ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล
หลังจากเซียวอวี๋นำทัพมาถึงเมืองฮุยเฉิง เขาก็ไม่ได้รีบเริ่มเปิดฉากโจมตี เพระาเขาทราบดีว่าอีกฝ่ายคงเตรียมการป้องกันไว้เป็นอย่างดี อีกทั้งกองทัพของเขาก็เพิ่งทำศึกมา ย่อมต้องการพักฟื้นฟู ถึงกระนั้น การพักนานเกินไปย่อมไม่ส่งผลดี ตอนนี้กองทัพของเขามีกำลังขวัญจากการรบชนะอยู่ ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะโจมตี เมื่อถึงยามดึก เซียวอวี๋ก็ออกคำสั่งโจมตีจากสามด้านและละเว้นด้านหนึ่งเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันที่กองทัพจะปะทะกัน เขาก็พบว่าศัตรูเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตีออกมาก่อน ขณะที่เซียวอวี๋กำลังนั่งจิบไวน์พลางพูดคุยอยู่กับนิโคลัส พลส่งสารก็เข้ามารายงานว่าฝ่ายศัตรูเลือกที่จะออกจากเมืองมาโจมตี “หืม? สมองของพวกมันมีปัญหา? พวกมันคิดว่าจะสามารถลงมือโดยที่เราไม่ทันระวังงั้นหรือ?” ได้ยินคำรายงาน เซียวอวี๋รู้สึกว่าซาเน็ตติผู้นี้มีดีแต่ชื่อเสียแล้ว ไม่อย่างนั้น อีกฝ่ายคงจะไม่เลือกหลบหนีด้วยวิธีนี้แน่ “ท่านย่ามันเถอะ คิดหนีงั้นหรือ? คิดว่าลูกพี่จะยอม? จัดเตรียมทัพอากาศ รวมทั้งมังกรน้อยและพวกคิเมร่าด้วย เมื่อใดที่พบตัวซาเน็ตติก็ให้แจ้งข้าทันที ลูกพี่ไม่เชื่อว่าพวกมันจะหนีไปได้” เซียวอวี๋เตรียมจัดการซาเน้ตติแล้ว อย่างไรก็ตาม ตอนนั้นเอง เซียวอวี๋ก็สังเกตเห็นว่ามีกลุ่มคนสวมผ้าคลุมสีโลหิตกำลังมุ่งตรงมาทางเขา “มารดามัน กองกำลังอัศวินสีชาด สมองของพวกมันเน่าเฟะหมดแล้วหรือถึงกล้าพุ่งเข้ามาหาข้า? พวกมันมั่นใจว่าจะจัดการข้าได้?” เห็นกองกำลังที่มุ่งเข้ามา เซียวอวี๋ก็ทราบตัวตนของอีกฝ่ายทันที เซียวอวี๋รู้สึกตะลึง เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงจะซุกซ่อนยอดฝีมือเอาไว้ในคนกลุ่มนี้ด้วย ดังนั้นเขาจึงรีบเรียกตัวเหล่าฮีโร่มา “ฆ่า! จงชำระพวกบาปหนานั้นซะ!” เหล่าอัศวินสีชาดต่างร่ำร้องอย่างคลุ้มคลั่ง “มารดามัน กล้าโจมตีใส่บิดาหรือ…ทัพอากาศทั้งหมดจงบถล่มใส่พวกโง่นั่นซะ เหอะ คิดว่าบิดาหวาดกลัวพวกเจ้าหรือ?” เซียวอวี๋ยังได้เรียกตัว กรอม คาร์นและคาเอลมาอยู่ข้างกาย เขาต้องการจะจัดการอีกฝ่ายจนสิ้นซากที่นี่ วันนี้เขาจะสั่งสอนบทเรียนให้อีกฝ่ายว่าพวกเจ้าน่ะไม่ใช่พยัคฆ์อะไรหรอก ก็แค่แมวป่วย! ได้ยินคำสั่งจากเซียวอวี๋ กองทัพอากาศที่ประกอบด้วยอัศวินกริฟฟ่อน แบทไรเดอร์และไวเวิร์นจึงมุ่งเข้าหากองกำลังอัศวินสีชาด กองทัพอัศวินสีชาดนั้นไม่ได้มีมากนัก พวกเขามีจำนวนราวๆหนึ่งหมื่นคน แต่แม้จะมีเพียงแค่หนึ่งหมื่น กระนั้นความแข็งแกร่งก็เหนือล้ำกองทัพทั่วไปมาก อีกทั้งในกองกำลังยังมีพาลาดินชั้นสูงอยู่หลายคน นี่จึงเป็นเหตุผลที่ซาเน็ตติคิดใช้พวกเขาในฐานะทัพพิสดาร แต่แม้จะแข็งแกร่งเพียงใด พวกเขาก็ยังด้อยกว่าขุมกำลังโดยรวมของเซียวอวี๋ เห็นกองทัพอากาศของเซียวอวี๋มาถึง พวกอัศวินก็ไม่ได้เกรงกลัวแต่อย่างใด ตรงกันข้าม พวกเขาสั่งให้มือธนูยิงใส่อีกฝ่ายทันที แต่ด้วยเพราะประสบการณ์ที่โชกโชน ทัพอากาศย่อมมีวิธีรับมือ เมื่อเห็นลูกธนูยิงขึ้นสู่ท้องฟ้า ทัพอากาศก็แบ่งแยกฝูงบินเป็นหลายกลุ่มก่อนจะเปิดฉากโจมตีและล่าถอยออกไปนอกระยะยิง ตู้ม! เกิดการระเบิดขึ้นท่ามกลางทัพอัศวิน ติดตามมาด้วยสายฟ้าและคมหอกที่กระหน่ำลงมาดุจห่าฝน กระนั้น การตายของพวกพ้องกลับไม่ได้ส่งผลกระทบกับกำลังขวัญของพวกเขา กลับกันพวกเขากลับยิ่งโถมเข้ามาอย่างไม่กลัวตาย “โฮ่ มารดามันเถอะ ช่างกล้าหาญจริงๆ แต่ก็เท่านั้น” เซียวอวี๋แค่นเสียงก่อนจะหันไปตะโกนต่อพลถ่ายทอดคำสั่ง “ให้คิเมร่าออกโรง!” “คิเมร่า? เจ้ามีคิเมร่า?” นิโคลัสโพร่งอย่างตกตะลึง “เหอ แปลกงั้นหรือ? หึ วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้ดูการแสดงดีๆ” กล่าวจบเซียวอวี๋ก็หันไปออกคำสั่งต่อ พวกคิเมร่านั้นเตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องใช้เวลาเตรียมตัวอีก ไม่นานพวกมันก็โผบินขึ้นสู่ท้องฟ้า เมื่อทั้งหมดได้เห็นสิ่งที่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ไม่ว่าจะไพร่พลของฝั่งใด พวกเขาต่างก็ตะลึงจนอ้าปากค้าง สมรภูมิที่ก่อนหน้าเต็มไปด้วยเสียงตะโกนร่ำร้องพลันเงียบกริบลง ทั้งหมดหยุดมือขณะสายตาจับจ้องไปยังฝูงคิเมร่าบนท้องฟ้า นี่มันเรื่องอะไรกัน? สิ่งนี้ทำลายความเข้าใจของพวกเขาไปโดยสิ้นเชิง เป็นดั่งที่เซียวอวี๋คาดการณ์เอาไว้ บนทวีปแห่งนี้ มีไม่กี่คนที่สามารถจดจำคิเมร่าได้ ในความรู้ความเข้าใจของพวกเขาแล้ว สัตว์ประหลาดขนาดใหญ่นี้มันคือมังกรชัดๆ ยิ่งเมื่อพวกมันสยายปีกบินอยู่บนฟ้า เมื่อแสงตกกระทบลงบนตัว นั่นก็ทำให้ผู้คนไม่อาจมองเห็นสีผิวที่แท้จริงและยิ่งเพิ่มสภาวะยิ่งใหญ่ให้กับพวกมัน ไม่นาน พวกคิเมร่าก็บินมาอยู่เหนือกองทัพอัศวินสีชาด ปากอันใหญ่โดตพลันอ้าออกและส่งเปลวเพลิงร้อนแรงแผดเผาทัพอัศวิน เพลิงที่พ่นออกมานี้ยังรุนแรงกว่าเพลิงของมังกร นั่นก็เพราะนี่เป็นทักษะที่โดดเด่นที่สุดของพวกมัน และเมื่อเปลวเพลิงกว่าร้อยสายถูกพ่นออกมาพร้อมกัน อานุภาพของมันกระทั่งยังเหนือล้ำกว่าเวทมนตร์ระดับหกอีก ในฐานะยูนิตขั้นที่สามแล้ว หากไม่มีทีเด็ดใด เช่นนั้นก็คงไม่มีชื่อเสียงโด่งดังหรอก พวกอัศวินที่กำลังตกตะลึงต่างถูกเพลิงแผดเผาเป็นเถ้าถ่าน เห็นกองทัพคิเมร่าเปิดฉากเป็นทัพหน้า ทัพอากาศที่เหลือก็บินย้อนกลับมาติดตามคิเมร่ากวาดล้างทัพอัศวินสีชาด ตกตะลึง การปรากฏตัวเป็นครั้งแรกของพวกมันเพียงอธิบายได้เพียงนี้เท่านั้น…..