บทที่ 702 ฆาตกรตัวจริงที่สังหารแม่ทัพใหญ่

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 702 ฆาตกรตัวจริงที่สังหารแม่ทัพใหญ่
“กู้ชูหน่วน เจ้ากล้าทำเช่นนี้กับข้า คนบางคนไม่มีทางปล่อยเจ้าไว้แน่”

กู้ชูหลันไม่กล้าล่วงเกินจอมมาร ได้แต่ใช้สายตาที่เกลียดชังและเคืองโกรธมองไปทางกู้ชูหน่วน

“หืม……ใครกันนะที่ไม่มีทางปล่อยข้าเอาไว้ ด้วยความสามารถของข้าในตอนนี้ ยังมีใครที่กล้าไม่ให้เกียรติข้าอีกหรือ กระทั่งข่มขู่ข้าด้วยซ้ำ”

“ย่อมมีแน่นอน บนโลกใบนี้ไม่ได้มีแค่พวกที่มีอำนาจสูงสุดเหล่านั้นเสียเมื่อไหร่”

“สำนักวิญญาณมืดหรือ เสียดายจริงๆ ……หลังจากวันนี้แล้วสำนักวิญญาณมืดต้องหายสาบสูญไปจากโลกนี้”

“ฮึ สำนักวิญญาณมืดไม่เห็นจะน่ากลัวตรงไหน ยังมีพลังที่ร้ายกาจกว่าสำนักวิญญาณมืดอีก”

“เจ้าหมายถึงเผ่าเทียนเฟิ่นหรือ”

กู้ชูหลันไม่พูดจา แต่ว่าสายตาที่ดูหยิ่งยโสนั้นได้แสดงออกถึงการยอมรับทั้งหมด

กู้ชูหน่วนยิ้มหวาน

ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่กู้ชูหยุน ความคิดของนางตื้นเขินเกินไป โตแต่ตัว ผ่านเรื่องราวต่างๆมาตั้งมากมาย ยังคงโง่ดักดานไม่เปลี่ยน แค่หยั่งเชิงไม่กี่คำ ก็สามารถหาความจริงจากนางได้แล้ว

แล้วดูรูปร่างของนางที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกับกู้ชูหลันของนาง ทันใดนั้นกู้ชูหน่วนก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา

“ให้ข้าเดาว่าทำไมจู่ๆเจ้าก็โผล่ออกมาอยู่ที่สำนักวิญญาณมืด เป็นเพราะคนของสำนักวิญญาณมืดตามหาเจ้าใช่หรือไม่ พวกเขาได้จัดการหาหญิงสาวที่คล้ายกับเจ้าราวกับแกะมาแปลงโฉมเพื่อแทนตัวเจ้าที่อยู่ที่เรือนหลังเก่า”

“คนของสำนักวิญญาณมืดอยากให้เจ้าช่วยทำงานบางอย่าง แม่เจ้าไม่เห็นด้วย ฉะนั้นพวกเขาก็เลยฆ่าแม่เจ้าอย่างเงียบๆ ส่วนเจ้า ก็ตกเป็นฆาตกรที่ฆ่าแม่ตนเองทางอ้อมใช่หรือไม่”

“เหลวไหล ข้าจะฆ่าแม่ตนเองได้อย่างไร”กู้ชูหลันสีหน้าเปลี่ยนไป ตะคอกเสียงดุ

ยิ่งนางดูเดือดดาลเช่นนี้ กู้ชูหน่วนก็ยิ่งมั่นใจในสิ่งที่ตนเองคาดเดาในใจ

“เจ้าไม่ได้คิดจะทำร้ายแม่เจ้าให้ตาย หลังจากที่แม่เจ้าถูกขังอยู่ในเรือนเก่า หดหู่ไม่มีความสุข สุขภาพก็แย่ลงทุกวัน แค่ถูกเจ้าพูดจากระทบเล็กน้อย หรือถูกสำนักวิญญาณมืดทำอะไรลงไป แม่เจ้าก็ถึงแก่ความตายแล้ว”

“เหลวไหลทั้งเพ”

กู้ชูหน่วนไม่สนใจความเกรี้ยวกราดของนาง เดินไปมารอบๆตัวนาง มือขวาจับใต้คาง ท่าทีราวกับกำลังใช้ความคิด

“เจ้าก็แค่สูญเสียลูกสาวอนุภรรยาที่รักมากไปเท่านั้น ไม่มีค่าที่จะเอ่ยถึงเลยสักนิด ทำไมคนของสำนักวิญญาณมืดถึงมาหาเจ้า แล้วทำไมเจ้าถึงรู้จักเผ่าเทียนเฟิ่น ให้ข้าลองเดาดูอีกครั้ง”

ในแววตาของจอมมารมีแต่ความหลงใหล เขาชอบกู้ชูหน่วนที่ดูซุกซนเช่นนี้ ทุกกิริยาท่าทาง ไม่ว่าจะเลิกคิ้วหรือยิ้มก็ทำให้หวั่นไหวยิ่งนัก ทำให้หัวใจอดไม่ได้ที่จะเกิดระลอกคลื่นแห่งความอ่อนโยนแผ่กระจายออกมา

ถ้าหากหัวใจนางเป็นของเขา คงจะดีไม่น้อย

ทันใดนั้นกู้ชูหน่วนก็เอ่ยขึ้นมาว่า “สำนักวิญญาณมืดกับเผ่าเทียนเฟิ่นมีความเกี่ยวข้องกันใช่หรือไม่ ระหว่างพวกเขาถ้าไม่ได้ร่วมมือกันและไปมาหาสู่กัน เช่นนั้นสำนักวิญญาณมืดก็คือส่วนหนึ่งของเผ่าเทียนเฟิ่นที่อยู่ข้างนอก”

กู้ชูหลันฟังที่นางพูดอย่างเงียบๆ ใบหน้าที่ขาวซีดไม่แสดงสีหน้าใดๆออกมา

“เห็นที เพราะสถานะของเจ้ายังไม่สูงพอ หรือว่าไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา”

“กู้ชูหน่วน เจ้าคิดว่านอกจากเจ้าแล้ว ทุกคนบนโลกใบนี้ต่างก็เป็นพวกโง่ไม่มีสมองหรืออย่างไร”

“คนอื่นข้าไม่กล้าพูด แต่ในสายตาข้าเจ้ามันไร้สมอง และด้อยปัญญาจริงๆ”

“เจ้า……”

“ที่พวกเขาตามหาเจ้า ก็คงจะเกี่ยวข้องกับข้า รูปร่างของเจ้าคล้ายกับข้ามาก คงไม่ได้ตามหาเจ้าเพื่อให้ปลอมตัวเป็นข้ากระมัง ”

เฮือก

ร่างของกู้ชูหลันแข็งทื่อไป แม้ว่านางจะพยายามรักษาความนิ่งเอาไว้ แต่การเคลื่อนไหวของมือและแววตกตะลึงที่วาบผ่านไปนั้นได้หักหลังตัวนางเอง

เดิมทีกู้ชูหน่วนก็แค่ตั้งสมมติฐานอย่างกล้าหาญเท่านั้น ไม่เคยคิดจริงจังว่าพวกเขาจะหาตัวกู้ชูหลันเพื่อให้ปลอมตัวเป็นนางจริงๆ

ตอนนี้……

นางกลับต้องมาวิเคราะห์ใหม่แล้ว

เผ่าเทียนเฟิ่นนอกจากจะตามหากู้ชูหยุนแล้ว ยังตามหาตัวกู้ชูหลัน

“แม่ทัพใหญ่เซียวไม่ได้ถูกกู้ชูหยุนฆ่า แต่เป็นเจ้าที่ฆ่าใช่หรือไม่ เป็นเจ้าที่ลงมืออย่างอำมหิตกั่บแม่ทัพใหญ่เซียว ร่วมมือกับคนของเผ่าเทียนเฟิ่นปลิดชีวิตของเขา แย่งเอามุกมังกรเม็ดที่เจ็ดไปใช่หรือไม่”

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร”

กู้ชูหลันพยายามจะลุกขึ้นมา อยากจะหนีไปจากที่นี่ แต่ว่าที่นี่มีแต่คนของกู้ชูหน่วนทั้งสิ้น นางไร้หนทางที่จะหนีรอดได้

กู้ชูหน่วนคว้าข้อมือของนางเอาไว้ทันที พลังที่แข็งแกร่งทำเอากู้ชูหลันเจ็บจนต้องสูดลมหายใจเข้าเฮือกใหญ่

“กู้ชูหน่วน เจ้าจะทำอะไร ปล่อยข้า ปล่อยข้านะ…”

นางรู้สึกลนลานขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ แววตาของกู้ชูหน่วนเย็นชาจนไร้ความรู้สึก เย็นเยียบยิ่งกว่าอสูรและปีศาจหลายเท่า

นางมีความรู้สึกว่า ถ้าหากวันนี้นางพูดอะไรผิดไป กู้ชูหน่วนต้องฆ่านางแน่ และต้องใช้วิธีการที่อำมหิตโหดเหี้ยมที่สุดกับนาง แต่ไหนแต่ไรกู้ชูหน่วนไม่ใช่คนที่มีจิตใจเมตตาปรานีอะไรเลย

“บอกข้ามา แม่ทัพใหญ่เซียวถูกเจ้าฆ่าตายใช่หรือไม่”

“เจ้าไม่มีหลักฐานจะมาปรักปรำคนอื่นได้อย่างไร ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดเรื่องอะไรด้วย”

“เจ้าอยากได้หลักฐานหรือ อาโม่ ข้าว่าวิธีการที่เจ้าว่ามาเมื่อครู่ดีมาก ตัดแขนขาของนางก่อน ค่อยทำลายโฉม ควักลูกตาของนาง เฉือนจมูก แล้วค่อยส่งไปที่เผ่าปีศาจ ให้พี่น้องของเจ้าได้สนุกสนานกัน”

จอมมารยิ้มเหี้ยม สายตาที่มองกู้ชูหลันราวกับมองคนที่ตายไปแล้ว เขาชี้นิ้วสั่งการลูกน้องของกู้ชูหน่วนอย่างไม่เกรงใจ “จะยืนบื้ออยู่ทำไม ยังไม่ทำตามที่พี่สาวพูดอีก หรืออยากจะให้มือข้าเปื้อน”

“ขอรับ”

“ไม่ ไม่ได้นะ เจ้าจะทำอย่างนี้กับข้าไม่ได้ กู้ชูหน่วน ข้าเป็นน้องสาวแท้ ๆของเจ้านะ”

“หึ ……น้องสาวอะไรกัน เจ้าเองก็รู้ดีแก่ใจไม่ใช่หรือ ข้าไม่ใช่ลูกของกู้เฉิงเซี่ยง หรือแม้ข้าจะเป็นลูกของกู้เฉิงเซี่ยง ข้าก็ตัดขาดจากเขาตั้งนานแล้ว อย่ามานับญาติกันแถวนี้เลย”

กู้ชูหลันสีหน้าซีดลง หัวใจเย็นเฉียบลงอย่างไร้สาเหตุ

“อ๊า……ไม่ ……ไม่เอา……ข้าพูดแล้วข้าพูดแล้ว……”

ใช่แล้ว จากข่าวที่ได้รับรายงานกลับมา นางไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆของท่านพ่อ นางเป็นลูกแท้ ๆของอดีตฮ่องเต้และพระชายายู่แค่ขออาศัยอยู่ที่จวนของเฉิงเซี่ยงเท่านั้น

หลายปีที่ผ่านมา คนในจวนเฉิงเซี่ยงไม่เคยปฏิบัติต่อนางในทางที่ดีเลย นางจะรู้สึกขายหน้าของจวนเฉิงเซี่ยงได้อย่างไร

กู้ชูหน่วนยังคงมีความหวังเล็กๆว่าจะไม่ตกอยู่ในสภาพอนาถขนาดนั้น แต่นางก็ต้องผิดหวัง

ลูกน้องของกู้ชูหน่วนได้จับแขนขาของนางเอาไว้ ยกเคียวเล่มหนึ่งขึ้นมา ฟันลงไปที่แขนด้านขวาของนางอย่างแรง

กู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะ ในสายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

ไม่รู้จริงๆว่าทำไมคนของเผ่าเทียนเฟิ่นจึงได้หาคนที่โง่ขนาดนี้มาทำงาน

ยิ่งไม่รู้ว่าทำไมคนของสำนักวิญญาณมืดถึงเก็บนางไว้จนถึงป่านนี้

น่าจะเป็นเพราะว่าพวกเขายังไม่ทันได้จัดการกับกู้ชูหน่วน สำนักวิญญาณมืดก็ถูกนางทำลายล้างเสียก่อนแล้ว

กู้ชูหน่วนส่งสายตาให้พวกเขาหยุด ตนเองกลับใช้สายตาเย็นชามองกู้ชูหลันที่ตกใจจนใบหน้างามไร้สีเลือด เหงื่อออกเต็มใบหน้า

“พูดมาเถอะ ข้าไม่ค่อยมีความอดทนนัก แม่ทัพใหญ่เซียวตายอย่างไรกันแน่ มุกมังกรเม็ดที่เจ็ดอยู่ที่ไหน”

“มุกมังกรอะไร ข้าไม่เข้าใจ แต่ว่าคนของเผ่าเทียนเฟิ่นได้เอามุกเม็ดหนึ่งออกมาจากหัวใจของแม่ทัพใหญ่เซียวจริงๆ”

ทันใดนั้นอุณหภูมิในร่างกายของกู้ชูหน่วนก็ลดฮวบลง มือเรียวสวยกำแน่นจนเกิดเสียงบดกันของกระดูก

เป็นอย่างที่คิด……

เป็นอย่างที่คาดเอาไว้ว่าคนของเผ่าเทียนเฟิ่นชิงมุกมังกรไป

“เป็นใครในเผ่าเทียนเฟิ่นที่ชิงไป”

“เรื่องนี้……ข้าก็ไม่รู้ เขาปิดหน้าเอาไว้ ข้ามองไม่ออก รู้แต่ว่าเขาเป็นคนของเผ่าเทียนเฟิ่น”

“อายุประมาณเท่าไหร่”

“เรื่องนี้……ข้าก็ไม่รู้ เขาสวมชุดดำทั้งตัว รู้แค่ว่าเป็นผู้ชาย อีกทั้งอายุก็น่าจะไม่น้อยแล้ว”

“แล้วแม่ทัพใหญ่เซียวตายอย่างไร”

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว กู้ชูหน่วนไม่มีอารมณ์สบายๆมาสนใจเรื่องชั่วๆของกู้ชูหลันแล้ว

นางอยากรู้แค่ว่าใครฆ่าแม่ทัพใหญ่เซียว และมุกมังกรอยู่ที่ไหนกันแน่