ตอนที่ 629
ตามคืน
“พี่น่าจะได้เห็นหน้าพวกนั้นตอนข้าเอาชนะห่าวเหมินได้นะ ข้าล่ะสะใจจริงๆ”หนี่หลิงหนานหัวเราะพลางพูดคุยเรื่องชัยชนะของตนเองกับอาทู้ที่ยามนี้อยู่บนรถม้าคันเดียวกันกับพวกนาง แม้ฟงเป่ากับหลินเฟยจะอยู่รถม้าอีกคัน แต่เสียงหัวเราะของพวกสาวๆที่นังคุยกับอาทู้นั้นก็ดังมาจนถึงหูของฟงเป่าและหลินเฟยอยู่ดี
“อาจารย์ ท่านแน่ใจหรือขอรับที่จะรับอาทู้เข้าสำนัก”ฟงเป่าถามพลางลอบมองไปข้างหลังด้วยท่าทีสงสัย ฟงเป่ามั่นใจว่าอาทู้ไม่ใช่สายของสำนักเหยี่ยวทะเลทรายอย่างที่ปู่เฉินเข้าใจแน่ๆ แล้วทำไมอาทู้ถึงอยากเข้าสำนักตั้งแต่แรกถึงขั้นยอมโดนหาว่าเป็นสายของสำนักเหยี่ยวทะเลทรายจนต้องกลายเป็นคนทรยศกัน ไม่ใช่ว่าฟงเป่าไม่ชอบอาทู้หรอกนะ แต่แค่มันทิ้งความน่าสงสัยตรงนี้ไปไม่ได้เท่านั้นเอง
“ข้าเคยเห็นคนมาเยอะ ข้าเชื่อว่าอาทู้อยากมาเข้าสำนักจริงๆไม่ได้มีแผนอะไรแอบแฝงหรอก”หลินเฟยยิ้มบางๆออกมาด้วยท่าทีสบายใจ ความจริงแล้วในวันที่อาทู้มาดักรอพวกหนี่หลิงหนาน หลินเฟยก็ตามอาทู้ไปเช่นกันเพราะเห็นว่าทำตัวน่าสงสัย และได้เห็นแล้วว่าอาทู้ขอร้องพวกหนี่หลิงหนานอย่างไร ทำให้หลินเฟยค่อนข้างเชื่อใจอาทู้และยินดีจะรับอาทู้เข้าสำนักทีเดียว
“งั้นหรือขอรับ”ฟงเป่าพยักหน้าช้าๆด้วยท่าทีลำบากใจ ทั้งอาจารย์ทั้งหนี่หลิงหนาน เซี่ยจินเย่ รวมถึงพวกศิษย์น้องต่างก็เชื่อใจอาทู้กันทั้งนั้น หรือว่าจะมีเพียงฟงเป่าเท่านั้นที่ไม่เข้าใจความรู้สึกของอาทู้กัน ทำไมกันนะ….
.
.
ใช้เวลาไม่กี่วันหลินเฟยและเหล่าศิษย์ก็เดินทางมาถึงเมืองหลวงเสียทีแน่นอนว่าสถานที่แรกที่พวกหลินเฟยเตรียมตัวจะมุ่งไปก็คือสำนักเหยี่ยวทะเลทรายนั่นเอง เพราะนอกจากจะต้องกลับไปประกาศผลการประลองกับเหล่าอาวุโสแล้ว หลินเฟยยังต้องจัดการเรื่องรับศิษย์ใหม่อย่างอาทู้และบุตรสาวของเจ้าสำนักกิ่งจันทร์อีกด้วย แถมหลินเฟยยังอยากติดต่อกับเจ้าสำนักของสำนักหญิงที่บุตรสาวของเจ้าสำนักกิ่งจันทร์ไปอยู่ เพราะสำนักใหญ่ที่รับศิษย์หญิงมีเพียงสำนักเหยี่ยวทะเลทรายเท่านั้น หลินเฟยจึงสนใจจะรับสำนักหญิงเล็กๆที่กระจายกันอยู่ทั่วอาณาจักรให้มาเป็นสำนักสาขาของสำนักเหยี่ยวทะเลทราย เท่านี้สำนักเหยี่ยวทะเลทรายก็จะได้ศิษย์รุ่นใหม่ฝีมือดีเพิ่มมากขึ้นจากระบบสาขาอีกด้วย เพียงแต่พวกหลินเฟยยังไม่ทันเข้าไปในประตูเมือง ชาย 3 คนก็ยืนดักรอหลินเฟยอยู่ที่หน้าประตูอยู่แล้ว ทันทีที่เห็นว่ารถม้าของพวกหลินเฟยเดินทางเข้ามาทั้ง 3 ก็มุ่งหน้ามาที่รถม้าของหลินเฟยทันที
“ท่านเจ้าสำนักเหยี่ยวทะเลทราย”ชายหนึ่งในสามเข้ามาขวางรถม้าเอาไว้ก่อนจะประสานมือเรียกหลินเฟยอย่างนอบน้อมทำให้หลินเฟยมีท่าทีประหลาดใจไม่น้อยเพราะชายคนนั้นอยู่ในชุดของสำนักหมู่ดาว ทำไมถึงมีท่าทีเคารพตนเองที่เป็นเจ้าสำนักคู่อรินัก
“ศิษย์ของสำนักเรามารบกวนท่านเกรงว่าจะทำให้ท่านลำบาก ข้ามาที่นี่เพื่อรับตัวศิษย์ของสำนักเรากลับไปขอรับ”ชายคนนั้นตอบพลางจ้องมองไปที่รถม้าด้านหลัง แน่นอนว่ามันหมายถึงอาทู้นั่นเอง
“ไม่ใช่ว่าอาทู้กลายเป็นคนทรยศของสำนักหมู่ดาวไปแล้วหรอกหรือ”หลินเฟยถามพลางมองไปทางชายทั้งสามด้วยท่าทีระแวง หากพวกมันคิดจะเอาตัวอาทู้ไปลงโทษที่ทรยศสำนัก พวกมันคงไม่มาด้วยท่าทีเรียบร้อยแบบนี้แน่ๆ
“เรื่องนั้นเป็นเพียงความเข้าใจผิดขอรับ ท่านเจ้าสำนักบอกว่าอาทู้ไม่ใช่ผู้ทรยศอย่างแน่นอน และให้พวกเรามาพาตัวอาทู้กลับไปโดยเร็วขอรับ”ชายคนเดิมตอบพลางประสานมือคารวะหลินเฟยครั้งหนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปหารถม้าที่อาทู้นั่งมาแล้วเปิดประตูออกโดยไม่ถามอะไรเลย
“อาทู้ กลับไปกับพวกเราซะ”ชายด้านที่อยู่ด้านหลังพูดพลางแทรกตัวเข้าไปในรถม้าเพื่อดึงมืออาทู้ออกมา อีกฝ่ายเป็นอาจารย์ในสำนักพลังฝีมือสูงกว่าอาทู้หลายขั้น พอมันออกแรงดึงเต็มที่มีหรือที่อาทู้จะต้านแรงได้
“ปล่อย ข้าไม่กลับไปสำนักหมู่ดาวแล้ว ข้าขอลาออกจากสำนัก”อาทู้ที่กำลังโดนดึงตัวออกไปรีบต่อต้านทันที แต่น่าเสียดาย อาทู้ดิ้นเท่าไหร่ก็ไม่หลุดจากข้อมือของพวกมันเลย
“ท่านทั้งสามหยุดก่อน”หลินเฟยเห็นเช่นนั้นก็เดินเข้ามาจับมือของชายคนนั้นเอาไว้นิ่ง แม้จะไม่ได้ปล่อยพลังวิญญาณออกมาแต่กำลังของหลินเฟยเหนือกว่าคนทั้งสามอยู่แล้ว เพียงจับเอาไว้เบาๆชายที่ดึงอาทู้อยู่ก็ขยับต่อไม่ได้แล้ว
“เจ้าสำนัก เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนในสำนักเราท่านไม่เกี่ยวข้อง”ชายคนนั้นว่าพลางจ้องมองหลินเฟยด้วยท่าทีตำหนิราวกับหลินเฟยเป็นคนผิดเสียอย่างนั้น
“เกรงว่าจะไม่ได้ ตอนนี้ข้ารับอาทู้เป็นศิษย์แล้ว ข้าคงปล่อยศิษย์ของข้าไปกับพวกเจ้าไม่ได้หรอก”หลินเฟยบีบข้อมือของชายคนนั้นแรงขึ้นจนมันต้องปล่อยอาทู้เป็นอิสระ แต่พอทำเช่นนั้นท่าทีเรียบร้อยของทั้งสามก็หายไปทันที
“ศิษย์อะไรกัน อาทู้เป็นศิษย์ของสำนักเรา มันยังไม่ได้ออกจากสำนักจะไปเป็นศิษย์เจ้าได้อย่างไร”ชายหนึ่งในสามโวยวายพลางชักกระบี่ออกมา
“เรื่องนั้นข้าจะเป็นผู้ไปคุยกับเจ้าสำนักของพวกเจ้าเอง”หลินเฟยพูดพลางจ้องมองชายทั้งสามด้วยท่าทีเอาจริง ท่าทางการออกจากสำนักของอาทู้จะไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว
“…….ขะ ข้าให้เวลาเจ้าถึงเย็นวันนี้ หากเจ้าไม่มาคนของสำนักเราจะเข้าไปทวงคนถึงในสำนัก”ชายคนหนึ่งกล่าวก่อนจะพากันหันหลังเดินกลับไป แม้คำพูดทิ้งท้ายจะเหมือนว่าหลินเฟยลักพาตัวคนมาเป็นตัวประกันก็เถอะ
“ท่านเจ้าสำนัก ขอโทษด้วยที่ทำให้ท่านต้องเดือดร้อน”อาทู้เห็นหลินเฟยโดนหางเลขไปด้วยก็รีบประสานมือขอขมาหลินเฟยทันที
“เจ้าเป็นศิษย์ของข้า เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่ข้าต้องช่วย”หลินเฟยจับร่างของอาทู้เอาไว้ก่อนที่มันจะก้มหัวลงไปจนสุด ก่อนจะบอกให้อาทู้กลับไปขึ้นรถม้าเสีย หลังจากกลับไปเตรียมตัวที่สำนักเหยี่ยวทะเลทรายแล้วหลินเฟยจะพาอาทู้ไปปรับความเข้าใจกับเจ้าสำนักหมู่ดาวด้วยตนเอง
.
.
“พี่อาทู้ ต่อไปที่นี่คือห้องของท่านนะเจ้าคะ ส่วนนี่คือเครื่องแบบของสำนักพอท่านเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วพวกเราจะไปพบท่านเจ้าสำนักที่ห้องโถงกัน”หนี่หลิงหนานว่าพลางเดินพาอาทู้มาส่งที่พักของเหล่าศิษย์ แม้อาทู้จะเป็นศิษย์เอกของสำนักหมู่ดาวมาก่อน แต่เมื่อมาที่นี่แล้วอาทู้ก็ถือเป็นศิษย์ใหม่ของสำนัก ทำให้อาทู้ต้องอยู่เป็นศิษย์ภายนอกไปก่อน
“ขอบใจพวกเจ้ามาก”อาทู้ตอบพลางมองหนี่หลิงหนาน ฟงเป่า และเซี่ยจินเย่ที่มาส่งตัวเองด้วยท่าทีขอบคุณ
“อาทู้….ทำไมท่านถึงอยากเข้าสำนักเราล่ะ”ฟงเป่าถามด้วยท่าทีสงสัย ไม่ว่าอย่างไรฟงเป่าก็อยากรู้ให้ได้ อาทู้มีท่าทีปฏิเสธชัดเจนตอนโดนพาตัวกลับไปสำนัก เรื่องนั้นยิ่งทำให้ฟงยิ่งสับสนเข้าไปใหญ่ และเอนเอียงมาทางที่ว่าอาทู้อยากเข้าสำนักจริงๆ แต่… ทำไมล่ะ?
“เจ้าอยากรู้จริงๆงั้นหรือ”อาทู้ถามพลางจ้องมองฟงเป่าด้วยท่าทีจริงจัง
“ขอรับ ข้าอยากรู้”ฟงเป่าตอบพลางพยักหน้าช้าๆ บางทีหากได้รู้เหตุผลฟงเป่าอาจจะยอมรับอาทู้ได้ง่ายขึ้นก็เป็นได้
“เหตุผลของข้า….ก็เพราะที่นี่มีสาวๆตั้งมากมายไงล่ะ”อาทู้ว่าพลางยิ้มกว้างออกมาด้วยท่าทีทะเล้น ทำเอาฟงเป่าแสดงสีหน้างุนงงออกมาทันที นี่อาทู้อยากมาเข้าสำนักก็เพราะเรื่องผู้หญิงงั้นหรือ
“คิกๆ พี่อาทู้ พี่ล้อฟงเป่าเล่นเกินไปแล้ว ท่านรีบไปเปลี่ยนชุดเถอะอาจารย์กำลังรอท่านอยู่นะ”หนี่หลิงหนานหัวเราะพลางมองหน้าตางุนงงของฟงเป่าด้วยท่าทีขบขัน แม้แต่เซี่ยจินเย่ที่อยู่ข้างๆเองยังหัวเราะออกมาเลย
“เข้าใจแล้วๆ”อาทู้ยิ้มพลางเดินหายเข้าไปในห้องอยู่พักหนึ่งก่อนจะกลับออกมาในชุดเครื่องแบบของสำนักเหยี่ยวทะเลทราย
“นี่ท่าน……..”ฟงเป่าเห็นอาทู้ใส่เครื่องแบบของสำนักเหยี่ยวทะเลทรายก็ยิ่งแสดงท่าทีตกใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด ทำเอาอาทู้ หนี่หลิงหนาน และเซี่ยจินเย่หัวเราะหนักเข้าไปใหญ่ ก็ใครใช้ให้ฟงเป่าตกใจขนาดนั้นกันเล่า
“อาจารย์ พวกเรามาแล้วเจ้าค่ะ”หลังจากอาทู้เปลี่ยนเครื่องแบบเสร็จแล้ว ทั้งสี่ก็เดินทางมาที่ห้องโถงของสำนักที่หลินเฟยยืนรออยู่ก่อนแล้ว เพราะหลังจากนี้หลินเฟยต้องไปสำนักหมู่ดาวร่วมกับอาทู้นั่นเอง
“เจ้าใส่เครื่องแบบของสำนักเราแล้วดูดีไม่เลวเลยนี่นา”หลินเฟยยิ้มพลางมองอาทู้ที่เดินเข้ามาในห้องโถงภายใต้เครื่องแบบของสำนัก แต่เดิมเครื่องแบบสำนักเหยี่ยวทะเลทรายมีเพียงเครื่องแบบชายเท่านั้น ทำให้หลินเฟยต้องสั่งทำเครื่องแบบหญิงตอนที่เปิดรับศิษย์หญิงเข้ามาใหม่หลายชุดโชคดีจริงๆที่เครื่องแบบยังเหลืออีกมากทำให้มีสำหรับให้อาทู้ใช้เปลี่ยนพอดี
“ท่านเจ้าสำนัก ท่านชมข้าเกินไปแล้วเจ้าค่ะ”อาทู้ตอบพลางยิ้มออกมาบางๆ ยามนี้อาทู้อยู่ในเครื่องแบบของสตรีนั้นไม่ได้มีอะไรผิดเพี้ยนไปจากหญิงสาวคนอื่นเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าแต่เดิมของอาทู้ก็หวานมากอยู่แล้วพอปล่อยผมลงมาก็แทบไม่เหลือความเป็นชายอยู่เลยทำเอาหลินเฟยที่โดนคิดว่าเป็นหญิงมาหลายต่อหลายครั้งอดสงสัยไม่ได้ว่าอาทู้ปลอมตัวยังไงคนอื่นถึงดูไม่ออกกัน….
“พวกท่านทำไมไม่บอกข้าสักคำล่ะขอรับ ให้ข้าสงสัยมาตั้งนาน”ที่ด้านหลังของอาทู้ปรากฏใบหน้าไม่พอใจของฟงเป่าที่กำลังบ่นกับหนี่หลิงหนานด้วยท่าทีน้อยใจ ตนเองก็สงสัยมาตั้งนานว่าทำอาทู้ถึงได้อยากเข้าสำนักตนเองนัก พอเห็นนางเปลี่ยนเสื้อผ้าถึงได้พึ่งทราบว่าจริงๆแล้วอาทู้เป็นผู้หญิง ที่ต้องการเข้าสำนักเหยี่ยวทะเลทรายนั้นก็เพราะไม่อยากปกปิดเพศของตัวเองอีกแล้วนั่นเอง
ในวันที่อาทู้ไปดักรอพวกนหนี่หลิงหนานนั้น อาทู้ได้แสดงตนกับพวกหนี่หลิงหนานและสารภาพความจริงเรื่องเพศของตนให้พวกนางได้ทราบ อาทู้นั้นเหมือนกับหนี่หลิงหนาน เป็นหญิงสาวที่มีพรสวรรค์แต่ไร้สำนักเหลียวแล แต่ตอนที่อาทู้พยายามหาสำนักนั้นไม่ได้โชคดีมีสำนักใหญ่เปิดรับศิษย์สตรีเข้าสำนักพอดีอย่างหนี่หลิงหนาน สุดท้ายนางก็เลยปลอมตัวเป็นชายแอบเข้าสำนักหมู่ดาวจนได้นั่นเอง
และแน่นอนหากฟงเป่าทราบความจริงในข้อนี้ตั้งแต่แรกก็คงไม่นั่งสงสัยอยู่นานสองนานหรอก มิน่าเล่าพวกหนี่หลิงหนาน เซี่ยจินเย่ และพวกศิษย์น้องถึงได้เชื่อใจอาทู้เร็วนักเพราะพวกนางต่างก็เป็นหญิงสาวที่อยากเข้าสำนักฝึกฝนพลังวิญญาณเหมือนกันนี่เอง