ตอนที่ 78

Kill the Hero

Kill the Hero 078

– ไอแซค อิวานอฟ ได้รับรางวัลตอบแทนการเสียสละของเขา

– นั่นคือสมาคมเมสสิอาห์ที่ยิ่งใหญ่ ยินดีที่จะตอบแทนผู้ที่เสียสละ เพื่อประโยชน์ของโลก

 

ลีจินอาที่กำลังดูข่าวในสมาร์ทโฟน อดไม่ได้ที่จะอุทานด้วยความชื่นชม

“มันน่าทึ่งจริง ๆ พวกนั้นคิดได้ยังไงถึงออกมาเป็นแบบนี้?”

โอเซชานที่กำลังดูเอกสารอยู่พยักหน้ารับ

“เยี่ยมมาก”

“ใช่ไหม? นายไม่ได้คิดว่าจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้วเหรอ?”

“แน่นอน ต่อให้ฝันอยู่ การบริจาคก็ไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะทำ แค่ได้ยินคำนี้ ฉันก็ขนลุกแล้ว”

ลีจินอาหัวเราะเยาะ

“แต่นายคิดว่าสมาคมเมสสิอาห์จะให้อะไร? ไอเทม? หรือเงิน? นายว่าพวกเขาจะให้เท่าไร?”

“ทักษะอัญเชิญโกเลม”

“หือ? “

“มีการคุยไว้กันแล้วก่อนที่พวกนั้นจะแถลงข่าว พวกเขาจะขอบคุณเราที่ช่วยพวกเขาเอาไว้ และจะตอบแทนเราด้วยทักษะอัญเชิญโกเลม มันก็ได้อยู่”

รางวัลนี้ได้มีการพูดคุยกับสมาคมเมสสิอาห์ ก่อนที่พวกเขาจะแถลงผ่านสื่อแล้ว ดังนั้นจึงไม่มีอะไรให้สงสัย

แต่ลีจินอาก็ยังมีคำถาม

“แล้วฉันล่ะ?”

“อะไร? “

“ไม่นะ ฉันไปกับเขา แต่ไม่ได้อะไรเลย? อย่างน้อยฉันก็ควรจะได้อะไรบ้างสิ!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น โอเซชานก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ และยื่นของบางอย่างให้ลีจินอา

“งั้น นี่ของนาย”

“ช็อกโกแลต? “

“ถูกต้องช็อกโกแลต นายไม่ชอบช็อกโกแลตเหรอ? อันนั้นแพงมากนะ แต่ฉันจงใจไม่กินหรือซ่อนไว้จากนาย”

ลีจินอามองโอเซชานด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว แน่นอนเขารับช็อกโกแลตมาอยู่แล้ว เขารู้จักโอเซชานดีพอที่จะไม่หวังผลตอบแทนมากมาย

“นี่นายหาอะไรอยู่นานแล้วเนี่ย?”

“ฉันมีคำขอซื้อดันเจี้ยน ดังนั้นฉันจะหาที่มันมีราคาแพง ๆ สักหน่อย”

“ถ้าเป็นแค่คำขอซื้อ นายก็ให้คนอื่นทำก็ได้นี่นา?”

“คราวนี้เป็นลูกค้าคนสำคัญ”

“ใคร? “

“ปาร์คยองวาน”

ลีจินอาเงยหน้าขึ้น เมื่อได้ยินชื่อนั้น

“ปาร์คยองวานเหรอ? ”

แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะเขาไม่รู้ว่าปาร์คยองวานเป็นใคร

“คนที่ควบคุมสมาคมฟีนิกซ์อยู่แล้วมาหานายหน้าดันเจี้ยนเนี่ยนะ? ”

เขากำลังสงสัยว่าชายที่กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุดในเกาหลี ต้องการความช่วยเหลือในการหาดันเจี้ยนจริงเหรอ?

“เขากำลังจะซื้อมันให้กับมือขวาที่รักของเขา ความรักที่มีต่อคนของเขาช่างแข็งแกร่งจริง ๆ น่าชื่นชมมาก”

“มือขวา? ใครละนั่น? “

“นายก็รู้จักเขาเหมือนกัน”

“ไม่มีทาง คิมวูจินงั้นเหรอ?”

โอเซชานยิ้มตอบ

ลีจินอาหัวเราะเยาะ

“นายร่วมมือกันปล้นเงินจากกระเป๋าของปาร์คยองวานงั้นเหรอ? หา? นั่นไม่ใช่การหลอกลวงใช่ไหม?”

“โกงเหรอ? แบบนี้เรียกทำยอด! ซื้อขาย! ฉันต้องสอนอะไรนายถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?”

“ได้ ฉันไม่อยากยุ่งกับเรื่องพวกนี้หรอก”

ลีจินอาเอื้อมมือคว้าเอกสารชุดหนึ่งจากโอเซชานไป

“อันนี้ก็น่าจะดีนะ”

 

[240 ชั่วโมง]

– จำนวนชั้น : 2

– ความยาก : B

– เข้าได้สูงสุด : 25

– ข้อกำหนด : Lv40 หรือต่ำกว่า

– เงื่อนไข : เอาชีวิตรอดเป็นเวลา 10 วัน ในชั้นที่ 2 ของดันเจี้ยน

– รางวัล : หินเอาชีวิตรอด (C)

 

“ภารกิจการเอาชีวิตรอด? ”

“นายว่ายังไง? “

“มันเป็นระดับ B จำนวน 25 คน และต้องเอาชีวิตรอดเป็นเวลา 10 วัน…มันเป็นดันเจี้ยนที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเสี่ยงชีวิตกับเพิ่มเลเวล และเพราะภารกิจเอาชีวิตรอดแบบนี้มันยาก ดังนั้นราคาจึงค่อนข้างสูง เป็นตัวเลือกที่ดีจริง ๆ ด้วย”

หลังจากนั้นลีจินอาก็พยักหน้า และยื่นเอกสารให้โอเซชาน แต่โอเซชานดึงมันกลับ เหมือนกับเขากำลังจะรับมัน

“หือ? “

“หือ? “

ลีจินอาเอียงหัว จากนั้นโอเซชานก็เอียงหัวเช่นกัน

พวกเขามองหน้ากันเหมือนไม่รู้จะพูดอะไร

“นายทำอะไรอยู่? ส่งมาให้ฉันสิ”

“อ่า? “

“นายจะไปเลื่อนระดับไม่ใช่เหรอ?”

ปฏิกิริยาตอบสนองของลีจินอา เขาทำสีหน้าราวกับว่าวิญญาณออกจากร่างไปแล้ว

 

เป็นความรู้ทั่วไป การที่ผู้เล่นจะเพิ่มเลเวลอย่างรวดเร็ว ผู้เล่นจำเป็นต้องล่า และฆ่ามอนสเตอร์จำนวนมาก และเป็นความรู้ทั่วไปอีกว่าดันเจี้ยนที่มีภารกิจเอาชีวิตรอด จะมีมอนสเตอร์มากกว่าดันเจี้ยนอื่น ๆ ที่มีภารกิจพิเศษ

แต่เมื่อพวกเขาตั้งใจจะเพิ่มเลเวล ไม่ว่าจะคำนึงถึงความรู้ทั่วไปหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่มีผู้เล่นคนไหนมุ่งหน้าไปยังดันเจี้ยนด้วยภารกิจเอาชีวิตรอด

ดังนั้นลีจินอาจึงค่อนข้างกังวลตอนที่พวกเขาเข้ามาในชั้นแรกของดันเจี้ยน และเกือบจะไปถึงชั้นที่สองในทันที

“นี่มันไร้สาระมาก”

แต่ตรงกันข้ามกับความคาดหวังของเขา วันแรกค่อนข้างผ่อนคลาย

คิมวูจินใช้วันแรกบนชั้นที่สอง เพื่อเตรียมตัวล่าแทนที่จะเริ่มล่าทันที

สำรวจภูมิประเทศ วางกับดัก สร้างด่านต่อสู้ ทำความเข้าใจประเภทของมอนสเตอร์

และเมื่อการล่าเริ่มขึ้นในวันที่สอง ฝีเท้าของคิมวูจินก็แตกต่างไปจากปกติ ลีจินอาพูดมากกว่าปกติสามเท่า และรู้สึกผ่อนคลายกว่าปกติมาก

มันดำเนินไปแบบนี้จนถึงวันที่ 7 พวกเขามีเวลาว่างมากพอจะพักดื่มชาหลังอาหารจนถึงวันที่ 7

“เป็นไปได้ยัง?”

ดังนั้นลีจินอาจึงประหลาดใจ

“ฉันเพิ่มเลเวลเร็วขนาดนี้ได้ยังไง ในเมื่อเรากำลังล่าแบบปกติ?”

ความเร็วในการเพิ่มเลเวลเร็วขึ้นกว่าที่เคย แม้ว่าพวกเขาจะล่าแบบสบาย ๆ

“นายใช้อาวุธนิวเคลียร์รึเปล่า?”

ลีจินอามีเหตุผลดีพอที่จะประหลาดใจ

นี่คือสไตล์ของคิมวูจินในฐานะหมาล่าเนื้อ รูปแบบการล่าของเขาไม่มีอะไรพิเศษหรือน่าจดจำ เขาใช้เงื่อนไขที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้ได้การล่าธรรมดา

เวลาถูกกำหนด ไม่มีกองกำลังอื่นที่ต้องระวัง และทั้งคู่ก็มีความสามารถ ดังนั้นพวกเขาจึงเลเวล 40 ได้อย่างง่ายดาย

เลเวล 40 จากมุมมองของคิมวูจินเป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ เพื่อเปิดของขวัญที่เขาจะได้รับ ดังนั้นเพื่อเป้าหมายนี้ เขาจึงก้าวต่อไปเรื่อย ๆ

 

[เลเวลเพิ่มขึ้น]

[สำเร็จเลเวล 40 ช่องเก็บของเพิ่มขึ้น 8 ช่อง]

[ทูตแห่งนรก ชื่นชมการเติบโตของคุณ ช่องเก็บของเพิ่มขึ้น 8 ช่อง]

[ทูตแห่งนรก มอบแค็ตตาล็อกเป็นรางวัลการเติบโตของคุณ]

 

ในที่สุด เขาก็บรรลุเป้าหมาย

‘ในที่สุดฉันก็เปิดของขวัญได้แล้ว’

ทันทีที่เขาเลเวล 40 คิมวูจินก็เริ่มเปิดของรางวัลทีละชิ้น

 

[คิมวูจิน]

– เลเวล : 40

– รัศมี : ทูตแห่งนรก

– สถิติ: สุขภาพ (122 + 202) / ความแข็งแกร่ง (2 + 85) / พลังเวท (3 + 118)

– ความสำเร็จ : 26

– คะแนนพิเศษ : 3

 

หลังจากนั้นเขาก็ฉีกหน้าทักษะทั้งสองที่รับจากการผจญภัยครั้งก่อน

 

[เรียนรู้ทักษะอัญเชิญโกเลม]

[เรียนรู้ทักษะหมอกเลือด]

 

‘เหลืออีกอย่าง…’

สิ่งที่เหลืออยู่คือเปิดแค็ตตาล็อกที่รัศมีส่งมาให้เป็นรางวัล

“เกิดอะไรขึ้น? นายเลเวลอัพเหรอ?”

ตอนนั้นเอง ลีจินอาเดินมาหาคิมวูจิน

“ถ้าอย่างนั้นนายก็น่าจะบอกฉันนะ เราคือทีม! ตอนนี้เราควรแสดงความยินดีกับนายที่ได้เพิ่มเลเวลแล้ว เอาน่าเจ้าโครงกระดูก! เจ้านายของนายเลเวลอัพแล้ว ดังนั้นมาปรบมือให้เขาสักรอบ! นายอยากได้เค้กฉลองไหม? ฮะ? มาใช้โอกาสนี้ทำทุกสิ่งที่เราพลาดไปกัน”

คิมวูจินมองลีจินอาด้วยสีหน้าเย็นชา

“อา ต้องจุดเทียนด้วย! เราไม่มีเค้ก แต่เราหาเทียนได้ รอเดี๋ยวนะ ฉันจะไปหากิ่งไม้สักสองสามกิ่งแล้วจุดไฟให้ ฮ่าฮ่าฮ่า!”

ราวกับไม่เห็นการแสดงออกของคิมวูจิน ลีจินอาก็เริ่มมองไปรอบ ๆ เพื่อทำความเข้าใจกับการล่าครั้งนี้

คิมวูจินไม่สนใจลีจินอา และมุ่งความสนใจไปที่ผลประโยชน์ของเขาอีกครั้ง

“แค็ตตาล็อก”

ของขวัญชิ้นสุดท้ายที่เขาได้รับ ในที่สุดก็เปิดออกมาแล้ว จากนั้นแค็ตตาล็อกก็ปรากฏเหนือมือของคิมวูจิน

ตอนนั้นลีจินอาที่กำลังลากกิ่งไม้หยุดก็แกล้ง และตะโกนด้วยความประหลาดใจ

“ฮะ? อะไร? นายได้อะไรดี ๆ ไหม?”