เสียงของทั้งเด็กหญิงและผู้หญิงอีกคนดูปกติ แต่หลังจากรวมกับบรรยากาศประหลาดรอบ ๆ และทำนองอันแปลกประหลาด ทุกอย่างก็มีความหมายต่างออกไป

“ท่อนแรกร้องโดยเด็กผู้หญิง เธอกำลังตามหาแม่ของเธอ และครึ่งหลังนั้นน่าจะเป็นคนแม่ร้อง พวกเขาอยู่ในห้องเดียวกันแต่ว่าลูกสาวมองไม่เห็นแม่ของเธอ และแม่ของเธอก็สัมผัสแตะต้องลูกสาวของเธอไม่ได้ นี่หมายความได้แค่ว่าพวกเขาคนหนึ่งนั้นตายแล้วและกลายไปเป็นผี” การวิเคราะห์ของหวังตั้นเฉียบคมและตรงประเด็น แฟนสาวของเขาตัวสั่นไปแล้ว

“ห้องนี้ก็ไม่ปลอดภัยเหมือนกัน พวกเราควรกลับออกไป”

“ไม่” หวังตั้นไม่เลือกกลับออกไปเหมือนก่อนหน้านี้ เขาส่ายหน้าอย่างตัดสินใจแล้ว “ก่อนที่เสียงของผู้หญิงและเด็กจะดังขึ้น เธอได้ยินเสียงกล่องดนตรีไหม?”

“กล่องดนตรี?” แฟนสาวของหวังตั้นงุนงง “ฉันว่าฉันได้ยินนะ แต่ว่ามันเกี่ยวอะไรกับที่พวกเราจะกลับออกไปเหรอ?”

“จากคำใบ้ที่บอสเฉินให้ หนึ่งในนั้นเกี่ยวกับกล่องดนตรีที่เล่นเองได้ มีคำใบ้ซ่อนอยู่ในห้องนี้!” ดวงตาของหวังตั้นเป็นประกายอย่างมั่นใจเหมือนภารกิจของพระเจ้าได้ตกลงมาบนบ่าของเขาแล้ว “บอสเฉินให้คำใบ้พวกเราสี่อย่าง และถึงแม้ว่าพวกเราจะเข้ามากันสิบคน แต่ว่ายังไม่มีคำใบ้ไหนถูกพบ อันที่จริง พวกเราทั้งหมดสูญเสียการติดต่อกันไปแล้ว

“แน่นอนว่า ส่วนใหญ่แล้วเป็นพวกเขาหาเรื่องใส่ตัว แต่ลองคิดดู พวกเราก็ยังเป็นกลุ่มเดียวกัน ถ้าพวกเราเลือกที่จะยอมแพ้เพราะเพื่อนร่วมทีมเป็นจุดอ่อน สุดท้ายแล้วก็เป็นพวกเราที่ถูกดูถูกไปด้วย!”

หวังตั้นปลดมือแฟนสาวที่จับแขนเขาเอาไว้ลงและเดินเข้าไปในห้องนอนก้าวหนึ่ง

“อย่าเข้าไปเลย! ถูกดูถูกแล้วยังไง? ไม่ใช่ว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเสียหน่อย พวกเราควรจะหยุดในตอนที่ยังหยุดได้” แฟนสาวของหวังตั้นพยายามโน้มน้าวเขา

“คำใบ้อยู่ด้านหลังประตูนี่แล้ว เธอจะเลือกที่จะเป็นคนขี้ขลาดไปตลอดชีวิตหรือว่าเลือกที่จะเป็นฮีโร่ในไม่กี่นาทีนี้?” หวังตั้นชำเลืองมองโทรศัพท์ “พวกเราเหลือเวลาไม่ถึงสิบนาทีแล้ว ฉันอยากจะทำสิ่งที่ฉันไม่เคยทำมาก่อน”

เขากัดฟัน ผลักประตูห้องนอนเปิดออกแล้วกวาดตามองรอบ ๆ อย่างรวดเร็ว หน้าต่างปิดอยู่ และดูเหมือนจะมีเงากลุ่มหนึ่งซ่อนอยู่ด้านหลังม่านหนา ลิ้นชักที่โต๊ะเครื่องสำอางถูกเปิดเอาไว้ครึ่ง ๆ และเก้าอี้ยังล้มตะแคงอยู่บนพื้น ที่นอนบนเตียงเดี่ยวนั้นถูกดึงห้อยออกมาปิดไม่ให้เห็นพื้นที่ใต้เตียง ผ้าปูที่นอนก็ยับย่นอยู่บนฟูกแต่กลับมีรูปร่างคล้ายกับมีคนแอบอยู่ข้างใต้นั้น

เครื่องเรือนทั้งหมดที่เพลงพูดถึงนั้นปรากฏอยู่ในห้องนี้ มันทำให้เพลงนั้นดูเหมือนจริง

“เสียงดูเหมือนจะดังมาจากในตู้” สภาพในห้องนอนนั้นประหลาด ดวงตาของหวังตั้นกลอกไปมาขณะที่เขาขยับไปทางตู้ช้า ๆ ตอนที่จับอยู่ที่ขอบตู้ เขากำลังจะดึงประตูเปิดออกตอนที่มีเสียงเคาะเบา ๆ ดังมาจากที่ด้านหลังเขา

“นั่นใครน่ะ?” หัวใจของเขาเกือบกระโจนออกจากคอหอย เขาหันกลับไปมองและเห็นว่าเป็นแฟนสาวของเขาที่ขยับไปยังประตูห้องนอน เธอบังเอิญกระแทกโดนประตู

“หวังตั้น ไปเถอะ ที่นี่มีบางอย่างไม่ถูกต้อง” แฟนสาวของหวังตั้นเร่งอย่างกระวนกระวาย อันที่จริงเธอไม่ได้ยึดติดกับหวังตั้น เธอก็แค่ไม่กล้ากลับออกไปเองคนเดียว

“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” หวังตั้นสูดลมหายใจลึกเพื่อสงบใจ และเขาก็ดึงตู้เปิดออก กลิ่นราจาง ๆ ลอยออกมา ไม่ช้าหวังตั้นก็เจอกล่องดนตรีวางเอาไว้ที่ชั้นสองของตู้ มันดูเป็นของโบราณ งานทำมือ และน่าจะมีราคาทีเดียว

“มันดูสวยดีทีเดียว” หวังตั้นหยิบกล่องดนตรีขึ้นมา “นี่เป็นหนึ่งในคำใบ้ที่บอสเฉินให้ แต่ว่าคำใบ้ทางหนีออกจากที่นี่อยู่ไหนกัน?”

เสียงร้องเพลงของผู้หญิงและเด็กหญิงยังดำเนินต่อ หวังตั้นค่อย ๆ ชินกับเสียงนั้น แต่เขาไม่ได้รู้สึกเลยว่าเสียงเพลงนั้นเข้ามาใกล้เข้าเรื่อย ๆ แล้ว

“ฉันต้องพังเปิดมันออกหรือเปล่า?” ตอนที่เพลงเล่นจบ ตุ๊กตาที่บนกล่องดนตรีก็หยุดหมุน กล่องที่ปิดอยู่นั้นเผยให้เห็นกระดาษแผ่นหนึ่งโผล่ออกมาจากด้านหลังฝาปิด

“เจอแล้ว!” หวังตั้นหยิบกระดาษขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

“คุกใต้ดินหลังตู้ ตู้เย็นที่มุมห้องครัว และห้องเก็บศพที่ท้ายโรงพยาบาล หนึ่งในนั้นนำไปสู่ทางออก หนึ่งในนั้นนำไปสู่ชีวิตใหม่ และอีกสองทางนำไปสู่ความตาย ทำไมไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นเรื่องของโชคชะตา? (กรุณาวางกระดาษนี้เอาไว้ที่เดิมหลังจากอ่านจนแล้ว ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะเจอเข้ากับบทลงโทษที่ไม่มีผู้ใดบอกได้)”

หวังตั้นนั้นตื่นเต้นตอนที่พบคำใบ้ แต่หลังจากอ่านแล้ว เขาก็ขมวดคิ้วอีกครั้ง “นี่ล้วนขึ้นกับโชค ถ้าเลือกถูก อย่างนั้นก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเลือกผิด อย่างนั้นก็จบกันพอดี”

หวังตั้นนั้นคุ้นเคยกับบอสเฉิน ตัวเลือกที่ถูกต้องอาจจะไม่ได้นำไปสู่ทางออกจริง ๆ แต่ว่าตัวเลือกที่ผิดนั้นจะนำความสิ้นหวังมาให้พวกเขาอย่างแน่นอน

“ยอมแพ้เสียตอนนี้หมายความว่าความพยายามทั้งหมดของพวกเราก็สูญเปล่า ฉันจะลองดูไม่ว่าจะยังไงก็ตาม!” หวังตั้นให้กำลังใจตัวเอง เขาเก็บกระดาษเอาไว้ในกล่องดนตรี แต่ว่า ตอนที่นิ้วของเขาแตะถูกฝากล่อง กล่องดนตรีที่หยุดเล่นไปแล้วก็เริ่มเล่นขึ้นอีกครั้ง

ฝาเปิดออก และตุ๊กตาสองตัวก็หมุนไปบนแท่น แต่น่าแปลก มีกระดาษอีกชิ้นหนึ่งเสียบเอาไว้ระหว่างตุ๊กตาทั้งสอง

“คำใบ้ที่สอง?” หวังตั้นเอื้อมมือไปเอากระดาษนั่นออกมา แต่ว่าตอนที่แขนของเขายื่นเข้าไปในตู้ ความเย็นก็พุ่งผ่านปลายนิ้วของเขา

“อะไรกัน…” มือของเขาถูกมือซีด ๆ ข้างหนึ่งจับเอาไว้ เขามองเข้าไปในตู้และเห็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ขดอยู่ลึกในตู้

“เด็กที่ไม่เชื่อฟังจะถูกผีพาตัวไป!” เพลงที่เด็กหญิงร้องจู่ ๆ ก็เร็วขึ้นและเธอก็คลานออกมาจากตู้

“เธอมาจากไหนกัน?” หวังตั้นดึงมือตัวเองกลับและคิดที่จะถอยออกมาตอนที่ร่างของเขาชนเข้ากับบางอย่าง เขาหันกลับไปและสบกับดวงตาสีแดงคู่หนึ่ง

“แม่ขยับตัวไปตามสายตาหนู แม่ซ่อนอยู่ใต้เตียง อยู่ในตู้ อยู่หลังหน้าต่าง ก่อนจะคลานอยู่ในผ้าห่มหนู แม่นอนอยู่ด้านหลังหนูและเหนือตัวหนู และตอนนี้ในที่สุดหนูก็เห็นดวงตาแดงก่ำของแม่!”

ใบหน้าของผู้หญิงที่เน่าเปื่อยจนเกือบจะหมดแล้วเอนเข้ามาใกล้หวังตั้น หวังตั้นตกใจมากจนเกือบเป็นลม เขากัดลิ้นแล้วบังคับให้ตัวเองตื่นเอาไว้

“ถอยไปนะ!” หวังตั้นไม่กล้าลืมตา เขาสะบัดแขนปัดป่ายไปด้านหลังแล้วพุ่งไปยังทิศทางที่เชื่อว่าเป็นทางออก ตอนที่ผู้หญิงคนนั้นปรากฏตัวขึ้นตอนแรก แฟนสาวของหวังตั้นก็ถอยออกไปอย่างตกตะลึงก่อนแล้ว ทั้งคู่วิ่งออกจากห้องผีสิงตามหลังกันและกัน

บางทีกำปั้นที่เหวี่ยงไปมั่ว ๆ ของหวังตั้นอาจจะไปล่วงเกินพวกผีเข้าเพราะว่าแม่และลูกสาวคู่นั้นลอยออกจากห้องไล่ตามหลังพวกเขา หวังตั้นและแฟนสาวของเขาวิ่งพรวดไปตามถนนเป็นรอบที่สามโดยไม่หยุดพักหายใจ!

“ตอนนี้พวกเราจะไปที่ไหน?” แฟนสาวของหวังตั้นกรีดร้องไปตามถนน

ลิ้นของหวังตั้นยังเจ็บหนึบ และเขาก็เค้นคำพูดออกมา “ฉันเห็นคำใบ้แล้ว! มีจุดที่เป็นไปได้ว่าจะเป็นทางออกสามจุด! ตามฉันมา!”

ทั้งจิตใจและร่างกายของเขานั้นถึงขีดจำกัดหมดแล้ว แต่ว่าเขาก็อยู่ใกล้ทางออกจนหวังตั้นแทบจะสัมผัสได้ สมองของเขาทำงานมากขึ้นกว่าปกติ “ตู้เป็นของที่พื้นฐานเกินไปและยากที่จะหาตู้ที่ถูกต้องเจอ! พวกเราไม่เคยเห็นตู้เย็นหรือว่าห้องครัวเลย! ดังนั้น พวกเราจึงมีแค่ทางเลือกสุดท้าย– ห้องเก็บศพที่ท้ายโรงพยาบาล!”

หวังตั้นย้อนกลับไปทางเดิน พาแฟนสาวกลับไปยังโรงพยาบาลเอกชนเมืองหลี่ว่าน

“โอกาสหนึ่งในสาม! ฉันไม่เชื่อว่าฉันจะโชคไม่ดีขนาดนั้น! คราวนี้ฉันจะเคลียร์ฉากนี้!”