ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล
ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน เมืองไลอ้อนก็เต็มไปด้วยผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ โรงแรมที่พักล้วนถูกจับจอง เซียวอวี๋จำต้องสั่งสร้างกระโจมที่พักขึ้นมาสำหรับพวกนักผจญภัย ซึ่งแน่นอนว่าเขาย่อมต้องเก็บค่าพักแรม แม้ว่าพวกนักผจญภัยจะไม่พอใจกับภาษีที่ต้องจ่ายและกฏของดินแดนไลอ้อน พวกเขาก็ทำได้เพียงเก็บความไม่พอใจเอาไว้ภายใน นั่นก็เพราะพวกเขาได้เห็นแล้วว่าผู้ที่ฝ่าฝืนกฏนั้นจะเป็นอย่างไร เซียวอวี๋สั่งประหารทุกคนที่ฝ่าฝืนกฏไม่ว่าจะหนักหรือจะเบา นั่นทำให้คนทั้งหมดไม่กล้าสร้างความวุ่นวายอีก ทุกคนเปลี่ยนเป็นเรียบๆร้อยๆ แม้กระทั่งเหล่าตัวตนขั้นที่หกที่มักทำตามใจอยากก็ยังไม่กล้าสร้างความวุ่นวายที่นี่ เซียวอวี๋ไม่ได้เจอเอกวินน์มาหลายวันแล้ว ทุกครั้งที่เขามาหาล้วนแต่ได้พบกับหลินมู่เสวี่ยที่มีสีหน้าเศร้าโศกอยู่เสมอ เมื่อเซียวอวี๋ถามนาง นางก็เพียงหลั่งน้ำตาไม่ยอมปริปากใดๆ เซียวอวี๋อับจนหนทาง หลินมู่เสวี่ยไม่ยอมบอกเขาว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนที่แน็กแรมโผล่มา เอกวินน์ออกมาดูเพียงครั้งเดียว หลังจากดูอยู่ครู่หนึ่งก็กลับไป นางไม่แม้แต่จะปริปากเอ่ยวาจา ดูเหมือนว่าเอกวินน์จะเฉยชาต่อทุกสิ่ง เซียวอวี๋ที่เห็นเช่นนั้นก็กังวลขึ้นมา เพราะเขาเองก็พอจะดูออกว่าเอกวินน์คงเหลือเวลาไม่มากแล้ว ไม่ว่าอย่างไร เอกวินน์ก็นับว่าเป็นคนดี ถึงแม้จะค่อยไม่ดีต่อเซียวอวี๋ก็ตาม นางก็ไม่ได้คุกคามหรือเป็นอันตรายต่อเขาจริงๆ อีกทั้งนางยังดีต่อหลินมู่เสวี่ยมาก เซียวอวี๋เดาว่าเอกวินน์คงส่งมอบทุกสิ่งทุกอย่างของนางให้หลินมู่เสวี่ยแล้ว นั่นทำให้นางสามารถจากไปได้อย่างไร้กังวล แม้ว่าเซียวอวี๋จะยินดีอย่างมากที่หลินมู่เสวี่ยจะได้ครอบครองพลังของเอกวินน์ กระนั้นเซียวอวี๋ก็ยังคงรู้สึกเศร้า ผู้พิทักษ์ที่เคยปกป้องดูแลทวีปแห่งนี้ สตรีที่ยืนหยัดต่อสู้กับความชั่วร้าย มหาจอมเวทย์ที่เก่งที่สุด มารดาที่ตั้งใจอุทิศทุกสิ่งทกอย่างให้บุตรชาย ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นตำนาน…..นางกำลังจะจากไปแล้ว ทางด้านของจักรวรรดิเมฆาตะวันออก เซียวอวี๋ได้ส่งสิ่งของเพิ่มเติมไปให้ฉินเช่อเพื่อที่เขาจะได้ต่อสู้ได้สะดวกขึ้น ทั้งเซียวอวี๋ยังได้จัดส่งกำลังทหารจำนวนหนึ่งหมื่นนายไปเข้าร่วมสงครามเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ แม้ทหารเหล่านี้จะเคยมีประสบการณ์ในการบุกยึดรัฐเว่ยมาแล้วก็ตาม แต่นั่นก็แทบไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นสงคราม เพราะส่วนใหญ่แล้วล้วนเป็นผลมาจากการวางแผนของเซียวอวี๋และการปรากฏตัวของพวกคิเมร่า ด้วยเหตุนั้น ทหารใหม่หลายๆนายจึงยังขาดประสบการณ์อยู่บ้าง และสำหรับมู่หลิงเทียน บุตรชายของมู่หลี่ เซียวอวี๋คาดหวังในตัวเขาไว้มาก อย่างไรเสีย มู่หลิงเทียนและมู่หลี่ก็จงรักภักดีต่อเขา ซึ่งครั้งนี้ ผู้บัญชาการที่จะนำกองทหารหนึ่งหมื่นนายไปยังจัรวรรดิเมฆาตะวันออกก็คือ มู่หลิงเทียน หลังจากนั้นไม่กี่วัน ขณะที่เซียวอวี๋กำลังพูดคุยกับนิโคลัสอยู่นั้นเอง จู่ๆทั้งโลกก็กลายเป็นเงียบสงัด ราวกับโลกทั้งใบกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ดวงตะวันเริ่มหม่นแสง ไม่ใช่เพราะเมฆนั้นเคลื่อนไปบัง หากแต่เป็นทั้งโลกที่คล้ายจะเปลี่ยนเป็นสีเทาราวกับกำลังไว้ทุกข์ บรรยากาศอันแปลกประหลาดคลี่ปกคลุมทั่วทั้งเมืองไลอ้อน กระทั่งทั้งดินแดนไลอ้อน ทุกคนพลันรู้สึกผิดปกติ ไม่มีใครทราบว่ารู้สึกผิดปกติที่ใด ทุกคนเพียงรู้สึกว่าโลกนี้เหมือนมีบางสิ่งขาดหายไป ราวกับดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์พลันหายไป แม้ว่าความจริงดวงอาทิตยืจะยังคงอยู่บนท้องฟ้า ดวงจันทร์ยังจะคงปรากฏยามพลบค่ำ กระนั้นทุกคนกลับรู้สึกราวกับว่าโลกไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว “นาง…ไปแล้วจริงๆ” เซียวอวี๋ยืนนิ่งเงียบ ขระที่หางตาปรากฏหยาดน้ำใสซึมออกมา นิโคลัสนั้นไม่ทราบชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ในใจของเขาก็รู้สึกเศร้าอย่างไม่ทราบสาเหตุ ไม่นานฝนก็ตกลงมา โลกทั้งใบเผยกลิ่นอายเศร้าโศก บรรยากาศที่เงียบสงัดทำให้ผู้คนรู้สึกอึดอัดใจ ทั้งนักผจญภัยและผู้คนที่มาจากต่างแดนต่างก็ไร้วาจา พวกเขาไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆพวกเขาก็รู้สึกเศร้าจนพูดไม่ออก เซียวอวี๋เดินทางไปยังที่พักที่เอกวินน์อาศัยอยู่ ในเวลานี้ ลานบ้านนั้นปกคลุมไปด้วยแสงอันอบอุ่น มันไม่ใช่เวทมนตร์ แต่คล้ายเป็นละอองแสงอันอ่อนโยน หลินมู่เสวี่ยเดินออกมาจากที่พักและหันมาเห็นเซียวอวี๋ นางโถมเข้าสู่อ้อมแขนของเซียวอวี๋ก่อนจะร่ำไห้อย่างโศกเศร้า เซียวอวี่ลูบหลังของนาง เขาต้องการจะกล่าวปลอบโยน หากแต่เขาเองก็รู้สึกเศร้าจนไม่อาจเอยคำใดออกมา ยามที่เอกวินน์จากไป นางจากไปอย่างเงียบงัน ผู้ยิ่งใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้โลกต้องสั่นสะเทือน เทพเจ้าที่อยู่ยงคงกระพันในสายตามนุษย์ได้จากไปอย่างสงบ มหาจอมเวทย์ได้จากไปแล้ว หากแต่นามกรของเอกวินน์จะคงอยู่ตราบนานเท่านาน ไม่ทราบว่าฮิกกิ้นมาตั้งแต่เมื่อใด นักหลอมสร้างสติเฟื่องผู้นี้ไม่ได้รบกวนเซียวอวี๋ เขาเพียงยืนอยู่ด้านหลังของเซียวอวี๋อย่างเงียบๆ “ฮิกกิ้น สร้างรูปปั้นของเอกวินน์ขึ้นที่นี่” เซียวอวี๋กล่าวแผ่วเบา “อืม” ฮิกกิ้นเพียงตอบรับสั้นๆก่อนจะหันหลังจากไป ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกับอุปกรณ์และวัสดุต่างๆ จากนั้นเขาก็เริ่มง่วนอยู่กับการผสานวัตถุดิบล้ำค่าต่างๆเพื่อสร้างรูปปั้นที่สมบูรณ์แบบที่สุดในชีวิตของเขา เซียวอวี๋ยังนำเอาวัตถุดิบที่ล้ำค่าออกมาส่งให้ฮิกกิ้น ตราบที่ฮิกกิ้นต้องการ ไม่ว่าจะสิ่งใด เขาล้วนเอาออกมาอย่างไม่ลังเล เขาเพียงแต่ต้องการจัดสร้างรูปปั้นที่ยอดเยี่ยมที่สุดให้กับเอกวินน์ “ถ้าหากต้องการสิ่งใดเพิ่มเติมโปรดบอกข้า ข้าจะส่งคนไปจัดหามา” นิโคลัสที่ยืนอยู่ข้างๆกล่าวออกมา ฮิกกิ้นผงกศีรษะก่อนจะหันไปมองกองวัตถุดิบ จากนั้นจึงเขียนรายการสิ่งของส่งให้นิโคลัส แม้ว่าสิ่งของที่เซียวอวี๋นำออกมาจะมีไม่น้อย กระนั้นก็ยังคงขาดบางสิ่ง นิโคลัสไม่แม้กระทั่งเหลือบมองก่อนจะส่งใบรายการสิ่งของให้คนของเขา “จัดส่งมาโดยเร็วที่สุด หากไม่มีก็ซื้อมา ไม่ว่าราคาเท่าใดก็ตาม” เซียวอวี๋ยืนนิ่งเงียบอยู่ในลาน เขากุมมือไว้ด้านหน้าพลางลดศีรษะลงต่ำเพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับการจากไปของผู้พิทักษ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีป….