TB:บทที่ 251 การต่อสู้กับไป่เตียซวนอีกครั้ง

ราชาหมีเหมือนลูกบอลขนาดใหญ่ที่กำลังถูกเฉินหลงใช้ไม้ตีอยู่ เฉินหลงตีราชาหมีด้วยไม้เท้า แทนที่จะไล่มันไปให้พ้นเขากลับสร้างเปลวเพลิงระเบิดใส่ราชาหมีแทน หลังจากที่ราชาหมีลอยขึ้นไปก็ได้มีการระเบิดตามมาและราชาหมีก็ถูกซัดกลับมา และเฉินหลงก็ใช้ไม้ตีโต้กลับไป

 

ตอนนี้มันเหมือนกับมีคนล่องหนกำลังเล่นปิงปองอยู่กับเฉินหลง อย่างไรก็ตามสถานการ์แบบนี้ยังมีไป่เฉิง (ไป่เชิง)และเฮยเทียนตามมาเห็นอีก ซึ่งก็แอบตามเฉินหลงมาอย่างลับๆด้วย มันช่างน่าสยดสยองจริงๆที่หลอมรวมธรรมชาติจะสู้กับสัตวที่แข็งแกร่งได้เหมือนกับมันเป็นแค่ของเล่น ชายทั้งสองต่างมองกันและกันด้วยสีหน้าและแววตาที่หวาดกลัว

ชายคนนี้เติบโตและพัฒนาเร็วเกินไป มันช่างพิศวงที่นักรบระดับ 7 จะเลื่อนขั้นไปถึงระดับ 9 แล้ว แต่พลังการต่อสู้ที่รวมเข้ากับ อัศวินศักดิ์สิทธิ์แล้วนั้นแข็งแกร่งเกิน ความแข็งแกร่งของสัตว์ร้ายนดินแดนมหัศจรรย์ยังถูกโจมตีจนเหมือนเป็นของเล่นในกำมือของเขา ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะเป็นยังไงหากได้สู้กับเขา

ตอนนี้ พวกเขาทั้งสองรู้แล้วว่าไม่มีความสามารถมากพอที่จะต่อสู้กับเฉินหลงได้

ดังนั้น ไป่เฉิงก็หยิบหยกชิ้นหนึ่งขึ้นมาและพูดใส่มัน หยกเขียวมรกตชิ้นนี้ได้ถูกวิหารศักดิ์สิทธิ์ถ่ายทอดข้อมูลไปเรียกว่า หินสื่อสาร ซึ่งวิหารศักดิ์สิทธิ์ได้เอาไว้ใช้เพื่อความสะดวกในการติดต่อสื่อสารกับนักบุญที่ออกไปข้างนอก ในไม่ช้าข้อความของไป่เฉิงก็ถูกส่งไปถึงวิหาร

ผู้อาวุโสที่ตอนนี้ผิวหนังเริ่มเหี่ยวหย่นและเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองตามกาลเวลาต้องตะลึงเมื่อได้เห็นข้อความที่ว่าพลังของเฉินหลงที่มาถึงขอบเขตหลิมรวมธรรมชาติแล้ว เขาสู้กับสัตว์ร้ายในภูเขาแสนลูกเหมือนกับมันเป็นแค่ของเล่น ลูกหลานที่พระเจ้าได้สรรสร้างขึ้นมานั้นช่างแข็งแกร่งจริงๆ

หลังจากนั้นก็ได้มีข้อความส่งมาหาไป่เฉิงว่าให้นำตัวเฉินหลงกลับมาด้วย

“ท่านผู้อาวุโสให้พวกเราเอาตัวเฉินหลงกลับไปที่วิหาร” ไป่เฉิงได้นำข้อความที่ถูกส่งมาไปบอกกับเฮยเทียน

เฮยเทียนก็รู้สึกประหลาดใจไปด้วยเมื่อได้ยินคำพูดของไป่เฉิง แต่ก็รู้สึกโล่งอกในทันที อย่างไรก็ตามเฉินหลงนั้นก็แข็งแกร่งมากและต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับท่านเทพแน่ มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องนำตัวเขากลับไปที่วิหาร

ยังไงทั้งไป่เฉิงและเฮยเทียนก็ลงมาจากท้องฟ้าทันที

เฉินหลงรู้สึกชายสองคนที่น่ารำคาญกำลังกลับมาหาเขาอีกครั้ง เฉินหลงไม่ต้องการที่จะเล่นกับราชาหมีตัวนี้แล้ว ระเบิดไฟเพลิงหลายร้อยอันปรากฏขึ้นมาฉับพลัน จากนั้นก็ระเบิดขึ้นพร้อมๆกันและมันได้ฆ่าราชาหมีในทันที

หลังจากที่ราชาหมีตายแล้วแต่หนังของมันยังไม่บุสลาย เฉินหลงจึงโยนร่างหมีเข้าไปเก็บในแหวนมิติของเขา จากนั้นเขาก็พบกับชายสองคนกำลังลงมาจากฟ้า

“โถ่ มันจะอะไรกันหนักหนา? ฉันก็เหาะได้นะ” เมื่อมองไปที่เขาทั้งสองโดยเฉพาะไป่เฉิง เฉินหลงก็รู้สึกไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นัก

หลังจากที่พวกเขาลงมา เฉินหลงก็พูดถามไปอย่างไม่สุภาพตรงๆว่า

“พวกเจ้าสองคนกำลังจะทำอะไร?”

“เอ่อ ท่านผู้อาวุโสแห่งวิหารศักดิ์สิทธิ์อยากจะให้ท่านกลับไปที่วิหารกับพวกเรา” แม้ว่าเฉินหลงจะพูดหยาบคาย แต่ไป่เฉิงก็ยังคงยิ้มให้เขา

ไม่ว่าจะด้วยเหตุที่ท่านอาวุโสสนใจในตัวเฉินหลงหรืออาจจะเป็นความแข็งแกร่งของเขา ไป่เฉิงทำได้เพียงยิ้มทักทายเขาเท่านั้น

“วิหารศักดิ์สิทธิ์? ท่านผู้อาวุโส? พวกเขาต้องการอะไรจากข้า?”เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย

วิหารศักดิ์สิทธิ์อาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้กลับสู่โลกเดิม  แต่พลังของเฉินหลงตอนนี้กำลังอ่อนแอ หากเขาสามารถอัพเกรดร่างอมตะให้สูงขึ้นกว่านี้ได้ เขาก็คงไม่มีทางที่จะได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้

“เอ่อ ข้าไม่รู้” ไป่เฉิงส่ายหัว

เฉินหลงเห็นว่าไป่เฉิงไม่ได้โกหก หลังจากที่ไตร่ตรองได้สักพัก เขาก็พูดขึ้นมาว่า

“ตอนนี้ข้ามีบางอย่างที่ต้องทำ ถ้าจัดการเรื่องเสร็จแล้ว ข้าจะไปที่วิหารเอง”

“ข้าไม่สามารถตัดสินเรื่องนี้แทนท่านอาวุโสได้ ข้าต้องบอกเรื่องนี้กับเขาด้วย” พูดจบ ไป่เฉิงก็หยิบเอาหินสื่อสารออกมาแล้วติอต่อไปยังวิหารศักดิ์สิทธิ์

ในไม่ช้าไป่เฉิงก็ได้รับคำตอบจากวิหารศักดิ์สิทธิ์

“ท่านเทพ นี่คือหินสื่อสาร เมื่อท่านเสร็จธุระของท่านแล้ว ท่านสามารถส่งข้อความผ่านหินนี่ไปยังวิหารศักดิ์ได้ แล้ววิหารจะส่งคนมารับท่าน” ไป่เฉิงยื่นหินสื่อสารให้กับเฉินหลงและได้บอกวิธีใช้งานมัน

เมื่อครู่ ไป่เฉิงได้รับข้อความจากวิหารศักดิ์สิทธิ์ ทางวิหารศักดิ์สิทธิ์ได้บอกถึงตัวตนของเฉินหลงว่าเขาเป็นท่านเทพและได้ขอให้เพวกขายุติภาระกิจการอารักขาในครั้งนี้ จากนั้นทางวิหารศักดิ์สิทธิ์ได้ขอให้นำหินสื่อสารให้กับเฉินหลง จากนั้นก็บอกให้พวกเขาทั้งสองคนกลับมายังวิหาร

“ตกลง เข้าใจละ” เฉินหลงพยักหน้าและรับเอาหินสื่อสารมา

“งั้น พวกเรากลับก่อนนะ” พูดจบ ไป่เฉิงก็บอกให้เฮยเทียนมอบของขวัญชิ้นใหญ่กับเฉินหลงจากนั้นค่อยจากไป

เมื่อเห็นว่าชายทั้งสองจากไปแล้ว เฉินหลงก็กลับไปที่ถ้ำของหมีอีกครั้งเพื่อที่จะไปขุดทองมิติในถ้ำต่อ

สามวันผ่านไป ในที่สุดเฉินหลงก็ออกมาจากถ้ำและทองมิติก็ถูกเฉินหลงขุดออกมาจนหมด

หลังจากที่ออกมาจากถ้ำแล้ว เฉินหลงก็ออกจากเขาแสนลูก และได้เหาะไปยังภูเขาอีกลูก ที่นั้นมีชายคนหนึ่งที่เฉินหลงต้องการที่จะกำจัดออกไปโดยเร็วอยู่ เขาคือ

ไป่เตียซวน

ตอนที่ไป่เตียซวนถูกร้ายเฉินหลงทำร้ายจนบาดเจ็บ เฉินหลงได้นำยุงติดตามติดไปที่ร่างของไป่เตียซวนด้วย ดังนั้น ไม่ว่าเขาจะหนีไปจนถึงขอบโลก เขาก็ไม่มีทางหนีหลุดไปจากเงื้อมมือของเฉินหลงได้

หลังจากที่ผ่านไปสองวัน เฉินหลงก็ได้มาถึงหุบเขาที่ไป่เตียซวนอยู่

มีสัตว์แปลกประหลาดอาศัยอยู่ในหุบเขานี้ซึ่งส่วนใหญ่แล้วล้วนเป็นจำพวกงู ซึ่งงูพวกนี้ได้ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำและรวมถึงตัวของไป่เตียซวนด้วย

ตอนนี้อาการบาดเจ็บของไป่เตียซวนนั้นดีขึ้นมากแล้ว แต่เขาก็คิดได้ว่าตอนนี้ตนตกเป็นเป้าของวิหารศักดิ์สิทธิ์แล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาและไม่กล้าแสดงตัว

เมื่อเฉินหลงได้มาถึงหุบเขาที่ไป่เตียซวนซ่อนตัวอยู่ เขาได้เคาะไปที่ก้อนหินยักษ์อย่างแรง หินยักษ์ก้อนนั้นมีช่องที่ถูกปิดอยู่และไม่สามารถมองเข้าไปข้างในได้ เฉินหลงจึงพูดขึ้นว่า

“ไม่ต้องซ่อนอีกต่อไปแล้ว ข้าเจอเจ้าแล้ว” ไป่เตียซวนที่ตอนนี้อยู่ในถ้ำ เมื่อเขาได้ยินเสียงของเฉินหลง ร่างกายของเขาก็ถึงกับอ่อนแรงลงและสีหน้าก็แสดงออกทั้งหวาดกลัวทั้งตกใจ

“เป็นไปได้ยัง? ข้าซ่อนอยู่ที่นี่ เขาจะหาข้าเจอได้ยังไง?”

“ไม่ต้องหลบอยู่ข้างในแล้ว ข้ารู้ว่าแกอยู่ในนั้น ข้ามาคนเดียว” เฉินหลงพูดต่อ

ตอนนี้ ไป่เตียซวนมั่นใจแล้วว่าเฉินหลงรู้แล้วว่าเขาหลบอยู่ข้างใน ไม่ว่าเขาจะพูดจริงหรือหลอก เขาก็ต้องออกไปเผชิญหน้ากับเฉินหลงแล้ว

จากนั้น ไป่เตียซวนก็ไม่ซ่อนตัวอีกต่อไปแล้ว เขาวิ่งออกมจากถ้ำและมาอยู่ตรงหน้าเฉินหลง

“เจ้านี่มีความสามารถมาก ที่หาข้าเจอ แล้วยังกล้ามาหาข้าคนเดียวอีก” ไป่เตียซวนใช้เวลาถึงสี่สัปดาห์ในการซ่อนตัวและก็ไม่มีคนจากวิหารหาตัวเขาพบเลยสักคน เขามองไปที่เฉินหลงอย่างประหลาดใจ

“ข้าจะไม่ปล่อยให้คนอื่นมายุ่งเรื่องข้องใจระหว่างเรา” เฉินหลงมองไปที่ไปเตียซวนอย่างเยือกเย็น

“ใช่หรอ? ถ้าแกอยากจะตายนัก งั้นแกก็ตายซะ” ไป่เตียซวนพูดจบ เขาก็ซัดหมัดไปที่หัวของเฉินหลง

“ไอ้เวรเอ้ย!” เฉินหลงยกแขนขึ้นบัดหมัดของไป่เตียซวน

“แก…”

เมื่อเห็นว่าเฉินหลงไม่ได้รับผลกระทบจากหมัดพลังธรรมชาติ ไป่เตียซวนจึงรีบชักหมัดกลับอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ถอยออกมาเพื่อเปิดช่องว่างระหว่างเฉินหลง เขามองเฉินหลงอย่างประหลาดใจ