บทที่ 1905 - อีกาทองคำสุริยา ปัญหายังไม่หมดสิ้น

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

100ปีไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย แต่สิ่งที่ราชันย์มังกรพิษมีความกังวลมากที่สุด มันคงกลัวว่าชิงสุ่ยจะใช้กลอุบายชั่วช้ากับมัน นักปรุงยาเป็นตัวตนที่น่ากลัว แต่สิ่งที่ชิงสุ่ยเอาออกมาก็เป็นสิ่งดึงดูดความสนใจของมันเช่นกัน
  ”ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังกังวลตัวข้าเป็นคนเถรตรง ภายใน 100 ปี เจ้าไม่จำเป็นต้องยุ่งเกี่ยวกับข้า และข้ามั่นใจว่า 100 ปีข้างหน้า ข้าจะต้องแข็งแกร่งกว่าเจ้าอีกหลายเท่า”ชิงสุ่ยยิ้มขณะกล่าว
  ”ก็ได้ข้าให้สัญญากับเจ้า”หลังจากได้ยินคำพูดชิงสุ่ย ราชันย์มังกรพิษก็กล่าวตอบอย่างเด็ดเดี่ยว
  ”ไม่เป็นไรอย่าได้กังวล เจ้าจะไม่ได้เสียเปรียบอะไรทั้งสิ้น”ชิงสุ่ยยื่นมือส่งยาเม็ดให้กับชิงห่านอี้  ”เย่เอ๋อป้อนยานี้สิ”
  ”ข้า?”ชิงห่านอี้แปลกใจ
  ”ถูกต้องแล้วล่ะเจ้าจะตกใจทำไม?”ชิงสุ่ยวางยาเม็ดไว้บนมือของเธอ
  อีเย่เจี้ยนเก้อมีสัตว์อสูรผลึก9 เศียรที่แสนทรงพลัง ถานท่ายหลิงเยียนเองก็มีเต่าเฒ่าที่คอยช่วยเหลือตั้งแต่แรกเริ่ม และมันก็ได้ทะลวงพลังขึ้นไปสู่ขั้นถัดไปหลายต่อหลายครั้ง ยิ่งอายุไขของมันยาวนาน พลังของมันก็ยิ่งแข็งแกร่ง
  มูหยุนชิงเก้อมีมังกรหยกขาวส่วนฉินชิงก็มีมังกรมรกต ชิงสุ่ยไม่รู้ถึงความสามารถที่แท้จริงของเจ้ามังกรมรกต แต่ที่รู้คือมันแข็งแกร่งกว่ามังกรหยกขาวของมูหยุนชิงเก้อ
  ในฐานะเผ่าพันธุ์นางเงือกประมุขพระราชวังสุริยา หลัวชิงเฉิงย่อมได้รับมรดกสืบทอดมาจากพระราชวังสุริยา ชิงสุ่ยก็รู้ว่าเธอครอบครองสัตว์อสูรที่ทรงพลัง แต่ไม่เคยเรียกใช้มัน  อีกาทองคำสุริยา!!
  มันคือนกยักษ์ที่มีตัวสีทองดูสง่างามยิ่งกว่านกอินทรีย์ เพียงแต่กลิ่นอายรอบตัวมันไม่ได้ดูงดงามกว่า พลังของเจ้านกตัวนี้ติดขัดอยู่ในจุดเดิมมานานมาก และเมื่อถึงเวลาที่ชิงสุ่ยต้องการหาสัตว์อสูรให้กับเธอ เธอจึงได้บอกเรื่องราวนกตัวนี้ให้เขาฟัง
  ตอนที่เขาได้เห็นอีกาทองคำสุริยาตอนนั้นมันมีขนาดร่างกายเพียงแค่ 3 เมตร แต่ชิงสุ่ยสัมผัสได้ถึงพลังทางสายเลือด และรู้ว่าเจ้านกยักษ์ตัวนี้ยังไม่ได้ผ่านการปลุกพลังของสายเลือด ด้วยทักษะเบิกเนตรสวรรค์ที่ไม่มีผู้ใดเหมือน ชิงสุ่ยเลยรู้ว่าเขาต้องทำอย่างไร
  หลังจากที่ชิงสุ่ยมอบยาเม็ดให้หลัวชิงเฉิงกระตุ้นพลังทางสายเลือดอีกาทองคำสุริยามันได้ขยายร่างใหญ่ขึ้นทันทีกว่า 10 เท่า กลายเป็นอสูรร่างแท้จริง อีกาทองคำสุริยาไม่ได้อ่อนแอกว่าวิหคอัคคีสวรรค์เลย และพลังไฟที่พ่นออกมาจากปากของมันก็ไม่ต่างจากเปลวไฟสุริยัน  แน่นอนว่าอีกาทองคำสุริยาในตอนนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าหลัวชิงเฉิง และยังเป็นสัตว์พาหนะที่เดินทางได้ทั้งบนพื้นฟ้าและท้องสมุทร
  ดังนั้นชิงสุ่ยจึงตัดสินในมอบการดูแล ราชันย์มังกรพิษให้ชิงห่านอี้ดูแล แม้ตัวของชิงห่านอี้จะมีสัตว์อสูรอยู่แล้ว แต่มันก็ใช้งานได้ในแง่พาหนะเท่านั้น
  แม้พันธะสัญญากับราชันย์มังกรพิษจะมีอายุมากถึง100 ปี ชิงสุ่ยก็แอบไม่มั่นใจว่าเขาจะแข็งแกร่งกว่าตัวของมังกรตัวนี้ได้ทันเวลาจริงๆ และด้วยตัวยาควบคุมอสูร มันจะทำให้สัตว์อสูรมีความจงรักภักดีต่อเจ้าของ ตราบใดที่เจ้าของยังมีชีวิต อสูรก็จะปกป้องสุดกำลัง
  เมื่อครบ100 ปี ชิงสุ่ยจะเป็นคนลบล้างผลของตัวยาด้วยตัวเอง ดังนั้นสิ่งที่เขาทำจึงไม่นับเป็นการหลอกหลวง แน่นอนว่า ในอนาคต เขาจะทำให้มันยอมรับได้แน่นอน
  ราชันย์มังกรพิษไม่คิดมากเรื่องยาที่มันได้รับจากชิงห่านอี้หลังจากที่มันกินเข้าไป สัญลักษณ์บางอย่างก็ปรากฏขึ้นกลางหน้าผากของมัน ซึ่งสะท้อนตรงเข้าสู่กลางหน้าผากชิงห่านอี้ก่อนจะหายไป
  สำหรับชิงสุ่ยรูปแบบที่เกิดขึ้นไม่ใช่รูปแบบพันธสัญญาแต่เกิดจากการควบคุมของยาเม็ด มันคือตัวช่วยในการเชื่อมโยงระหว่างจิตใจของมนุษย์และสัตว์อสูร เพื่อให้มนุษย์สามารถควบคุมจิตใต้สำนึกของสัตว์อสูรได้ แต่ว่ามันจะถูกนำมาใช้เพื่อให้สัตว์อสูรเคลื่อนไหวไปตามที่เจ้าของต้องการ แต่มันก็ไม่ใช่การควบคุมแบบสมบูรณ์เบ็ดเสร็จ
  ชิงห่านอี้รู้สึกมีความสุขเมื่อเธอได้ควบคุมสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง พลังในร่างกายของเธอก็แข็งแรงขึ้นเช่นกัน ราชันย์มังกรพิษขึ้นชื่อว่าราชา มันย่อมเหนือกว่ามังกรพิษทุกชนิด และสัตว์อสูรที่โดดเด่นด้านพิษจะไม่กล้าเข้าต่อกรกับราชันย์มังกรพิษ แต่ที่เธอรู้สึกเป็นสุขกว่าคือการที่ทุกคนยังมีชีวิตอยู่ และรอดพ้นจากภัยอันตราย  ราชันย์มังกรพิษค่อยๆลดขนาดร่างกายแปรสภาพกลายเป็นชายวัยกลางคน ทะยานลงมาจากฟากฟ้าเพื่อมายืนต่อหน้าทุกคน เสื้อผ้าของเขาเป็นเสื้อผ้าที่ค่อนข้างโชว์เนื้อหนัง แต่ก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายที่ทรงพลัง ดวงตาของเขาจ้องมองทุกคนก่อนจะโค้งคำนับให้กับชิงห่านอี้ “นายหญิง!!”
  ชิงสุ่ยมองดูอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของราชันย์มังกรพิษด้วยสีหน้าที่มีความสุข
  ”ในอนาคตข้าขอเรียกท่านว่าท่านลุง”ชิงห่านอี้ยิ้มตอบ
  ราชันย์มังกรพิษลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวตอบด้วยรอยยิ้มว่า”ดูเหมือนว่าท่านจะเป็นนายของข้า หากท่านยอมรับค่าในฐานะลุงของท่าน ก็ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี”
  ราชันย์มังกรพิษที่ถูกทำให้ฟังคำสั่งของผู้นำเทวะสูงสุดบางครั้งผู้นำเทวะสูงสุดก็กระทำการให้เกียรติกับราชันย์มังกรพิษ แต่ส่วนใหญ่เขาจะแสดงความไม่ให้เกียรติและไม่สนใจในเกียรติยศของราชันย์มังกรพิษ มันจึงทำให้ความรู้สึกโกรธแค้นยังคงอยู่ภายในจิตใจลึกๆของราชันย์มังกรพิษ
  ”ข้าไม่ใช่นายของท่านแต่พวกเราคือเพื่อนกัน แม้ว่าข้าจะใช้ยา แต่มันก็ดูไม่ยุติธรรมสำหรับท่าน ฉะนั้นข้าจะปฏิบัติตัวกับท่านในฐานะเพื่อน ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม”
  ”แม่นางข้าเข้าใจแล้วข้าจะทำอย่างที่ท่านว่า แล้วก็อีกอย่าง ข้าคือตัวตนของมังกร ในเมื่อข้าให้คำสัญญาอะไรไป ข้าจะไม่มีวันผิดคำพูด” ราชันย์มังกรพิษกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
  ในขณะเดียวกันชิงสุ่ยก็หยิบเอาถุงผ้าไหมต่างมิติของผู้นำเทวะสูงสุดขึ้นมา ซึ่งเมื่อเขาหยิบเครื่องรางวายุคลั่งออกมาพร้อมกับมองผ่านโดยอาศัยทักษะเนตรสวรรค์ ้เจาก็รับรู้ได้ถึงความน่าตื่นตาตื่นใจ และเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้นำเทวสูงสุดถึงสามารถหลบพ้นเถาวัลย์อสูรกระหายเลือดของเขาได้
  สิ่งของชิ้นนี้เป็นสิ่งของชั้นเลิศไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มพูนความเร็วของผู้ใช้เป็น 2 เท่าแต่ยังมีความสามารถในการปลดผนึกพันธนาการที่ขวางกั้นตัวผู้ใช้ ได้อีก 1 ครั้ง
  ความแข็งแกร่งเป็นเพียงเรื่องรองตราบใดที่คนคนนึงมีความเร็วเหนือกว่าคู่ต่อสู้ คนผู้นั้นจะไม่มีวันพ่ายแพ้
  ชิงสุ่ยไม่ได้ตรวจสอบสิ่งของอื่นที่อยู่ภายในถุงผ้าไหมต่างมิติเพราะรู้ดีว่าภายในจะต้องเต็มไปด้วยสิ่งของคุณภาพสูง แต่เวลานี้คือเวลาของครอบครัวไม่ใช่เวลาที่จะมาพิจารณาสิ่งของต่างๆ
  การปลิดชีพผู้นำเทวะสูงสุดไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ชิงสุ่ยก็เชื่อว่าสิ่งที่เขาตัดสินใจทำลงไปเป็นสิ่งที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตามชายที่ทรงพลังคนนี้จะต้องมาจาก พระราชวังอมตะเบญจพิษและจะต้องเป็นคนที่มีฐานะสูงส่ง นั่นก็หมายความว่าชิงสุ่ยได้กลายเป็นศัตรูคนสำคัญของพระราชวังอมตะเบญจพิษไปโดยปริยาย นอกจากนี้ผู้นำเทวสูงสุดคือคนที่มีสถานะสูงส่งภายในมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ เมื่อเขาเป็นคนฆ่าผู้นำเทวะสูงสุดของมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ อีกไม่นานปัญหาจะต้องมาหาเขา
  หลังจากลบร่องรอยทั้งหมดทุกคนก็กลับเข้าสู่หอคอยจักรพรรดิ ชิงสุ่ยคลี่คลายสีหน้าตึงเครียดกลับสู่สีหน้าสงบ หญิงสาวทั้งหมดรู้ถึงความเป็นไปแต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร