังมุ่งหน้าเข้ามาแล้ว ทรงเร่งหลบหนีเถิดพะย่ะค่ะ!” ในการสู้รบครั้งสุดท้ายนั้น พวกออร์คได้ประทับความทรงจำอันตราตรึงไว้ในใจของไพร่พลชาวแลนซ์ ดังนั้นเมื่อหน่วยลาดตระเวนค้นพบร่องรอยกองทัพออร์ค พวกเขาก็คิดว่าเป็นพวกเซียวอวี๋ซุ่มโจมตี มิรันด้าตกตะลึง เหงื่อเย็นไหลซึมแผ่นหลัง มิรันด้าเร่งสั่งการให้ถอยทัพทันที อย่างไรก็ตาม กองทัพออร์คบางส่วนนั้นมาถึงแล้ว แม้เหล่าทหารที่ติดตามมิรันด้ามานี้จะเป็นกองทหารชั้นสูง ทว่าพวกออร์คที่เผชิญหน้าครั้งนี้กลับดุดันจนพวกเขาขวัญกระเจิง พวกทหารพากันวิ่งหนีไปคนละทิศคนละทาง ขณะที่พวกออร์คก็เข่นฆ่าติดตามไป “ถอย! รีบถอย!” เห็นพวกออร์คโถมเข้ามาอย่างมืดฟ้ามัวดิน มิรันด้าก็หน้าซีด เขารีบหลบหนีเอาตัวรอดโดยไม่ใยดีพวกทหารทางด้านหลัง ออร์คเหล่านี้กระหายเลือดยิ่ง พวกมันคว้าจับคนขึ้นมาก่อนจะจับฉีกกินเนื้อพวกทหารทั้งเป็น ยิ่งเห็น พวกทหารก็ยิ่งกลัว บางคนกระทั่งกลัวจนก้าวขาไม่ออกและทรุดตัวลงไปตรงนั้น ด้วยเหตุนั้น กองทัพที่มิรันด้านำมาจึงสามารถหลบหนีไปได้ไม่ถึงครึ่ง พวกออร์คนั้นไม่ได้ไล่ติดตามไป พวกมันเคลื่อนกำลังไปยังอีกทางหนึ่ง “อะไรนะ? กองทัพออร์คจำนวนมาก?” ได้ยินคำรายงาน เซียวอวี๋ที่อยู่อีกที่ก็ขมวดคิ้วมุ่น ด้วยเพราะเรื่องนี้เอง พวกออร์คใต้สังกัดของเซียวอวี๋จึงเป็นที่หวาดกลัวทันทีที่ถูกพบเห็น บางคนแสดงความเกลียดชังจนถึงขั้นจะเข้ามาเข่นฆ่า “ใช่ ที่ชายขอบของบึงตะวันลับ ว่ากันว่าจู่ๆก็มีพวกออร์คหลายหมื่นโผล่ออกมาและเข่นฆ่าผู้คนไปตลอดทาง สถานที่หลายแห่งถูกพวกมันยึดครองไป” ลีอากล่าวรายงานข่าวที่สืบมาได้ นางยังคงเป็นหน่วยสอดแนมคนสำคัญของเขา ดังนั้นส่วนใหญ่แล้วเซียวอวี๋จึงเลือกส่งนางออกไปสืบหาข่าว เพราะอย่างไรเสีย เมอีฟก็เป็นเอลฟ์ นางย่อมไม่สะดวกทำอะไรหลายๆอย่าง แต่ลีอานั้นไม่ใช่ นางสามารเข้าไปสืบข่าวตามบาร์และโรงเตี๊ยม “ดูเหมือนว่านี่จะเป็นฝีมือของกูดาล” เซียวอวี๋พลันเข้าใจเรื่องราว เขาไม่สามารถจัดการกูดาลได้ ดังนั้นพวกออร์คที่กำลังออกปล้นสะดมตอนนี้ย่อมต้องมีกูดาลบงการอยู่เบื้องหลัง พวกมันซ่อนตัวอยู่ในบึงตะวันลับมาเนิ่นนาน ครั้งนี้ถึงเวลาที่พวกมันจะทวงคืนความยิ่งใหญ่แล้ว โชคดีที่เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นใกล้ดินแดนของเขา มิเช่นนั้น หากต้องปะทะกับกองทัพออร์คที่ดุร้ายพวกนี้ กองทัพของเขาย่อมไม่อาจหลีกเลี่ยงการสูญเสีย เวลาก็ผ่านมาหลายปีตั้งแต่พวกมันดำเนินแผนการ ผู้ใดจะทราบเล่าว่าออกุสตุสมีขุมกำลังในมือมากน้อยเท่าใด นี่ถือเป็นช่วงเวลาอันดีสำหรับกูดาล นั่นเพราะะเวลานี้แผ่นดินหลักกำลังแตกแยก ทุกที่ล้วนเปิดศึกแย่งชิงดินแดน อาณาจักรพยัคฆ์เมฆาเองก็เหลือแต่ชื่อ ขุมกำลังต่างๆล้วนคิดแต่จะพิชิตโลก ไม่สนใจเรื่องไกลตัว ด้วยเหตุนี้เอง เมื่อพวกออร์คปรากฏตัวขึ้นจึงไม่มีผู้ใดให้ความสนใจ “เราจะกลับดินแดนไลอ้อนทันที สถานการณ์ของทั่วแผ่นดินตอนนี้เริ่มวุ่นวายแล้ว” เซียวอวี๋รู้ว่าเขาจะต้องเร่งเตรียมการแล้ว มิเช่นนั้นคงตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบตั้งแต่เริ่ม เซียวอวี๋เร่งนำคนมุ่งหน้ากลับดินแดนไลอ้อน ตามรายทาง เซียวอวี๋ยังคอยส่งคนไปกระจายข่าวเกี่ยวกับการโจมตีของพวกออร์ค ให้พวกชาวบ้านเร่งอพยพออกไป ทั้งยังบอกว่าที่ดินแดนไลอ้อนนั้นไม่มีการเรียกเก็บภาษี ยิ่งกว่านั้นยังมีการแจกที่ดินและนโยบายเลิศล้ำอื่นๆ เขาหวังบางคนอาจจะคล้อยตามและเดินทางไปยังดินแดนไลอ้อน แม้จากที่นั่นจะอยู่ห่างไกลจากดินแดนไลอ้อนมาก แต่หากว่าไม่มีที่ที่เหมาะแล้ว พวกเขาก็อาจจะเลือกเดินทางไปยังดินแดนไลอ้อน ขณะเดียวกัน เซียวอวี๋ยังได้เขียนบทเพลงมากมายและให้พวกนักกวีร้องบรรยายความวิเศษของดินแดนไลอ้อนไปตลอดทาง มันเป็นการโฆษณาชวนเชื่ออย่างยิ่งใหญ่ ขณะที่เซียวอวี๋เพิ่งกลับถึงดินแดนไลอ้อนนั้น กองทัพออร์คของกูดาลก็สามารถยึดครองเมืองมนุษย์รอบบึงตะวันลับได้สำเร็จ เหล่าชนเผ่าออร์คในตอนนี้ล้วนเปลี่ยนสังกัดจากออกุสตุสไปเข้ากับกูดาลจนสิ้น ณ ที่ค่ายใหญ่ของพวกออร์ค กูดาลนั่งหลับตาอยู่บนบัลลังก์ในห้องโถงขณะสัมผัสถึงสภาพโดยรอบ กูดาลนั้นเป็นวอร์ล็อค ขณะเดียวกันมันก็ยังเป็นหมอผีชั้นสูง มันสามารถทำความเข้าใจสถานการณืที่เกิดขึ้นผ่านทางลูกแก้วมนตรา ความคืบหน้าในระยะแรกของพวกออร์คเป็นไปอย่างราบรื่น นั่นทำให้มันพอใจอย่างมาก “ท่านกูดาล ข้ายินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับท่าน สิ่งของที่ท่านต้องการ ข้าจะค่อยๆทยอยส่งมาให้ แต่เงื่อนไขที่ท่านตกลงไว้ หวังว่าตอนนั้นท่านจะทำให้ข้าพึงพอใจ” ที่เบื้องล่างไม่ไกลจากบัลลังก์ของกูดาล มนุษย์ท่าทางกลอกกลิ้งคนหนึ่งกำลังกล่าวกับกูดาลด้วยรอยยิ้ม มนุษย์ผู้นี้ย่อมไม่ใช่ใครอื่น หากแต่เป็นศัตรูคู่อาฆาตของเซียวอวี๋ โรเบิร์ตแห่งตระกูลเคเนดี้ หลังจากถูกส่งตัวออกมาจากวิหารดำ เขากลับโชคร้ายยิ่ง นั่นเพราะพวกเขาปรากฏตัวขึ้นไม่ไกลจากกองทัพของกูดาล คนทั้งหมดจึงถูกจับอย่างไร้หนทาง อย่างไรก็ตาม กูดาลไม่ได้สังหารพวกเขา หากแต่ยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจให้โรเบิร์ต เมื่อเป็นเช่นนี้ ทั้งสองฝ่ายก็จับมือเป็นพันธมิตรกัน เวลานี้กูดาลต้องการขุมกำลังของมนุษย์เพื่อรักษาอำนาจของมัน ขณะที่โรเบิร์ตต้องการครอบโลก แต่ก็ต้องการความช่วยเหลือจากพวกออร์ค ตระกูลของเขาได้ฟื้นฟูพวกออร์คเผ่าแบล็กร็อคขึ้นมา ดังนั้นจึงไม่ได้รู้สึกตะขิดตะขวงใจที่จะร่วมมือกับกูดาล “ไม่ต้องกังวลไปหรอกสหายข้า ข้าจะให้เจ้าได้เป็นราชันย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษย์ ส่วนข้าจะปกครองพวกออร์ค พวกเราทั้งสองจะปกครองทวีปแห่งนี้ร่วมกัน ฮ่าฮ่าฮ่า…” เสียงหัวเราะของกูดาลดังกึกก้องทั้งห้องโถง…..