ตอนนั้นเมแกนถึงจะเข้าใจ ว่าตัวเองถูกผู้คุมขวางไว้ ไม่ให้ขวางทางแมวสูงศักดิ์สองตัวนี้ แล้วปล่อยให้พวกมันเดินไปก่อน
แม้เมแกนจะไม่ได้เลี้ยงแมว แต่เธอก็ชอบแมวมากเหมือนกัน ผู้หญิงคนไหนไม่ชอบแมวบ้าง? แต่เรื่องที่คนต้องหลีกทางให้แมวเนี่ย เธอไม่เคยได้ยินและรับไม่ค่อยได้
ไม่เพียงเท่านั้น แมวสองตัวนี้เหมือนจะเมินใส่เธอด้วย
ตั้งแต่เล็กจนโต เมแกนมีนิสัยร่าเริงและเป็นที่รักของทุกคน จึงมีเพื่อนเยอะมาก ไม่เคยมีใครเมินใส่เธอตั้งแต่เพิ่งเจอกันครั้งแรก
เธอได้แต่กะพริบตามองแมวสองตัวนี้เดินนวยนาดอยู่ตรงหน้าเธอ ฉับพลันนั้นก็รู้สึกอัปยศ ถึงเธอถูกทารุณก็ยังไม่เคยรู้สึกเสียศักดิ์ศรีขนาดนี้เลย เธออยากเดินชนมัน แต่ไม่นานก็ได้สติ นึกถึงความจริงที่ว่าตัวเองเป็นนักโทษ และผู้คุมก็เหมือนจะมีท่าทางเคารพนบนอบมันด้วย ถ้าเธอก่อเรื่องขึ้น ก็คงถูกต่อยหนักๆ สักยก
พอแมวสองตัวนี้หายไปจากปลายทางเดิน เธอถึงจะยกถังปัสสาวะเข้าไปในห้องน้ำ
ผู้คุมตรงหน้าประตูเริ่มจับเวลา เธอมีเวลาแค่สิบนาทีในการขัดถังปัสสาวะและเข้าห้องน้ำ ถ้าเลยเวลา ผู้คุมก็จะพุ่งเข้ามาลากเธอออกจากห้องน้ำ
ห้องที่เมแกนถูกขังไว้ไม่มีหน้าต่าง เหมือนห้องปิดตายที่เตรียมไว้ให้อาชญากรชั่วร้าย แต่ในห้องน้ำตรงทางเดินมีหน้าต่าง แม้จะใช้รั้วเหล็กเสริมความแข็งแรงแล้ว ก็ไม่มีทางหนีออกจากหน้าต่างได้ แต่อย่างน้อยก็ได้มองป่านอกหน้าต่าง
เธอท้องร้องหิวไส้กิ่ว ไม่รู้สึกอยากถ่ายหนักเลย หลังจากขัดถังปัสสาวะเสร็จแล้ว เธอก็เกาะข้างหน้าต่างแล้วสูดอากาศสดชื่นเข้าเต็มปวด ชื่นชมทิวทัศน์ด้านนอก จินตนาการถึงวันที่ตัวเองเดินออกจากนรกแห่งน้ำ
ทิวทัศน์ของที่นี่ก็ธรรมมดาทั่วไป และยังมีผู้คนที่ทำงานอยู่ในทุ่งนาเหมือนหุ่นไล่กาพวกนั้น ที่จริงก็ไม่มีอะไรน่าดู แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าคุกของเธอ
เธอเห็นแมวสองตัวนั้นผ่านมาอีก หลังจากพวกมันเดินออกจากห้อง ก็มีแมววิ่งออกมาจากป่าหลายตัว วิ่งมาหยุดอยู่หน้าพวกมันอย่างเคารพนบนอบ ก่อนจะหมอบลงทำความเคารพ
พอเห็นฉากนี้ เธอก็คิดว่าตัวเองตาพร่าไปแล้ว แมวพวกนั้นพากันหมอบเคารพแมวสองตัวนี้เหรอ หรือว่าพวกมันถูกฝึกมา?
ตอนเธอนั่งดูคลิปแมวเวลาว่าง ก็เหมือนจะเคยเห็นคลิปวิดีโอสองสามคลิป คล้ายกับมีบ้านแมวแห่งหนึ่งขายแมวที่ถูกฝึกแล้ว แมวพวกนั้นจะเต้นประกอบเพลง เห็นแล้วจั๊กจี้หัวใจมาก ถ้าไม่ใช่เพราะราคาแพงจนเกิดเหตุ ก็เป็นของพรีเมียมมาก คงเกินกว่าที่เธอจะรับได้ เธอก็อยากซื้อสักตัวเหมือนกัน ว่ากันว่าอเมริกามีบ้านแมวที่ขายแมวเต้นได้แบบนี้อยู่แห่งเดียว แน่นอนว่าเป็นของหายาก แถมเจ้าของร้านยังปิดวิธีการฝึกสอนไว้เป็นความลับอีก ถึงอย่างไรก็เป็นตัวทำเงินนี่นะ
จากนั้นเธอก็เห็นภาพน่าประหลาดใจอีก มีแมวสองสามตัวเดินกะเผลกออกมาจากป่า บนตัวของแมวที่เพิ่งออกมาใหม่นี้เปื้อนเลือดมากน้อยต่างกันไป ด้วยเธอตาดีจึงเห็นรางๆ ว่าบาดแผลบนตัวของพวกมันเหมือนถูกสัตว์ป่ากัด ถ้าคนได้รับบาดแผลรุนแรงแบบนี้ ถึงตายคาที่ก็ไม่แปลก
แมวประหลาดสองตัวนั้นก็ประหลาดใจมาก แมวตัวที่ตำแหน่งต่ำกว่าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ คำรามเสียงแหลมราวกับอยู่ในช่วงติดสัด ไม่ได้ร้องเหมียวๆ เหมือนแมวทั่วไป ส่วนแมวตัวที่ตำแหน่งค่อนข้างสูงกลับเงยหน้ามองท้องฟ้าคล้ายกับครุ่นคิดบางอย่าง
ภาพนี้แปลกจนอธิบายไม่ได้ เมแกนยังไม่ทันทำความเข้าใจก็ถึงเวลาที่กำหนดแล้ว ผู้คุมถีบเปิดประตูเข้ามา กระชากผมของเธอ แล้วลากกลับเข้าไปในคุก
สองสามวันหลังจากนั้น เธอเห็นแมวสองตัวนั้นมากกว่าหนึ่งครั้ง ทุกครั้งเธอจะรู้สึกประหลาดมาก ไม่เพียงแค่เธอ ทุกคนต่างก็หวาดกลัวแมวที่บาดเจ็บสาหัสสากรรจ์แต่ไม่ตาย จึงพากันอ้อมไปไกล
ด้วยเมแกนเป็นเพียงนักโทษคนหนึ่ง เธอจึงมองเห็นได้เพียงจำกัด แต่เมื่อวานนี้เธอได้ยินพวกผู้คุมพูดกันบนทางเดิน ว่าจะมีผู้ใหญ่มาที่นี่ ต้องให้ชาวบ้านหยุดทำงาน แล้วไปเรียงแถวต้อนรับพวกเขา หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ได้ยินเสียงใบพัดเฮลิคอปเตอร์ แต่จะเป็นใครมากันแน่นั้น เธอไม่รู้เลย
เมแกนเล่าเรื่องทุกอย่างที่เธอจำได้ให้เขาฟังอย่างละเอียด ส่วนจะมีประโยชน์หรือเปล่า ก็ให้จางจื่ออันตัดสินใจเอง สมองของเธอไม่อยากไปคิดถึงมันอีกแล้ว เรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันมานี้ไม่ต่างอะไรกับฝันร้ายเลย
พอพูดจบ เธอก็ท้องร้องโครกคราก
“หิวแล้วสินะ? ผมจะไปเตรียมข้าวเย็นให้นะครับ”
จางจื่ออันไม่มีเรื่องต้องถามมากกว่านี้แล้ว ถึงถามก็คงไม่ได้รับคำตอบที่แน่นอน จึงลุกขึ้นเตรียมออกจากห้องนอน และแง้มประตูห้องนอนเอาไว้ ให้เธอพักผ่อนก่อนสักหน่อย
ที่จริงตอนนี้ก็เพิ่งจะเป็นเวลาบ่าย แต่วันนี้ยังไม่ได้กินข้าวกลางวัน ก็รวบกับข้าวเย็นเลยแล้วกัน
ฝูงหมาป่าเหมือนจะชอบกินบีเวอร์อุดมไปด้วยไขมันแต่เนื้อน้อย บีเวอร์แถวนี้เองก็ไม่เคยเจอหมาป่า ไม่รู้ว่าสัตว์ชนิดนี้มีอันตรายมากเท่าไร ไม่นานก็ถูกหมาป่าบุกรังอย่างงุนงง
จางจื่ออันดึงเก้าอี้มานั่งข้างๆ บ่อน้ำ ใช้น้ำในบ่อล้างวัตถุดิบทำอาหาร พร้อมทั้งวางแผนการไปด้วย
ก่อนที่เรี่ยวแรงจะฟื้นกลับมา เมแกนยังเคลื่อนไหวไม่ได้ ทำได้เพียงพักฟื้นอยู่ในหมู่บ้าน ถึงอย่างไรที่นี่ก็ค่อนข้างปลอดภัย ไม่ออกจากบ้านเรื่อยเปื่อยก็พอแล้ว หลังคาบ้านหลังนี้แข็งแรงมาก ประตูบ้านก็เป็นแผ่นไม้หนา หน้าต่างก็อยู่ค่อนข้างสูง ถึงหมีดำมาก็เข้าไปได้ยาก
แทนที่จะรีบกลับเข้าป่าทางเดิมพร้อมเสี่ยงกับเสบียงหมดเกลี้ยง สู้รอให้แม่ของเมแกนเริ่มปฏิบัติการค้าหาช่วยชีวิตอีกครั้ง หรือไม่ก็เสียวเสวี่ยแจ้งตำรวจดีกว่า อย่างไรเขาก็เป็นคนจีน อาจจะสร้างความกดดันให้สถานกงสุลประเทศจีนในท้องถิ่นเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ พูดอีกอย่างก็คือรอคนมาช่วย
ส่วนจะรับมือกับหลี่ผีเท่ออย่างไร…ตามที่ฟราเทอร์ว่าไว้ ป่ารอบๆ ทุ่งนามีแมวรับหน้าที่เฝ้าระวังอยู่มากมาย และเรื่องนี้ก็ได้รับการยืนยันจากเมแกนแล้ว ถ้าสะเพร่าบุกรุกเข้าไป ก็จะลอบปฏิบัติการได้ยาก การซ่อนตัวเป็นข้อได้เปรียบมากที่สุดของเขาในตอนนี้ ความรู้สึกที่ว่า ‘ฉันอยู่ในที่ลับ ศัตรูอยู่ในที่แจ้ง’ มันดีมากจริงๆ
ถ้าฟีน่าสั่งให้แมวพวกนั้นยอมแพ้ก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลเท่าไร เขาไม่มั่นใจ แม้แต่ฟีน่าเองก็ไม่มั่นใจ ถ้าไม่ได้ผล ก็เท่ากับเปิดเผยตัวเอง
อีกอย่าง ผู้คุมพวกนั้นจะทำอย่างไร? ตกกลางคืนพวกเขาต้องลาดตระเวน และจางจื่ออันก็ไม่ใช่ 007
พอคิดดูแล้ว ทำได้แค่ใช้แผนส่งเสียงตะวันออก โจมตีตะวันตก* หลอกล่อให้เสือออกจากถ้ำเท่านั้น
พอลอกหนังบีเวอร์เสร็จ เขาก็ใช้เกลือกับผักผลไม้ป่ากลบกลิ่นคาว แล้วโยนเครื่องในให้ฝูงหมาป่ากิน เขาบอกให้พวกภูตสัตว์เลี้ยงพักผ่อนอยู่ในหมู่บ้าน ส่วนเขาจะไปเก็บฟืนเอง
เขาเดินมาถึงชายทะเล ไกลออกไปก็เห็นเซฮวากำลังเล่นสนุกกับฝูงวาฬในทะเล จึงตะโกนเรียกเธอหลายครั้ง เพื่อให้เธอกลับเข้าชายฝั่ง
เซฮวาไม่ได้เล่นหนำใจมานานมากแล้ว วาฬเพชฌฆาตร่าเริงกว่าลูกวาฬมิงก์และวาฬสีเทา ถึงอย่างไรพวกมันก็เป็นโลมาขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง และความฉลาดของโลมาก็สูงจนเป็นที่รู้กันไปทั่ว
ที่เธอเสียดายเพียงอย่างเดียวคือเมื่อครู่ลืมขอโทรศัพท์มือถือของเธอมาจากจางจื่ออัน ไม่อย่างนั้นถ้าถ่ายวิดีโอกับเจทูและพวกวาฬเพชฌฆาตไว้สักหน่อย จะต้องทำให้พวกแฟนคลับไส้แห้งอิจฉาจนร้องให้แน่ๆ!
*ส่งเสียงตะวันออก โจมตีตะวันตก หมายถึง แสร้งหลอกล่ออยู่ด้านหนึ่ง แต่ความจริงแล้วจู่โจมเข้าไปจากอีกทางหนึ่ง