บทเสริม 3 รู้จักพอ

บัลลังก์พญาหงส์

ถาวจวินหลันเป็นคนแต่งตั้งตำแหน่งกุ้ยเฟยของจิ้งหลิง จริงๆ แล้วความต้องการของหลี่เย่ก็คือ ให้ตำแหน่งสนมทั่วไปก็ถือว่าดีแล้ว 

 

 

จิ้งหลิงรู้เรื่องนี้ดีแก่ใจ จริงๆ แล้วไม่ว่าตำแหน่งพระสนมทั่วไปหรือกุ้ยเฟย นางก็คิดว่าชีวิตนางคงไม่เปลี่ยนไปนัก อาจด้วยสำหรับนางแล้ว ไม่ว่าอยู่ที่จวนอ๋องหรือเข้ามาอยู่ในวังหลวงก็ไม่ต่างจากเดิม สิ่งเดียวที่นางรู้สึกไม่เหมือนเดิม ไม่ใช่ทั้งหลี่เย่หรือถาวจวินหลัน แต่เป็นกั่วเจี๋ยเอ๋อร์ 

 

 

นางคิดว่าไม่มีหลี่เย่ก็ไม่เป็นอะไร แม้ว่านางจะรู้สึกเจ็บปวดใจ แต่พูดตามตรงนางก็เข้าใจทุกอย่างหมดแล้ว จึงไม่ได้เจ็บปวดมากนัก แต่หากไม่มีกั่วเจี๋ยเอ๋อร์ ชีวิตของนางจะเปลี่ยนไปแบบไหน? ชีวิตของนางคงมืดมิดไปหมด 

 

 

อาจจะไม่ถึงตาย แต่ชีวิตและจิตใจของนางคงดำมืดและหมองหม่นลงทุกวัน 

 

 

นางดูแลหลี่เย่มาหลายปี ความรู้สึกที่มีให้หลี่เย่แนบแน่น แต่สุดท้ายนางก็ปล่อยวางได้ อีกทั้ง ความรู้สึกของนางไม่สำคัญกับหลี่เย่ พอมีกั่วเจี๋ยเอ๋อร์อยู่ด้วย นางก็จะสนใจแต่กั่วเจี๋ยเอ๋อร์ นางทุ่มเทความรักทั้งหมดของนางให้กับกั่วเจี๋ยเอ๋อร์ นางจึงไม่มีเวลาไปคิดถึงหลี่เย่ 

 

 

นางยังจำครั้งแรกที่อุ้มกั่วเจี๋ยเอ๋อร์ได้ ตอนนั้นกั่วเจี๋ยเอ๋อร์ยังเล็กมาก ตัวแดงทั้งตัว ผิวก็ย่นๆ แค่ครู่เดียวก็ทำให้นางใจอ่อนยวบ  

 

 

พอรู้ว่านางจะได้เลี้ยงดูกั่วเจี๋ยเอ๋อร์ช่วงหนึ่ง นางก็ดีใจจนพูดไม่ออก แม้จะรู้ว่าเหมือนขโมยมา แต่นางก็รู้สึกดีใจเป็นที่สุด แอบหวังในใจให้เวลาจะผ่านไปช้าๆ และได้มีเวลามากกว่านี้อีกหน่อย 

 

 

ด้วยเหตุนี้นางจึงซาบซึ้งในตัวถาวจวินหลัน จากนั้นก็เริ่มช่วยเหลือถาวจวินหลันเรื่อยมา จริงๆแล้วก็หวังจะให้หลี่เย่สบายใจ นางอยากทำอะไรเพื่อหลี่เย่บ้างเท่านั้น 

 

 

แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับผลตอบแทนแบบนี้ นางรู้สึกดีใจจนแทบคลั่ง นางอดคิดไม่ได้ว่า อยากให้ช่วงเวลาแบบนี้อยู่ยาวขึ้นอีกนิด แล้วนางก็รู้ว่า หากอยากให้เป็นจริงตามที่คิด นางก็มีหนทางเดียวคือช่วยเหลือถาวจวินหลัน 

 

 

พูดจริงๆ แล้วนางเคยเกลียดถาวจวินหลัน เกลียดที่ถาวจวินหลันแย่งความสนใจจากหลี่เย่ไปจนหมด เกลียดที่ถาวจวินหลันมอบความสิ้นหวังให้กับนาง เกลียดที่ถาวจวินหลันดีกว่านางทุกอย่าง แต่ตอนที่นางกำลังอุ้มกั่วเจี๋ยเอ๋อร์ นางกลับไม่มีความรู้สึกเกลียดชังอีกแล้ว กลับกลายเป็นความรู้สึกซาบซึ้งใจแทน 

 

 

ตอนที่ได้แต่งตั้งเป็นกุ้ยเฟย นางก็ไม่ได้ตื่นเต้นนัก แต่นางมีเรื่องอยู่ในใจ ดังนั้นนางจึงตั้งตารออยากจะพบถาวจวินหลัน 

 

 

ถาวจวินหลันเข้าใจความตั้งใจของนางดี เพียงพูดยิ้มๆ ว่า “จิ้งหลิง เจ้าเป็นถึงกุ้ยเฟย ยกกั่วเจี๋ยเอ๋อร์ให้เจ้าเลี้ยงดูก็เหมาะสม แม่แท้ๆ ของนางมีฐานะต่ำต้อยเกินไป” 

 

 

จิ้งหลิงได้ยินก็ดีใจยิ่ง นางรีบย่อตัวลงคำนับ รับปากอย่างนอบน้อม “ข้าจะดูแลกั่วเจี๋ยเอ๋อร์อย่างดี ไม่ทำให้ฮองเฮาทรงผิดหวังเพคะ” 

 

 

จิ้งหลิงเห็นรอยยิ้มของถาวจวินหลันกว้างขึ้น “ดี ถ้าอย่างนั้นข้าจะมอบกั่วเจี๋ยเอ๋อร์ให้เจ้า องค์หญิงใหญ่ได้อยู่กับเจ้า ข้าก็สบายใจ” 

 

 

พอได้ยินแบบนี้จิ้งหลิงก็แทบจะหยุดหายใจ ถาวจวินหลันเรียกกั่วเจี๋ยเอ๋อร์ว่าองค์หญิงใหญ่ องค์หญิงใหญ่หมายความว่าอะไร? หมายความว่าต่อไปกั่วเจี๋ยเอ๋อร์ก็จะได้มีเกียรติมียศ ส่วนนางก็เพียงยืมตำแหน่งของลูกขึ้นเป็นกุ้ยเฟยไปด้วย 

 

 

แน่นอนว่าที่สำคัญที่สุดก็คือ ต่อไปจะไม่มีใครพูดว่าฐานะของกั่วเจี๋ยเอ๋อร์ต่ำต้อย ยิ่งจะไม่มีใครพูดถึงมารดาผู้ให้กำเนิดที่มีฐานะต่ำต้อยของนาง 

 

 

จิ้งหลิงอดไม่ได้ที่จะมองถาวจวินหลันอย่างซาบซึ้ง แล้วก็ยกมุมปากยิ้มกว้าง 

 

 

ไม่รู้ว่าทำไม อยู่ดีๆ นางก็นึกถึงเหตุการณ์ตอนเจอกับถาวจวินหลันครั้งแรก ตอนนั้นพวกนางทั้งสองคนยังเป็นนางกำนัล ถาวจวินหลันยังมีตำแหน่งไม่สูงเท่านางด้วยซ้ำ แล้วตอนนั้นนางก็มั่นใจมากว่าต่อไปนางจะได้เป็นผู้หญิงของหลี่เย่…นางดูแลเขามาหลายปี ใครจะสู้นางได้? 

 

 

ดังนั้นนางไม่เพียงแต่หยิ่งผยอง นางยังคอยกันไม่ให้คนอื่นเข้าใกล้เขาอีกด้วย 

 

 

จริงๆ แล้วหลี่เย่ก็แค่ยิ้มเพราะถูกใจฝีมือเย็บปักเท่านั้น เพียงแต่นางสงสัยว่า นางกำนัลคนนั้นจะต้องตั้งใจทำเพื่อให้หลี่เย่สนใจเป็นแน่ 

 

 

นางจึงอยากจะแสดงความสำคัญของตัวเองให้คนอื่นเห็น จึงตั้งใจให้ถาวจวินหลันเข้ามาในวังเต๋ออัน อยากให้คนอื่นเห็นว่า หลี่เย่ไม่สนใจผู้หญิงพวกนี้ มีแต่นางเท่านั้นที่สำคัญกับเขาที่สุด 

 

 

แต่คิดไม่ถึงว่าทุกอย่างกลับตาลปัตรไปหมด ไม่ว่าจะเป็นสายตาที่หลี่เย่มอง หรือว่าการที่หลี่เย่คอยช่วยเหลือและปกป้องถาวจวินหลัน ต่างก็ทำให้นางโกรธแค้นในใจ 

 

 

ดังนั้นนางจึงหาโอกาสทำร้ายถาวจวินหลัน อยากให้ถาวจวินหลันหายไป แต่คิดไม่ถึงว่า…สุดท้ายแล้วนางกลับเป็นฝ่ายแพ้ อีกทั้งหลี่เย่เป็นคนลงโทษนางเอง แม้ว่าตอนนั้นหลี่เย่จะไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองมาที่นาง แต่นางก็หัวใจเย็นเยียบ รู้สึกว่าหลี่เย่รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว อีกทั้งยังใช้โอกาสนี้บอกกับนางว่า ความสัมพันธ์เขากับนางช่วงหลายปีจบลงตรงนี้แล้ว 

 

 

นางยังจำความรู้สึกนั้นได้ดี ดังนั้นหากนางไม่ยอมรับ นางก็จะยิ่งเจ็บปวดใจ 

 

 

ต่อมาถาวจวินหลันได้ออกจากวังหลวง แต่เห็นท่าทีนิ่งขรึมของหลี่เย่ในทุกวัน สุดท้ายแล้วนางก็เข้าใจได้ว่า ชั่วชีวิตนี้ หลี่เย่คงไม่มีทางสนใจนางเหมือนที่สนใจถาวจวินหลัน แม้กระทั่งในตอนนี้ 

 

 

แล้วในตอนที่นางวางใจได้แล้ว ถาวจวินหลันก็กลับมาอีก ดังนั้นความรู้สึกของนางจึงกลับมาอีกครั้ง 

 

 

ตอนที่ถาวจวินหลันเตือนนาง นางคิดว่าถาวจวินหลันเพียงกลัวว่านางจะได้เป็นผู้หญิงของหลี่เย่ และกลัวว่านางจะเป็นที่โปรดปราน ดังนั้นนางจึงตัดสินใจร่วมมือกับหลิวซื่อ 

 

 

นางรับปากหลิวซื่อว่าจะช่วยกำจัดถาวจวินหลัน หลิวซื่อจึงมอบตำแหน่งให้นาง 

 

 

ทว่าช่างน่าขันนัก แม้กระทั่งหวนคึดถึง นางก็อดหน้าร้อนผ่าวไม่ได้ หลี่เย่มาถึงห้องของนางแล้ว แต่ใบหน้ากลับมองนางอย่างเย้ยหยันและดูถูก มองนางแบบนี้ทั้งคืน แต่กลับไม่แตะตัวนางเลยแม้แต่นิดเดียว 

 

 

นางทรมานใจมาก แต่หลังจากนั้นมานางก็ค่อยๆ เข้าใจและขอบคุณหลี่เย่ หากหลี่เย่ไม่ปฏิเสธนางแบบนี้ ไม่รู้ว่านางจะฝันลมๆ แล้งๆ ไปถึงเมื่อไร 

 

 

นางเป็นผู้หญิงของหลี่เย่เพียงในนาม แต่จริงๆ แล้ว นางกลับละทิ้งหนทางเดียวที่นางพอจะเหลืออยู่ 

 

 

นางตัดสินใจดื่มยาหยุดการตั้งครรภ์ด้วยตัวเอง แม้กระทั่งผู้หญิงพวกนั้น นางก็เป็นคนช่วยหลี่เย่จัดการ สุดท้ายแล้วยานี้ ก็ทำให้นางค่อยๆ ลบรอยแผลเป็นในใจนางออกไป 

 

 

กั่วเจี๋ยเอ๋อร์ถือเป็นรางวัลที่หลี่เย่มอบให้นาง 

 

 

นางซาบซึ้งใจ และทะนุถนอมอย่างดี ในที่สุดนางก็เข้าใจ ไม่ใช่ว่าหลี่เย่เฉยชากับนาง แต่ความรู้สึกนั้นไม่เหมือนความรักใคร่ระหว่างหญิงชายที่มีให้กับถาวจวินหลัน บาทีนางอาจจะเหมือนญาติกระมั้ง? 

 

 

หลังจากรับป้ายประจำตัวของตำแหน่งกุ้ยเฟยมาจากมือถาวจวินหลัน จิ้งหลิงก็รู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ในตอนนี้ นางจะมีชีวิตที่มั่นคง กั่วเจี๋ยเอ๋อร์เป็นลูกของนางแล้ว นางยังไม่พอใจอะไรอีก? 

 

 

ตลอดชีวิตของนาง นางทุกข์ระทมเพราะความฝันลมๆ แล้งๆ เป็นเพราะนางเลือกทางเดินผิด แต่สุดท้ายนางจบแบบนี้ก็น่าพอใจและดีใจมากแล้ว 

 

 

ตอนนี้นางอยากอยู่อย่างสงบ และรู้จักพอ นางจะดูกั่วเจี๋ยเอ๋อร์เติบโตเป็นสาว ช่วยเลือกคู่ครอง ให้นางแต่งงาน มีลูก มีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ… 

 

 

เพียงแค่นึกถึงภาพพวกนั้น จิ้งหลิงก็อดยิ้มออกมาไม่ได้