ตอนที่ 333 การเดิมพันที่สูงขึ้น

หมอดูยอดอัจฉริยะ

ตอนที่ 333 การเดิมพันที่สูงขึ้น โดย Ink Stone_Fantasy

ภายในงานประมูล ก้อนหินก้อนนี้ยังถูกจัดว่าเป็นเศษก้อนหิน ไกลเกินกว่าที่เยี่ยเทียนคาดไว้ ในมุมมองของเขา หยกที่ขนาดใหญ่เท่ากำปั้น ราคาสามล้านก็ถือว่ายังไม่คุ้มค่า

“สิบล้านดอลลาร์ฮ่องกง ฉันขอประมูลสิบล้าน”

ยิ่งทำให้เยี่ยเทียนคิดไม่ถึงเลยก็คือ เหวินหลนสงที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ลงมืออีกแล้ว อีกทั้งยังประมูลราคาที่สูงขึ้นมาถึงสองจุดห้าล้าน เมื่อราคานี้ประมูลออกไป ภายในงานก็เงียบสงัดขึ้นมาทันที

หินก้อนนั้นที่ยังไม่ได้ผ่านการแปรรูปเปลือกของมันเป็นลายงูเหลือมที่ผุกร่อน แต่ว่าครั้งแรก ที่ใช้มีด ตัดแบ่งแยกส่วนออกแล้ว ราคามันก็หดค่าลงครึ่งหนึ่ง เหวินหลนสงประมูลราคาสิบล้าน ในสายตาของคนอื่นเขาคือคนที่ชอบผลาญเงิน แต่กลับไม่มีใครกล้าประมูลสู้ราคากับเขา

“ตกลง สิบล้านดอลลาร์ฮ่องกง ก้อนหินใหญ่มหึมาก้อนนี้ตกไปอยู่ในมือของคุณชายเหวินแล้ว”

หลังจากสอบถามไปสองครั้งก็ไม่มีใครเสนอราคา พิธีกรประมูลก็เคาะค้อนดังขึ้นมา การซื้อขายก้อนหินในวันนี้ดำเนินมาถึงช่วงสุดท้าย ข้างนอกพวกเราเตรียมอุปกรณ์เอาไว้ผ่าก้อนหินแล้ว เพื่อน ๆ คนไหนสนใจอยากร่วมชมการผ่าก้อนหิน ก็เชิญเตรียมตัวให้พร้อม

การประมูลเสร็จสิ้น บรรยากาศภายในงานก็ค่อย ๆคลายลง ลำดับถัดไปคือการตัดแยกก้อนหิน ถือว่าเป็นช่วงที่น่าตื่นเต้นที่สุด มีร้านอัญมณีบางร้านที่ไม่สามารถรอได้ หลังจากที่โอนเช็คสำเร็จ ก็เดินออกไปข้างนอกกันหมดแล้ว

จั่วเจียจวิ้นลุกขึ้นมา พูดว่า “เยี่ยเทียน ไปกันเถอะ การตัดแยกก้อนหินถือว่าเพิ่งเริ่มแล้ว”

หลังจากที่เดินตามจั่วเจียจวิ้นไปในลานกว้าง ก้อนหินที่ยังไม่ได้ทำการแปรรูปถูกวางปนกันอยู่ที่พื้น กำลังถูกคนงานแบ่งแยกออกเป็นกอง ๆ จัดเป็นระเบียบเรียบร้อย ตอนแรกที่อยู่ข้างในทำการประมูลนั้น ที่นี้ก็ยุ่งอยู่แล้ว

“ศิษย์พี่ นี้ ก้อนหินนี้จะผ่าอย่างไร จะตัดพวกมันออกอย่างไร”

เมื่อเยี่ยเทียนได้เห็นก็รู้สึกเลอะเลือน นี้คือครั้งแรกในการตัดแบ่งหินของเขา ในหัวของเขาไม่เข้าใจอะไรเลย ยังคงคิดอยู่ว่า หรือว่าจะเอาหินก้อนนี้กลับไปบ้านแล้วใช้ง้าวจันทร์เสี้ยวผ่ามันดี

เมื่อจั่วเจียจวิ้นได้ยินก็หัวเราะออกมา บุ้ยปากไปมารอบๆ พูดว่า “นั่น ที่นั่นจะมีเครื่องผ่าก้อนหิน”

“คือพวกเครื่องจักรใหญ่ที่มีฟันเฟืองเหล่านั้นหรือ?”

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของจั่วเจียจวิ้น เยี่ยเทียนเพิ่งสังเกตว่า ในลานกว้างมุมทั้งสี่ มีเครื่องมือตัดพร้อมฟันเฟืองขนาดใหญ่ตั้งอยู่หกตัว นอกจากนั้นก็จะมีพวกอุปกรณ์เล็กๆ เครื่องเจียระไน ที่เหมาะจะใช้สำหรับพวกก้อนหินที่มีขนาดเล็ก

“ใช่ แต่ว่าเครื่องตัดหินพวกนั้นเธอใช้มันไม่ได้ เยี่ยเทียน นี้คือก้อนหินที่เธอซื้อ” จั่วเจียนจวิ้นยิ้มแล้วส่ายหัวหยิบก้อนหินที่ขนาดเท่ากำปั้นที่ยังไม่ได้แปรรูปส่งมันให้กับเยี่ยเทียน

ของเล่นแค่นี้ก็เสียเงินไปตั้งสองหมื่นดอลลาร์ฮ่องกง เยี่ยเทียนได้รับก้อนหินที่สีดำไม่เรียบไม่เงา ฝืนยิ้มแล้วพูดว่า “ศิษย์พี่ เงินนี้จะใช้คืนให้นะ”

จั่วเจียจวิ้นสายตาจ้องมองขึ้นมา พูดด้วยความโมโหว่า “พูดอะไรกันนะ ศิษย์พี่ซื้อให้เธอเล่น อย่ามาพูดถึงเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆอะไรนั้นอีก”

จั่วเจียจวิ้นคือคนกันเอง ไม่ได้ถือสาว่าต้องมีน้ำใจหรือไม่มีน้ำใจ เยี่ยเทียนไม่ใช่ไว้ตัว หัวเราะแล้วพูดว่า “ได้ ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะรับไว้นะ”

มองไปรอบ ๆ เยี่ยเทียนสังเกตว่าพวกคนที่เพิ่งซื้อก้อนหินไป กำลังนั่งยอง ๆ สังเกตอย่างละเอียดที่ก้อนหินที่ตัวเองเพิ่งซื้อไป ระมัดระวังมากกว่าตอนก่อนที่จะซื้อ เยี่ยเทียนสงสัยก็ถามว่า “ศิษย์พี่ ไม่ใช่ว่าต้องผ่าแบ่งก้อนหินหรือ ทำไมไม่เอาไปผ่าทุกอันละ”

การผ่าหินจำเป็นต้องใช้ฝีมือ ต้องวาดออกเป็นเส้นตามลายของงูเหลือม ถ้าไม่อย่างนั้นก็จะกระทบกับ หยกที่อยู่ข้างในได้ ทางนั้นแค่ลองไปมั่ว ๆ ซั่ว ๆก็สามารถลงมือตัดได้แล้ว

จั่วเจียจวิ้นรู้ว่าศิษย์น้องของตัวเองไม่เข้าใจจุดสำคัญอะไรเกี่ยวกับก้อนหินนี้เลย มีความอดทนพอ ที่จะอธิบายให้เยี่ยเทียนฟัง โชคดีว่าลูกสาวและลูกเขยของเขา มีความเข้าใจเกี่ยวกับก้อนหินดีมาก จึงไม่จำเป็นต้องให้เขาไปทำงาน เกี่ยวกับการวาดเส้นเหล่านี้

“ทำไมมันยุ่งยากอะไรขนาดนี้”

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของจั่วเจียจวิ้น เยี่ยเทียนทำเสียงจั๊กจั๊ก ถ้าเกิดว่าลงมีดนี้ลงไปแล้วเกิดตัดเอียงขึ้นมา แต่เดิมของที่มีมูลค่าหนึ่งล้านก็จะกลายเป็นแค่ราคาหนึ่งแสน ไม่แปลกใจว่าทำไมคนพวกนั้นถึงต้องระวังเป็นพิเศษ

“ถ้าพวกเขาไม่ผ่ามันออก ฉันจะไปผ่าเอง”

เยี่ยเทียนวันนี้ที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่เขาไม่สนใจ ถึงอย่างไรก็ก้อนหินราคาสองหมื่นกว่านี้ ศิษย์พี่เป็นคนซื้อให้ เขาไม่มีความกดดันแม้แต่น้อย ในมือของเขาถือก้อนหินไว้เดินเข้าไปหาเครื่องผ่าก้อนหินที่ใกล้ที่สุด

“เฮ้ จะผ่าหินออกแล้ว”

“ไป ไปดูกัน หินก้อนแรกวันนี้ไม่รู้ว่าจะสามารถเพิ่มมูลค่าได้ไหม”

“เด็กหนุ่มคนนี้คือใครอะเหมือนไม่เคยเจอมาก่อนเลย”

“ปรมาจารย์จั่วก็เดินตามอยู่ อาจเป็นรุ่นน้องของเขา”

การเคลื่อนไหวของเยี่ยเทียน จั่วเจียจวิ้นต้องคอยติดตาม แค่จั่วเจียจวิ้นเคลื่อนไหว ก็ดึงดูดความสนใจคนจำนวนมาก คนจากร้านอัญมณีที่กำลังสังเกตก้อนหิน ทันใดนั้นก็ล้อมวงเข้ามา

“ศิษย์พี่ แค่ตัดแบ่งเท่านั้นก็ได้แล้วหรอ”

เยี่ยเทียนเอาก้อนหินที่ขนาดเท่ากำปั้นวางไว้บนเครื่องผ่า คนงานที่อยู่ข้าง ๆก็มีความชำนาญมากในการใช้เครื่องมือ ใช้แท่งเหล็กค่อย ๆคีบไว้ตรงกลาง

“ก้อนหินเล็กขนาดนี้ จะตัดเอาส่วนไหนดีละ”

จั่วเจียจวิ้นถึงกับมึนเมื่อได้ยินเยี่ยเทียนถาม หินทรายดำก้อนนี้เขาได้มาจากเหมืองหม่าเหมิงของประเทศพม่า เหมืองแห่งนี้เป็นแหล่งผลิตหินที่ใหญ่ที่สุด และมีหลายขนาดให้เลือกเพื่อใช้พนันหิน

โดยทั่วไปของหินหยก สามารถดูลักษณะเฉพาะได้จากผิวของมัน  แต่ว่าหินทรายดำจะมีเปลือกนอกสีดำหุ้มอยู่อีกชั้น เรียกได้ว่านี่เป็นจุดสำคัญในพนันหิน ทั้งนี้เพราะหากเส้นใยภายในหินสามารถกลายสภาพเป็นหยก  หากมีความชื้นเข้าไป ก็จะเปลี่ยนเป็นหยกสีเขียวได้

แม้ว่าก้อนหินก้อนที่เยี่ยเทียนซื้อมาจะราคาถูก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะผ่าอย่างไรก็ได้ ถ้าเกิดว่าเยี่ยเทียนทำแบบนั้น ก็จะโดนคนที่อยู่ในลานหัวเราะเยาะได้

“เจ้าหนุ่มนี้ไม่เข้าใจการผ่าหินหรือ”

“ก็คือ วัสดุเล็กขนาดนี้ยังจะผ่าอีก ไม่ใช่ว่าจะทำลายมันหรือ”

“ไปกันเถอะ ปล่อยมันไป หินทรายดำธรรมดา ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจ”

เยี่ยเทียนกับจั่วเจียจวิ้นพูดคุยกันถึงแม้ว่ามันจะไม่ดังมาก แต่ก็มีคนมากมายได้ยินมัน หนึ่งคือหินก้อนนี้มันเล็กเกินไป สังเกตดูแล้วก็ไม่มีอะไร สองคือเยี่ยเทียนก็ยังเป็นมือใหม่ คนที่ล้อมวงกันอยู่ในเวลานั้นก็ค่อย ๆสลายตัวไปครึ่งหนึ่ง

“น้องเยี่ย หินก้อนนี้ไม่ต้องผ่ามัน เธอแค่เช็ดผิวชั้นนอกของมันออก ก็สามารถมองเห็นได้ว่ามีหรือไม่มีหยก” เหวินหลนสงเห็นเยี่ยเทียนเสียหน้า หัวเราะแล้วเอาเครื่องผ่ามา บอกวิธีการใช้งานมันให้กับเยี่ยเทียน

“ขอบคุณพี่เหวิน ฉันรู้แล้ว”

วิธีการผ่านั้นง่ายมาก แต่จะยากที่จะต้องคอยควบคุมความร้อนระหว่างตัดให้ดี ฟังเหวินหลนสงอธิบาย เยี่ยเทียนก็เข้าใจขึ้นมา

“แค่เช็ดชั้นผิวนิดหน่อย ก็รู้แล้วว่าข้างในมีอะไร นี้ถือว่าเป็นการเดิมพันที่แท้จริง”

เยี่ยเทียนพยักหน้า แล้วก็ไม่ได้ลังเลใจ เปิดเครื่องผ่าก้อนหิน หมุนวนไปรอบ ๆชั้ นผิวสีดำขัดเงาอย่างรวดเร็ว

“คา คาคา” เสียงที่ไม่น่าฟังก็ดังขึ้นมา เศษผงหินสีดำปลิวหลุดออกมา

“ปรมาจารย์จั่ว น้องเยี่ยมีมือที่มั่นคงมาก”

เพราะว่าก้อนหินชิ้นนี้ซื้อมาด้วยราคาที่ถูก เลยยากที่จะทำให้คนรู้สึกตื่นเต้นไปกับมัน ขณะที่เยี่ยเทียนกำลังผ่าหิน เหวินหลนสงก็พูดคุยกับจั่วเจียจวิ้นอยู่ข้าง ๆ

ถึงแม้ว่าจะเป็นครั้งแรกในการผ่าหิน แต่ว่ามือของเยี่ยเทียนทั้งสองข้างนิ่งมากขณะที่ใช้เครื่องมือเจียระไนหินอยู่นั้น เหวินหลนสงที่ชอบผ่าหินด้วยตัวเองแค่มองก็ดูออก

“ฮ่าฮ่า เขาดูชำนาญกว่าฉันเยอะเลย”

เมื่อได้ยินเหวินหลนสงพูดชมเยี่ยเทียน จั่วเจียจวิ้นกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่  เหวินหลนสงได้ยินก็ประหลาดใจ เขาสามารถฟังออกว่า จั่วเจียจวิ้นเองบางครั้งก็ไม่ได้สุภาพอย่างที่คิด

“เฮ้ ศิษย์พี่ ข้างในนี้เหมือนจะมีสีเขียว”  ขณะที่จั่วเจียจวิ้นที่กำลังพูดคุยกับเหวินหลนสง เสียงของเยี่ยเทียนดังขึ้นมา

“อะไรนะ?  สีเขียวออกมาแล้ว จั่วเจียจวิ้นรีบเดินเข้าไปใกล้ มองดูอยู่พักหนึ่ง เขาก็นิ่งอึ้งไปเลย

เหตุผลที่จั่วเจียจวิ้นนิ่งอึ้งนั้น ไม่ใช่หมายถึงว่าความเขียวของมันสะดุดตาแค่ไหน แต่ที่ตกใจคือความเร็วในการผ่าหินของเยี่ยเทียน

ในช่วงเวลาสั้น ๆ ยังไม่ถึงสองนาที เยี่ยเทียนสามารถผ่าหินที่มีขนาดเท่ากำปั้นแบ่งออกหนึ่งในสามของปริมาณ และเครื่องเจียระในเองใบมีดของมัน ก็เสียหายสภาพดูไม่ได้เลย

เยี่ยเทียนมือหนักขนาดไหน ถ้าหากไม่กลัวว่าจะทำให้เครื่องเจียระไนสึกใช้งานไม่ได้ เยี่ยเทียนคงบดหินนี้ให้กลายเป็นผงได้

“ศิษย์พี่ นี้เท่ากับว่าชนะการเดิมพันหรือยัง” เห็นจั่วเจียจวิ้นที่เงียบไม่พูดอะไร เยี่ยเทียนก็สะกิดเขาทีหนึ่ง

“หา? ถ้าออกมาเป็นสีเขียวก็ได้ราคาเพิ่มขึ้นแล้ว”

จั่วเจียจวิ้นหันหลังกลับ รีบใช้น้ำล้างให้สะอาด หยิบเอาไฟฉายแบบฟลูออเรสเซนต์ขึ้นมาเปิดแล้วส่องอย่างใกล้ชิดกับผิวหน้าของหิน

เดิมจะเห็นสีเขียวเพียงผิวหน้าของหินเท่านั้น หลังจากถูกแสงไฟส่องเข้าไปสีเขียวข้างในก็ส่งประกายออกมา มีสีอื่นปนอยู่เล็กน้อย ดูแล้วสวยงามมาก

“ถ้าไม่ดูลายน้ำ แต่ดูความเขียวของมัน หินก้อนนี้ถือว่ามีค่าเกินคาด”

“รีบแยกออกเร็ว มาดูว่าข้างในกันว่า หยกมีขนาดใหญ่แค่ไหน คุณภาพเป็นยังไง”

จั่วเจียจวิ้นส่งเสียงที่สูงขึ้น ทำให้ดึงดูดความสนใจคนรอบข้าง ปกติแล้ว ราคาของหินทรายดำจะไม่ค่อยสูงมาก แต่ถ้าผ่าออกมาแค่มีสีเขียว แคนี้ก็ทำให้มูลค่าของมันเพิ่มขึ้นอย่างมาก

“น้องเยี่ย ไม่เลวเลย ดวงในการเดิมพันของเธอนี้ถือว่าใช้ได้เลยนะ ปรมจารย์จั่ว ท่านผ่ามันต่อไปเถอะ”

เหวินหลนสงพูดออกมาทำให้เยี่ยเทียนชอบใจขึ้นมา ที่เขาเดิมพันก้อนหินนี้ไม่ใช่ต้องการจะเพิ่มราคา แค่อยากได้ความรู้สึกพอใจเมื่อขัดหยกออกมาแล้ว

“เยี่ยเทียน เธอมาทำสิ ระวังหน่อยนะ พยายามอย่าถูโดนหยกสีเขียว แค่เอาผลึกรอบ ๆของมันออกก็พอแล้ว”

จั่วเจียจวิ้นเปลี่ยนเครื่องเจียระไนหิน แล้วส่งให้เยี่ยเทียน มือซ้ายของเขาบาดเจ็บไม่สามารถช่วยเขาได้ ปีนี้คงจะพลาดโอกาสในการผ่าหินแล้ว

“นี้ก็ถือว่าชนะพนันแล้ว”

ในหัวเยี่ยเทียนตอนนี้ก็รู้สึกยังไม่ค่อยเข้าใจ เขาก็ไม่รู้ว่าราคานี้จะเพิ่มสูงขึ้นเท่าไหร่ หลังจากที่รับเครื่องเจียระไนมาจากจั่วเจียจวิ้น เสียงเครื่องเจียระไน ก็ดังสนั่นขึ้นมาอีก

เยี่ยเทียนกำลังเจียระไนก้อนหินอย่างสุดกำลัง แต่ความชำนาญในการเจียระไนถือว่าสุดยอดมาก ตอนที่เจียระไนเข้าไปถึงชั้นหยก เขาสามารถยั้งแรงกลับมาได้ ไม่ได้กระทบถึงเนื้อในของหยกแม้แต่น้อย

ครั้งนี้มีคนมามุงดูมากกว่าปกติ ดูท่าทางของเยี่ยเทียนแล้ว ทุกคนต่างพยักหน้าแล้วยอมรับว่า ถ้าหากไม่รู้ว่านี้คือครั้งแรกที่เยี่ยเทียนผ่าหิน ทุกคนก็ต่างคิดว่าเขาคือผู้มีความเชี่ยวชาญและรู้วิธีในการผ่าหิน

……