บทที่ 1341 ทำไมต้องเป็นจริงเป็นจัง / บทที่ 1342 ยังจำอาชูร่าได้ไหม

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1341 ทำไมต้องเป็นจริงเป็นจัง

ได้ยินเยี่ยหวันหวั่นพูดอย่างงั้น สมาชิกระดับสูงในห้องประชุมที่อยู่ฝ่ายเดียวกับเยี่ยหวันหวั่นก็พุ่งตัวกันมายืนขวางด้านหน้าหลี่กานเฉิน

“คิดจะพาตัวคนของพันธมิตรอู๋เว่ยไปง่ายๆ อย่างนี้ สมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์ คิดว่าตัวเองสูงส่งมาจากไหน!” ชายชราผมขาวใส่ชุดสูทคนหนึ่งเหยียดหลังตรงตวาดเสียงเข้ม

“เจี๋ยเจี๋ย…พันธมิตรอู๋เว่ยของเราตั้งแต่ก่อตั้งมาจนถึงตอนนี้ ยังไม่เคยมีใครกล้าอวดดีในถิ่นของเราเลยซักครั้ง” ชายหนุ่มคนหนึ่งแสยะยิ้ม นัยน์ตาปรากฏแววบ้าคลั่งและกระหายเลือด

“คิดจะเปิดศึก…พันธมิตรอู๋เว่ยของเราไม่เคยกลัวอยู่แล้ว!”

“ใครหน้าไหนกล้าพาตัวหลี่กานเฉินไป เย็*แม่เอ็งเถอะ ข้ามศพฉันไปให้ได้ก่อนเถอะ!”

“ฮ่าๆๆ…สมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์ จะอวดดีเกินไปแล้วมั้ง พี่เฟิ่งของพวกเราไม่เคยกลัวใคร ทั้งจี้หวง เจ้าหมาจรจัด นายแห่งอาชูร่า สี่ตระกูลใหญ่แห่งรัฐอิสระ จนถึงพวกหมาแมวตัวเล็กๆ ท่านหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยของพวกเราเคยกลัวซะที่ไหน?” เป่ยโต่วหัวเราะเสียงดัง แล้วผลักเจ้าหน้าที่สมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์ออกไปแรงๆ

สถานการณ์ในตอนนี้ กลับเป็นสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์ที่ต้องขมวดคิ้วมุ่น

หลี่กานเฉินมองเยี่ยหวันหวั่นด้วยขอบตารื้นผ่าว ทำท่าจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูด

การได้เป็นสมาชิกคนหนึ่งของพันธมิตรอู๋เว่ย ถือเป็นเกียรติของเขา มีหัวหน้าที่ดีอย่างนี้ แม้ตายก็คุ้มค่าแล้ว…

“พวกคุณดูสิ” รอยยิ้มของเยี่ยหวันหวั่นยังคงไม่จางไป “พวกคุณก็เห็นแล้ว ไม่ใช่ว่าฉันไม่ยอมให้พวกคุณพาหลี่กานเฉินไป…แต่พี่น้องพ้องพวกของฉันแต่ละคนเป็นคนเจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจ แม้แต่ฉันที่เป็นหัวหน้าก็ยังเอาพวกเขาไม่อยู่…”

“งั้นเหรอ…” ผู้อาวุโสจินเหลือบมองเยี่ยหวันหวั่นเล็กน้อย แล้วกล่าวเสียงเรียบว่า “ดูเหมือนคำพูดของหัวหน้าไป๋จะไม่มีอำนาจมากพอ ก็ไม่เป็นไร หัวหน้าไป๋คุมลูกน้องตัวเองไม่ได้ สมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์ของพวกเราจะช่วยสั่งสอนแทนเอง”

ได้ยินผู้อาวุโสจินพูดอย่างนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็ลอบแสยะยิ้มในใจ ตาเฒ่าคนนี้เป็นถึงผู้อาวุโสของสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์ ไม่ใช่คนธรรมดาจริงๆ

“งั้นผู้อาวุโสจินก็หมายความว่าไม่คิดจะปล่อยหลี่กานเฉินไปสินะ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย

“หลี่กานเฉินทำผิด แหกกฎเกณฑ์ย่อมต้องโดนทำโทษ อย่าว่าแต่หลี่กานเฉินเลย แม้แต่ผู้นำตระกูลของสี่ตระกูลใหญ่ ถ้าแหกกฎสำคัญข้อนี้ ก็ต้องโดนลงโทษไม่ต่างกัน” ผู้อาวุโสจินเอ่ยเสียงเรียบ

ทุกคนในรัฐอิสระต่อต้านการใช้อาวุธปืนมาก ก็เหมือนกับที่อาวุโสจินพูด แม้แต่ผู้นำตระกูลของสี่ตระกูลใหญ่ ถ้าหากใช้ปืนก็จะกลายเป็นศัตรูของรัฐอิสระทันที

แต่ทว่า ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นกลับแค่นยิ้มเล็กน้อย “ผู้อาวุโสจิน คำพูดนี้ฉันกลับไม่อาจเห็นด้วย รัฐอิสระห้ามใช้อาวุธปืนไม่ผิด แต่ปืนของเล่นแค่กระบอกเดียว ทำไมคุณต้องเป็นจริงเป็นจังขนาดนี้”

“ปืนของเล่น?”

สิ้นเสียงเยี่ยหวันหวั่น ทุกคนต่างก็ตะลึงงัน

เยี่ยหวันหวั่นคว้ามือถือของเจ้าหน้าที่สมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์คนนั้นมา แล้วชี้ไปในภาพวิดิโอ ยิ้มบอกว่า “ผู้อาวุโสจิน ถึงคุณจะอายุมากแล้ว แต่สายตาก็น่าจะชัดพอที่จะมองเห็น ว่าปืนกระบอกนี้พอลั่นไกออกไปแล้วไม่มีกระสุนออกมา มันเป็นแค่ปืนของเล่นเท่านั้น”

เยี่ยหวันหวั่นกลับเป็นเรื่องจริงที่เถียงไม่ได้ ตอนนั้นมีสายตานับร้อยคู่เห็นกับตา เธอลั่นไปปืน แต่กลับไม่มีกระสุนออกมา อาวุธปืนที่ไม่มีอานุภาพสังหาร หากจะบอกว่เป็นของเล่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

“หึๆ…หัวหน้าไป๋ คุณมีหลักฐานอะไรที่จะแสดงให้เห็นว่าปืนกระบอกนั้นเป็นของเล่น?” ผู้อาวุโสจินละสายตาออกจากวิดิโอ แล้วถาม

————————————————————————————-

บทที่ 1342 ยังจำอาชูร่าได้ไหม

“งั้นผู้อาวุโสจินมีหลักฐานอะไรถึงบอกว่าปืนกระบอกนี้เป็นของจริง? มีใครในที่เกิดเหตุงั้นเหรอ หรือเจอกระสุนบ้างรึเปล่า ถ้าหากผู้อาวุโสเอาหลักฐานมาได้ หลี่กานเฉินไม่ต้องถึงมือสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์ พันธมิตรอู๋เว่ยของพวกเราจะจัดการเอง” เยี่ยหวันหวั่นหยักยิ้มมุมปาก

“คุณ…”

เจ้าหน้าที่สมาคมสหพันธ์ที่ถ่ายวิดิโอเหตุการณ์นั้นเอาไว้กัดฟันกล่าว

ไป๋เฟิ่งหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยคนนี้เจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว!

แต่พวกเขากลับไม่อาจโต้ตอบความเจ้าเล่ห์นี้ได้เลย!

“ในเมื่อไม่มีใครโดนยิง แถมยังไม่เจอกระสุน…ผู้อาวุโสจิน คุณยังไม่ได้ตรวจสอบความจริงให้แน่ชัดก็บุกมาตราหน้าเอาความผิดที่พันธมิตรอู๋เว่ยของเราแล้ว แถมยังจะจับตัวคนไปอีก ผู้อาวุโสจินกับสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์จะไม่ให้คำอธิบายอะไรกับฉันหน่อยเหรอ?” เยี่ยหวันหวั่นแค่นยิ้ม

ตอนนี้ ผู้อาวุโสจินขมวดคิ้วเล็กน้อย ข่าวลือของหัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ย มีแค่เรื่องอวดดีหยิ่งยโส ไม่เกรงกลัวฟ้าดิน แต่นึกไม่ถึงว่าจะเป็นคนเจ้าเล่ห์เพทุบายถึงขนาดนี้ด้วย เธอฉลาดถึงขั้นนี้ เหมือนจะต่างจากที่ได้ยินมาเล็กน้อย…

“เรื่องนี้เอาไว้ก่อนก็ได้ เข้าเรื่องสำคัญกันดีกว่า” ผู้อาวุโสจินตัดสินใจที่จะไม่สืบสาวเรื่องนี้ต่อ เขาเอ่ยเสียงเรียบ

ได้ยินผู้อาวุโสจินพูดอย่างนั้น เยี่ยหวันหวั่นก็ครุ่นคิด ตาเฒ่าคนนี้เกรงว่าคงจะใช้เรื่องความผิดโทษฐานใช้ปืนเป็นข้ออ้างมาหาเรื่องที่พันธมิตรอู๋เว่ย เรื่องสำคัญที่ว่า คืออะไรกันแน่…

ยังไงก็ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ!

“หึๆ ผู้อาวุโสจิน พวกเรามาคุยเรื่องนี้ให้เคลียร์ก่อนจะดีกว่า” เยี่ยหวันหวั่นแค่นยิ้ม “สมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์ของพวกคุณยังไม่ทันสืบความจริงให้แน่ชัด ก็มาเอาผิดกับพันธมิตรอู๋เว่ยของฉัน วันนี้หากฉันไม่ได้คำอธิบายที่น่าพอใจ ภายภาคหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยของฉันจะมีที่ยืนอยู่ในรัฐอิสระต่อไปได้ยังไง?”

เจ้าหน้าที่สมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์พากันมองหน้าเลิกลัก หัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ยคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ความผิดฐานใช้อาวุธปืนไม่เพียงถูกเธอปฏิเสธ ตอนนี้ยังร้องขอคำอธิบายจากสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์ด้วย!

“อ้อ…งั้นไม่ที่ทราบว่าหัวหน้าไป๋จะเอายังไง” ผู้อาวุโสจินมองเยี่ยหวันหวั่น แล้วยิ้มเอ่ย

“ผู้อาวุโสจิน คุณแก่จนเลอะเลือนแล้วเหรอ…คนเราทำผิด ก็ต้องยอมรับผิดสิ” เยี่ยหวันหวั่นกล่าว

คำพูดของเยี่ยหวันหวั่นทำให้พวกเจ้าหน้าที่สมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์ที่ติดตามมาด้วยหน้าเปลี่ยนสี จะให้พวกเขายอมรับผิด?!

“ก็ได้ หัวหน้าไป๋เป็นคนตรงไปตรงมาจริงๆ เรื่องนี้สมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์ของเราผิดเองที่ไม่ได้ตรวจสอบให้ดี” ผู้อาวุโสจินหันไปกล่าวกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างหลัง “ยังไม่ขอโทษอีก”

ชายหนุ่มคนนั้นก็คือคนที่ถ่ายวิดิโอตอนที่เยี่ยหวันหวั่นใช้ปืนนั่นเอง

ชายหนุ่มกัดฟัน แต่สุดท้ายก็หันไปหาเยี่ยหวันหวั่น “หัวหน้าไป๋ ต้องขออภัยด้วย”

“คุณควรขอโทษหลี่กานเฉินมากกว่านะ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยเสียงเรียบ

“ครับ…” ชายหนุ่มหันไปมองหลี่กานเฉิน “ขอโทษด้วยครับ”

“เฮอะ” หลี่กานเฉินแค่นเสียงขึ้นจมูก “ไอ้หนู คราวหน้าก็แหกตาดูให้มันดีๆ หน่อย ปืนของเล่นกับปืนของจริงยังแยกไม่ออก ไม่ได้เรื่อง ถุย!”

หลี่กานเฉินพูดจบก็ถ่มน้ำลายใส่ชายหนุ่ม

ชายหนุ่มกำหมัดแน่น แต่กลับไม่พูดอะไรสักคำ ในเมื่อผู้อาวุโสจินสั่งให้เขาขอโทษ แสดงว่าเขาก็ต้องมีเหตุผลของเขา

“เอาล่ะ หัวหน้าไป๋ เราควรจะคุยเรื่องสำคัญกันได้แล้ว” ผู้อาวุโสจินหันไปพูดกับเยี่ยหวันหวั่น

“คุณว่ามาได้เลย” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยเสียงเนิบนาบ

“หัวหน้าไป๋ยังจำอาชูร่าได้รึไม่?” ผู้อาวุโสจินยิ้มถาม

เยี่ยหวันหวั่นขมวดคิ้ว ตาเฒ่านี่พูดถึงอาชูร่าทำไม เธอจำได้ที่ไหนกันล่ะ…

“ต้องจำได้อยู่แล้ว ผู้อาวุโสมีเรื่องอะไร พูดมาตรงๆ เลยดีกว่า” เยี่ยหวันหวั่นกล่าวอย่างใจเย็น