บทที่ 2381 ร่วมมือ 6 / บทที่ 2382 ร่วมมือ 7

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 2381 ร่วมมือ 6

นึกว่าจะเป็นการซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง ได้เขมือบสองร่างได้คำเดียว ผลคือไม่ตกถึงท้องเลยสักคน ซ้ำยังถูกแทงทะลุเพดานด้วย!

มันทั้งเจ็บทั้งโกรธ มุดออกมาจากจุดที่ซ่อนตัวอยู่ทันที ขวางทางของทุกคนเอาไว้ดุจขุนเขาเล็กๆ ลูกหนึ่ง

แผ่นเกล็ดบนร่างมันเป็นสีรุ้งพร่างพราว ดูประหลาดและดุร้าย

มันขี้เกียจมาก นอนนิ่งอยู่ที่เดียวแทบทั้งปี เรื่องที่ชอบทำที่สุดก็คือเฝ้ารอเหยื่อให้ผ่านมา

บางครั้งถ้ามีสัตว์พิษเดินผ่านทางมาเฉียดปากมันไป ก็จะถูกลิ้นของมันพุ่งมาม้วนเข้าสู่ปากกลายเป็นอาหาร ไม่นึกเลยว่าวันนี้จะเตะถูกแผ่นเหล็กเข้า…

องครักษ์มารทั้งสองพาอวิ๋นชิงหลัวไปอยู่ในที่ปลอดภัยแล้ว ช่วยให้นางยืนได้มั่นคง คนหนึ่งปกป้องอยู่ข้างกายนาง อีกคนหนึ่งพุ่งออกไปทันที…

สัตว์ร้ายชนิดนี้ดูดุร้ายยิ่งนัก แต่พอสู้กันขึ้นมาจริงๆ ไม่นับว่าคล่องตัวเท่าไหร่ ได้แต่อาศัยผิวหนังที่หยาบหนามาต้านรับการโจมตี…

ส่วนที่คล่องแคล่วที่สุดก็คือลิ้นทั้งสามของมัน

แต่ระหว่างที่ต่อสู้กัน ขอเพียงยอดฝีมือระแวดระวังไว้ ก็ไม่มีทางถูกลิ้นม้วนพันตัวได้

และเห็นได้ชัดว่าตี้ฝูอีเป็นยอดฝีมือผู้เลิศล้ำ เมื่อเพิ่มองครักษ์ของเขาเข้ามาด้วย ผลลัพธ์ของศึกใหญ่ครั้งนี้ก็ยิ่งไม่น่ากังวลเลย

เวลาผ่านไปเพียงหนึ่งเค่อ สัตว์พิษตัวนั้นก็ปราชัยแล้ว…

ถูกตี้ฝูอีใช้กระบี่ตัดคอ ล้มกองอยู่บนพื้น

องครักษ์ที่ต่อสู้เคียงข้างตี้ฝูอีเตะศพของเจ้าตัวนั้นทีหนึ่ง

“เห็นท่าทางดูดุดัน ที่แท้ก็แค่ตัวไร้ประโยชน์”

เอ่ยยังไม่ทันขาดคำ จู่ๆ ตี้ฝูอีก็ตะโกนเสียงต่ำ

“ถอยมา!”

พลันสะบัดแขนเสื้อลากองครักษ์ผู้นี้ให้ถอยไป

แทบจะในเวลาเดียวกันนี้ ซากศพของสัตว์พิษตัวนั้นก็ปะทุขึ้นมาเสียงดังตูมราวกับระเบิดก็มิปาน! รอบข้างดุจมีพลุไฟลูกใหญ่ระเบิดขึ้นมา…

….

หนึ่งเค่อให้หลัง

องครักษ์ผู้นั้นคลานขึ้นมาจากพื้น สลัดเศษเลือดเศษเนื้อของสัตว์พิษที่กระเด็นมาใส่ร่างทิ้ง ร้องอุทานออกมา อกสั่นขวัญแขวน

“นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? ตายแล้วยังระเบิดได้อีก!”

เมื่อกี้เขาอยู่ใกล้สัตว์พิษตัวนี้ที่สุด หากมิใช่ตี้ฝูอีลากเขาให้ถอยออกไปได้ทันเวลา เกรงว่าครั้งนี้คงมิได้ง่ายดายเพียงโดนเศษเนื้อกระเด็นใส่ตัวแน่

ส่วนกู้ซีจิ่วก็ดิ้นออกมาจากอ้อมแขนของตี้ฝูอีได้แล้ว เมื่อครู่ตอนที่เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ขึ้น ตี้ฝูอีพุ่งพรวดเข้ามา รั้งตัวเธอเข้าสู่อ้อมแขน ใช้ร่างปกป้องเธอไว้ แถมยังปิดหูเธอไว้ด้วย…

ผลคือ เธอได้ยินเพียงเสียงอื้ออึงคราหนึ่ง และมองไม่เห็นสิ่งอื่นใดเลย…

อ้อมแขนของเขาอบอุ่นเช่นในอดีต ตอนที่เธอซุกอยู่ในอ้อมแขนเขา

มีความเศร้าหมองหวานล้ำฝาดเฝื่อนประการหนึ่งเอ่อล้นขึ้นมา

ทำให้เธอแทบอยากจะกอดเอวเขาไว้…

โชคดีที่เธอยับยั้งความคิดชั่ววูบนี้ไว้ทันเวลา ดิ้นรนออกมาจากอ้อมกอดของเขา

เหลือบมองอวิ๋นชิงหลัวแวบหนึ่ง อวิ๋นชิงหลัวได้รับการปกป้องจากองครักษ์คนนั้นเป็นอย่างดี และหลบพ้นจากระเบิด เพียงแต่ระดับความเร็วของนางเชื่องช้าไปหน่อย ร่างจึงเปื้อนเศษเนื้อและคราบเลือดอยู่บ้าง

ตอนนี้นางกำลังก้มทำความสะอาดคราบสกปรกเหล่านั้นอยู่ ถึงแม้นางจะสวมหมวกคลุมหน้าเอาไว้ทำให้มองไม่เห็นว่าสีหน้าของนางเป็นอย่างไร แต่นิ้วมือนางสั่นเล็กน้อย มองออกว่าจิตใจนางไม่สงบยิ่งนัก…

กู้ซีจิ่วละสายตาไปเสีย คิดอยู่ในใจเงียบๆ นี่นับว่าเธอสาดความหวานชื่นใส่อวิ๋นชิงหลัวได้หรือยังนะ?

ความรู้สึกที่ได้สาดความหวานใส่คนอื่นเช่นนี้…

เจ๋งที่สุด!

รอยยิ้มจางๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากเธอ

พอหันกลับไปเห็นจู๋ตู๋ชิงกำลังมองเธอโดยเม้มริมฝีปากบางไว้นิดๆ แววตานั้นคล้ายจะไม่พอใจนิดหน่อย?

เธอกระแอมเบาๆ คราหนึ่งแล้วเบนสายตาไป เห็นตี้ฝูอีกำลังเดินวนอยู่รอบซากศพที่แหลกละเอียดของสัตว์พิษตัวนั้น จากนั้นก็หันไปมองอวิ๋นชิงหลัว

“สัตว์พิษตัวนี้เจ้ารู้จักไหม?”

อวิ๋นชิงหลัวชะงักไปแวบหนึ่ง ส่ายหน้า

“ไม่รู้จัก”

ตี้ฝูอีจึงถามกู้ซีจิ่วต่อ

“เจ้ารู้จักไหม?”

กู้ซีจิ่วก็ส่ายหน้าเช่นกัน สิ่งมีชีวิตมากมายในบึงแห่งนี้ไม่เป็นที่รู้จัก รวมถึงสัตว์พิษตัวนั้นด้วย

————————————————————————————-

บทที่ 2382 ร่วมมือ 7

ตี้ฝูอีไม่พูดอะไรต่ออีก สัตว์พิษในบึงร้อยแปลกพันประหลาด พบเจอจำพวกนี้สักชนิดก็เป็นเรื่องปกติ

ละครฉากเล็กนี้จึงผ่านพ้นไปเช่นนี้

ในบรรดาคนทั้งหมดที่อยู่ ณ ที่นี้ พลังยุทธ์ของอวิ๋นชิงหลัวต่ำต้อยที่สุด เดิมทีก็เป็นนางที่นำทาง แต่เนื่องจากอันตรายเมื่อครู่นี้ ตี้ฝูอีจึงให้นางเดินอยู่ช่วงกลางขบวนเสีย เพียงชี้เส้นทางก็พอแล้ว

อวิ๋นชิงหลัวย่อมตกลง

องครักษ์ของตำหนักมารทั้งสองคนขนาบอยู่ซ้ายขวาเพื่อปกป้องนาง

ตี้ฝูอีดึงกู้ซีจิ่วไปเดินนำอยู่ด้านหน้า

จู๋ตู๋ชิงปิดขบวน

ตี้ฝูอีนำขบวนกู้ซีจิ่วเข้าใจดียิ่ง แต่ทำไมต้องลากเธอมาด้วยล่ะ?

เธอก็นับว่าเป็นผู้ป่วยไม่ใช่หรือไง? อายุขัยเหลืออยู่ปีเดียว ลากเธอมาอยู่หัวขบวนด้วยกันจะไร้คุณธรรมเกินไปหน่อยหรือเปล่า?!

ต้องทราบด้วยว่าตัวเธอในตอนนี้ใช้พลังวิญญาณได้จำกัดยิ่ง ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใช้ เลี่ยงไม่ให้พิษในร่างแล่นสู่หัวใจ…

ลากเธอมาอยู่หัวขบวนเธอเข้าใจได้ แต่จับมือเธอไว้ตลอดเพื่ออะไรอีก?

เธอพยายามอดทน แต่ทนไม่ไหวแล้ว

“ข้ารู้สึกว่าพวกเราเว้นระยะห่างกันสักหน่อยก็ดีนะ เช่นนี้ถ้ามีตัวอะไรโผล่มาอีก เราจะได้ไม่รับเคราะห์ไปพร้อมกัน…”

มือข้างหนึ่งของตี้ฝูอีจับจูงมือซ้ายของนางไว้ จับจูงอย่างเป็นธรรมชาติยิ่ง และหาเหตุผลออกมาอย่างเป็นธรรมชาติเช่นกัน

“วิชาเคลื่อนย้ายของเจ้าเลิศล้ำนี่! หากว่ามีอันตรายจริงเจ้าก็สามารถพาข้าเคลื่อนย้ายไปด้วยได้ ดังนั้นพวกเราอยู่ใกล้กันไว้จะปลอดภัยกว่า”

กู้ซีจิ่วพูดไม่ออกแล้ว…

ตอนนี้เธอกับเขาเป็นกองหน้าของขบวน หากว่าประสบอันตรายก็เคลื่อนย้ายหนีไปเสีย ก็เหมือนตัวแทงก์ในเกมออนไลน์ที่พอทีมสู้กันอย่างดุเดือดขึ้นมาก็วาร์ปหนีไปซะ ทิ้งพวกที่มีค่าเลือดน้อยให้เผชิญอันตราย…

ไร้คุณธรรมเกินไปแล้ว! ต้องถูกรายงาน!

เพียงแต่ก่อนหน้านี้ก็อันตรายมากจริงๆ เพื่อช่วยอวิ๋นชิงหลัวตี้ฝูอีเกือบต้องเอาชีวิตของตัวเขาไปทิ้งแล้ว…

“เมื่อกี้หากว่าข้าไปช่วยเจ้าไว้ไม่ทัน มิใช่ว่าเจ้าต้องลงท้องของสัตว์พิษตัวนั้นไปแล้วหรอกหรือ?”

แววตาตี้ฝูอีวูบไหว พยักหน้า

“ใช่แล้ว!”

กู้ซีจิ่วทึ่มทื่อไปแวบหนึ่ง ค่อนข้างโมโหนัก

“เจ้าไม่ต้องการชีวิตแล้วหรือ?!”

แววตาตี้ฝูอีลุ่มลึก เอ่ยเสียงแผ่ว

“เจ้าเย็นชากับข้าขนาดนี้ ข้าจึงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว…”

กู้ซีจิ่วนิ่งงันไป

ความจริงถ้ากู้ซีจิ่วไม่ลากเขาออกมาจากปากสัตว์พิษตัวนั้น เขาก็จะฉวยโอกาสกลิ้งลงท้องสัตว์พิษตัวนั้น จากนั้นค่อยผ่าท้องมันแล้วหนีออกมา

เพียงแต่ถ้าไม่ทนรับความลำบากสักนิด ทนรับความสกปรกสักหน่อยก็จะหนีไม่รอด

เดิมทีกู้ซีจิ่วคิดจะตัดสัมพันธ์กับเขาแล้ว กลับนึกไม่ถึงว่าเขาจะหยอกเย้าเกี้ยวพาเธออยู่เรื่อยๆ เช่นนี้…

แอ๊บแบ๊วใส่เธอ ทำตัวน่าสงสาร…

แม่งเอ้ย ดูเหมือนเธอยังคงตกหลุมพรางนี้ของเขาอยู่ดี หัวใจที่เย็นชามีแนวโน้มว่าจะร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้ง

เขาบอกว่าตัดใจจากเธอแล้วมิใช่หรือ? บอกว่าไม่อยากเจอเธออีกแล้วไม่ใช่หรือไง?

แล้วตอนนี้เกิดอะไรขึ้น?

คนผู้นี้เจ้าบทบาท เธอนึกไม่ออกไปชั่วขณะจริงๆ ว่าสรุปแล้วเขาจะเล่นอะไรกันแน่

กลุ่มคนเดินทางไปตามทิศทางที่อวิ๋นชิงหลัวชี้นำ ไม่น่าเชื่อว่าจะพบอุโมงค์ใต้ดินสายหนึ่งในหนองน้ำสีแดงเข้ม!

ทุกคนลงไปในอุโมงค์ จากนั้นก็พบว่าอุโมงค์เส้นนี้ลึกอย่างยิ่ง เลี้ยวลดคดเคี้ยวไม่รู้ว่าจะทะลุไปโผล่ที่ไหน

“ที่นี่ก็คือทางลัดเส้นนั้น”

อวิ๋นชิงหลัวบอก

“ปีนั้นข้าก็เดินทางผ่านที่นี่ไปเพื่อเข้าสู่ใจกลางบึงพิษ ด้านในสุดมีห้องโถงแห่งหนึ่ง เชื่อมกับรังของจระเข้วงแหวนเงินที่อยู่ด้านบน เพียงแต่ข้าไม่ได้มาที่นี่หลายปีแล้ว ไม่รู้ว่าด้านในจะมีอะไรบุบสลายไปหรือไม่ จะไปหรือไม่ไปก็แล้วแต่วิจารณญาณของพวกเจ้าเอง”

ทุกคนสบตากันแวบหนึ่ง มีอุโมงค์สายนี้อยู่ที่นี่ เช่นนั้นก็สะดวกขึ้นมากแล้ว!