ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล
“เหอๆ เซียวอวี๋เอยเซียวอวี๋ ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าเป้าหมายแรกของศาสนจักรก็คือเจ้า เจ้ากังวลมากเสียจนคิดจะดึงพวกเราลงไปในปลักโคลนกับเจ้าหรือ? คงมิใช่ว่าเจ้ารู้สึกกลัวศาสนจักรขึ้นมาหรอกนะ?” นิโคลัสไม่เชื่อคำกล่าวของเซียวอวี๋ เขาเอนตัวพลางกล่าวอย่างเกียจคร้าน “เหอ ที่ข้ากล่าวเช่นนี้ก็ไม่ใช่เพื่อทุกคนหรอกหรือ? นี่ไม่ใช่เพียงเรื่องของข้ากับศาสนจักร! เวลานี้แผ่นดินกำลังตกอยู่ในความวุ่นวาย ขุมกำลังทุกฝ่ายต่างก็เร่งขยับขยายดินแดนโดยไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ยังมีขุมกำลังลับต่างๆที่เริ่มปรากฏออกมาอีก ไม่มีผู้ใดทราบชัดว่าพวกมันแข็งแกร่งเพียงใด อย่าบอกเชียวว่าเจ้าไม่รับรู้ถึงอันตราย บอกตามตรงนะ ข้าคิดว่าพวกมันต่างหากที่เป็นภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุด รองลงมาจึงจะเป็นศาสนจักร ศาสนจักรนั้นหยั่งรากลึกในทวีปแห่งนี้ พวกมันมีพาลาดินอยู่ใต้สังกัดคณานับ พวกมันล้วนแต่เป็นพวกคลั่ง พวกคลั่งที่ครอบครอบความแข็งแกร่ง! ยังมีขุมกำลังที่สาม พวกออร์คที่นำโดยกูดาลที่กำลังคุกคามมนุษย์ ขึ้นชื่อว่าเป็นตัวตนระดับตำนาน พวกเราย่อมไม่อาจมองข้ามมันได้ กองกำลังเหล่านี้ย่อมไม่มีทางอยู่อย่างสันติกับผู้อื่น ดังเช่นกฏปลาใหญ่กินปลาเล็กที่เจ้าว่า แม้ว่าพวกเราอาจจะต้องกลืนกินกันและกันในอนาคต แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น พวกเรายังสามารถร่วมมือกัน แต่เจ้ากล้าร่วมมือกับคนเหล่านั้นหรือ? ถ้าเป็นเช่นนั้น พนันได้เลยว่าเจ้าคงมีจุดจบที่ไม่สวยเป็นแน่” เซียวอวี๋ค่อยๆกล่าววิเคราะห์สถานการณ์ของทวีปอย่างใจเย็น ได้ฟังการวิเคราะห์ของเซียวอวี๋แล้ว นิโคลัสก็นิ่งเงียบ แน่นอนว่าสิ่งที่เซียวอวี๋หยิบยกขึ้นมากล่าว ตัวเขาเองก็ย่อมต้องคิดได้ ทั้งหมดที่เซียวอวี๋ล้วนแต่มีเหตุผล ถึงอย่างนั้น ตัวเขาและเซียวอวี๋ก็มองต่างกันอยู่บ้าง สำหรับนิโคลัสแล้ว นอกเหนือจากขุมกำลังที่แข็งแกร่งเหล่านั้น ฝ่ายของเซียวอวี๋เองก็นับว่าไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย สำหรับเขาแล้ว เซียวอวี๋เองต่างหากจึงจะเป็นศัตรูที่น่ากลัวที่สุด นั่นเพราะคำพยากรณ์ เหล่าตัวตนตำนานจะย้อนกลับคืน และราชันย์ผู้ยิ่งใหญ่จะนำพาทุกเผ่าพันธุ์รวมแผ่นดินเป็นหนึ่ง ซึ่งเวลานี้ ตัวตนและเผ่าพันธุ์ในตำนานเหล่านั้นล้วนแต่อยุ่ภายใต้ร่มธงของเซียวอวี๋ กล่าวคือ เซียวอวี๋นั้นอาจจะเป็นราชันย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ว่า ด้วยเหตุนี้ นิโคลัสจึงรู้สึกอิจฉาเซียวอวี๋ นับตั้งแต่ที่เขาเริ่มจับตาเซียวอวี๋และสังเกตมานาน เขายังได้เห็นช่วงการเติบโตของเซียวอวี๋ ยิ่งไปกว่านั้น ความเร็วในการเติบโตของเซียวอวี๋ยังน่ากลัวอย่างยิ่ง กระทั่งตัวเขาในตอนนี้ก็ยังยากที่จะกำจัดเซียวอวี๋ในคราวเดียว หากว่าเขากำจัดเซียวอวี๋ไม่ได้ อย่างนั้นในอนาคตข้างหน้า เซียวอวี๋ก็จะกลายเป็นขวากหนามชิ้นใหญ่ แรกเริ่มเดิมที ตัวเขาคิดจะอาศัยการจับปลาตอนน้ำขุ่นในระหว่างที่เซียวอวี๋กำลังทำสงครามกับตระกูลเคเนดี้ ทว่าท้ายที่สุดแล้ว เขากลับพบว่าความแข็งแกร่งของเซียวอวี๋ถึงกลับมีกำลังมากพอจะโค่นล้มตระกูลเคเนดี้เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม หลังจากได้คลุกคลีอยู่กับเซียวอวี๋มาพักใหญ่ สุดท้ายเขาก็ได้ข้อสรุปว่าความคิดของเซียวอวี๋นั้น ไม่อาจใช้สามัญสำนึกของคนทั่วไปมาหยั่งคำนึง หรือก็คือ เขาไม่อาจหยั่งคำนวณอีกฝ่ายด้วยวิธีการทั่วไป และหากว่าผู้ใดเห็นว่าเซียวอวี๋เป็นเหมือนคนอื่นๆทั่วไปแล้วล่ะก็ คนผู้นั้นก็คงจะไม่ทราบด้วยซ้ำว่าตนตายได้อย่างไร เซียวอวี๋ไม่มีที่ใดที่ธรรมดาเลย เขาไม่ทราบเลยว่าเซียวอวี๋กำลังวางแผนการใดอยู่ มองอย่างผิวเผิน เซียวอวี๋อาจคล้ายเป็นอันธพาลเสเพลทั่วไป ทว่าไม่ว่าจะเกิดเรื่องราวแบบใด เซียวอวี๋ล้วนแต่หาทางจัดการได้ทั้งสิ้น บุคคลเช่นนี้แน่นอนว่าน่าหวาดหวั่นอย่างยิ่ง นิโคลัสเองยังเคยพยายามจะซื้อใจเหล่าฮีโร่ใต้สังกัดของเซียวอวี๋เพื่อดึงตัวมาเข้าร่วม ทว่าหลังจากทดลองดูแล้วหลายครั้ง เขาก็ถอดใจในที่สุด นั่นเป็นเพราะว่า ฮีโร่และไพร่พลเหล่านั้นมีความภักดีต่อเซียวอวี๋อย่างที่สุด กลัวว่าจะภักดียิ่งกว่าที่เหล่าสาวกภักดีต่อศาสนจักรเสียด้วยซ้ำ ดูไม่มีความเป็นไปได้เลย ส่วนสาเหตุคืออะไรนั้น บางทีอาจเป็นเพราะพวกเขาทั้งหมดถูกอัญเชิญมาโดยเซียวอวี๋? เมื่อทราบว่าไม่สามารถซื้อใจเหล่าฮีโร่ได้ นิโคลัสจึงต้องหันไปใช้วิธีอื่น วิธีการนั้นก็คือ คลุกคลีกับเซียวอวี๋ต่อไปเพื่อทำความเข้าใจเหล่าฮีโร่ เพื่อเข้าใจและวางแผนสังหารฮีโร่เหล่านั้น ตราบที่ฮีโร่ทั้งหมดถูกสังหาร เช่นนั้นคำพยากรณ์อะไรนั่นก็จะเป็นแค่เพียงคำล่ำลือ และเมื่อถึงตอนนั้น เขาก็จะสามารถขึ้นเป็นราชันย์ผู้ปกครองทวีปแห่งนี้ได้ “เจ้าวางแผนจะทำอย่างไรกับศาสนจักร?” ความคิดมากายแล่นผ่านสมอง หากแต่ภายนอก นิโคลัสยังดูสงบเยือกเย็น นิโคลัสวางแผนจะกำจัดทั้งเซียวอวี๋และศาสนจักร กระดานหมากนี้นับเป็นกระดานสำคัญต่อเขาอย่างยิ่ง หากเกมดำเนินไปได้ด้วยดี เขาก็จะสามารถยืมดาบฆ่าคน และรับเอาผลประโยชน์สุงสุดไปโดยแทบไม่ต้องเปลืองแรง นี่ก็คือสิ่งที่นิโคลัสให้ความสำคัญ “ไม่มี” เซียวอวี๋กล่าวตามตรง “ไม่มี? เช่นนั้นเจ้ากล่าวเสียตั้งมากเช่นนี้เพื่ออะไร?” นิโคลัสเริ่มคุ้นเคยกับนิสัยเช่นนี้ของเซียวอวี๋บ้างแล้ว บางครั้ง เมื่อเซียวอวี๋กล่าวว่าไม่มีแผน บางทีมันอาจจะไม่มีแผนการจริงๆ แต่เซียวอวี๋ผู้นี้ย่อมไม่ทำอะไรโดยไม่คิดแน่นอน “อย่างที่บอก ไม่มีอะไรมากกว่านั้น พวกเราควรมุ่งความสนใจไปที่ขุมกำลังลึกลับเหล่านั้นจะดีกว่า มองอย่างผิวสเผิน พวกมันอาจจะนิ่งเงียบไม่เคลื่อนไหว ทว่าในความจริง พวกมันกำลังเคลื่อนไหว ทั้งยังเคลื่อนไหวใหญ่โตเสียด้วย พวกเราไม่ทราบชัดว่าพวกมันแข็งแกร่งเพียงใด หากไม่ได้วางแผนรับมืออย่างเหมาะสม พวกเราทั้งหมดก็อาจจะถูกกวาดล้างจนสิ้น” “อืม แม้ว่าพวกมันจะแข็งแกร่งจริง แต่ก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะกวาดล้างกองกำลังจำนวนมากในคราเดียว” นิโคลัสกล่าวเสียงเรียบ เขาก็คิดเช่นนั้น กระนั้นเขาก็คิดไม่ออก ต้องแข็งแกร่งเพียงใดกันจึงจะสามารถควบคุมกำลังมากมายได้? “อย่าได้มั่นใจนัก มีหลายแห่งที่ถูกพวกมันแทรกซึมไปแล้ว กระทั่งตระกูลของเจ้าก็ด้วย มีโอกาสสูงที่มันจะแฝงตัวอยู่ในตระกูลของเจ้า ข้าสัมผัสได้ว่าพวกมันแข็งแกร่งมาก กล่าวตามตรง กระทั่งข้าและพวกฮีโร่ก็ยังไม่อาจจัดการกับพวกมัน เซียวอวี๋หันไปมองไพร่พลที่เดินไปมาอยู่นอกค่ายพลางกล่าวออกมา “เดาออกหรือไม่ว่าพวกมันเป็นใคร? มีเป้าหมายอะไร? ใยจึงต้องรวบรวมไพร่พลมหาศาลเช่นนั้น?” นิโคลัสลุกขึ้นพลางเอ่ยถาม “กล่าวตามตรง ข้าเองก็ไม่รู้อะไรเลย ดูเหมือนว่าการดำรงอยู่ของพวกมันยังจะเก่าแก่เสียยิ่งกว่าตระกูลของเจ้า พวกมันอาจจะเป็นตระกูลตั้งแต่ครั้งโบราณ เพียงแต่เราไม่รู้ว่าเป็นตระกูลใดกันแน่ ส่วนเป้าหมายของพวกมันน่ะหรือ? นั่นง่ายมาก พวกมันต้องการทวีปแห่งนี้ มิเช่นนั้นแล้ว ยังจะมีอะไรที่เข้าตาพวกมันอีก?” เซียวอวี๋เอนตัวลงนอนพลางกล่าวออกมา “หากเป็นเช่นนั้น พวกมันสมควรแข็งแกร่งยิ่ง พวกเราจะรับมือกับพวกมันได้อย่างไร? ในเมื่อทุกที่ล้วนมีพวกมันอยู่” นิโคลัสจ้องเซียวอวี๋พลางเอ่ยถาม หากว่าเซียวอวี๋มีแผนการที่ดี เขาก็พร้อมจะทดลองดู นั่นเพราะเรื่องขุมกำลังลึกลับเหล่านี้ก็สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าแก่เขาเช่นกัน “ง่ายยิ่ง พวกเราก็แค่รวมตระกูลทั้งหมดเข้าด้วยกัน ทุกฝ่ายจะลงนามในข้อตกลง เมื่อได้รับข่าวเกี่ยวกับพวกมัน หลังจากยืนยันได้แล้ว ทั้งหมดก็จะเคลื่อนกำลังเข้าโจมตีและกำจัดพวกมันในครั้งเดียว” เซียวอวี๋กล่าวตอบ “ทว่าในหมู่พวกเรา มันยังคงมีความขัดแย้งกันอยู่ ยิ่งไปกว่านั้น บางส่วนยังอาจจะเป็นหุ่นเชิดของขุมกำลังลึกลับนั้นด้วย” นิโคลัสออกความคิด เซียวอวี๋เผยรอยยิ้มลี้ลับ “ข้าทราบดี แต่ถ้าเป็นกรณีนี้ พวสกเราก็จะสามารถค่อยๆทำความเข้าใจได้ว่าฝ่ายใดเป็นหูตาของพวกมัน จากนั้นพวกเราก็จะทุ่มกำลังออกโจมตี” “ความหมายของเจ้าคือ ล่องูออกจากรู?” นิโคลัสขมวดคิ้ว “ใกล้เคียง พวกเราจะรวมพวกมันไปไว้ในจุดเดียว จากนั้นจึงค่อยๆกำจัดพวกมัน” เซียวอวี๋แสยะยิ้ม “โฮ่? ใยเจ้าจึงไม่คิดว่าข้าจะเป็นหนึ่งในพวกมันบ้างเล่า?” นิโคลัสหรี่ตาลง “สัญชาตญาณล้วนๆ!” เซียวอวี๋ยิ้ม