บทที่ 663 หลี่กั๋วเหว่ยเฒ่าสารพัดพิษ

Mars เจ้าสงครามครองโลก

Mars เจ้าสงครามครองโลก บทที่ 663 หลี่กั๋วเหว่ยเฒ่าสารพัดพิษ
“หลี่กั๋วหรงไปแล้วหรอ?”

ใบหน้าของหลี่กั๋วเหว่ยแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มของผู้ชนะ กำจัดหลี่กั๋วหรงออกไป ถึงจะประสบความสำเร็จในการยึดอำนาจอย่างสมบูรณ์

ไม่เช่นนั้น ถึงหลี่กั๋วหรงจะเกษียณ แต่เขาก็ยังคงมีอิทธิพลต่อตระกูลหลี่อยู่ดี

หลี่หัวชิงผู้ซึ่งเป็นลูกชายกล่าวอย่างได้ใจ“ผมเห็นว่าเขาออกไปกับหลี่หลาน พ่อครับ จากนี้ไปตระกูลหลี่ก็จะกลายเป็นของบ้านรองของเราแล้ว”

หลี่กั๋วเหว่ยกล่าวอย่างไม่พอใจว่า“ฉันบอกแกกี่ครั้งแล้ว ต้องสงวนตัว ถ่อมเนื้อถ่อมตัว อย่าดีใจจนลืมตัว”

หลี่หัวชิงรีบเก็บรอยยิ้ม แล้วกล่าวว่า“ผมจะจำไว้ครับ”

หลี่กั๋วเหว่ยจึงกล่าวอย่างพึงพอใจว่า“หลี่กั๋วเฉียงไอ้โง่นั่นน่ะ แทบจะอดใจไม่ไหวจะติดต่อกับตระกูลซ่ง แย่งกันใช้ปืนยิงนกที่ยื่นหัวออกมา เขาไม่ซวยแล้วใครจะซวย เย่เซิ่งเทียนกล้าลงมือกับซ่งหยวนลี่ หรือว่าเขาจะกล้าลงมือกับหลี่กั๋วเฉียงเช่นกัน?”

“พ่อครับ ที่คุณพ่อคาดการณ์ไว้ ในตอนแรกบ้านสามใช้จังหวะที่คุณท่านไม่อยู่ พาหลี่หลานออกไป สุดท้ายผ่านไปไม่นานหลี่หลานก็ปรากฏตัวขึ้นในตระกูลหลี่ ผมสงสัยว่าตระกูลซ่งจะส่งคนมาสนับสนุน แล้วฆ่าตายทั้งหมด”

หลี่หัวชิงมองไปที่พ่ออย่างเลื่อมใส ถ้าไม่เป็นเพราะคุณพ่อเป็นเฒ่าสารพันพิษ เขาก็ไม่ได้ที่จะลงมือเหมือนกัน

“ไม่ว่าเรื่องอะไรใช้สมองคิดหน่อย เย่เซิ่งเทียนเจอเรื่องอะไรมาตั้งเท่าไรในเมืองเฉียนถัง แต่เขาก็ยังมีชีวิตอยู่ บริษัทหัวหยวนยิ่งทำยิ่งเจริญก้าวหน้า ในนี้จะต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นอน?”

“จากจุดนี้ แล้วนึกย้อนหลังไปที่ขณะที่เย่เซิ่งเทียนปลดประจำการออกมา เขามีความเกี่ยวข้องในกองทัพอย่างแน่นอน การตายของซ่งหยวนลี่จะต้องเกี่ยวข้องกับกองการที่เขาใช้กองทัพ”

“ตามการคาดเดานี้บ้านสามจะสำเร็จได้อย่างไร?เย่เซิ่งเทียนไม่ใช่คนโง่ หรือเขาจะเดาไม่ได้ว่าบ้านสามจะลงมือ?มันก็เป็นแค่เรื่องที่อยู่ในการคาดหมายเท่านั้นแหละ”

หลี่กั๋วเหว่ยพูดอย่างเย้ยหยัน ทุกอย่างอยู่ในการคาดการณ์ของเขา

“คุณพ่อครับ ถ้าอย่างงั้นต่อไปพวกเราจะทำยังไงต่อไปครับ?จะร่วมมือกับตระกูลซ่งต่อไปไหมครับ?”

หลี่หัวชิงเอ่ยถาม

หลี่กั๋วเหว่ยพูดอย่างเอื่อยเฉื่อย“ไม่ต้องรีบร้อนหรอก สิ่งที่แกต้องทำก็คือ ส่งรูปถ่ายของหวางซีให้คนที่จัดการ ซ่งหยวนลี่ ยังจำเรื่องงานเลี้ยงวันเกิดที่จ่งตูลู่กับผู้บัญชาการซามาอวยพรได้ไหม?”

หลี่หัวชิงพยักหน้าตอบ“ลูกจำได้ดีครับ แต่ว่าลูกคิดไม่ออกว่าเย่เซิ่งเทียนกับพวกเขาทั้งสองคนเกี่ยวข้องอะไรกัย ถ้าระหว่างพวกเขามีความสัมพันธ์กัน แล้วเหตุใดจ่งตูลู่กับผู้บัญชาการซาถึงไม่มีข่าวอะไรออกมาเลยครับ?หรือจะแลกเปลี่ยนข้อมูลกับตระกูลกู่?”

หลี่กั๋วเหว่ยส่ายหัวไปมา“มีความเป็นไปได้ว่าจะแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน แต่ก็มีความเป็นไปได้เหมือนกันว่าจะไม่ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกัน พอถึงระดับของพวกเขาแล้ว มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องพิจารณา สิ่งที่ฉันจะบอกแกก็คือ ในเมื่อทั้งสองคนนั้นมาอวยพรเพราะเห็นแก่หน้าของเย่เซิ่งเทียน นั่นก็หมายความว่าถ้าไม่ได้มีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับเย่เซิ่งเทียน ก็ต้องมีอิทธิพลมาก”

“สิ่งที่เราต้องทำก็คือการยืมใช้กำลังเพื่อตัดกำลัง ในเมื่อมีคนมาหาแกเพื่อให้แกสร้างสถานการณ์ งั้นเราก็ต้องยืมใช้อิทธิพลของตระกูลซ่ง กดขี่หวางซี บีบบังคับหลี่กั๋วหรง และแย่งชิงอำนาจของตระกูลหลี่ เรื่องราวในนี้ ก็เพียงพอให้แกเรียนรู้แล้ว”

“ที่ฉันบอกให้แกหยุดต่อกรกับเย่เซิ่งเทียน หนึ่งเพราะเราไม่รู้อำนาจที่แท้จริงของเย่เซี่งเทียน อีกหนึ่งประการก็คือเราได้ในสิ่งที่เราต้องการแล้ว ต้องเรียนรู้ที่จะหยุดความโลภ อย่างบ้านสามน่ะที่ไม่รู้จักพอ ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องเกิดเรื่อง”

“ที่เราต้องการคือควบคุมอำนาจของตระกูลหลี่ ไม่ใช่การทำให้ตระกูลหลี่พ่ายแพ้ ดังนั้นฉันถึงให้แกจัดการคนผู้นั้นไง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต แกจะต้องจำไว้ว่า สุดท้ายแล้วตระกูลหลี่ยังไงก็คือของคนตระกูลหลี่ ตระกูลซ่งยังไงก็เป็นคู่ต่อสู้ของตระกูลหลี่อยู่วันยังค่ำ!”

หลี่หัวชิงตัวแข็งทื่อ เขารีบกล่าวว่า“ลูกจะจำไว้ครับ จะไปจัดการเดี๋ยวนี้แหละครับ”

หลี่กั๋วเหว่ยยังคงไม่วางใจ“นอกจากคนผู้นั้นและ ยังมีคนอื่นรู้ไหม?”

หลี่หัวชิงส่ายหน้าไปมา“ไม่มีคนอื่นแล้วครับ อีกทั้งคนผู้นั้นยังอยู่ในการควบคุมของผมอยู่ตลอด ส่งรูปถ่ายเสร็จก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับใครอีก”

หลี่กั๋วเหว่ยพยักหน้า“ไปเถอะ จัดการให้เรียบร้อยหน่อย ขอแค่ทำอะไรก็ตาม ก็ต้องเหลือร่องรอยไว้อยู่แล้ว และวิธีการกำจัดร่องรอยเหล่านี้ที่ดีที่สุดก็คือ การทำให้มันสมเหตุสมผล”

“ลูกจะจำไว้ครับ”

หลี่หัวชิงสูดหายใจเข้าลึกๆ พ่อบอกว่าความสามารถของเขาอยู่ในระดับปานกลาง เรื่องนี้เขาไม่พอใจมาโดยตลอด หลังจากผ่านอะไรมาในช่วงนี้ เขาได้เห็นพ่อใช้วิธีหลากหลายในการยืมใช้กำลังเพื่อตัดกำลัง เขาถึงได้มองเห็นตัวเองชัดเจนมากยิ่งขึ้น ความหยิ่งผยองที่อยู่ในใจก็มลายหายไปจนสิ้น

หลี่กั๋วเหว่ยพูดอย่างเห็นด้วยว่า“ถึงความสามารถของแกจะอยู่ในระดับปานกลาง แต่สิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คือการรู้จักแก้ไขเมื่อรู้ว่าผิด จุดนี้ของแกดีที่สุด และต้องจำไว้ว่า การดีใจจนลืมตัว เป็นสิ่งที่โง่ที่สุด!!”