ตอนที่ 79

Kill the Hero

Kill the Hero 079

[หนังสือแห่งความตาย]

– ระดับ : E

– เอฟเฟกต์ : หนังสือเล่มนี้มีพลังของโอซิริส สามารถปิดผนึกคนตายได้ ผู้วายชนม์ที่ถูกผนึกไว้ในหนังสือแห่งความตาย สามารถแสดงพลังได้มากขึ้นด้วยพลังของโอซิริส

 

หนังสือแห่งความตาย เปรียบเสมือนช่องเก็บของที่เก็บได้เฉพาะมอนสเตอร์อันเดด

‘ระดับ E ฉันใช้ได้ 10 หน้า? ’

พื้นที่ในระดับ E เก็บมอนสเตอร์อันเดดได้ 10 ตัวเท่านั้น

วิธีการใช้งานค่อนข้างง่าย เมื่อใช้ทักษะหนังสือแห่งความตาย หนังสือที่สร้างจากแผ่นคอนกรีตจะปรากฏขึ้น พร้อมกับมอนสเตอร์อันเดดที่ถูกปิดผนึกอยู่ภายในแผ่นหิน

‘ดูเหมือนว่า โยฮันน์ จอร์จ จะไม่มีสิ่งนี้…’

คิมวูจินไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับทักษะนี้ ราชาแห่งอันเดดไม่เคยเรียกหนังสือแบบนี้มาก่อน

‘ถ้าเขาทำ มันคงจะแย่มาก’

ขอบคุณพระเจ้า

ในตอนนั้น คิมวูจินฆ่าราชาแห่งอันเดดได้ เพราะเขามีข้อจำกัด เขาต้องทำตามเงื่อนไข ก่อนถึงจะเรียกโครงกระดูกได้

แต่ถ้าเขาเรียกโครงกระดูกได้โดยไม่มีเงื่อนไขแบบนี้ล่ะ?

คิมวูจินไม่จำเป็นต้องถูกหักหลัง

หรือพูดอีกอย่างคือมันเป็นทักษะที่มีประโยชน์อย่างมาก

การลบเงื่อนไขของทักษะอัญเชิญโครงกระดูกเป็นแค่ความสามารถเบื้องต้นเท่านั้น และในกรณีที่ทหารโครงกระดูกถูกผนึกไว้ในหนังสือแห่งความตายพร้อมกับได้รับเอฟเฟกต์ของเจ้าแห่งสมรภูมิที่สะสมไว้ล่วงหน้า เอฟเฟกต์มันก็จะยังคงอยู่

‘พวกมันยังสวมใส่ไอเทมได้อีกด้วย’

แม้แต่ไอเทมที่ทหารโครงกระดูกสวมใส่ก็ยังเก็บไว้ในหนังสือแห่งความตายได้ แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวก็น่าเหลือเชื่อพอแล้ว

 

[พลังของโอซิริสทำให้ทหารโครงกระดูกแปดเปื้อน]

[สถิติของทหารโครงกระดูกทั้งหมดเพิ่มขึ้น 20%]

 

แต่ยังมีข่าวดีอีกข้อ ตอนนี้เองที่เสียงแจ้งเตือนดังขึ้นในหูของคิมวูจิน

 

[ระดับเพิ่มขึ้น]

 

เมื่อคิมวูจินเงยหน้าขึ้นมองการแจ้งเตือน เขาก็เห็นหมอกสีแดงที่ลอยอยู่ในป่า

 

[ลิซาร์ดแมนถูกโจมตีโดยหมอกพิษ]

 

ตอนที่การแจ้งเตือนนี้ปรากฏ คิมวูจินก็เห็นลิซาร์ดแมนล้มลงบนพื้นโดยไร้บาดแผล

คิมวูจินลุกขึ้นยืน

‘ได้เวลาเข้าถ้ำเสือแล้ว’

 

ที่สนามกอล์ฟในเมืองยองอิน คยองกีโด

หญ้าเขียวชอุ่มเติบโตขึ้น เพราะสนามกอล์ฟถูกปิดมานาน และเหนือสนามนั้นคือพื้นที่บิดเบี้ยว นี่คือดันเจี้ยนเกท

ทันใดนั้น ชายคนหนึ่งก็ปรากฏตัวหน้าเกท

ดันเจี้ยนเกทที่มีขนาดใหญ่พอจะใส่รถเข้าไปได้ ไม่ถือว่าเล็ก แม้แต่มนุษย์ที่ตัวใหญ่มาก ตอนนี้ยังเล็กลงไปเลย

เมื่อชายคนนั้นปรากฏตัวเขาก็ทรุดลงคุกเข่าทันที

“อึก”

ในเวลาเดียวกับที่เขาปรากฏตัว มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขาอย่างเร่งรีบ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวล

“คุณลีจินอา คุณเป็นอะไรไหมคะ?”

เมื่อเขาได้ยินคำพูดของหญิงสาวสวย ลีจินอาก็เงยหน้าขึ้นมอง

“ท้องของฉัน…”

“คุณบาดเจ็บที่ท้องงั้นหรือคะ? ”

“…หิว.”

“คะ? ”

จากนั้นบุคคลใหม่ก็ปรากฏตัวหน้าดันเจี้ยนเกท ตอนที่เขาปรากฏตัว เขาก็เหลือบมองชายที่นั่งอยู่บนพื้นก่อนจะเดินผ่านไปอย่างใจเย็น

ลีจินอาเงยหน้าขึ้นมองตอนที่คิมวูจินเดินผ่านเขา และบ่นออกมา

“แม้แต่ทาสก็ยังได้พักกินข้าวเลย…”

จนถึงวันที่ 7 การออกล่ากับคิมวูจินเป็นเรื่องง่าย แต่ตั้งแต่วันที่ 8 เป็นต้นไป คิมวูจินเอาแต่ล่า

ตอนนั้นพวกเขาเหลือเวลาแค่ 3 วันให้ล่า เขาก็ก้าวเร็วขึ้นไปอีกหลายขั้น

ไม่น่าแปลกใจที่การรันดันเจี้ยนที่พวกเขาทำในช่วงท้าย ดูจะมากเกินไปสำหรับลีจินอา

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงสามชั่วโมงสุดท้ายก่อนจะออกมา คิมวูจินไม่ให้เวลาเขาพักดื่มน้ำด้วยซ้ำ

“ไอ้ปีศาจ”

เขาเป็นสัตว์ประหลาดที่จะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นปีศาจได้อย่างง่ายดาย

‘ไม่ มันอาจจะดีกว่า ถ้าคนที่เป็นเป้าหมายของเขาจะสู้กับปีศาจแทน’

แน่นอนว่าลีจินอาจะไม่เรียกเขาว่าปีศาจ แค่เพราะคิมวูจินเป็นคนชั่วร้าย

สายตาที่เขามองมา วิธีที่คิมวูจินใช้ทักษะใหม่ร่วมกับคนของเขาคือการเปิดหูเปิดตา

‘ไม่น่าจะมีใครพยายามต่อกรกับเขาได้’

ลีจินอาเข้มแข็งขึ้นในขณะที่มองไปยังด้านหลังของคิมวูจิน

ผู้หญิงที่มาตรวจร่างกายเขา มองลีจินอาด้วยสีหน้าแปลก ๆ

จากนั้นคิมวูจินก็หันหน้ามาหาเธอ

“ติดต่อโอเซชานได้ไหม? ”

“คะ? ได้ค่ะ! “

หญิงสาวตั้งสติได้ และหยิบโทรศัพท์ที่เตรียมไว้ออกมา ผู้หญิงคนนั้นกดหมายเลขอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ส่งโทรศัพท์ให้คิมวูจิน

ในขณะที่เกิดเหตุการณ์นี้ ลีจินอายังคงไม่ลุกขึ้นจากพื้น

“นายจะติดต่อเซชานทำไมน่ะ?”

คิมวูจินตอบคำถามง่าย ๆ

“ฉันมีคำสั่งซื้อ”

“คำสั่งซื้อเหรอ? ”

เมื่อคิมวูจินพยักหน้า ลีจินอาก็มองเขาด้วยความดีใจ

“ถ้าอย่างนั้นฉันอยากได้ราโจกิไซส์จัมโบ้ 1 โอ้ เพิ่มข้าวปั้นด้วยนะ”

คิมวูจินมองลีจินอาด้วยสีหน้าเหมือนมองคนบ้า

‘ฉันว่าตอนที่ล่าอยู่ เขาสบายเกินไป’

ตึก!

แล้วโอเซชานก็รับสาย

– หืม ว่ายังไง?

ทันทีที่ได้ยินเสียงของโอเซชานจากโทรศัพท์ คิมวูจินก็บอกคำขอทันที

“ฉันอยากไปที่แคซอง”

 

ฮันซองกรุ๊ป

อันดับหนึ่งในกลุ่มธุรกิจของเกาหลี และเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีอิทธิพลมากที่สุดของโลก เคยสงสัยตอนที่พวกเขากลายเป็นผู้อุปถัมภ์ของสมาคมเมสสิอาห์

ทำไมการลงทุนแบบนี้ถึงจะไม่มีกำไรล่ะ

แต่ 4 ปีมาแล้วที่โลกกลายเป็นเกม และภายในปี 2023 ก็ไม่มีใครกล้าตั้งคำถามกับพวกเขาอีก

ฮันซองกรุ๊ปเป็นผู้สนับสนุนของสมาคมเมสสิอาห์ อาจกล่าวได้ว่าเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก

ตามสมาคมเมสสิอาห์ ฮันซองกรุ๊ปเป็นบริษัทที่สร้างขึ้นเพื่อกอบกู้โลก ไม่ใช่เพื่อแสวงหาผลกำไร

ไม่น่าแปลกใจที่ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับสมาคมเมสสิอาห์จะมีฮันซองกรุ๊ปอยู่ในนั้น และคนนั่งอยู่บนจุดสูงสุดของฮันซองกรุ๊ปก็ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากปาร์คชินเฮ เทพธิดาแห่งสมาคมเมสสิอาห์ เธอไม่ใช่แค่เป็นประธานเท่านั้น แต่เธอยังเป็นเจ้าของฮันซองกรุ๊ปอีกด้วย

ด้วยเหตุนี้ เธอจึงสามารถยืนต่อหน้าใครต่อใครด้วยรอยยิ้มภาคภูมิใจ และมั่นใจ

แต่เมื่อไม่นานมานี้ การแสดงออกของเธอดูไม่ค่อยดีนัก

“ยังไม่มีข่าวจากคิมแจฮุนงั้นเหรอ? ”

“ครับ มีสัญญาณบ่งบอกว่าเขาไปยุโรป แต่เขาก็หายตัวไปหลังจากที่เขาพยายามซ่อนร่องรอยตัวเอง”

“เขาตายแล้วหรือยัง? ”

“ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้นครับ”

“แล้วศพอยู่ที่ไหน? ”

“นั่น…”

“เอาศพมา ไม่ว่าจะต้องจ่ายเท่าไรก็ตาม”

เป็นเพราะรอยร้าวปรากฏขึ้นในแผนการที่ควรจะสมบูรณ์แบบ

“แล้วกับปาร์คยองวานล่ะ เป็นยังไงบ้าง? ”

“ตอนนี้ผมกำลังตัดแต่งกิ่งไม้รอบ ๆ เขาอยู่ครับ”

“ฉันไม่สนใจกิ่งไม้ สิ่งที่ฉันถามคือนายจะไปหาเขาเมื่อไร?”

“เมื่อผมรวบรวมข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับการกระทำของปาร์คยองวานได้ แล้วผมจะเริ่มดำเนินการทันที คุณน่าจะเห็นผลได้ภายในต้นปีหน้าครับ”

“นั่นหมายความว่า ปาร์คยองวานยังกระโดดโลดเต้นได้อย่างอิสระไปอีกครึ่งปี ในขณะที่เราทำไม่ได้สินะ”

ยังมีปัญหาอื่น ๆ ที่เธอไม่สามารถกำจัดทิ้งได้ในทันที

‘ปาร์คยองวานเป็นไพ่ที่ฉันสร้างขึ้น เพื่อเสียสละในเวลาที่จำเป็น แต่ดูเหมือนว่าฉันจะเลี้ยงเขาดีเกินไป’

ปาร์คชินเฮถอนหายใจสั้น ๆ

‘ทำไมทุกอย่างถึงซับซ้อนขนาดนี้? ’

“แล้วผู้ชายคนนั้นล่ะ? ”

“ผู้ชายคนนั้น…”

“คนที่กลายมาเป็นมือขวาของปาร์คยองวาน ผู้ชายที่ติดต่อกับคิมแจฮุนในนามของปาร์คยองวาน”

“คุณหมายถึงคิมวูจินใช่ไหมครับ? ”

คิมวูจินเป็นชื่อที่เบาบางมากในความคิดของเธอ ทันใดนั้นก็กลับมาโดดเด่นอีกครั้ง

“ถูกต้อง”

“ผมพยายามเข้าไปหาเขาแล้ว แต่เขาได้รับการปกป้อง ดูเหมือนว่าปาร์คยองวานกับสมาคมฟีนิกซ์ตั้งใจจะเลี้ยงเขาไว้ครับ”

“ใครไม่รู้เรื่องนั้นบ้าง? สิ่งที่ฉันอยากรู้คือนายจะจัดการกับเขายังไง? ”

เมื่อได้ยินคำพูดของปาร์คชินเฮ เลขาของเธอก็ก้มหัวลง

“ผมจัดตั้งทีมไล่ล่าคิมวูจินแล้วครับ”

“ใครเป็นหัวหน้า? ”

“ซุซุกิครับ”

เป็นครั้งแรกที่ปาร์คชินเฮพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

“ในฐานะเจ้าของแหวนของแลนเซลอต พวกเขาเชื่อถือได้”

“แล้วพวกเขาอยู่ที่ไหน? ”

“ตอนนี้พวกเขากำลังรออยู่ในเขตพิเศษแคซอง ถ้าคิมวูจินแสดงตัวเมื่อไร พวกเขาจะรีบไปจับตัวเขาทันทีครับ แน่นอนว่าพวกเขาจะเอาข้อมูลทั้งหมดจากคิมวูจินแล้วค่อยฆ่า”

ปาร์คชินเฮพยักหน้า และเลิกคิดถึงคิมวูจินทันที เธอหันไปหาสนใจชื่ออื่นแทน

“แล้ว ไอแซค อิวานอฟ ล่ะ? นายคิดว่าเราจะทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในพวกเราได้ไหม? ”

“ผมคิดว่าเราสามารถใช้เขาได้ในอนาคตครับ ไม่ว่าเขาจะตั้งใจทำอะไร เราจะต้องแสดงความเป็นมิตรต่อไป ในขณะที่เขาก็จะแสดงความเป็นมิตรต่อเรา”

“เอาล่ะ วางดันเจี้ยนไร้พ่ายไว้รอบตัวเขา ใช้เขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”

“เรามีดันเจี้ยนระดับ A+ อยู่ในฮอกไกโดที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่ครับ”

จากนั้นปาร์คชินเฮก็แสดงสีหน้าค่อนข้างตึงเครียด

‘ฉันดีใจที่ในที่สุดก็ได้หมาล่าเนื้อที่มีประโยชน์ซะที’