ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ Facebook Fanpage กดเลย
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
••••••••••••••••••••
บทที่****284: จนมุม
หนึ่งชั่วโมงต่อมามีเรือยักษ์สีม่วงเข้ามาสู่ระยะยิงของหวงหลงสายฟ้าสีม่วง เหตุผลเดียวในตอนนี้ที่ทำให้มันเป็นผู้นำได้ก็คือสิ่งนี้ แม้ว่าจะไม่อาจเทียบความเร็วได้กับหางเสือของเรือมังกรทองคำแต่มันก็ถือว่าไม่แย่นักเมื่อสามารถหลบหนีเรือที่เต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญในการเพิ่มความเร็ว ซึ่งเรือเหล่านั้นความเร็วประมานสี่พันหน่วย เมื่อมีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยมันจะเพิ่มความเร็วได้ถึงสามในสิบ
เรือที่เข้ามาในตอนนี้ตกแต่งด้วยสีม่วงทั่วทั้งลำ ทำให้มันดูสวยงามและอลังการอย่างยิ่ง อีกทั้งมันยังประเมินพลังของหวงหลงสายฟ้าสีม่วงน้อยเกินไป
โดยปกติแล้วระยะการโจมตีของปืนใหญ่ในเรือนั้นอยู่ประมานหนึ่งลี้หรือมากกว่านั้นเล็กน้อย แม้ว่าพลังของมันจะรุนแรงผิดปกติแต่พวกเขาคิดว่ามันจะไม่สามารถโจมตีได้ไกลถึงสามสิบลี้ ดังนั้นเรือยักษ์สีม่วงจึงคิดว่าตนเองปลอดภัยเมื่อเข้ามาอยู่ในระยะห่างสามสิบลี้ อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าหวงหลงสายฟ้าสีม่วงนี้มีระยะยิงอยู่ที่ร้อยลี้! แต่ซ่งจงนั้นยิงออกไปในระยะสามสิบลี้เท่านั้นเพื่อปกปิดพลังที่แท้จริงของมัน
ในช่วงเวลาความเป็นและความตายเช่นนี้ แน่นอนว่าซ่งจงจะไม่ปกปิดพลังของปืนใหญ่อีกต่อไป ดังนั้นเขาเปิดใช้งานหวงหลงสายฟ้าสีม่วงทันทีเมื่อมีเรือเข้ามาในระยะยิง ในขณะที่มันถูกยิงออกไป ผู้ฝึกตนบนเรือยักษ์สีม่วงต่างหวาดกลัว อย่างไรก็ตามผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินที่ยังพอมีสติตะโกนออกมาว่า “วิ่ง!” ซึ่งเขาเป็นคนแรกที่หยิบดาบบินออกมาและบินหนีไปอย่างรวดเร็ว เมื่อมองเห็นการหลบหนีของอาวุโสระดับหยวนหยิน เหล่าสาวกที่เหลืออยู่ย่อมไม่เผชิญหน้ากับความตายเช่นกัน บนเรือยักษ์สีม่วงเต็มไปด้วยความชุลมุน เมื่อสายฟ้าสีม่วงมาถึงเรือ แน่นอนว่าทุกอย่างบนนั้นได้ว่างเปล่าเสียแล้ว
แม้ว่าเหล่าสาวกจะหลบหนีออกไปได้อย่างรวดเร็ว แต่พวกเขาไม่สามารถหลบหนีความตายได้พ้น เพราะรัศมีการระเบิดของสายฟ้าสีม่วงนั้นโหดร้ายเกินไป รัศมีไม่กี่ลี้โดยรอบถูกระเบิดเต็มไปด้วยการเผาไหม้ สังหารผู้ฝึกตนที่อยู่ใกล้เคียงให้ตายตกไปอย่างน่าสมเพช
เมื่อเห็นว่าสมบัติของสำนักตนได้ถูกทำลายลงไปอย่างไร ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินที่หลบหนีได้แต่มองด้วยแววตาที่เจ็บปวด พวกเขาแทบจะอ้วกออกมาเป็นเลือดจากความโกรธ เรือที่บินตามมาด้านหลังทั้งหมดลดความเร็วลงไม่กล้าที่จะเข้าใกล้เรือมังกรทองคำอีกต่อไป
ในขณะที่ฮัวชิงหยุนสัญญาว่าจะชดเชยความสูญเสียของพวกเขาเป็นสองเท่า แต่เรือเหาะนั้นเป็นสมบัติประจำสำนักและวัสดุที่มีอยู่นั้นไม่พอที่จะปรับแต่งมันขึ้นมาใหม่ อีกทั้งพวกเขายังต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากในการสร้างมันอีกครั้ง ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดอยากที่จะสูญเสียมันไปโดยไร้เหตุผล
เมื่อเห็นว่าบุคคลที่กำลังไล่ล่าเขาเริ่มหวาดกลัวและลดความเร็วลง ซ่งจงได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก จากนั้นเขากล่าวกับแม่มดเทวะอย่างร่าเริง “เยี่ยม ยอดเยี่ยมมาก! สมแล้วที่พวกเจ้ามีชีวิตมายาวนานกว่าพันปีภายในภาพวาดแห่งหญิงงามทั้งเก้า ข้าไม่เคยคิดเลยว่าพวกเจ้าจะมอบแผนการที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ให้กับข้า ในตอนนี้ถือได้ว่าข้านั้นมีหญิงงามและนักยุทธศาสตร์ที่เก่งกาจทั้งเก้าอยู่เคียงข้างแล้ว!”
“ฮี่ฮี่ นายท่านชมพวกเรามากเกินไปแล้ว!” แม่มดเทวะกล่าวออกมาอย่างเขินอาย ในเวลานั้นพวกนางมองซ่งจงด้วยสายตาที่อ้อนวอนทำให้เกิดไฟราคะขึ้นภายในหัวใจของซ่งจงอีกครั้ง
ในขณะที่ซ่งจงกำลังทำตัวเจ้าชู้กับแม่มดเทวะทั้งเก้า เสียงที่น่ารำคาญของนักบวชฮัวอวิ๋นดังขึ้นอีกครั้ง “สหายลัทธิเต๋าไม่จำเป็นต้องเกรงกลัวสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ทุกท่านแยกย้ายกันเพื่อล้อมรอบเรือมังกรทองคำ ข้าจะเป็นคนพุ่งเข้าหาเรือมังกรทองคำเพื่อรับพลังการโจมตีของมันเอง! หลังจากนั้นขอให้ทุกท่านช่วยดูแลที่เหลือได้หรือไม่?”
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้น ทั้งหมดฮึกเหิมขึ้นมาทันที พวกเขารู้ดีว่าพลังของหวงหลงสายฟ้าสีม่วงนั้นแข็งแกร่งมาก แต่มันไม่อาจยิงออกมาได้อย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่จะเริ่มการยิงอีกครั้ง มันจะต้องได้พักสักระยะหนึ่ง ถ้านักบวชฮัวอวิ๋นดึงดูดพลังการโจมตีทั้งหมดไป เช่นนั้นคนอื่นจะสามารถล้อมรอบเขาได้จากทุกทิศทาง ซึ่งจะสามารถสังหารซ่งจงได้อย่างง่ายดาย ผู้ฝึกตนทุกคนในตอนนี้ล้วนแต่เป็นคนฉลาดและเข้าใจทุกสิ่งได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นทั้งหมดตอบกลับอย่างเคร่งขรึม “หากนักบวชฮัวอวิ๋นยินดีที่จะเป็นตัวล่อ พวกเราก็พร้อมที่จะทำตามท่าน!”
“ยอดเยี่ยม ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ข้าขอให้พวกเจ้าล้อมรอบเด็กเหลือขอคนนี้ได้หรือไม่?” นักบวชฮัวอวิ๋นตอบกลับ
“ตกลง!” ผู้ฝึกตนทั้งหมดตอบรับทันที จากนั้นเรือเหาะทั้งสามสิบลำกระจายตัวออกไปทันที พร้อมกับล้อมรอบเรือมังกรทองคำจากด้านข้างและพวกเขาพยายามรักษาระยะห่างให้ได้มากที่สุดเพื่อความปลอดภัย ในตอนนี้ไม่มีใครกล้าที่จะเข้าใกล้ระยะยิงของหวงหลงสายฟ้าสีม่วงอีกแล้ว ดังนั้นซ่งจงจึงไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์! ถ้าหากพวกเขาทั้งหมดโจมตีพร้อมกันซ่งจงจะอยู่ในอันตรายอย่างแน่นอน แม้ว่าจะสามารถทำลายเรือของนักบวชฮัวอวิ๋นได้
ซ่งจงขมวดคิ้วพร้อมกับถามออกมา “พวกเจ้าคิดว่าเราควรจะทำอย่างไรดี?”
“นายท่าน เนื่องจากพวกเขาจะโจมตีโดยไม่นึกถึงค่าใช้จ่าย พวกเราไม่มีแผนที่ดีพอที่จะหยุดพวกเขา แต่ว่า…” แม่มดเทวะขมวดคิ้วพร้อมกับกล่าวต่อ “แต่ทว่านายท่านนั้นมีสมบัติมากมายที่พวกเขาต้องการ เช่นนั้นเราจึงไม่ต้องเกรงกลัวการโจมตีเหล่านั้น!”
“งั้นหรือ?” เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น ดวงตาเขาสว่างขึ้นพร้อมถามว่า “เช่นนั้นเจ้าคิดว่าเราควรทำสิ่งใด?”
“นายท่าน เราจะต้องจับกุมผู้นำทีมของเขาก่อน ในตอนนี้คนที่กระตุ้นให้คนเหล่านี้โจมตีทันก็คือหอเฉวียนจี้ สำนักเสวียนเทียนและสำนักพันปีศาจ ช่วงเวลาที่การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นให้มุ่งเน้นไปที่พวกเขา หลังจากนั้นบุคคลที่อยู่ข้างหลังจะสูญเสียกำลังใจในการโจมตีและจะถอยห่างออกไปเอง สำหรับการป้องกัน เรือมังกรทองคำก็คงไม่สามารถป้องกันการโจมตีทั้งหมดนี้ได้ แต่ถ้าหากท่านยินดีที่จะใช้ระฆังทองแดงขนาดใหญ่นั้น เราอาจจะมีโอกาสต่อสู้มากขึ้น!” แม่มดเทวะกล่าวออกมาอย่างสงบ
“ระฆังทองแดงงั้นหรือ?” ซ่งจงขมวดคิ้วก่อนที่จะตอบกลับอย่างขื่นขม “ลืมมันไปได้เลยที่จะนำมันออกมาในเวลาเช่นนี้ ถ้าหากข้านำมันออกมา แน่นอนว่าในอนาคตข้าคงไม่สามารถนำมันออกมาได้อีก!” เนื่องจากในตอนนี้เขาตัดสินใจทุกสิ่งแล้ว ซ่งจงไม่เกรงกลัวอีกต่อไป เขาพร้อมที่จะอดทนต่อสู้ไปเช่นนี้ เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ในตอนนี้เรือทุกลำที่ไล่ตามซ่งจงได้ล้อมรอบเขาอย่างสมบูรณ์ด้วยความเร็วเท่าๆกัน
และในเวลาเดียวกันเรือของนักบวชฮัวอวิ๋นได้เข้าสู่ระยะยิงของหวงหลงสายฟ้าสีม่วงแล้ว เรือมังกรอัคคีนั้นดูเหมือนมังกรไฟที่แท้จริง มันพุ่งเข้าหาเรือมังกรทองคำด้วยไฟที่ลุกท่วม ในขณะที่ซ่งจงเห็นเช่นนั้น เขาเย้ยหยันออกมาพร้อมกับโบกมือเพื่อปลดปล่อยหวงหลงสายฟ้าสีม่วงอย่างไม่ลังเล จากนั้นลูกไฟพุ่งเข้าใส่เรือมังกรอัคคีราวกับดาวหางพุ่งชนโลก!
ทุกคนนั้นคิดว่านักบวชฮัวอวิ๋นจะหลบหนีจากเรือ แต่เขากลับหยิบไข่มุกสีดำออกมา ขว้างมันใส่หวงหลงสายฟ้าสีม่วงทันที!
ในเวลานั้นนักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวออกมาพร้อมกับหัวเราะอย่างเย็นชา “เจ้ากล้าอวดดีต่อหน้าข้าได้อย่างไรซ่งจง? ข้าจะแสดงพลังของสำนักเสวียนเทียนให้เจ้าดูเดี๋ยวนี้!” เมื่อนักบวชฮัวอวิ๋นกล่าวเช่นนั้น ไข่มุกสีดำปะทะเข้ากับสายฟ้าสีม่วงทันที จากนั้นสายฟ้าได้ระเบิดกลางอากาศเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว พลังที่ถูกปล่อยออกมาอย่างกลัวเกินกว่าจะจินตนาการได้ ไม่ว่าการระเบิดครั้งนี้จะดูโหดร้ายสักเพียงใด ก็ไม่สามารถทำอันตรายกับเรือมังกรอัคคีที่อยู่ห่างไปหลายสิบลี้ได้เลย
เมื่อเห็นว่านักบวชฮัวอวิ๋นสามารถจัดการกับสายฟ้าสีม่วงได้อย่างง่ายดาย ผู้คนโดยรอบตะโกนออกมาทันที “ยอดเยี่ยม!” ในเวลานั้นพวกเขาเร่งเรือเหาะของตนเองพุ่งเข้าหาเรือมังกรทองคำทันที เมื่อซ่งจงเห็นเช่นนั้น เขาอดตกใจไม่ได้พร้อมกับพึมพำออกมา “นี่เป็นสิ่งที่นักบวชฮัวอวิ๋นวางแผนมาก่อนอย่างแน่นอน เห็นได้ชัดว่าเขาสามารถรับมือกับหวงหลงสายฟ้าสีม่วงได้ แต่เขาไม่ได้นำมันออกมาในครั้งแรก เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการต้อนข้าให้จนมุม!”
ในขณะที่ซ่งจงกำลังไม่พอใจกับการกระทำของนักบวชฮัวอวิ๋น แต่เขานั้นต้องยอมรับว่าการกระทำเช่นนี้ของนักบวชฮัวอวิ๋นนั้นมีประโยชน์อย่างมาก เขาใช้ประโยชน์จากเรือเหาะไม่กี่ลำก่อนหน้านี้ทำให้หวงหลงสายฟ้าสีม่วงนั้นดูเหมือนกับว่าจะเป็นอมตะ จากนั้นเขาทำลายพลังของสายฟ้าสีม่วงเพื่อเพิ่มกำลังใจให้กับทีมของตน ในตอนนี้ผู้ฝึกตนโดยรอบฮึกเหิมขึ้นมาอีกครั้งและพร้อมที่จะต่อสู้อย่างหมดใจ
ตอนนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว ซ่งจงนั้นไม่มีแผนสำรอง ในตอนนี้แม้ว่าเขาจะต้องต่อสู้เอง แน่นอนว่าเขาก็ไม่ได้มีความกลัวในหัวใจเช่นกัน
เขาปลดปล่อยจิตสังหารอันมหาศาลออกมาพร้อมกับคำรามลั่น “มาสู้กัน! อย่าได้คิดว่าข้าจะเกรงกลัวพวกเจ้าทุกคน! พวกเจ้าบังคับข้าให้ทำเช่นนี้เอง!”
ในขณะที่เขาคำรามออกมา ซ่งจงใช้ประโยชน์จากการโจมตีระยะไกลปลดปล่อยสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ออกไปเพื่อล้อมรอบเรือมังกรอัคคีเมื่อครู่นี้ เนื่องจากเขามีหินจิตวิญญาณระดับสูงที่เทพธิดาเหมยฮวามอบให้ ซ่งจงจึงมีใช้อย่างเหลือเฟือ ดังนั้นการโจมตีของเขาในทุกครั้งจึงเป็นพลังที่แข็งแกร่งและไม่ต้องกังวลว่าหินจิตวิญญาณจะหมดลงในเร็วๆนี้อีกด้วย การอยู่ใกล้กับเรือมังกรอัคคีที่กำลังจะระเบิดเพราะพลังของสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์นับพันลูก แน่นอนว่ามันไม่อาจอดทนต่อการโจมตีเช่นนี้ได้ การป้องกันของมันถูกลอกออกเป็นชั้นๆอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากเหตุการณ์ยังคงเป็นต่อไปเช่นนี้ แน่นอนว่าเรือจะถูกทำลายเป็นผุยผง นักบวชฮัวอวิ๋นไม่รู้จะทำเช่นไรนอกจากสั่งให้สาวกที่เก่งกาจที่สุดของตนมาต่อสู้กับสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ด้วยสมบัติวิเศษของพวกเขาเอง จากนั้นเขาสั่งให้เรือมังกรอัคคีหนีอย่างรวดเร็ว เพราะว่าเรือมังกรทองคำนั้นเหาะด้วยความเร็วสูงสุดเสมอ และในตอนนี้ระยะห่างของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเรือมังกรอัคคีหยุดลง เช่นนี้จึงทำให้เรือมังกรอัคคีสามารถหลบหนีจากเรือมังกรทองคำได้ในระยะหนึ่ง
ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีเรือมังกรอัคคีได้หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ในขณะนั้นพวกเขาได้รับความทรมานจากคลื่นสายฟ้านับพันลูก ซึ่งเรือมังกรอัคคีถูกปกป้องไว้ได้โดยนักบวชฮัวอวิ๋น
ในสายตาของซ่งจงนั้นมองเรือมังกรอัคคีเป็นเพียงเป็ดย่างที่กำลังสุกแต่หลุดออกไปจากปากเขาเสียแล้ว ซึ่งมันเป็นความหดหู่ที่ไม่สามารถอธิบายได้ อย่างไรก็ตามการโจมตีที่หนักหน่วงกำลังเคลื่อนไหวอยู่รอบๆเขา ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะหันหลังกลับและไล่ล่านักบวชฮัวอวิ๋น ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงกลืนความโกรธลงไปพร้อมกับค่อยๆมองเรือมังกรอัคคีหายไปจากสายตา ในตอนนี้มีเรือสามลำบินเข้ามาในระยะยิงของเขาอีกครั้ง โอกาสที่เรือทั้งสามลำจะได้ระบายความโกรธมาถึงแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาจะไม่ชักช้า ทั้งหมดหยิบไพ่ตายของตนเองออกมาพร้อมกับพุ่งมาที่เรือมังกรทองคำอย่างไม่ห่วงชีวิตตนเอง วินาทีต่อมาเกิดเป็นสายฟ้านับพันร่วงหล่นจากท้องฟ้า ไม่ว่าจะเป็นสายฟ้าของสำนักชอบธรรมหรือสำนักชั่วร้าย ล้วนแต่แสดงพลังของตนเองออกมาอย่างดีเยี่ยม นอกจากนั้นบางคนยังมีการโจมตีที่พิเศษ อย่างเช่นหน้าไม้ยักษ์ และผู้เชี่ยวชาญระดับสูงยังเข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้ด้วยสมบัติวิเศษของตนเองอีกด้วย
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีทุกทิศทางเช่นนี้ ซ่งจงรู้สึกเวียนหัวทันที ไม่ต้องกล่าวถึงว่าจะป้องกันอย่างไรเลย เพียงได้มองเจตนาของผู้ฝึกตนทุกคนที่โจมตีเข้ามาแล้ว จะเห็นได้ว่าพวกเขาใช้ทุกสิ่งที่มีทั้งหมดแล้วเช่นกัน ดังนั้นซ่งจงจะต้องตายในคราวนี้อย่างแน่นอน!
อย่างไรก็ตามในสภาวะที่อันตรายเช่นนี้ ปรากฏเสียงระฆังดังกังวานออกมา รูปลักษณ์ขนาดใหญ่ของมันปรากฏขึ้นทันที มันคือระฆังที่สูงใหญ่กว่าหนึ่งหมื่นฟุต ลวดลายจารึกที่สวยงามถูกแกะสลักไว้บนนั้น จันทราและดวงดาราที่อยู่ด้านบนของมัน อีกทั้งรูปลักษณ์แห่งสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ภูไพร ลำธาร อสูรกายในตำนานมากมายที่ถูกสลักไว้บนระฆังทำให้มันดูน่าเกรงขามอย่างไม่อาจอดทนได้ ผู้ฝึกตนที่ได้เห็นมันปรากฏขึ้นเช่นนั้นต่างพากันตกตะลึงอย่างไม่อาจช่วยได้ ทั้งหมดเงียบงัน เข้าสู่สภาวะกดดันทันที แต่อย่างไรก็ตามไม่ใช่ระฆังที่ทำให้พวกเขาทั้งหมดตกใจ แต่เป็นเพราะทันทีที่เสียงของระฆังดังขึ้น มันครอบคลุมซ่งจงและเรือมังกรทองคำทันทีเพื่อปิดกั้นทุกการโจมตีอย่างสมบูรณ์ การโจมตีทุกอย่างนั้นถูกทุบตีลงบนระฆัง ซึ่งพลังของมันสามารถบดขยี้ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินให้ตายตกไปได้ภายในไม่กี่อึดใจหรืออาจจะสังหารผู้ฝึกตนระดับเฟินเสินได้อีกด้วย แต่เมื่อมันปะทะเข้ากับระฆัง การโจมตีถูกดูดซับหายไปราวกับว่าไม่เคยเกิดขึ้น อีกทั้งระฆังยังไม่ได้รับรอยขีดข่วนใดๆอีกด้วย ผู้ฝึกตนโดยรอบรู้สึกว่ามันไม่ใช่ระฆังแต่กลับเป็นหลุมดำแทน! ไม่ว่าจะโจมตีอย่างไร มันก็สามารถดูดซับทั้งหมดไปได้อย่างไม่ติดขัด
เมื่อพบเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ ทุกคนได้แต่ร้องออกมาด้วยความตกใจ ทั้งหมดไม่เคยคาดหวังว่าซ่งจงนั้นจะครอบครองสมบัติในตำนานเช่นนี้
แม้ว่าทั้งหมดจะอยู่ในความมึนงง แต่ซ่งจงไม่ เขาใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ทันที ซ่งจงบังคับให้เรือมังกรทองคำออกมาจากก้นของระฆังและส่งสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ไปยังเรือของฮัวชิงหยุน!
สำหรับฮัวชิงหยุนที่เห็นเหตุการณ์เช่นนั้น นางตกใจและเปิดการป้องกันด้วยทุกสิ่งที่มีอย่างรวดเร็ว สำหรับเรืออีกสองลำของหอเฉวียนจี้ พวกเขาไม่กล้าที่จะมองดูเฉยๆ ทั้งสองรีบเข้ามาช่วยอย่างรวดเร็ว เรือเหาะของหอเฉวียนจี้นั้นถูกปรับแต่งมาอย่างพิเศษ ทั้งหมดสามารถรวมตัวกันเพื่อเป็นเรือลำเดียวได้ การทำเช่นนี้จะช่วยเพิ่มความหนาแนนของค่ายกลที่มีให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เมื่อรวมกับความพยายามของฮัวชิงหยุน แน่นอนว่าทั้งหมดสามารถป้องกันการโจมตีของซ่งจงไว้ได้
เมื่อซ่งจงเห็นเช่นนั้น เขาถอนหายใจด้วยหดหู่ เดิมทีเขาคิดว่าแม้ว่าไม่อาจสังหารฮัวชิงหยุนได้ในการโจมตีครั้งนี้ เขาก็ควรจะทำลายเรือของนางได้ อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดว่าจะมีคนที่กล้าหาญเข้ามาช่วยนางเช่นนี้
แม้ว่าจะรู้สึกเสียใจ ซ่งจงก็ไม่กล้าที่จะยืดเยื้อการต่อสู้นี้ต่อไป หลังจากที่บังคับให้หอเฉวียนจี้ถอยออกไปแล้ว เขาเก็บระฆังทองแดงขนาดยักษ์และวิ่งสู่ทะเลตะวันออกด้วยพลังทั้งหมดที่มีทันที ในเวลาเดียวกันเขาไม่ลืมที่จะเตรียมยิงหวงหลงสายฟ้าสีม่วงอีกครั้งด้วย
แท้จริงปืนใหญ่นี้ยังคงมีความแข็งแกร่งอย่างมาก ถ้าหากปราศจากไข่มุกสีดำที่นักบวชฮัวอวิ๋นโยนออกมาแล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เหล่าคนที่ยังยืนอยู่จะสามารถป้องกันมันได้ อีกทั้งความจริงก็คือพวกเขาทั้งหมดอยู่ใกล้กันอย่างมาก การยิงออกมาเพียงครั้งเดียวอาจจะสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล ดังนั้นทั้งหมดล่าถอยทันที ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เรือมังกรทองคำหลบหนี เมื่อเห็นว่าซ่งจงกำลังจะหลบหนีได้ ฮัวชิงหยุนตะโกนออกมาอย่างกังวล “สหายไม่ต้องกังวล แม้ว่าระฆังใบนั้นจะไม่ธรรมดาและแข็งแกร่งอย่างมาก แต่ไขมันบัดซบนั้นไม่อาจควบคุมมันได้ทั้งหมด อีกทั้งนอกจากนี้ระฆังยังอาจจะเป็นสมบัติที่เชื่อมต่อกับจิตวิญญาณของเขา ข้าคิดว่าการโจมตีในครั้งที่แล้วจะต้องส่งผลกระทบต่อจิตวิญญาณของเขาอย่างแน่นอน ถ้าหากเราโจมตีต่อไปอีกสองถึงสามครั้ง ข้าคิดว่าเราจะสามารถสังหารซ่งจงและครอบครองเรือมังกรทองคำได้ ในเวลานั้นจะมีสมบัติจากสงครามมากยิ่งขึ้นภายในกระเป๋าของพวกท่าน!”
เมื่อทุกคนในยินเช่นนั้น ดวงตาของพวกเขาเป็นประกายพร้อมกับฮึกเหิมขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งหมดดำเนินการตามแผนเดิมด้วยการล้อมรอบซ่งจงจากระยะไกลและนักบวชฮัวอวิ๋นพุ่งเข้าไปดึงดูดความสนใจของซ่งจงและจัดการกับสายฟ้าสีม่วง! จากนั้นส่วนที่เหลือจะจัดการกับซ่งจงเป็นวงล้อมเช่นเดิม
หลังจากที่ประสบการณ์ได้สอนเขามา ซ่งจงไม่โจมตีนักบวชฮัวอวิ๋นด้วยหวงหลงสายฟ้าสีม่วงอีกแล้ว เขาใช้เพียงสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นเพื่อป้องกันไม่ให้นักบวชฮัวอวิ๋นเข้าใกล้และหวงหลงสายฟ้าสีม่วงนั้นพร้อมที่จะยิงออกไปตลอดเวลาเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยคาดคิดว่านักบวชฮัวอวิ๋นจะฉลาดเป็นกรดและมองการณ์ไกล แน่นอนว่านักบวชฮัวอวิ๋นคาดเดาไว้แล้วว่าซ่งจงจะต้องทำเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงให้ฮัวชิงหยุนปรากฏตัวขึ้นมาเพื่อดึงความสนใจให้ซ่งจงปลดปล่อยสายฟ้าสีม่วงอีกครั้ง จากนั้นเขาจะโยนไข่มุกสีดำออกไปเพื่อป้องกันการโจมตี หากเป็นเช่นนี้การระเบิดครั้งนี้จะอยู่ใกล้กับเรือมังกรทองคำอย่างมากและซ่งจงไม่อาจเรียกระฆังทองแดงออกมาป้องกันได้ทันท่วงที แน่นอนว่าเขาจะต้องจบเห่ในคราวนี้!
เมื่อฝุ่นจากการระเบิดได้เบาบางลง ผู้ฝึกตนโดยรอบตกตะลึงอย่างยิ่งที่เรือมังกรทองคำได้รับความเสียหายอย่างหนัก เรือเต็มไปด้วยบาดแผล แต่ด้านบนของหอคอยนั้นถูกทำลายไปด้วยเช่นกัน สิ่งทีทำให้พวกเขาตกใจที่สุดคือเรือได้สูญเสียอาวุธที่ทรงพลังไปแล้ว หวงหลงสายฟ้าสีม่วงถูกทำลายไปโดยสมบูรณ์ การสูญเสียหอคอยสายฟ้าไปหนึ่งในสาม แน่นอนว่าพลังของมันหายไปมากกว่าครึ่ง ในตอนนี้มันไม่มีความสามารถมากพอที่จะทำลายเรือลำอื่นด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวอีกต่อไป ทุกคนเมื่อเห็นเช่นนี้แปรเปลี่ยนให้ดวงตาของเขากลายเป็นสีแดง ทุกคนบ้าคลั่งสมบัติของซ่งจงอย่างมากไม่ว่าจะเป็นเรือมังกรทองคำหรือระฆังทองแดงที่ทรงพลัง พวกเขาพุ่งเข้าใส่เรือมังกรทองคำเพื่อชำระหนี้แค้นโดยไม่สนใจผลลัพธ์ ทั้งหมดหยุดการโจมตีระยะไกลและคิดที่จะขึ้นเรือไปปล้นสมบัติเหล่านั้นด้วยตนเอง