ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ Facebook Fanpage กดเลย

••••••••••••••••••••

นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล

สารบัญ ARK

สารบัญ อาณาจักรวิญญาณ

••••••••••••••••••••

**บทที่****283:**เส้นทางแห่งโลหิต

แท้จริงแล้วซ่งจงรู้สึกหดหู่อย่างมาก ในตอนนี้เขากำลังถูกไล่ล่าและเขาไม่สามารถถ่วงเวลาเพื่อหลบหนีได้เลย แต่เรือลำนี้อยู่ตรงหน้าเขา เพื่อที่จะหลบหนีให้ได้แน่นอนว่าเขาจะต้องลดความเร็วเพื่อเลี้ยวหลบ หากรอเช่นนั้นเขาจะต้องถูกโจมตีโดยเรืออีกห้าลำที่เหลือ แต่ถ้าซ่งจงต้องรอให้เรือลำนี้หลบทาง เกรงว่าเขาจะไม่สามารถหลบหนีได้ เช่นนี้เขาจึงต้องแสดงพลังของตนเพื่อให้พวกเขาหลีกทางโดยเร็วที่สุด

เช่นนี้ซ่งจงจึงไม่คิดจะแสดงความเมตตาแม้แต่น้อยและขว้างปาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ออกไปอย่างต่อเนื่อง ในเวลานี้เขาตะโกนออกมา “บุรุษแห่งลัทธิเต๋าผู้นี้รังเกียจคนที่ต้องการชมการแสดงอย่างพวกเจ้า! พวกเจ้าบอกว่ามาที่นี่เพื่อชมการแสดงงั้นหรือ? งั้นดีเลย ข้าจะให้เจ้าไปดูทุกสิ่งในนรก!”

หลังจากที่เขาตะโกนเช่นนั้นออกไป สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์นับร้อยได้ถูกขว้างออกไปแล้ว เกิดการระเบิดขึ้นหลายครั้ง เรือยักษ์เหล่านั้นไม่สามารถทนต่อการระเบิดได้ พวกมันล่วงหล่นทันที ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินสามารถช่วยเหลือเหล่าสาวกได้เพียงหยิบมือเท่านั้น สำหรับส่วนที่เหลือถูกเป่าให้กลายเป็นผุยผง ก่อนที่เปลวไฟจากการระเบิดจะสงบลง เรือมังกรทองคำของซ่งจงได้พุ่งทะยานผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตราบใดที่เขาฝ่าวงล้อมตรงนี้ออกไปได้มากเท่าไหร่ เขาจะสามารถหลบหนีได้ง่ายขึ้นเท่านั้นและไม่ต้องเกรงกลัวพวกที่ไล่ล่าอีกต่อไป เพราะความเร็วของเรือมังกรทองนั้นอยู่เหนือเรือทุกลำในพื้นที่แห่งนี้

ในขณะที่เรือทั้งห้าลำที่เฝ้าสังเกตเหตุการณ์อยู่ใกล้ๆ ถ้าหากพวกเขารวมพลังที่จะโจมตีแน่นอนว่าจะต้องหยุดซ่งจงไว้ได้ แต่เมื่อทั้งหมดเห็นการกระทำที่ไร้เหตุผลของซ่งจง พวกเขาเลือกที่จะเงียบและหลบทางให้อย่างง่ายดาย ไม่มีใครกล้าที่จะยั่วยุซ่งจงในตอนนี้และไม่อยากพบเจอความทุกข์ทรมานถ้าหากเขาโกรธ นักบวชฮัวอวิ๋นเห็นภาพเช่นนี้ เขาวิตกกังวลทันที เขารู้ว่าซ่งจงกำลังคิดที่จะหลบหนี ถ้าหากปล่อยให้หลุดไปได้แน่นอนว่าโอกาสจับกุมเขาอีกครั้งคงไม่มีแล้ว ในเวลานี้เขาพัฒนาไปไกลมากและการจับกุมเขาต้องจ่ายราคาสูงมากในการรวบรวมผู้ฝึกตนชอบธรรมและผู้ฝึกตนชั่วร้าย ฮัวอวิ๋นใช้ประโยชน์จากซ่งจงที่เข้าโจมตีสำนักพันปีศาจเพื่อวิ่งมาจับกุมเขา ใช้เรือยักษ์ที่ความเร็วต่ำล้อมรอบเขาไว้ แต่ถ้าหากในตอนนี้ซ่งจงฝ่าวงล้อมออกไป แล้วจะเป็นไปได้อย่างที่จะจับกุมซ่งจงด้วยเรือยักษ์ที่ความเร็วเพียงสี่พันหน่วย? พวกเขาไม่เพียงแต่จะไม่สามารถจับซ่งจงได้ ในอนาคตข้างหน้าพวกเขาจะต้องถูกชำระหนี้ครั้งนี้รายตัวแน่นอน ถ้าหากถึงเวลานั้นแม้แต่จะร้องไห้ออกมาก็คงสายเกินไป

เมื่อคิดเช่นนี้ นักบวชฮัวอวิ๋นตะโกนออกไปทันที “พวกเจ้าทั้งหมดกลายเป็นศัตรูกับซ่งจงแล้ว วิธีการที่เด็กเหลือขอคนนี้ทำนั้นเลวทรามเกินไปและในวันหนึ่งเขาจะกลับมาแก้แค้นอย่างแน่นอน ถ้าหากพวกเจ้าไม่หยุดเขาในวันนี้ โศกนาฏกรรมที่เกิดกับสำนักพันปีศาจและหอเฉวียนจี้ก็จะเกิดขึ้นกับพวกเจ้า! โปรดคิดให้ดีก่อนที่จะหลีกทางให้เขา!”

เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้น ทั้งหมดพยักหน้าเห็นด้วยทันที จากนั้นพวกเขาก็ตะโกนออกคำสั่งกับเรือทั้งห้าลำ “พี่น้องเอ๋ย เราไม่สามารถปล่อยเขาไปได้ ไม่เช่นนั้นวันข้างหน้าเขาจะคุกคามเราอย่างแน่นอน!”

“จับกุมเขาซะ! ข้ายินดีจะชดใช้สิ่งที่พวกเขาสูญเสียไปทั้งหมด!” นักบวชเซือหมัวตะโกนออกมาเกี่ยวกับรางวัล

ฮัวชิงหยุนที่อยู่ด้านข้างกล่าวออกมาอย่างสงบ “หอเฉวียนจี้ยินดีจะจ่ายให้พวกท่านเป็นสองเท่า จงร่วมมือกันโจมตีเรือมังกรทองคำเถิด เขาจะไม่มีทางหนีไปได้อย่างแน่นอน!”

เมื่อได้ยินฮัวชิงหยุนแสดงท่าที เรือทั้งห้าลำที่ยังอยู่เริ่มตื่นเต้นและร่าเริงขึ้นมาทันที ก่อนหน้านี้พวกเขาเกรงกลัวที่จะโจมตีออกไป เพราะการโจมตีแต่ละครั้งล้วนแต่สิ้นเปลืองแรง แต่ในตอนนี้รางวัลช่างล่อต่อล่อใจยิ่งนัก ในตอนนี้ถ้าหากพวกเขาสูญเสีย เขาจะได้คืนกลับมาสองเท่า นางเป็นถึงผู้นำแห่งหอเฉวียนจี้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สงสัยในคำพูดของนางเลย ร่วมกับคำสัญญาของนักบวชเซือหมัว แน่นอนว่าพวกเขาจะได้รับรางวัลเป็นสามเท่าแม้ว่าจะพ่ายแพ้!

เมื่อเห็นประโยชน์ที่จะได้รับ ความลังเลใจในตอนแรกได้หายไปอย่างสมบูรณ์ พวกเขาไม่คิดอะไรอีกต่อไป ทั้งหมดปลดปล่อยการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของตนเองทันที ทันใดนั้นสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ พายุเหมันต์ อัคคีวายุและเหล่าปีศาจอสูรกายพุ่งออกมาจากเรือทั้งห้าลำ มุ่งหน้าไปหาเรือมังกรทองคำของซ่งจงอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินทั้งเจ็ดคนนั้นไม่อยู่เฉยเช่นกัน พวกเขาร่วมมือกันและเตรียมพร้อมที่จะปลดปล่อยการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของตนเช่นกัน พวกเขาใช้ช่วงเวลาที่ซ่งจงจัดการกับการโจมตีของเรือทั้งห้าลำ เพื่อที่จะซุ่มโจมตีเขาด้วยพลังของตนเอง ปราณดาบพุ่งออกมาในอากาศและทุบตีที่หางเสือของเรือมังกรทองคำอย่างบ้าคลั่ง ในขณะนั้นเมฆาที่ปกป้องเรือมังกรทองคำถูกทำลายทันทีเนื่องจากการโจมตีที่ทรงพลังได้ฟาดลงมาอย่างบ้าคลั่ง ในตอนนี้มีเพียงลำแสงศักดิ์สิทธิ์สีทองเท่านั้นที่คอยปกป้องเรือไว้ แม้ว่าในตอนนี้มันยังคงปกป้องไว้ได้ แต่ทว่ามันเริ่มสั่นไหวจากการโจมตีเช่นกัน จากนั้นคลื่นการโจมตีลูกที่สองของผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินได้มาถึงอีกครั้ง การโจมตีที่ปลดปล่อยพลังของทุกคนออกมา มันคือมังกรไฟ ปราณดาบศักด์สิทธิ์ที่นับไม่ถ้วนได้ฟาดลงมาอีกครั้งอย่างไร้เมตตา

การโจมตีเหล่านี้ได้ถูกปลดปล่อยจากสมบัติวิเศษขั้นสูง บวกกับพลังของผู้ฝึกตนระดับหยวนหยิน ความแข็งแกร่งของมันนั้นมีแต่เพิ่มขึ้นไม่มีลดลงแม้แต่น้อย ลำแสงศักดิ์สิทธิ์สีทองนั้นเริ่มไม่มั่นคงและไม่สามารถป้องกันได้อีกต่อไป หลังจากที่ป้องกันได้เพียงหนึ่งครั้ง มันได้ถูกสร้างหลุมขนาดใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นการโจมตีที่เหลือได้พุ่งเป้ามาที่หลุมยักษ์นี้อย่างบ้าคลั่ง! ในขณะที่หางของเรือมังกรทองคำนั้นสร้างจากไม้มังกรทองคำ ทำให้มันแข็งแกร่งอย่างมากแต่กลับไม่สามารถอดทนต่อการโจมตีของผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินมากกว่าสองถึงสามคน เช่นนี้บาดแผลขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นที่หางเสือของเรือทันที

ถ้าหากว่าโจมตีที่อื่น แน่นอนว่ามันจะไม่เกิดปัญหากับเรือขนาดใหญ่สามพันฟุตเลย แต่หางเสือของเรือมังกรทองคำนั้นไม่ได้มีเพื่อสวยงามและจำเป็นต่อการใช้งานอย่างมาก มันสามารถใช้ปลดปล่อยหวงหลงสายฟ้าสีม่วงได้และยังใช้สำหรับเร่งความเร็วของเรืออีกด้วย

ผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินนั้นไม่ได้โง่เขลา พวกเขาล้วนแต่มีประสบการณ์และเข้าใจการทำงานของเรือต่างๆอย่างดี ดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะโจมตีหางเสือของเรืออย่างไม่ต้องคิด นอกจากนี้ทั้งหมดยังสามารถรู้ว่าส่วนใดคือจุดที่อ่อนแอที่สุดได้ การที่พวกเขาเลือกที่จะโจมตีหางเพื่อเป็นการลดความเร็วของเรือมังกรทองคำ ในตอนนี้การป้องกันของหางเสือได้ถูกทำลายไปแล้ว กล่าวได้ว่ามันไร้ประโยชน์ไปโดยสมบูรณ์ เมื่อไม่มีความสามารถในการเร่งความเร็ว มันก็ไม่ต่างจากเรือยักษ์ทั่วไป ดังนั้นข้อได้เปรียบเรื่องความเร็วของซ่งจงได้ถูกทำลายไปอย่างสิ้นเชิง

ภายใต้สถานการณ์ที่เรือยักษ์ของทุกคนมีความเร็วใกล้เคียงกัน ทำให้สามารถจินตนาการภาพได้ไม่ยากนัก เรือของฝ่ายตรงข้ามนั้นเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยเพิ่มความเร็ว แต่เรือของซ่งจงนั้นมีเพียงเขาผู้เดียวที่อยู่บนนั้น ซ่งจงจะสามารถเอาชนะพวกเขาเหล่านั้นได้อย่างไร? ในทันทีเขาถูกล้อมอย่างรวดเร็ว เรือยักษ์กว่าสามสิบลำและผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินกว่าสิบคน เขาถูกจับกุมอย่างแน่นอนไม่ว่าเรือมังกรทองคำจะทรงพลังมากเพียงใด ซ่งจงไม่มีโอกาสที่จะตอบโต้ใดๆเมื่อหางเสือถูกโจมตี ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่อึดใจ เมื่อผู้ฝึกตนระดับหยวนหยินเห็นแล้วว่าพวกเขาทำสำเร็จในการชะลอความเร็วของเรือมังกรทองคำ พวกเขารู้ได้ทันทีว่าภารกิจของตนเองเสร็จสิ้นแล้ว แต่อย่างไรก็ตามพวกเขานั้นยังคงมีอารมณ์โกรธแค้นซ่งจงอยู่และไม่มีอารมณ์ที่จะเลี้ยงฉลองในตอนนี้ หลังจากที่ทำลายหางเสือของเรือแล้ว สิ่งแรกที่พวกเขาต้องทำคือหลบหนี ถ้าหากพวกเขาชักช้าแน่นอนว่าความโกรธของซ่งจงจะต้องถูกระบายออกมาอย่างแน่นอน

แน่นอนว่าเหล่าจิ้งจอกเฒ่าเหล่านี้คิดได้ถูกต้อง ในขณะที่ซ่งจงเห็นว่าหางเสือของเรือมังกรทองคำถูกทำลาย อวัยวะภายในของเขาร้อนรุ่มทันทีราวกับน้ำเดือดที่รอการระเบิดออก ควันพวยพุ่งออกมาจากศีรษะของเขาเนื่องจากความโกรธจัด จากนั้นเขาคำรามออกมา “ไอ้สารเลว พวกเจ้าอยากรู้ใช่ไหมว่าตนเองจะตายอย่างไร!”

เขายังคงเดินหน้าที่จะหลบหนีเช่นเดิม แต่ในเวลาเดียวกันซ่งจงเปิดการใช้งานสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์สีทองอย่างเต็มประสิทธิภาพ พวกมันกลั่นตัวออกมาอย่างน่าเกรงขามและพุ่งเข้าหาเรือที่อยู่ใกล้ที่สุดอย่างรวดเร็ว ในตอนนั้นซ่งจงผู้ที่ถูกความโกรธครอบงำนั้นไม่ได้คิดถึงหินจิตวิญญาณนับหมื่นแสนที่เขาจะต้องสูญเสียแต่อย่างใด เขาเปิดการใช้งานหวงหลงสายฟ้าสีม่วงต่อทันทีและยิงไปที่เรือที่ลำใหญ่ที่สุดในกลุ่มเรือทั้งห้า!

ซึ่งในตอนนี้ทุกคนได้เผชิญหน้ากับลูกบอลสีม่วงขนาดยักษ์ซึ่งรัศมีของมันใหญ่กว่าร้อยฟุต มันพุ่งเข้าชนเรือยักษ์ขนาดหนึ่งพันห้าร้อยฟุตอย่างรุนแรง เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นไปทั่วท้องฟ้า มันไม่เพียงแต่ทำลายเรือยักษ์สีเขียวแต่เรือลำเล็กที่อยู่บริเวณใกล้เคียงยังถูกทำลายไปด้วย!

ทุกคนนั้นงุนงงทันที พลังของหวงหลงสายฟ้าสีม่วงนั้นแข็งแกร่งผิดปกติเกินไป ซึ่งมันสามารถเทียบได้กับพลังของผู้ฝึกตนระดับเฟินเสิ่นและสามารถทำลายทุกสิ่งอย่างในรัศมีกว่าร้อยลี้ได้อย่างง่ายดาย เมื่อเห็นฉากที่น่ากลัวเช่นนี้ ทุกคนได้แต่สูดลมหายใจเอาลมเย็นๆเข้าปอดอย่างช่วยไม่ได้ ความเกรงกลัวที่มีต่อซ่งจงเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว หลายสำนักที่อยู่ร่วมกันตรงนี้ล้วนแต่เป็นพยานในความกลัวเหล่านี้ ทั้งหมดตั้งคำถามกับตนเองว่าพวกเขาทำสิ่งที่คุ้มค่าหรือไม่ที่สร้างศัตรูที่น่ากลัวเช่นนี้ให้กับตนเอง? บางสำนักในตอนนี้รู้สึกขี้ขลาดทันที พวกเขาลดความเร็วของเรือลงและอยู่ในสถานะผู้ชม การกระทำเหล่านี้ทำให้เรือที่ไม่ใช่สำนักเสวียนเทียน หอเฉวียนจี้และสำนักพันปีศาจ ทุกสำนักได้ลดความเร็วลงอย่างรวดเร็ว นักบวชฮัวอวิ๋นสังเกตเห็นความผิดปกติอย่างรวดเร็ว เขาตะโกนออกไป “ทุกคนไม่จำเป็นต้องกังวล! แม้ว่าการโจมตีของเขาจะรุนแรงอย่างมาก แต่มันต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากเช่นกัน เรือยักษ์ที่ทรงพลังเช่นนี้จะต้องวิ่งได้ด้วยหินจิตวิญญาณจำนวนมากอย่างแน่นอน ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าเด็กเหลือขอผู้นี้จะมีหินจิตวิญญาณระดับสูงมากมายเพื่อใช้จ่าย!”

“ถูกต้อง เด็กเหลือขอนี้อายุเพียงสี่สิบเท่านั้นและอยู่ในระดับจินตัน แม้ว่าเขาจะมีประสบการณ์สักหน่อยแต่ก็ไม่อาจรวบรวมหินจิตวิญญาณระดับสูงจำนวนมากได้ อีกทั้งเขายังใช้มันเพื่อทำลายหอเฉวียนจี้และสำนักพันปีศาจไปแล้ว ข้าขอเดิมพันว่าเขาใกล้จะใช้สมบัติที่มีหมดแล้ว!” นักบวชเซือหมัวตะโกนออกมา

“เป็นเช่นนั้นแน่นอน!” ฮัวชิงหยุนเห็นด้วย “ซ่งจงนั้นเดินทางมาถึงตอนจบแล้ว ถ้าไม่เช่นนั้นเขาก็คงจะไม่หลบหนีทันทีที่เห็นพวกเรา! พวกท่านต้องไม่หลงกลมือใหม่ผู้นี้ พวกเราต้องร่วมมือกันเพื่อสังหารเขาให้ได้ หอเฉวียนจี้ขอสัญญาว่าสมบัติที่มาจากสงครามจะเป็นของพวกท่าน! รวมไปถึงเรือมังกรทองคำด้วย!” ตามที่นางกล่าวออกมา นักบวชฮัวอวิ๋นและนักบวชเซือหมัวได้ให้สัญญาเช่นกัน ทุกคนต้องการเพียงสังหารซ่งจงเท่านั้น เมื่อได้ยินเช่นนั้นทั้งหมดรู้สึกถึงความหวังทันที พวกเขาคุยกันอย่างรวดเร็วว่าจะทำอย่างไรต่อ ทั้งหมดเริ่มเร่งความเร็วอีกครั้ง ทุกคนนั้นเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าซ่งจงจะไม่มีหินจิตวิญญาณระดับสูงมากมายตามเช่นที่ผู้นำทั้งสามสำนักกล่าว ในตอนนี้ทุกคนถูกล่อลวงด้วยเรือมังกรทองคำของซ่งจงโดยสมบูรณ์

ทุกคนนั้นรู้ดีว่าเรือมังกรทองคำนั้นเป็นสมบัติชั้นยอด บนเรือเต็มไปด้วยสมบัติมากมาย เพียงแค่วัสดุของมันที่ทำมาจากไม้มังกรทองคำก็ยอดเยี่ยมอย่างมากแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะได้รับมันไม่กี่ชิ้น มันเพียงพอที่จะสร้างสมบัติวิเศษอย่างแน่นอน อีกทั้งเรือมังกรทองคำนั้นถูกสร้างโดยผู้ฝึกตนระดับเลือนจื่อ เทคนิคการปรับแต่งของเขานั้นเป็นเลิศอย่างยิ่ง เช่นนี้สำนักอื่นรีบแย่งชิงกันทันทีเมื่อรู้ว่าสามสำนักใหญ่ไม่สนใจสมบัติเหล่านี้ พวกเขาทั้งหมดเร่งรีบที่จะเอาชัยชนะเหล่านี้อย่างรวดเร็วก่อนที่พวกเขาจะกลายเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้!

หลังจากที่ปลดปล่อยความโกรธออกไปด้วยหวงหลงสายฟ้าสีม่วงแล้ว ซ่งจงไม่กล้าที่จะถอยหลังกลับและใช้ความเร็วสูงสุดทันที ในเวลานั้นเขาขว้างสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ออกไปอีกครั้งเพื่อทำลายมันเปิดทางให้กับการหลบหนีครั้งนี้

เช่นนี้ เรือทั้งหกลำที่เคยป้องกันซ่งจง ในตอนนี้มีสี่ลำที่ถูกทำลายไปแล้ว สำหรับอีกสองลำทั้งสองนั้นหนีไปไกลแล้วเนื่องจากเห็นซ่งจงเปิดการใช้งานหวงหลงสายฟ้าสีม่วง

แม้ว่าสมบัติจะล้ำค่ามาก แต่ชีวิตนั้นสำคัญกว่า! ทั้งหมดไม่ต้องการที่จะสละชีวิตเพื่อหยุดซ่งจง ในตอนนี้ซ่งจงหลบหนีออกจากวงล้อมได้แล้วพร้อมกับมุ่งหน้าทางทิศตะวันออก แท้จริงแล้วการป้องกันในทิศนี้นั้นอ่อนแอกว่าทิศอื่น อีกทั้งซ่งจงคิดที่จะกลับไปยังทะเลตะวันออกตามทิศทางนี้

ในตอนนี้ซ่งจงนั้นมีชื่อเสียงที่น่าเกรงกลัวอย่างมากในเทือกเขาใหญ่เขาและเขาไม่สามารถอาศัยอยู่ที่ไหนได้อีกแล้วเทือกเขาแห่งนี้ ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนเขาจะถูกสังหารและไล่ล่าอย่างไม่อาจช่วยได้ ดังนั้นสถานที่เดียวที่เขาจะหลบหนีไปได้ในตอนนี้คือทะเลตะวันออกเท่านั้น อย่างน้อยที่สุดในตอนนี้เขาก็คือจักรพรรดิน้อยแห่งทะเลตะวันออก!”

แม้ว่าเขาจะเป็นมนุษย์ผู้ที่มีบันทึกว่าเคยต่อสู้กับอสูรกาย แต่ในตอนนี้เขาจะต้องใช้ตัวตนของอสูรกายเพื่อกำบังตนเองและอาศัยอยู่ในดินแดนของเหล่าสัตว์ร้าย เมื่อคิดได้เช่นนี้ซ่งจงรู้สึกขื่นขมในใจอย่างไม่อาจช่วยได้ อย่างไรก็ตามในเวลานี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมานั่งเสียใจ ในขณะที่เขาออกจากวงล้อมได้ เขาก็ยังคงไม่พ้นจากอันตราย ด้านหลังยังมีเรือยักษ์ตามเขาอยู่มากกว่ายี่สิบลำ เนื่องจากหางเสือของเรือถูกทำลายไปแล้ว ความเร็วของเรือมังกรทองคำนั้นไม่ต่างจากเรืออื่นๆ แต่ในตอนนี้เหล่าศัตรูของเขาใช้ผู้เชี่ยวชาญเพื่อเร่งความเร็วของเรือด้วยคาถาต่างๆ ดังนั้นจึงทำให้เรือของศัตรูเร็วกว่าเขาราวๆสามในสิบ ดังนั้นก่อนที่พวกเขาเหล่านั้นจะมาถึงซ่งจง เขาจะต้องรีบไปยังทะเลตะวันออกให้เร็วที่สุดและในตอนนี้ข่าวดีสำหรับเขาก็คือสำนักพันปีศาจนั้นอยู่ใกล้กับทะเลตะวันออก ตราบใดที่เขาสามารถอดทนได้จนถึงทะเลตะวันออก เขาจะสามารถหากำลังเสริมจากเหล่าอสูรกายได้ ในตอนนี้นี่คือหนทางเดียวที่เขาจะสามารถมีชีวิตต่อไปได้ จากนั้นเขาหันไปถามแม่มดเทวะอย่างรวดเร็ว “พวกเจ้าสามารถซ่อมแซมหางเสือของเรือได้หรือไม่?”

“รายงานนายท่าน มีวัสดุมากมายที่สามารถใช้ซ่อมแซมเรือมังกรทองคำ แต่ถ้าหากเราจะทำการซ่อมแซมมันแน่นอนว่าเราจะต้องจอด!” แม่มดเทวะกล่าวออกมาอย่างไร้หนทาง

“หยุดงั้นหรือ?” เมื่อซ่งจงได้ยินเช่นนั้น เขาขมวดคิ้วทันที “แม้ว่าเรือมังกรทองคำจะแข็งแกร่งอย่างมาก แต่มันไม่สามารถที่จะอดทนต่อการโจมตีของเรือรบกว่าสามสิบลำได้อย่างแน่นอน!”

“นายท่าน ในระหว่างการซ่อมแซมเรือเราจะต้องจอดมันและไม่สามารถใช้สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์หรือลำแสงศักดิ์สิทธิ์ทองคำได้เช่นกัน พวกมันเหล่านี้เชื่อมต่อกับแกนกลางของเรือ เราต้องซ่อมแซมมัน แต่เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้พวกเราไม่แนะนำให้ท่านซ่อมแซมมัน!” แม่มดเทวะอีกตนอธิบายออกมา

“แต่ถ้าหากเราไม่ซ่อมมัน อีกไม่กี่ชั่วโมงพวกเขาจะสามารถจับเราได้ ในเวลานั้นเราไม่ตายกันหมดงั้นหรือ?” ซ่งจงขมวดคิ้ว

“นายท่านถ้าหากเราหนีไปเช่นนี้ แน่นอนว่าเราคงจะหนีไม่พ้น ข้าคิดว่าเราควรจะต่อสู้ไปด้วยพร้อมกับการหลบหนี!” แม่มดเทวะแนะนำ

“ต่อสู้พร้อมกับหลบหนีงั้นหรือ?” สำหรับซ่งจงที่ได้ยินเช่นนั้น เขาถามออกมาอย่างสนใจ “ข้าควรทำอย่างไร?”

“ง่ายมาก!” แม่มดเทวะอธิบาย “ในขณะที่พวกเขาดูเหมือนจะได้เปรียบในเรื่องของจำนวน แต่ความจริงแล้วพวกเขาไม่ได้สามัคคีกันแม้แต่น้อย เมื่อเผชิญกับพันธมิตรที่ไม่มั่นคงเช่นนี้ วิธีที่ดีที่สุดก็คือการโจมตีพวกเขาทีละคน ด้วยพลังของหวงหลงสายฟ้าสีม่วง นายท่านสามารถทำลายเรือของพวกเขาด้วยการยิงเพียงครั้งเดียว ตราบใดที่ท่านทำลายเรือที่อยู่ตรงหน้าได้ แน่นอนว่าส่วนที่เหลือจะไม่กล้าเข้ามาอย่างแน่นอน!”

เมื่อซ่งจงได้ยินคำแนะนำของแม่มดเทวะ เขาเข้าใจทุกอย่างทันทีและพบว่ามันเป็นแผนที่ดีมาก เขาตบต้นขาของตนเองพร้อมกับหัวเราะออกมา “ยอดเยี่ยม เป็นแผนที่ดีมาก! ข้าจะทำตามที่เจ้าบอก เตรียมการใช้งานหวงหลงสายฟ้าสีม่วงและโจมตีเรือที่เข้ามาในรัศมีของเราทันที!”

“ตกลง!” แม่มดเทวะตอบรับพร้อมกับประจำตำแหน่งทันที