บทที่ 347

สายตาทุกคนมองไปที่เซียวอี้เชียน

เซียวอี้เชียนรู้สึกทั้งอับอายทั้งโมโห ตะโกนด่าเสียงดัง “นายน่ะสิเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ทั้งตระกูลนายล้วนเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ผมจะบอกให้ กูสบายดี!”

เย่เฉินยิ้มอย่างเย็นชา “ตรงนั้นของใครใช้ไม่ได้ ตัวเองเท่านั้นที่รู้ดี ที่ควรแข็งไม่แข็ง ปากแข็งแล้วมีประโยชน์อะไร?”

ทุกคนมองที่เซียวอี้เชียน เยาะเย้ยขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

หรือว่าประธานเซียวที่มีชื่อเสียงเลื่องลือคนนี้ สูญเสียความเป็นชายไปแล้วจริงๆ?

ดูแล้วน่าจะเป็นไปได้ ไม่งั้นทำไมเขาต้องวิ่งมาประมูลโสมม่วงชั้นเลิศนี่ล่ะ? อีกอย่างยังคลุกคลีอยู่กับเว่ยฉางหมิงของตระกูลเว่ย

วันนี้ในงานมีแต่คนจากการแพทย์แผนจีน ทุกคนก็รู้ว่าตระกูลเว่ยกำลังศึกษาวิจัยเพิ่มความแข็งแรงให้กับผู้ชาย เป็นยาตัวใหม่ที่สามารถฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศของผู้ชาย ดูแล้ว เซียวอี้เชียนที่คลุกคลีอยู่กับเว่ยฉางหมิง คงอยากจะเป็นคนทดสอบยาคนแรกมั้ง?

เซียวอี้เชียนโกรธจนกัดฟัน อ้าปากด่า “เจ้าคนแซ่เย่ อย่ามาพูดใส่ร้ายคนอื่นที่นี่! กูยังมีความสามารถแข็งแรงอยู่!”

“ เมียน้อยของตัวเองยังส่งให้คนอื่นแล้ว ยังจะมาพูดว่ามีความสามารถ? ถ้ามีความสามารถจริงจำเป็นต้องส่งให้คนอื่นหรอ?”

ใบหน้าเซียวอี้เชียนแดงก่ำ พูดด้วยความโกรธจัด “คุณ … นี่คุณกำลังพูดเหลวไหลอะไร?!”

เซียวเวยเวยถามอย่างโมโห “เย่เฉิน ทำไมคุณถึงไม่มีเหตุไม่มีผลพูดใส่ร้ายคนบริสุทธิ์!”

เย่เฉินเห็นท่าทางทั้งสองคนนั้นทั้งโกรธทั้งกังวล หัวเราะเยาะ ขี้เกียจเถียงกับพวกเขา ตรงไปรับโสมม่วงชั้นเลิศจากมือของพิธีกร พูดกับซือเทียนฉีกับฉินกางว่า “พอแล้ว ที่นี่ไม่มีอะไรที่ทำให้ผมสนใจแล้ว ไปก่อนล่ะ”

พูดจบ เย่เฉินก็ลุกขึ้นเดินออกไป

ซือเทียนฉีและฉินกางรีบพูดว่า “อาจารย์เย่ พวกเราไปส่งท่าน!”

“ไม่จำเป็น” เย่เฉินโบกมือแล้วพูด “ผมเดินไปคนเดียวได้ พวกคุณอยู่สังสรรค์กับทุกคนต่อเถอะ”

พูดไป เขาก็มองไปที่ห่างจากนี่ไม่ไกล โคบายา ชิอิจิโร่ที่จ้องมองซือเทียนฉีอยู่ในที่ลับๆตลอด เตือนสติซือเทียนฉีอีกครั้ง ว่า “ท่านซือ หลังจากวันนี้ ถ้ามีคนมาแย่งยาที่อยู่ในตัวคุณ หรือขโมยยาในตัวคุณ คุณไม่ต้องต่อต้าน เขาอยากได้ก็ให้เขาไปเลย เข้าใจไหม?”

ซือเทียนฉีรีบพยักหน้าทันที ยิ้มแล้วพูดว่า “อาจารย์เย่วางใจ ผมเข้าใจแล้วครับ!”

สายตาของ ฉินเอ้าเสวี่ยนมองที่เขาตลอด เห็นเขาจะไป ทันใดนั้นก็กระวนกระวายเล็กน้อย ถามอย่างลังเลโดยใช้เสียงสามว่า “อาจารย์เย่ ฉันไปส่งคุณได้ไหมคะ?”

ตอนที่เย่เฉินเห็นฉินเอ้าเสวี่ยนเพิ่งมาถึง ก็รู้ว่าเธอมีความในใจ และดูออกมาเธอมีอะไรจะพูดกับตัวเอง เห็นเธอในที่สุดก็รวบรวมความกล้าพูดออกมา พยักหน้าพูดว่า “ได้ คุณไปส่งผม”

ฉินเอ้าเสวี่ยนมองเย่เฉินอย่างซาบซึ้งพูดด้วยความเคารพ “อาจารย์เย่เชิญค่ะ!”

ฉินเอ้าเสวี่ยนเดินตามเย่เฉินจนถึงประตูอย่างอ่อนน้อม

เย่เฉินมองไปฉินเอ้าเสวี่ยนที่ท่าทางลังเล จึงเอ่ยปากถาม “เอ้าเสวี่ย บอกมาตามตรง คุณมีเรื่องอะไรในใจใช่ไหม?”

ฉินเอ้าเสวี่ยนกัดริมฝีปากล่าง พูดด้วยความเขินอายจนหน้าแดง “อาจารย์เย่ ท่านมองออกหรอ … “