“หากไม่ต้องการให้ใครรู้ เช่นนั้นก็อย่าทำ! เพราะกระดาษห่อไฟไม่ได้!”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ใบหน้าที่ซีดขาวของซย่าจื่ออวี้ก็แดงก่ำ นางกัดฟันแน่น จ้องมองหนานกงอ๋าวราวกับจะกินเลือดกินเนื้อเขาอย่างไรอย่างนั้น
“หนานกงอ๋าวเจ้าฆ่าล้างตระกูลข้า สามร้อยสี่สิบเอ็ดชีวิต เจ้าต่างหากที่เป็นศัตรูของข้า! เจ้าให้ร้ายพี่สาวข้า ให้ร้ายท่านพ่อท่านแม่ของข้า ให้ร้ายตระกูลของข้า!”
“ต้องโทษข้าที่ตาบอด เห็นศัตรูเป็นคนรัก จนทำร้ายหลานชายแท้ๆของตัวเอง หลายต่อหลายครั้ง…”
หยาดน้ำตาหลั่งออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างของซย่าจื่ออวี้
เพียงแค่คิดถึงว่าตนเองไม่เพียงแต่ถูกหนานกงอ๋าวหลอกลวง ยังมีลูกให้กับศัตรูอย่างเขา นางก็แค้นใจ ขยะแขยงจนอยากจะสำรอกออกมา
สกปรกที่สุด!
นางเห็นศัตรูเป็นคนรัก ช่างเป็นหญิงที่ไร้สติยิ่งนัก!
“ในเมื่อเจ้าจดจำทุกอย่างได้หมดแล้ว เช่นนั้นข้าก็จะไม่ปฏิเสธอีกต่อไป!” เมื่อเห็นว่าเรื่องทุกอย่างถูกแฉจนหมดสิ้นแล้ว หนานกงอ๋าวก็เปิดปากยอมรับออกไปตรงๆเสียเลย
“ถูกต้อง! ฆ่าล้างตระกูลซย่า เป็นฝีมือของข้าเอง!”
“แต่ว่า เรื่องนี้จะโทษข้าไม่ได้! จะโทษก็ต้องโทษพี่สาวของเจ้า ซย่าชิงอวี้ นางรู้ทั้งรู้ว่าข้าชอบพอในตัวนาง แต่นางกลับไปรักกับไอ้คนไม่มีหัวนอนปลายเท้าจนให้กำเนิดเจ้ามารน้อยนี่! นางต่างหากที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด!”
เห็นสีหน้าท่าทางชั่วร้ายน่ารังเกียจ และดวงตาทั้งสองข้างที่แดงก่ำของหนานกงอ๋าว ในที่สุดอวี้เฟยเยียนก็รู้แล้วว่าความชั่วช้าไร้ยางอายของหนานกงเช่อได้รับถ่ายทอดมาจากพ่อบังเกิดเกล้าของเขานี่เอง
‘เจ้าชอบนาง อีกฝ่ายจะต้องชอบเจ้าตอบด้วยอย่างนั้นหรือ?’
‘นางไม่รักเจ้าตอบ เจ้าจึงต้องฆ่านางทั้งตระกูล?’
‘ต้องเห็นแก่ตัวเพียงใด ต้องจิตวิปลาสเพียงไหนกัน!’
‘หนานกงอ๋าว เจ้ายังเป็นคนอยู่หรือแปล่า?’
เมื่อหวนรำลึกเรื่องราวในอดีต และฆาตกรก็ยอมรับความผิดของตัวเองหน้าตาเฉย นั่นทำให้ซย่าจื่ออวี้รับรู้ได้ในสิ่งที่แตกต่างกัน
หยาดน้ำตาของซย่าจื่ออวี้ที่หลั่งออกมาอย่างเงียบๆในตอนแรก ในตนนี้กลับกลายเป็นการร่ำไห้เสียงดังด้วยความคับแค้นใจ
“พี่สาวของนางเฉลียวฉลาด ดูออกตั้งแรกแล้วว่าท่านไม่ใช่คนดี ไม่ใช่สุภาพชน ทั้งยังตักเตือนข้าว่าอย่าไปโง่เขลาหลงรักท่าน ข้ามันโง่เอง ข้าทำร้ายนาง ข้าทำร้ายท่านพ่อ ทำร้ายท่านแม่ ข้าต่างหากที่สมควรตาย…”
ซย่าจื่ออวี้น้ำตาไหลอาบแก้ม ราวกับภาพที่ซย่าชิงอวี้เคยตักเตือนนางในวันวานปรากฎขึ้นมาอีกครั้งที่เบื้องหน้า ซย่าจื่ออวี้ที่ดื้อรั้นเอาแต่ใจ ไม่ยอมฟังคำเตือนของพี่สาว ถึงได้กระทำความผิดพลาดร้ายแรงเช่นนี้
“นางมิได้เฉลียวฉลาด นางใฝ่ต่ำต่างหาก”
เมื่อได้ยินซย่าจื่ออวี้เอ่ยถึงซย่าชิงอวี้ ทำให้หนานกงอ๋าวออกอาการคุ้มคลั่ง
“แต่งงานกับข้าเป็นฮูหยินใหญ่ปกครองสกุลหนานกงไม่ดีตรงไหน? ข้าดีกับนางไม่พอหรืออย่างไร? นางถึงต้องไปรักไปชอบไอ้ผู้ชายที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนนั้น นางมันใฝ่ต่ำ!”
“ยังมีพ่อแม่ของเจ้าอีก พวกเขากลับไปส่งเสริมนังคนใฝ่ต่ำคนนั้น ไม่สนใจการที่จะได้ดองกับสกุลหนานกง พวกเขาจึงสมควรตาย!”
“หุบปากเดี๋ยวนี้นะ! ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าพูดถึงพี่สาวและท่านพ่อ ท่านแม่ของข้า!”
ซย่าจื่ออวี้เค้นเสียงตะโกนออกไป และนางถึงกับรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ตบหน้าหนานกงอ๋าวฉาดใหญ่
“เพี้ยะ——”
หนานกงอ๋าวถูกตบหน้าจนหน้าตาเหลือกลาน
“นังชั้นต่ำ นี่เจ้ากล้าตบข้าอย่างนั้นหรือ? เจ้าก็เหมือนกันพ่สาวของเจ้า ใฝ่ต่ำ พวกเจ้ามันใฝ่ต่ำ!”
หนานกงอ๋าวโกรธเกรี้ยวจนคุ้มคลั่งตบหน้าซย่าจื่ออวี้ไม่ยั้งจนกระทั่งนางมีเลือดไหลออกมาจากจมูก หนานกงอ่าวถึงได้หยุดมือพร้อมกับหอบหายใจเสียงดัง
ละครที่กำลังฉายอยู่ตรงหน้าทำเอาเสิ่นถูเลี่ยถึงกับตกตะลึงตาค้าง สกุลซย่า เคยเป็นคณะเปาเปียวที่มีชื่อเสียงมากคณะหนึ่งแห่งอู๋โยว
สกุลซย่ามีคุณธรรมเปี่ยมด้วยน้ำใจ มีเพื่อนฝูงมากมาย
ปีนั้น คดีฆ่าล้างตระกูลซย่าโด่งดังโจษจันไปทั่วทั้งอู๋โยว เรื่องนี้เสิ่นถูเลี่ยเคยได้ยินบิดาพูดถึงอยู่บ้าง นึกไม่ถึงเลยว่าเรื่องในวันนี้ ได้คลี่คลายปริศนาที่เก็บงำเป็นความลับมาตลอดหลายปีออกมา!
หนานกงอ๋าวคนที่จิตใจชั่วช้าสามานย์ น้ำมือเ**้ยมโหดเช่นนี้ จะเป็นผู้นำตระกูลได้อย่างไร? มีคนผู้นี้อยู่ สกุลหนานกงไม่ล่มสลายต่างหากที่จะแปลก
แต่ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็ยังคงเป็นซย่าโหวฉิงเทียน
“เจ้าไม่ใช่แม่ของข้า?” มองดูใบหน้าที่บวมปูดบอบช้ำที่แทบมองเค้าโครงเดิมไม่ออกของซย่าจื่ออวี้ หัวใจของซย่าโหวฉิงเทียนก็ปั่นป่วนอย่างหนัก
เขาเข้าใจมาตลอดว่าซย่าจื่ออวี้คือมารดาบังเกิดเกล้า จึงไม่เคยเข้าใจเลยว่า เพราะอะไรนางถึงได้ปฏิบัติกับเขาเช่นนี้
มาตอนนี้ซย่าจื่ออวี้กลับไม่ใช่มารดาบังเกิดเกล้าของเขาเสียแล้ว นี่มันเรื่องอะไรกัน?
“ข้า…ข้า” ซย่าจื่ออวี้เอ่ยปากไม่ออก ตรงกันข้ามกลับเป็นหนานกงอ๋าวเสียอีกที่หยักยิ้มชั่วร้ายออกมา อย่างไรก็หนีไม่พ้นต้องตายอยู่ดี มิสู้ตอกย้ำหัวใจของอีกฝ่ายให้ชอกช้ำอีกสักสามสี่แผลเล่า!
“ข้าจะบอกอะไรเจ้าให้นะ เจ้าคือมารหัวขนที่เกิดกับซย่าจื่ออวี้และไอ้ผู้ชายไม่มีหัวนอนปลายเท้านั่น! ฮ่าๆ!” รอยยิ้มของหนานกงอ๋าวบิดเบี้ยวราวกับปีศาจร้ายอย่างไรอย่างนั้น
“ต่อให้ตอนนี้เจ้ายิ่งใหญ่เกรียงไกรมากเพียงใด เจ้าก็ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงชาติกำเนิดที่ต่ำต้อยของตัวเองได้!”
“พ่อของเจ้าคือพวกเร่ร่อน ไร้บ้านให้กลับ ส่วนแม่ของเจ้าก็เป็นพวกใฝ่ต่ำ! พวกมันสองคนแอบลักลอบได้เสียกันจนมีเจ้าเกิดขึ้นมา นับตั้งแต่เจ้าเกิดมาก็ถูกพวกมันทอดทิ้ง เพราะเจ้ามันชั้นต่ำ เจ้าคือความอัปยศ!”
“เขา เขาพูดจาเหลวไหล…”
เมื่อเห็นว่าหนานกงอ๋าวกำลังใส่ร้ายพี่สาวของตน ซย่าจื่ออวี้ก็โกรธเกรี้ยวอย่างหนัก
“เจ้าอย่าไปฟังเขานะ! พี่สาวกับพี่เขยรักกันด้วยใจจริง พวกเขาแต่งงานกันแล้ว ถึงได้มีเจ้า! เด็กดี พ่อแม่ของเจ้ารักเจ้ามากนะ นี่เป็นความจริง!”
ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์มักจะตาบอดมองเหตุการณ์ไม่ออก แต่ผู้ที่อยู่ภายนอกกลับมองเรื่อวราวได้ทะลุปรุโปร่ง
ตอนนี้ ซย่าโหวฉิงเทียนจัดว่าเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วย ดังนั้นจึงเกิดอาการสับสนอย่างหนัก
“ในเมื่อพวกเขารักข้า แล้วเหตุใดถึงได้…”
เพราะอะไรถึงไม่ต้องการข้า?
ซย่าโหวฉิงเทียนจิตใจหดหู่ยิ่งนัก
“เพราะว่าพ่อของเจ้าทิ้งแม่ของเจ้าไป ดังนั้นนางถึงไม่ต้องการเจ้า!” หนานกงอ๋าวยังคงเติมเชื้อไฟเยาะเย้ยซย่าโหวฉิงเทียนต่อไป
เขาแค้นซย่าชิงอวี้ แค้นนางจนไม่เคยคิดที่จะให้อภัยนางตลอดไป
นับตั้งแต่ที่ซย่าชิงอวี้ปฏิเสธความรักของเขา เลือกไอ้ผู้ชายชั้นต่ำคนนั้น ความแค้นที่สุมอยุ่ในอกของหนานกงอ๋าวก็หยั่งรากฝังลึก จนผลิดอกออกผลเป็นความชั่วร้ายอย่างในวันนี้
“ไม่ ไม่ใช่นะ!” เห็นสีหน้าผิดหวังเสียใจของซย่าโหวฉิงเทียน ซย่าจื่ออวี้ก็ร้อนใจขึ้นมาทันที
“ไม่ใช่อย่างนั้น!”
“เมื่อพี่สาวตั้งครรภ์ พี่เขยดีใจเป็นอย่างมาก เขาเฝ้ารอคอยการเกิดมาของเจ้า ภายหลัง พี่เขยไปคุ้มครองการส่งสินค้า แล้วเกิดเรื่องขึ้นระหว่างทาง พี่เขยจึงไม่ได้กลับมาอีกเลย แต่พี่สาวก็ยังคงตัดสินใจด้วยความหนักแน่นว่าจะต้องให้กำเนิดเจ้าให้จงได้…”
เมื่อกล่าวถึงตรงนี้ ราวกับซย่าจื่ออวี้นึกอะไรบางอย่างออกมาได้ เพราะจู่ๆนางก็ถลาเข้าไปจับคอเสื้อของหนานกงอ๋าวเอาไว้แน่น
“บอกมา เป็นฝีมือเจ้าใช่หรือไม่? เจ้าทำร้ายพี่เขย?”
“ฮ่าๆ!” หนานกงอ๋าวหัวเราะเสียงดังจนกระทั่งน้ำหูน้ำตาไหล
“ซย่าจื่ออวี้เจ้านี่มันโง่ดักดาน!”
“ถูกต้อง ข้าทำเอง! ข้าสั่งให้คนไปซ่อนตัววางกำดักระหว่างทาง ก็เพื่อต้องการฆ่าไอ้คนชั้นต่ำคนนั้น เจ้าคงจะไม่รู้สินนะว่า สุดท้ายมันร่วงตกลงไปจากหน้าผา ร่างกายแหลกเหลวจนแม้แต่ศพก็หาไม่เจอ…”
“หนานกงอ๋าว เจ้ามันชั่วช้าจิตใจโหดเ**้ยม! เจ้ามันไม่ใช่คน! เจ้ามันเดรัจฉาน!” ซย่าจื่ออวี้ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าทอชายหน้าเนื้อใจเสือตรงหน้านี้ได้แล้ว
คนที่ทำลายความสุขของพี่สาวของนางก็คือเขา!
เขาคือตัวการของเรื่องทั้งหมด! แล้วนางยังหลงคิดว่าเขาจะเป็นสามีที่ หลงคิดไปว่าเขาจะเขาจริงใจกับนาง นางมันตาบอด! ความทรงจำที่สูญหายไปไหลหลากกลับมาให้สมองของซย่าจื่ออวี้อย่างรวดเร็วราวกับสายน้ำก็ไม่ปาน
ก่อนหน้านี้ซย่าจื่ออวี้จดจำได้เพียงบางส่วน แต่ตอนนี้ ภาพทุกอย่างมันฉายชัดย้อนกลับมาในหัวของนางอีกครั้งราวกับฉายภาพยนตร์ซ้ำไปซ้ำมา
“ในเมื่อท่านชอบพี่สาวของข้ามากถึงเพียงนั้น สุดท้ายเพราะอะไร แม้แต่นาง ท่านก็ยังไม่ยอมปล่อย? “
ยิ่งเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น ที่หนานกงอ๋าวบีบบังคับครอบครองข่มเหงร่างกายของซย่าชิงอวี้ต่อหน้าท่านพ่อท่านแม่โดยไม่สนใจว่าภายในของนางกำลังหลั่งเลือดเพราะบอบช้ำจากการคลอดลูกมา สุดท้ายไม่เพียงแต่ทรมานซย่าชิงอวี้จนตาย ทั้งยังทำให้ท่านพ่อโมโหอัดอั้นตันใจจนตาย ซย่าจื่ออวี้ก็รู้สึกขยะแขยง