บทที่ 661 ต่อสู้กับหานชิงจ้าว

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

บู้ม!

น่าสงสารเฮลิคอปเตอร์ทั้งสองลำที่บินมา ยังไม่ทันได้ยิงสักนัดก็ถูกจรวดยิงร่วงและระเบิดกลางอากาศไปก่อน

“ยิงได้สวย!”

ถ่ามู่อดไม่ได้ที่จะชื่นชมและพูดต่อว่า “พี่น้อง เราอดทนรออีกสักสิบนาที! หลังจากสิบนาที เราจะถอยตามแผนที่วางไว้!”

ในขณะที่พูดอยู่ เย่เทียนยังคงลั่นไกปืน และสังหารกองกำลังที่ติดอาวุธอย่างต่อเนื่องด้วยความไร้ความปรานี

กองกำลังทหารที่ตั้งตัวได้ก็ตะโกนออกมาแล้วเหนี่ยวไกปืนอย่างต่อเนื่อง ด้วยความบ้าคลั่ง พวกเขาได้สังหารกองกำลังติดอาวุธที่ออกมาจากหมู่บ้านด้วยความแม่นยำและโหดเหี้ยม

จนกระทั่งกระสุนหมด และในใช้ช่วงเวลาที่เปลี่ยนแม็ก ถ่ามู่ก็กดเครื่องวิทยุสื่อสารแล้วพูดอย่างเร่งรีบว่า “คุณชายเย่ ทางนั้นเป็นอย่างไงบ้าง? ออกมาหรือยัง? พวกยื้อเวลาได้อีกแค่สิบนาทีเท่านั้นนะ!”

“ฉัน ซูเหมย ฉันออกมาแล้ว”

แต่ทว่า เสียงที่ได้ยินนั้นไม่ใช่เสียงของเย่เทียน แต่เป็นเสียงของผู้หญิงพร้อมกับเสียงที่สั่นเทาเหมือนกำลังร้องไห้อยู่ “แต่เย่เทียนเขายังอยู่ในหมู่บ้าน”

“คุณชายเย่ยังไม่ออกมางั้นเหรอ?”

ถ่ามู่พึมพำอยู่สักพัก และเมื่อได้สติกลับมาก็พูดต่อว่า “เรื่องของคุณชายเย่เอาไว้ก่อน ผมเชื่อว่าเขาสามารถออกมาได้แน่นอน!”

“แล้วตอนนี้คุณอยู่ไหน? ผมจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้!”

ตามจริงแล้ว ถ่ามู่จะไม่มั่นใจได้อย่างไงว่าเย่เทียนนั้นจะออกมาได้เอง แต่ในตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาวัดความสามารถกันเพราะซูเหมยเป็นคนที่เย่เทียนยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเธอออกมา ดังนั้นเขาจะรอช้าไม่ได้

“ฉัน ฉันหลบอยู่ในป่าด้านหลังมุมซ้ายของหมู่บ้าน”

“โอเคครับ! คุณรออยู่ตรงนั้นอย่าเพิ่งไปไหน เดี๋ยวผมจะรีบให้คนไปหาคุณเดี๋ยวนี้!”

หลังจากพูดให้กำลังใจซูเหมยเสร็จ ถ่ามู่ก็เปลี่ยนช่องสัญญาณแล้วตะโกนพูดกับกองกำลังทหารในชุดลายพราง “มากับผมสองคน ส่วนคนที่เหลือยื้อเวลาอยู่ตรงนี้ให้ถึงสิบนาที ถ้าภายในสิบนาทีผมยังไม่กลับมา พวกคุณก็ถอยไปก่อนได้เลย!”

ในเวลาเดียวกัน การต่อสู้ระหว่างฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะและเยาหวู่ตี๋ ก็ดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ ต่างฝ่ายต่างงัดฝีมือออกมาต่อสู้กันไปมา อย่างดุเดือด

ในชั่วพริบตา ทั้งสองปะทะกันไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง

แท๊ง!

เสียงดาบปะทะกันดังขึ้น และทั้งสองฝ่ายก็ปะทะกันอย่างดุเดือดอีกครั้ง

และในขณะนี้เอง สายตาของฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะที่เป็นฝ่ายตั้งรับมาตลอดก็เปลี่ยนไปทันทีพร้อมกับขยับฝ่าเท้าเล็กน้อย จากนั้นเคลื่อนตัวเป็นครึ่งวงกลม แล้วใช้ดาบอันแหลมคมที่อยู่ในมือแทงตรงเข้าไปที่กลางอกของเยาหวู่ตี๋

สีหน้าของเยาหวู่ตี๋ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก เพราะระยะห่างของทั้งสองฝ่ายนั้นใกล้กันมาก แม้เขาจะสังเกตเห็นการโจมตีของฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะ แต่ก็ยากที่จะหลบพ้นได้

ฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะนั้นวางแผนไว้นานแล้ว การโจมตีครั้งนี้ถือเป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเขาเลยก็ว่าได้ มันไวมาก ในชั่วพริบตาดาบก็พุ่งเข้ามาตรงกลางอกของเยาหวู่ตี๋

เยาหวู่ตี๋ตกใจเป็นอย่างมาก ถ้าโดนแทงเข้าจริงๆ เขาคงถึงกับตายแน่นอน!

ในช่วงวิกฤติอย่างนี้ เยาหวู่ตี๋เดินไปข้างหน้า และบังคับตัวเองให้ขยับขาหลบไปด้านข้าง

ด้วยการขยับขาเล็กน้อย ทำให้เขานั้นหลบการโจมตีมาได้อย่างหวุดหวิด

สืบ!

แต่ทว่า ถึงเยาหวู่ตี๋จะหลบการโจมตีที่ถึงแก่ชีวิตนี้ได้ แต่เขาก็โดนแทงเข้าที่ไหล่ขวา

“เอื้อก?!”

เยาหวู่ตี๋ถึงกับร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากไหล่ขวาของเขา และเสื้อของเขาก็เต็มไปด้วยคลาบเลือดพร้อมกับเลือดที่หยดลงกับพื้น!

ต่อมา เยาหวู่ตี๋กัดฟันทนต่อความเจ็บปวดนี้ จากนั้นรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดไปที่แขนซ้ายของเขาแล้วม้วนโซ่เข้ากับหมัดและชกเข้าไปที่ฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะอย่างจัง

ผัวะ!

ฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะก็รับหมัดนี้อย่างจังพร้อมกับกระอักเลือดออกมาจากปาก

ใช่ว่าเขาจะหลบการโจมตีนี้ไม่ได้ แต่ถ้าหากเขาเลือกที่จะหลบ เขาก็ต้องปล่อยดาบในมือด้วย และสำหรับเขาที่มีจิตวิญญาณนักดาบอย่างเต็มเปี่ยม เป็นเรื่องยากที่เขาจะทนรับได้!

เมื่อโจมตีสำเร็จ เยาหวู่ตี๋ก็ไม่รีรอแล้วถอยออกไปและถูกดาบฟันเข้าที่แขนขวาอีกครั้ง

เมื่อฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะเห็นอย่างนี้ ดวงตาทั้งคู่ก็กลายเป็นความเคร่งขรึม ซึ่งศัตรูที่อันตรายที่สุดก็คือคนโหดเหี้ยมอย่างเยาหวู่ตี๋

ผู้ซึ่งไม่ปรานีต่อศัตรู แม้กระทั่งตัวเขาเอง

แต่เขาไม่ได้ตอบโต้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยาก แต่เขาทำไม่ได้ต่างหาก

ต่อให้เป็นคนที่โหดเหี้ยมเหมือนเขา ถ้าต้องเจอกับหมัดนี้อย่างจัง เลือดในร่างกายของเขาจะพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที ถ้าโจมตีอย่างวู่วามก็มีแต่เผยจุดอ่อนออกมา

“นักดาบเสแสร้ง เหมือนว่าข้าจะดูถูกแกไปหน่อยแล้ว”

เยาหวู่ตี๋ปิดแผลที่ไหลขวาด้วยมือซ้าย และจ้องมองไปที่ฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะ ครั้งนี้ถือว่าข้าพลาด ครั้งหน้าถ้าได้เจอกันอีกข้าจะฆ่าแกให้ได้!”

เมื่อฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะได้ยินอย่างนั้นก็รู้ว่าเยาหวู่ตี๋ตั้งใจจะถอย และในขณะนั้นเขากดปราณเลือดที่ไหลอยู่ในร่างกายพร้อมกับเตรียมพุ่งเข้าไปด้วยดาบ

พรึ่บ!

ก่อนที่ฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะจะตั้งตัวได้ เยาหวู่ตี๋ก็หยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อด้านในพร้อมกับโยนมันลงกับพื้น จากนั้นควันสีขาวลอยออกมา

“มาเล่นของเล่นแบบนี้ ก็เหมือนเล่นดาบต่อหน้ากวนอูสิ!”

ฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะอึ้งไปสักพักพร้อมกับตะโกนออกมา จากนั้นขยับฝ่าเท้าแล้วพุ่งเข้าไปในควันสีขาวพร้อมกับดาบในมือ

“หืม?!”

วินาทีต่อมา ก็มีเสียงของเยาหวู่ตี๋ดังออกมาจากควันสีขาวนั้น

ควันสีขาวหายไปอย่างรวดเร็ว และเงาคนก็ปรากฏตัวขึ้น จะเป็นใครไปได้อีกนอกจากฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะพร้อมกับสีหน้าที่ดูไม่ได้?

“ไอ้บัดซบ หนีไปได้งั้นเหรอ!”

ฮาชิโมโตะ ฟุจิโนะเช็ดเลือดที่ริมฝีปากพร้อมกับมองไปรอบๆ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครตามมา เขาก็ขยับเท้าเล็กน้อยและรีบหายตัวออกไปจากหน้าประตูบ้าน

……

ในตอนนี้ เย่เทียนกับหานชิงจ้าวก็สู้กันอย่างดุเดือด

เมื่อดูจากสถานการณ์แล้ว ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่หลังจากที่ซูเหมยออกไป เย่เทียนก็โจมตีใส่หานชิงจ้าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดการหานชิงจ้าวให้ได้ไวที่สุด

น่าเสียดายที่ทั้งสองคนปะทะกันไม่ต่ำกว่าร้อยครั้ง แต่ทว่าหานชิงจ้าวไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย นอกจากรอยเท้าบนตัวเล็กน้อย

ผัวะ!

หานชิงจ้าวถูกเย่เทียนชกใส่อีกครั้ง จากนั้นขยับขาเล็กน้อยแล้วถอยออกไปสองสามเมตรพร้อมกับมองไปที่เย่เทียนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“เย่เทียน แกเก่งกว่าที่ข้าคาดไว้มากจริงๆ ข้ายอมรับว่าข้าดูถูกแกไปหน่อย แต่……”

“ต่อไปข้าจะไม่ออมมือให้แกแล้วนะ!”

ต่อมา หานชิงจ้าวก็ระเบิดอารมณ์ออกมา จากนั้นขยับขาเล็กน้อยและพุ่งเข้าไปหาเย่เทียนอย่างรวดเร็วพร้อมกับดาบยาวในมือที่เหมือนกับงูพิษ และโจมตีใส่เย่เทียนอย่างดุเดือด

เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นไวมาก เมื่อเย่เทียนได้สติกลับมา ดาบก็ได้เข้ามาใกล้ตัวแล้ว

ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก เย่เทียนตอบสนองได้ทันท่วงทีและหันหัวหลบดาบอย่างหวุดหวิด แต่ปลายเส้นผมของเขาก็ถูกตัดขาดไป ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เฉียดฉิวมาก

ดูเหมือนว่าหานชิงจ้าวจะคาดการณ์ไว้แต่แรกอยู่แล้ว รอยยิ้มที่มั่นใจก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา และเขาหันคมดาบในมือแล้วฟันเข้าไปที่เย่เทียนอีกครั้ง

รูม่านตาของเย่เทียนหดตัวลงเล็กน้อย เขาไม่คำนึงถึงอะไรเลย ได้แต่กลิ้งหลบการโจมตีนั้นโดยที่ไม่สนถึงความอับอายอีก

และในวินาทีต่อมา ดาบยาวในมือของหานชิงจ้าวก็เหมือนกับเงาสังหาร ทำให้เย่เทียนนั้นตกอยู่ในที่นั่งลำบากอีกครั้ง…