บทที่ 1625 เปิดตัวตราประทับเหล่าโป

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1625 เปิดตัวตราประทับเหล่าโป

 

ตะลึง!

 

ผู้อมตะทั้งหมดในที่เกิดหตุตกใจมากเมื่อเห็นฟางหยวนต่อสู้กับทุกคนด้วยตัวเขาเพียงลําพัง

 

พวกเขาต้องการขัดขวางการก้าวข้ามภัยพิบัติของฟางหยวนเพื่อป้องกันไม่ให้เขากลายเป็นผู้อมตะระดับแปด

 

แต่โดยไม่คาดคิดเขากลับเป็นผู้อมตะระดับแปดไปแล้ว

 

ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงนี้ทําให้ทุกคนไม่สามารถตอบสนองและไม่ระวังตัว

 

“เขากลายเป็นผู้อมตะระดับแปดตั้งแต่เมื่อใด?” ดวงตาของชื่อชิวหยูเบิกกว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

 

“มันไม่แปลกที่เขาสามารถใช้กรรไกรฤดูใบไม้ผลิและพัดฤดูร้อน สิ่งสําคัญคือท่าไม้ตายเหล่านี้ถูกขยายพลังอํานาจด้วยร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าและสามารถหยุดการโจมตีทั้งหมด ของเรา แม้ฟางหยวนจะก้าวเข้าสู่ระดับแปด แต่เหตุใดเขาถึงมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ามากมายในระยะเวลาสั้นๆ บางทีเขาอาจยึดครองร่างของเซี่ยชาและใช้ใบหน้าที่คุ้นเคยเพื่อหลอกลวง พวกเราและทําให้เราคิดว่าเขาผ่านภัยพิบัติเรียบร้อยแล้ว” เฉิงอู๋เจียวิเคราะห์อย่างรวดเร็ว

 

“ไม่! กรรไกรฤดูใบไม้ผลิและพัดฤดูร้อนของผู้อาวุโสเซียชาเป็นท่าไม้ตายอมตะระดับแปดทั้งคู่ พวกมันต้องใช้พลังงานอมตะระดับแปดเท่านั้น!” ผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่สองของตระกูลเซี่ย เซี่ยเจาตะโกน

 

“หากเป็นเช่นนั้น” เฉิงอู๋เจียลังเล

 

ผู้อมตะไม่สามารถใช้พลังงานอมตะของผู้อื่น มีเพียงจิตวิญญาณแผ่นดินหรือจิตวิญญาณสวรรค์เท่านั้นที่สามารถใช้พลังงานอมตะของพวกเขา

 

เว้นเพียงสิ่งเดียว นั่นคือคฤหาสน์วิญญาณอมตะที่สามารถใช้พลังงานอมตะจากแหล่งใดก็ได้ ท่าไม้ตายอมตะของฟางหยวนชัดเจนว่าไม่ใช่คฤหาสน์วิญญาณอมตะ

 

หากฟางหยวนเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด เขาจะไม่สามารถใช้วิญญาณอมตะฤดูใบไม้ผลิระดับแปด และวิญญาณอมตะฤดูร้อนระดับแปด แม้เขาจะยึดครองร่างกายของเซี่ยชาและได้รับพลังงานอมตะของนางก็ตาม

 

“ไม่มีประโยชน์ที่จะคิดมาก เราจะรู้หลังจากฆ่าฟางหยวน” วูหยงกระตุ้น

 

เขาบินไปข้างหน้าโดยทิ้งอสูรปีแรกกําเนิดที่ล้มลงบนพื้นและไม่สามารถลุกขึ้นเอาไว้ข้างหลัง

 

ในช่วงเวลาสําคัญวูหยงแสดงความแข็งแกร่งออกมา แรกเริ่มเขาสังหารอสูรปีแรกกําเนิดของฟางหยวน จากนั้นก็ใช้กําลังทั้งหมดเพื่อโจมตีฟางหยวน

 

“ฟางหยวน!” ดวงตาของวูหยงเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร “แม้เจ้าจะก้าวเข้าสู่ระดับแปด เจ้าก็ยังไม่สามารถรอดพ้นจากหายนะในวันนี้ เทือกเขาห้าภูมิภาคที่เจ้าเลือกอย่างระมัดระวังจะเป็นสุสานของเจ้า!”

 

หลังวูหยงกล่าวจบคํา เทือกเขาห้าภูมิภาคก็เกิดการสั่นสะเทือนขึ้นอย่างรุนแรง

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” กลุ่มผู้อมตะตะลึง

 

เสียงของวูหยงดังเข้าหูของทุกคน “อย่าตกใจ นี่เป็นแผนสํารองของข้า มันสามารถเลื่อนเส้นโลหิตปฐพีและทําลายเทือกเขาห้าภูมิภาค!”

 

กลุ่มผู้อมตะยิ่งตกใจมากขึ้น

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่แสงห้าสีของเทือกเขาห้าภูมิภาคที่กดดันกลุ่มผู้อมตะทั้งหมดเริ่มจางหายไป

 

“นี่!?” กระทั่งจวินเฉินกวงยังประหลาดใจ

 

“น่าทึ่ง หากปราศจากพันธนาการนี้ พลังการต่อสู้ของพวกเราจะกลับมา เราจะไม่ถูกกดขี่อีกต่อไป!” ผู้อมตะภาคใต้รู้สึกมีความสุข

 

“วูหยงแตกต่างจากตู้ซิ่วจริงๆ เขายังมีไพ่ตายซ่อนอยู่!” ดวงตาของเฉิงอู๋เจียส่องประกายแหลมคม

 

“ตระกูลวจะคุ้ยเคยกับเทือกเขาห้าภูมิภาคได้อย่างไร เพียงการเลื่อนเส้นโลหิตปฐพีไม่สามารถทําให้เกิดสิ่งนี้ มันต้องเป็นการเตรียมการของเต๋าจูในอดีต!” จื่อชิวหยูคิดอย่างรวดเร็ว

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะของตระกูลรูและตระกูลเฉียวที่อยู่รอบๆเทือกเขาห้าภูมิภาคทํางานตลอดเวลา นั่นเป็นที่มาของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

 

เฉียวซื่อหลิว วูอวี้ป้อ และคนอื่นๆเป็นผู้ดูแลค่ายกลวิญญาณอมตะนี้

 

วอวี้ป๋อหัวเราะเสียงเย็นขณะมองเข้าไปในสนามรบ “ปีศาจฟางหยวนต้องการใช้เทือกเขาห้าภูมิภาค เมื่อเราทําลายข้อได้เปรียบนี้ เขาจะป้องกันการโจมตีของฝ่ายธรรมะของภาคใต้ได้อย่างไร?”

 

เฉียวซื่อหลิวเงียบ การแสดงออกของนางซับซ้อนเล็กน้อย

 

นางเคยสนิทกับวูไห่และเชื่อว่านางกับเขาจะแต่งงานกัน แต่ผลลัพธ์กลับอยู่นอกเหนือจินตนาการของนาง วูอี้ไห่คือฟางหยวนที่ปลอมตัวมา นางรู้สึกหนาวสั้นทุกครั้งที่คิดว่านางใกล้ชิดกับปีศาจที่ยิ่งใหญ่ผู้นี้มากเพียงใด

 

แต่นางไม่มีความรู้สึกพิเศษกับฟางหยวน อารมณ์ซับซ้อนของนางเกิดจากเทือกเขาห้าภูมิภาค

 

ทุกคนคิดว่างานวิจัยของเต๋าจูเกี่ยวกับกําแพงภูมิภาคไม่ประสบความสําเร็จ แต่นั่นไม่เป็นความจริง

 

ตระกูลเฉียวได้รับเบาะแสเกี่ยวกับมรดกของเต๋าจูโดยบังเอิญและลอบสํารวจมันอย่างลับๆ

 

แต่พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าวุหยงจะทราบข้อมูลนี้เช่นกัน ภายใต้แรงกดดันของเขา ตระกูลเฉียวต้องส่งมอบสิ่งที่ค้นพบให้เขาและมันถูกใช้ในเวลานี้

 

เป็นเพราะเบาะแสดังกล่าวที่ทําให้วุหยงเข้าใจเทือกเขาห้าภูมิภาคและสามารถทําลายแสงห้าสีโดยการเคลื่อนเส้นโลหิตปฐพี หากเป็นคนอื่นที่พยายามเคลื่อนเส้นโลหิตปฐพีโดยปราศจากความรู้ พวกเขาจะไม่สามารถทําสิ่งนี้

 

โอ้ นี่คือมรดกของผู้อมตะระดับแปด แต่มันถูกใช้ไปกับการทําลายเทือกเขาห้าภูมิภาค ไม่มีความหวังที่จะสํารวจมันอีกต่อไป เฉียวซื่อหลิวลอบถอนหายใจ

 

นางดูเหมือนคิดมากแต่เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน

 

จวินเฉินกวงถูกไล่ล่าโดยฟางหยวน ผู้อมตะภาคใต้โจมตีฟางหยวน แต่การโจมตีของพวกเขาถูกปิดกั้นโดยฟางหยวน ผู้อมตะภาคใต้เร่งหารือ ขณะเดียวกันวุหยงเริ่มเคลื่อนไหวเป็นครั้งแรก เทือกเขาห้าภูมิภาคพังทลายลง ข้อได้เปรียบของฟางหวนหายไป

 

การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเกิดขึ้นแทบจะในเวลาเดียวกัน

 

ฟางหยวนอดทนต่อการโจมตีของผู้อมตะภาคใต้ขณะไล่ล่าจวินเฉินกวงโดยไม่สนใจวูหยง

 

จวินเฉินกวงใช้ไพ่ตายของเขา แสงเทพสุริยัน แต่มันใช้พลังงานอมตะจํานวนมากขณะเดียวกัน ร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าของเขาก็ลดลงอย่างถาวร มันเป็นการเคลื่อนไหวที่จะสร้างความเสียหายให้กับศัตรูและตัวเขาเอง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังใช้มันในเทือกเขาห้าภูมิภาคและได้รับผลกระทบย้อนกลับที่รุนแรง แม้เขาจะสามารถหลบหนีได้ชั่วระยะเวลาหนึ่งแต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

อย่างไรก็ตามตอนนี้แสงห้าสีอ่อนกําลังลงอย่างรวดเร็ว จวินเฉิงกวงรู้สึกราวกับโยนภูเขาออกจากบ่า ความกังวลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาหายไป

 

เมื่อเห็นวูหยงที่กําลังไล่ล่าฟางหยวน จวินเฉินกวงคิด “ข้าควรร่วมมือกับผู้อมตะภาคใต้เพื่อสังหารฟางหยวนหรือไม่?”

 

แต่จวินเฉินกวงก็บัดความคิดนี้ทิ้งไปทันที

 

“หนีต่อไป!”

 

สถานการณ์ปัจจุบันซับซ้อนมาก เขาไม่ใช่ผู้อมตะภาคใต้ สิ่งสําคัญกว่าก็คือฟางหยวนกําลังไล่ล่าเขา หากเขาสามารถหลบหนี นั่นจะหมายถึงความล้มเหลวของฟางหยวน

 

จวินเฉินกวงให้ความสําคัญกับการหลบหนี นี่เป็นความคิดที่ฉลาดมาก

 

ฟางหยวนยังไล่ล่าเขาโดยไม่คํานึงถึงวูหยง

 

อย่างไรก็ตามสถานการณ์กลับเกิดการเปลี่ยนแปลงโดยไม่คาดคิด

 

เสาแสงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างกะทันหัน “รุ่นน้องที่ดี เจ้าทําได้เยี่ยม เจ้าผ่านการทดสอบสุดท้ายของข้าในการทําลายเทือกเขาห้าภูมิภาค ตอนนี้มรดกห้าภูมิภาคของข้าเป็นของเจ้าแล้ว ฝึกฝนให้ดี จากนั้นเจ้าจะสามารถเดินทางไปทั่วโลกโดยไม่มีสิ่งใดสามารถกีดขวาง อย่าทําให้ชื่อของข้าต้องมัวหมอง”

 

เงาร่างของผู้อมตะปรากฏขึ้นท่ามกลางเสาแสง

 

สิ่งนี้ดึงดูดสายตาของผู้คนทั้งหมด บางคนจํารูปลักษณ์ของเขาได้ “นี่ดูเหมือนตาแก่เต๋าจู”

 

“นี่เป็นไปได้อย่างไร?” เฉียวซื่อหลิวรู้สึกแปลกใจ “การทดสอบสุดท้ายของตาแก่เต๋าจูคือการทําลายเทือกเขาห้าภูมิภาคงั้นหรือ? การกระทําโดยบังเอิญนี้ทําให้มรดกของเขาปรากฏขึ้น!”

 

เจตจํานงของเต้จูได้ยินบางคนเรียกเขาว่าตาแก่และรู้สึกไม่มีความสุข เขากล่าวอย่างเย่อหยิ่ง “เมื่อเจ้าเป็นผู้สืบทอดของข้า เหตุใดถึงกล้าดูหมิ่นข้า?”

 

“ครืน…”

 

สายลมกรรโชกแรง สวรรค์พิภพคําราม

 

เสียงที่ตอบกลับเจตจํานงของเต๋าจูคือท่าไม้ตายอมตะของวูหยง อย่างไรก็ตามเป้าหมายไม่ใช่เขา แต่เป็นฟางหยวน

 

เกิดระลอกคลื่นบนพื้นผิวของเกราะหวนคืน

 

ท่าไม้ตายอมตะของวูหยงสะท้อนกลับไป

 

แต่ความเร็วของฟางหยวนก็ลดลงเล็กน้อย

 

ฟางหยวนยังบินต่อไปขณะเดียวกันก็สะท้อนการโจมตีทั้งหมดกลับไป

 

“อันใด!?” เจตจํานงของเต๋าจูตกตะลึง เขามองไปรอบๆและพบผู้อมตะระดับแปดหลายคนกําลังต่อสู้ นอกจากนี้ยังมีผู้อมตะระดับเจ็ดอีกนับไม่ถ้วนท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย

 

“เกิดสิ่งใดขึ้น?” สิ่งนี้แตกต่างจากความคาดหวังของเขาอย่างสิ้นเชิง ไม่มีรุ่นน้องที่ดีอยู่ต่อหน้าเขา มีเพียงผู้อมตะที่ดุร้ายและหยาบคายเท่านั้น

 

“อย่าสนใจเขา เขาก็แค่คนตาย!”

 

“มรดกอยู่ที่นี่ เราสามารถกลับมาเอาหลังการต่อสู้!”

 

“เรื่องเร่งด่วนตอนนี้คือการฆ่าฟางหยวน! ไม่ต้องกล่าวถึงมรดกของเต๋าจู แม้แต่มรดกของเทพอมตะข้าก็ยินดีละทิ้งเพื่อฆ่าฟางหยวน!”

 

กลุ่มผู้อมตะตะโกนด้วยความโกรธ ความสนใจของพวกเขาอยู่ที่ฟางหยวนเท่านั้น

 

เจตจํานงของเต๋าจู “…”

 

เขาตกตะลึง สิ่งนี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขาอย่างสิ้นเชิง

 

หลังจากไม่นานเขาก็กรีดร้อง “ผู้ใดกันที่ถูกผู้อมตะมากมายไล่ล่าเช่นนี้ เพื่อฆ่าเขา พวกเขายินดีละทิ้งมรดกของเทพอมตะงั้นหรือ?”

 

เจตจํานงของเต๋าจูมองฟางหยวนแต่ไม่รู้จัก

 

“เขาคือผู้ใด?”

 

ในที่สุดฟางหยวนก็เข้าประชิดตัวจวินเฉินกวง

 

ร่างกายของจวินเฉินกวงเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ สัญญาณเตือนดังขึ้นในใจของเขาอย่างบ้าคลั่ง

 

เขาหลบหนีอย่างสุดกําลังและลอบสาปแช่งอยู่ภายใน วูหยง คนสารเลว ท่าไม้ตายของ เจ้าส่งผลกระทบมาถึงข้า!”

 

ท่าไม้ตายของวูหยงมีขอบเขตกว้างมาก แม้แต่จวินเฉินกวงก็ยังได้รับการดูแลอย่างดีจากวิธีการที่ยอดเยี่ยมของวูหยง นั่นทําให้พลังการต่อสู้ของจวินเฉินกวงลดลงอย่างรวดเร็ว ความเร็วของเขากระทั่งลดลงมากกว่าฟางหยวน

 

“มันจบแล้ว” ฟางหยวนพึมพําเบาๆและเริ่มโจมตี

 

เงาของหุบเขาเหล่าโปปรากฏขึ้นฝ่ามือของฟางหยวนก่อนที่แสงสีเทาจะพุ่งออกไป

 

จวินเฉินกวงที่พยายามหลบหนีถูกสายลมของวูหยงจํากัดการเคลื่อนไหว

 

เขาต้องการสาปแช่งวูหยงแต่เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะก่นด่าเมื่อลําแสงสีเทาของฟางหยวนมาถึง

 

ทันใดนั้นการเคลื่อนไหวของเขาก็หยุดลงอย่างกะทันหัน ร่างกายของเขาไม่มีบาดแผล แต่ดวงวิญญาณของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและแทบจะแตกดับไปในครั้งเดียว!

 

ท่าไม้ตายอมตะตราประทับเหล่าโป!

 

ขณะที่จวินเฉินกวงกําลังมีนงง คฤหาสน์วิญญารอมตะหลังหนึ่งพลันปรากฏขึ้นด้านข้างฟางหยวน จากภายในคฤหาสน์วิญญาณอมตะหลังนี้ อิงอู่เชี่ยกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะที่เขาเตรียมไว้ล่วงหน้า

 

ท่าไม้ตายอมตะนําวิญญาณสู่ความฝัน!

 

จวินเฉินกวงไม่สามารถตอบสนองและถูกนําเข้าสู่อาณาจักรแห่งความฝันทันที

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะดึงจวินเฉินกวงเข้าไปภายในและบินไปพร้อมกับฟางหยวน

 

วูหยงหน้าซีด!

 

เขาไม่คาดหวังว่าฟางหยวนจะสามารถจับจวินเฉินกวงได้ในครั้งเดียว

 

ก่อนหน้านี้ฟางหยวนจับกลุ่มผู้อมตะของภาคใต้ด้วยค่ายกลวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่ง กาลเวลาที่ถูกจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าอย่างพิถีพิถัน แต่ตอนนี้เขากลับสามารถจับจวินเฉินกวงได้อย่างง่ายดาย

 

ความก้าวหน้าที่รวดเร็วชนิดนี้น่าสยดสยองเกินไป

 

“มันเป็นท่าไม้ตายชนิดใด? ข้ารู้สึกว่ามันเกี่ยวกับจิตวิญญาณ มันน่ากลัวมาก ข้าต้องระวังมัน!”

 

“นอกจากนั้นยังมีคฤหาสน์วิญญาณอมตะ! มันมีวิธีการปกปิดตัวตนที่ยอดเยี่ยม!”

 

ผู้อมตะระดับแปดของภาคใต้พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว

 

แต่เมื่อพวกเขาเห็นวิธีการที่ฟางหยวนจับจวินเฉินกวง เจตจํานงแห่งการต่อสู้ แตกสลายไปทันที