หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง เฟอร์กูสันและชัคหลุนที่หน้าบึ้งตึงกับเซียวอวี๋ก็ทำข้อตกลงกัน ขณะที่ธีโอดอร์ที่นั่งดูอยู่ด้านข้างหัวเราะเสียงดัง นั่นทำให้ชายชราทั้งสองแทบจะลุกขึ้นมาลงไม้ลงมือกับธีโอดอร์ อย่างไรก็ตาม ธีโอดอร์เพิ่งหัวเราะได้ไม่ทันไร เซียวอวี๋ก็พลันเบนเป้ามาที่เขาต่อ ธีโอดอร์โมโหจนควันออกหู ขณะที่ชายชราทั้งสองหัวเราะเยาะอยู่ด้านข้าง หลังจากบีบให้ชายชราทั้งสามทำข้อตกลงได้สำเร็จแล้ว เซียวอวี๋ก็ยิ้มก่อนจะกล่าวว่า “หากในอนาคตมีผู้ที่สนใจอีก พวกท่านก็อย่าลืมแนะนำให้กับข้าล่ะ ข้าจะปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันที่สุด ข้าจะทำให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่อาจหมกเม็ดและจ่ายน้อยไปกว่าพวกท่านแม้แต่เสี้ยว” ชายชราทั้งสามจ้องมองเซียวอวี๋พลางกัดฟันแน่น หากว่าที่นี่ไม่ใช่ดินแดนไลอ้อน หากไม่ใช่เพราะเซียวอวี๋เป็นคู่หมั้นของหลินมู่เสวี่ยล่ะก็ ป่านนี้เซียวอวี๋คงถูกพวกเขาเชือดทิ้งไปแล้ว ด้วยชื่อเสียงและบารมีของพวกเขา ยังจะมีผู้ใดกล้าปฏิบัติต่อพวกเขาเช่นนี้อีก? เซียวอวี๋นับเป็นคนแรกที่กล้า! หลังจากปล้นทรัพย์ชายชราทั้งสาม เซียวอวี๋ก็รีบเผ่นแน่บอย่างรวดเร็ว เขาเกรงว่ายิ่งชายชราเห็นหน้าของเขาก็จะยิ่งโกรธจนหมดความอดทน หากทั้งสามโกรธขึ้นมาจริงๆ มีหรือที่เขาจะรองรับไหว? เซียวอวี๋อารมณ์ดียิ่ง เขาเดินฮัมเพลงพลางทอดมองเมืองไลอ้อน หลังผ่านการตบทรัพย์เมื่อครู่ ความโศกเศร้ากับการจากไปของเอกวินน์ก็เบาบาง เขาจึงเดินเตร็ดเตร่พลางหาเรื่องสนุกทำ ด้วยเหตุนั้น เซียวอวี๋จึงมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่จัดสร้างขึ้นเป็นพิเศษเพื่อคนพิเศษ ในห้องมีผู้คนอยู่สองคนถูกคุมตัวอยู่ หนึ่งคือนางโจรเคราแดงหยินเค่อ ขณะที่อีกหนึ่งคือซัคคิวบัสที่จับตัวมาจากวิหารดำ หลังจากจับซัคคิวบัสมา เขาก็คุมตัวนางไว้ในรถม้าคันหนึ่ง เมืองมาถึงเมืองไลอ้อน เขาก็พบว่าซัคคิวบัสนางนี้ยังไม่ตาย ดังนั้นเขาจึงจับนางมาไว้กับหยินเค่อ เสน่ห์ของซัคคิวบัสนั้นสุดที่มนุษย์คนใดจะต้านทานไหว ดังนั้นเซียวอวี๋จึงไม่กล้าให้ผู้คนพบเห็นนาง ด้วยเหตุนั้นจึงมีคนเพียงไม่กี่คนที่ทราบว่าเซียวอวี๋นั้นจับซัคคิวบัสขังเอาไว้ที่นี่ ครั้งนี้ เซียวอวี๋ได้รับสิ่งของมามากมายจากการรีดไถเฟอร์กูสัน และเขาก็เตรียมจะใช้ของเหล่านั้นต่อซัคคิวบัส หนึ่งในนั้นเป็นไอเท็มที่มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกับปอกคอทาสของลีอาที่สามารถทำให้ผู้สวมใส่เชื่อฟังคำสั่งของเจ้านาย ตอนที่ได้รับของสิ่งนี้มา เซียวอวี๋ก็นึกถึงซัคคิวบัสทันที หากว่าเขาสามารถทำให้ซัคคิวบัสเชื่อฟังเขาได้ มันก็คงจะยอดเยี่ยมอย่างที่สุด ห้องขังนี้ถูกจัดสร้างขึ้นเป็นพิเศษโดยเซียวอวี๋เพื่อคุมขังผู้แข็งแกร่งสำหรับการทดลองของฮิกกิ้น เซียวอวี๋นำสิ่งของชั้นยอดกลับมาด้วยจำนวนนับไม่ถ้วน ดังนั้นฮิกกิ้นจึงไม่อาจบ่นกับเรื่องแบบนี้ และจำต้องย้ายไปใช้สถานที่อื่นก่อนเป็นการชั่วคราว สำหรับการรับผู้ใช้มนตรามาเป็นลูกมือให้ฮิกกิ้นนั้น เซียวอวี่ได้ติดสัญญลักษณ์ของธีโอดอร์ไปทั่วทุกที่ ดังนั้นการรับสมัครจึงเป็นไปอย่างราบรื่น ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ฮิกกิ้นก็ได้ผู้ใช้มนตราที่ผ่านคุณสมบัตินับร้อยคนมาเป็นลูกมือ ในตอนแรกเมื่อพวกเขาไม่ได้พบกับธีดอดอร์ พวกเขาก็เริ่มไม่มั่นใจ แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าเซียวอวี๋นัน้มีวัตถุดิบชั้นดีมากมายสำหรับการทดลองที่สามารถทำให้พวกเขายกระดับฝีมือขึ้นได้พวกเขาก็ลังเลที่จะถอนตัว และหลังเกิดเรื่องของเอกวินน์ขึ้น จ้าวมนตราทั้งสามมารวมตัวกัน เมืองไลอ้อนก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นกว่าเดิม มีผู้คนมากมายที่เดินทางเข้ามายังเมืองแห่งนี้ เซียวอวี๋ได้ใช้โอกาสนี้ออกไปรับสมัครผู้ใช้มนตราและจัดตั้งโรงเรียนเวทมนตร์ขึ้น อย่างไรเสีย โลกใบนี้ก็ยังเป็นโลกแห่งเวทมนตร์ ด้วยจำนวนผู้ใช้มนตราที่มากขึ้น มันก็ยิ่งเสริมความแข็งแกร่งของดินแดนให้มากขึ้นด้วย ยิ่งตอนนี้หลินมู่เสวี่ยได้กลายมาเป็นผู้สืบทอดของเอกวินน์ด้วยแล้ว นั่นก็ยิ่งเป็นโอกาสทองที่จะใช้ประชาสัมพันธ์และรับสมัครคน ต้องทราบว่า เพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่เอกวินน์นั้น จ้าวมนตราทั้งสามได้ร่วมกันใช้เวทสร้างภาพของเอกวินน์ขึ้นให้ได้เห็นโดยทั่วกัน การจัดสร้างโรงเรียนเวทมนตร์ในเวลานี้จึงนับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ขณะที่เซียวอวี๋คิดถึงเรื่องเหล่านี้ เขาก็มาถึงห้องขัง เซียวอวี๋นำกุญแจห้องขังออกมาก่อนจะเปิดประตูและเดินเข้าไป เซียวอวี๋ไม่ได้กังวลว่าทั้งสองจะทำร้ายเขา นั่นก็เพราะความแข้งแกร่งของเขาในตอนนี้นับว่าสูงอย่างมาก อีกทั้งเขายังมีไอเท็มเวทมนตร์มากมายอยู่กับตัว ด้วยสิ่งของที่ได้รับมาจากจ้าวมนตราทั้งสามแล้ว การค้าครั้งนี้นับว่าสร้างกำไรให้เขาอย่างงาม…..