กู้หาน = ชื่อจริงของโซริทารี่ฟรอสต์ในโลกแห่งความจริงนะ แอดจะใช้เป็นจริงเลย พอโซริทารี่ฟรอสต์อยู่ในโลกแห่งความจริง

ตอนที่ 2698 สภาสิบแปดปีกปกปิดความแข็งแกร่ง

เมื่อได้ยินคำถามของหงซินหยวน เครุยก็รีบส่งสัญญาณให้เทียนเฉิงเห็นด้วย เพราะท้ายที่สุดนี่เป็นโอกาสที่ดีเยี่ยมในการขัดขวางแผนการของมู่ฉิน

เทียนเฉิงนั้นเป็นบุคคลที่แข็งแกร่งเป็นอันดับห้า ในหมู่สิบดาบของฟรอสต์ฮีฟเว่น และจากทุกคนในสภาสิบแปดปีก มันก็น่าจะมีเพียงแบล๊คเฟรมเท่านั้นที่ต่อกรกับเขาได้

อย่างไรก็ตามเทียนเฉิงนั้นไม่ได้รีบตอบตกลงหรือเห็นด้วยในทันที

“ลุงหง ฉันขอใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดที่มีได้ไหม ?” เทียนเฉิงถาม

สิบดาบนั้นแตกต่างจากสมาชิกทั่วไปของฟรอสต์ฮีฟเว่น พวกเขาจำเป็นที่จะต้องปกปิดความแข็งแกร่งของตัวเองไว้จากบุคคลภายนอก และหากพวกเขาไม่ได้รับคำสั่งอย่างชัดเจนจากพวกระดับสูงของกิล พวกเขาก็จะไม่สามารถแสดงพลังออกมาได้อย่างเต็มที่ แม้ว่านั่นจะหมายถึงการที่พวกเขาต้องพ่ายแพ้อย่างทุกข์ทรมาณก็ตาม

คำถามของเทียนเฉิงนั้นไม่ได้ทำต้วนฮันซานแปลกใจ เพราะท้ายที่สุดกรณีนี้มันก็เป็นแบบเดียวกับหอการค้าอาซู สำหรับโซริทารี่ฟรอสต์และคนอื่นๆที่พวกเขาได้รับอนุมัติให้แสดงความแข็งแกร่งได้เต็มที่ในตอนงานแข่งขันประจำปี ก็เพราะมันเป็นงานที่สำคัญมากๆ

“นายสามารถใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของตัวเองออกมาได้เลย ถ้าจำเป็น ….” หง
ซินหยวนกล่าวหลังจากครุ่นคิดเรื่องนี้

แบล๊คเฟรม หัวหน้ากิลสภาสิบแปดปีกนั้นมีความแข็งแกร่งที่สามารถจะต่อกรกับ Faux Saint Devourers ซึ่งเป็นมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายขั้นสี่ได้แบบตัวต่อตัว หากแบล๊คเฟรมออกมาต่อสู้ในฐานะตัวแทนของสภาสิบแปดปีก เทียนเฉิงจะแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย หากเขาปกปิดความแข็งแกร่งบางส่วนของตัวเองเอาไว้

ซึ่งผลลัพธ์ดังกล่าวนั้นมันก็ไม่ใช่สิ่งที่หงซินหยวนอยากจะเห็นเลย เพราะท้ายที่สุดแล้วเป้าหมายของเขาหลักที่มาในวันนี้ก็คือทำให้สภาสิบแปดปีกรับรู้ถึงความน่ากลัวของฟรอสต์ฮีฟเว่น

“งั้นฉันก็ไม่มีปัญหาในเรื่องนี้แล้ว …” จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ลุกโชนขึ้นในดวงตาของเทียนเฉิงทันที เมื่อเขาได้รับคำอนุมัติจากหงซินหยวน

“ดี งั้นฉันจะปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นหน้าที่นาย …” หงซินหยวนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นเขาก็หันไปหาต้วนฮันซานและพูดว่า “ผู้อาวุโสต้วน ฉันตกลง ….”

ในตอนแรกหงซินหยวนก็กำลังคิดอยู่พอดีว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้สภาสิบแปดปีกได้ตระหนักถึงความสามารถของฟรอสต์ฮีฟเว่น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ต้องคิดแล้ว

“ตามนั้นเลย …” ต้วนฮันซานกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ จากนั้นเขาก็หันไปบอกเด็กหนุ่มผมสีฟ้าว่า “กู้หาน ออกมาก่อน และปล่อยให้เด็กคนนี้เข้าไปแทนนาย ….”

“หื้ม ?” หลังจากมองไปยังเทียนเฉิงอย่างพินิจพิเคราะห์ กู้หานก็กล่าวออกมาอย่างไม่เต็มใจว่า “ผู้อาวุโสต้วน คุณแน่ใจงั้นหรอ ?”

เมื่อเทียนเฉิงและหงซินหยวนได้ยินคำพูดของกู้หาน พวกเขาก็แทบจะกระอักเลือดออกมา

นี่พวกเขาสองคนนี้ประเมินฟรอสต์ฮีฟเว่นไว้ต่ำแค่ไหนกัน ?!

อย่างไรก็ตามหงซินหยวนนั้นไม่ได้ระเบิดออกมาด้วยความโกรธ เขายังคงสงวนท่าทีของเขาเอาไว้ได้ และเขาก็เพียงแค่ส่งสายตาให้เทียนเฉิงเป็นสัญญาเหมือนกับจะบอกว่า “นายรู้นะว่าจะต้องทำอะไร” พวกเขาจะต้องทำให้หอการค้าอาซูรู้ว่า
ฟรอสต์ฮีฟเว่นนั้นทรงพลังมากแค่ไหนผ่านการต่อสู้ครั้งนี้

หลังจากนั้นไม่นานการฝึกต่อสู้ระหว่างสภาสิบแปดปีกและหอการค้าอาซูก็ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ

ในเวลานี้มันก็มีผู้คนจำนวนมากขึ้นมารวมตัวกันที่แพลตฟอร์มการต่อสู้เสมือนจริง และไม่ว่าจะเป็นสมาชิกของสภาสิบแปดปีก หรือสมาชิกของหอการค้าอาซูพวกเขาต่างก็เต็มไปด้วยท่าทีตื่นเต้นและมีความสุข

“ฉันได้ยินมาว่ารุ่นเยาว์จากฟรอสต์ฮีฟเว่นจะเข้ามาแทนที่กู้หาน ฉันสงสัยจังว่ารุ่นเยาว์คนนี้จะยืนหยัดอยู่ได้กี่วินาทีกัน ?”

“ฉันได้ยินมาว่าสถิติที่ดีที่สุดจนถึงตอนนี้คือสิบหกวินาทีเท่านั้น”

“สิบหก ? งั้นในกรณีนี้รุ่นเยาว์คนนี้น่าจะยืนหยัดอยู่ได้สักสิบวินาที”

“สิบ ? ฉันว่ามากเกินไปหน่อยมั้ง !!! ฉันขอพนันเลยว่ารุ่นเยาว์คนนี้จะยืนหยัดอยู่ได้ไม่เกินหกถึงเจ็ดวินาที !!!”

การเปลี่ยนตัวผู้เข้าฝึกการต่อสู้อย่างกระทันหันได้ทำให้เกิดการพูดคุยกันอย่างดุเดือดในหมู่ผู้ชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสมาชิกของหอการค้าอาซูที่ล้วนเริ่มคาดเดากันว่าเทียนเฉิงจะยืนหยัดอยู่ได้กี่วินาทีในการดวล ซึ่งสถานการณ์นี้ทำให้เครุยกัดฟันด้วยความโกรธ ขณะที่มู่ฉินนั้นก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง

นี่มันเป็นเพราะว่าฟรอสต์ฮีฟเว่นไม่ได้ทำการเคลื่อนไหวใดๆเลยในช่วงนี้งั้นหรอ ? คนเหล่านี้ถึงปฎิบัติต่อฟรอสต์ฮีฟเว่นราวกับเป็นกิลที่ไร้ความสามารถเช่นนี้ …. มู่ฉินนั้นรู้สึกว่ามันมีบางอย่างผิดปกติในเรื่องการพูดคุยกันของคนเหล่านี้

พฤติกรรมและท่าทีของสมาชิกหอการค้าอาซูนั้นมันแปลกเกินไป พวกเขาพูดราวกับว่าการสามารถยืนหยัดต่อสู้กับตัวแทนของสภาสิบแปดปีกได้เพียงไม่กี่วินาทีเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ นี่มันดูเหมือนจะไม่มีใครมีสติ และมีความภาคภูมิใจในฐานะผู้เชี่ยวชาญเลย

หลังจากที่เทียนเฉิงเข้ามานั่งอยู่ในห้องเคบินของแฟลตฟอร์มการต่อสู้เสมือนจริง เขาก็เห็นว่าเด็กสาวที่ดูสวยและสง่าคนหนึ่งได้ตรงเข้าไปนั่งในห้องเคบินตรงข้ามเขา ซึ่งนี่มันทำให้เทียนเฉิงโกรธมากๆ เพราะไม่เพียงแต่เด็กสาวคนนี้จะไม่ให้อารมณ์ความรู้สึก และแผ่ออร่าในฐานะผู้เชี่ยวชาญออกมาเลย แต่เธอยังดูเป็นเด็กสาวที่ปกติมากๆ

นี่พวกเขาล้อฉันเล่นรึไงกัน ?! ตอนนี้จิตใจของเทียนเฉิงนั้นเต็มไปด้วยความโกรธมากจริงๆเมื่อได้เห็นดังนี้
ในตอนแรกเขาคิดว่าสภาสิบแปดปีกจะส่งผู้เชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยมออกมาต่อสู้กับเขา ดังนั้นเขาจึงได้ขออนุญาติหงซินหยวนเพื่อจะใช้พลังทั้งหมดที่มี

อย่างไรก็ตามสภาสิบแปดปีกไม่เพียงแต่จะไม่ส่งแบล๊คเฟรมออกมาเผชิญหน้ากับเขาเท่านั้น แต่แม้แต่รองหัวหน้ากิลทั้งสองก็ยังไม่ปรากฎตัวออกมา สภาสิบแปดปีกนั้นส่งแค่เด็กสาวที่ดูปกติคนหนึ่งมาเผชิญหน้ากับเขา นี่สภาสิบแปดปีกประเมิน
ฟรอสต์ฮีฟเว่นไว้ต่ำขนาดนี้เลยงั้นหรอ ?

“ผู้อาวุโสต้วน นี่คือกิลที่คุณประเมินไว้สูงงั้นหรอ ? …” หงซินหยวนหัวเราะเบาๆอย่างไม่ตั้งใจ ในขณะที่เขาตรวจสอบไวโอเล็ตคลาวด์

หลังจากได้เห็นความมั่นใจของต้วนฮันซาน หงซินหยวนก็เกือบจะเชื่อว่าสภาสิบแปดปีกนั้นมีมากกว่าที่ตาเห็น อย่างไรก็ตามเมื่อดูจากสถานการณ์ปัจจุบันแล้ว เขาจะไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรเลย

แม้ว่าไวโอเล็ตคลาวด์จะมีความสามารถในการเข้าถึงขอบเขตอนันต์ตั้งแต่อายุยังน้อย แต่เธอก็ยังคงจัดว่าอ่อนแอมากเมื่อเทียบกับเทียนเฉิง ในความจริงเทียนเฉิงน่าจะยุติการต่อสู้ได้ในไม่กี่วินาทีด้วยซ้ำ

“แน่นอน” เมื่อเห็นท่าทีของหงซินหยวน ต้วนฮันซานก็ยิ้มก่อนจะกล่าวว่า “ทำไมเราไม่มาเพิ่มของพนันกันสักหน่อยล่ะ ?”

“อะไรกัน ? คุณเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเองแล้วหรอ ?” หงซินหยวนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ไม่ใช่ๆ นอกเหนือจากของเดิมพันที่กล่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว เราจะวางเดิมพันคริสตัลเวทย์มนต์เพิ่มอีกหนึ่งแสนชิ้นเป็นยังไง ?” ต้วนฮันซานกล่าวอย่างมีความสุข

“จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าฉันไม่ตกลง ?” หงซินหยวนถาม

ในความเห็นของหงซินหยวน ต้วนฮันซานเพียงแค่พยายามจะทำให้เขาหวาดกลัว เพื่อให้เขายกเลิกการเดิมพัน เพราะหลังจากการอัพเดทครั้งใหญ่ของ God domain ราคาของคริสตัลเวทย์มนต์และวัสดุต่างๆจะเพิ่มขึ้นแน่นอน ดังนั้นมหาอำนาจต่างๆจึงล้วนพยายามอย่างเต็มที่ที่จะรวบรวมทรัพยากรเหล่านี้ให้มากที่สุด และก็ไม่มีใครยอมขายมันด้วย ยิ่งไปกว่านั้นคริสตัลเวทย์มนต์หนึ่งแสนชิ้นก็ยังจัดว่าเป็นจำนวนที่ค่อนข้างมาก และแม้แต่หงซินหยวนเองก็ยังไม่สามารถจะนำมันออกมาเดิมพันแบบมั่วๆได้

“ไม่สำคัญเลยว่าคุณจะปฎิเสธไหม มันขึ้นอยู่กับคุณ …” ต้วนฮันซานกล่าวอย่างไม่แยแส

“ตกลง ฉันจะพนันกับคุณ” หงซินหยวนยอมรับการพนันทันที เมื่อเห็นว่าต้วนฮันซานพูดออกมาแบบนี้

“ดี !! ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนดี ….” ต้วนฮันซานพูดสั้นๆด้วยรอยยิ้ม

“เป็นคนดีงั้นหรอ ?” หงซินหยวนพบว่าคำพูดของต้วนฮันซานนั้นค่อนข้างแปลก

ในระหว่างการพูดคุยกัน หน้าจอโฮโลแกรมด้านนอกห้องต่อสู้ในแพลตฟอร์มเสมือนจริงก็แสดงให้เห็นเทียนเฉิง และไวโอเล็ตคลาวด์ที่ยืนอยู่

สนามรบที่พวกเขาจะต้องต่อสู้กันนั้นเป็นถิ่นทุรกันดารที่แห้งแล้ง โดยผู้เล่นทั้งสองคนนั้นยืนอยู่ห่างกันประมาณหนึ่งร้อยหลา และทั้งคู่ก็มีเลเวลรวมทั้งอาวุธและอุปกรณ์ทั้งหมดเหมือนกับตอนที่ล๊อคเอ้าท์ออกจาก God domain ครั้งล่าสุด

ในเวลานี้เทียนเฉิงนั้นมีอุปกรณ์ระดับอีปิคทั้งหมดหกชิ้น และหอกที่เขาถือนั้นก็ยังแผ่พลังแห่งความมืดออกมาเล็กน้อยจนทำให้พื้นโดยรอบเขาสั่นสะเทือน แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้ใช้งานมันก็ตาม และมองเพียงแค่แวบเดียวมันก็สามารถบอกได้เลยว่าหอกนี้นั้นเป็นอาวุธเวทย์มนต์ที่มีคุณสมบัติพิเศษเหนือกว่าอาวุธระดับอีปิคทั่วไปแน่นอน

สำหรับเทียนเฉิง ตัวเขาเองก็ได้มาถึงเลเวลหนึ่งร้อยสิบเก้าแล้ว เลเวลของเขานั้นจะสามารถจัดอยู่ในอันดับต้นๆได้เลย แม้จะรวมผู้เล่นใน God domain ทั้งหมดแล้วก็ตาม

“ฮี่ๆ ตอนนี้คุณรู้รึยังว่ากิลของเราแข็งแกร่งแค่ไหน !!!?” เครุยพึมพำ อย่างไรก็ตามตรงกันข้ามกับความคาดหวังของเครุย ฝูงชนที่อยู่นอกห้องต่อสู้ไม่ได้แสดงความประหลาดใจหรืออุทานด้วยความตกใจ แต่พวกเขายังคงดูสงบนิ่งมากๆ

ในทางกลับกันความรู้สึกที่ซับซ้อนก็ปรากฎขึ้นในดวงตาของมู่ฉิน เมื่อเธอมองไปที่หน้าจอโฮโลแกรม ซึ่งมันราวกับว่าเธอได้เห็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ
เมื่อเห็นดังนี้เครุยก็รีบมองตามสายตาพี่สาวของเธอทันที

ไวโอเล็ตคลาวด์ เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ด

ไวโอเล็ตคลาวด์มีเลเวลสูงกว่าเทียนเฉิงสองเลเวล

“เลเวลหนึ่งร้อยยี่สิบเอ็ด ?!”

เครุยเต็มไปด้วยความตกตะลึง ฟรอสต์ฮีฟเว่นนั้นได้ระดมทรัพยากรทั้งหมดเพื่อช่วยให้เทียนเฉิงไปถึงเลเวลหนึ่งร้อยสิบเก้า แต่เครอลิคจากสภาสิบแปดปีกกับมีเลเวลสูงกว่าเขาสองเลเวล

ภายในพื้นที่การต่อสู้เสมือนจริง เทียนเฉิงนั้นก็ประหลาดใจกับเรื่องนี้เช่นกัน เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีใครที่เหนือกว่าเขาอยู่จริงในแง่ของเลเวล แถมนี่มันยังเหนือกว่าเขาถึงสองเลเวลด้วย

“ดูเหมือนว่าคุณจะมีความสามารถค่อนข้างมากทีเดียว !!! อย่างไรก็ตามความแตกต่างของเลเวลแค่นี้จะไม่ได้ทำให้คุณได้เปรียบเลย !!!” เทียนเฉิงกล่าวขณะที่เขามองไปยังไวโอเล็ตคลาวด์ “ในทางกลับกัน การต่อสู้ภายในถิ่นทุรกันดารแบบนี้ มันถือเป็นข้อเสียเปรียบอย่างมากสำหรับอาชีพสายเวทย์แบบคุณ เพราะคุณจะไม่มีพื้นที่ให้หลบหลีก ….”

“มันอาจจะไม่เป็นแบบนั้นก็ได้นะ ….” ไวโอเล็ตคลาวด์กล่าวอย่างสบายๆ

“เป็นอย่างนั้นหรอ ? งั้นแสดงให้ฉันดูหน่อยว่าคุณคิดถูก !!!” เทียนเฉิงกล่าว

หลังจากพูดจบเทียนเฉิงก็พุ่งเข้าใส่ไวโอเล็ตคลาวด์ โดยทิ้งไว้เพียงภาพติดตาในตำแหน่งเดิมของเขาเท่านั้น

สกิลขั้นสาม หนามเงา !

เนื่องจากข้อจำกัดของแฟลตฟอร์มการต่อสู้เสมือนจริง เขาจึงไม่สามารถจะเลียนแบบความแข็งแกร่งของเขาได้หนึ่งร้อยเปอเซ็นต์แบบใน God domain อย่างไรก็ตามร่างกายและค่าสถานะพื้นฐานของเขานั้นมันก็จะยังคงเหมือนกับที่เขามีในเกม

สำหรับผู้เล่นขั้นสามทั่วไปนั้นอาจจะต้องใช้เวลาพอสมควรในการก้าวข้ามระยะหนึ่งร้อยหลา แต่เทียนเฉิงนั้นสามารถจะทำได้ในพริบตา ซึ่งนี่เป็นเพราะว่าตัวเขานั้นมีอาชีพเป็นอาชีพลับอย่างนักรบหอกมังกร

ซึ่งเมื่อเทียนเฉิงมาปรากฎตัวขึ้นตรงหน้าของไวโอเล็ตคลาวด์ในพริบตา เขาก็แทงหอกเข้าไปที่เธอทันที

ภาพหอกจำนวนมากปรากฎขึ้นในขณะที่เทียนเฉิงทำการโจมตีนี้ และทุกภาพก็ล้วนดูเหมือนจริงแทบทั้งหมด

การโจมตีนี้นั้นเป็นเทคนิคที่ดีที่สุดของเทียนเฉิง และแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนก็ยังยากที่จะรับมือกับมันได้

“การผสมผสานระหว่างเวทย์มนต์กับศิลปะการต่อสู้งั้นหรอ ?”

ต้วนฮันซานเข้าใจถึงหลักการพื้นฐานของเทคนิคที่เทียนเฉิงใช้ในทันที และเขาก็ต้องยอมรับเลยว่ารุ่นเยาว์คนนี้นั้นมีพรสวรรค์มากๆ แม้ว่าเทคนิคนี้ของเทียนเฉิงจะดูธรรมดา แต่เขาก็สามารถบอกได้เลยว่าเมื่อเทียนเฉิงใช้เทคนิคนี้โจมตีมันก็จะสร้างวงเวทย์ซึ่งรวมพลังการโจมตีทั้งหมดของเขาเข้าด้วยกัน ความสามารถในการจัดการมานาของเทียนเฉิงนั้นจัดว่าน่ากลัวอย่างแท้จริง และพลังในการโจมตีนี้ของเขามันก็เทียบเท่ากับมอนสเตอร์ระดับเทพนิยายทั่วไปในเลเวลเดียวกันเลย

หากผู้เล่นสายเวทย์โดนการโจมตีนี้เข้าไป พวกเขาจะตายลงทันทีอย่างไม่ต้องสงสัย

ในระหว่างนี้เครุยนั้นก็รู้สึกภาคภูมิใจกับการแสดงของเทียนเฉิงเช่นกัน แต่ทันใดนั้นเสียงถอนหายใจก็ดังมาเข้าหูของเธอ

“ผู้ชายคนนั้นช่างกล้าหาญจริงๆ !!! เขาได้เข้าไปต่อสู้ในระยะประชิดจริงๆ … เขาได้ตายแน่นอน ….”

เครุยที่กำลังจะพูดบางอย่างนั้นเงียบลงไปทันที เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เพราะท้ายที่สุดหากไม่ให้ผู้เล่นระยะประชิดต่อสู้ในระยะประชิดจะให้พวกเขาต่อสู้แบบไหนกัน ? ระยะไกลงั้นหรอ ?

เธอไม่เคยได้ยินใครพูดอะไรที่มันไร้สาระแบบนี้มาก่อนเลย !!!
อย่างไรก็ตามตรงกันข้ามกับความคาดหวังของเครุยและคนอื่นๆจากฟรอสต์ฮีฟเว่นที่หวังจะได้เห็นการล่าถอยอย่างรวดเร็วของไวโอเล็ตคลาวด์ หรือไม่ก็ได้เห็นเทียนเฉิงจบการต่อสู้นี้ในการเคลื่อนไหวเดียว ไวโอเล็ตคลาวด์นั้นยังคงยืนอยู่ในตำแหน่งเดิมของเธอ และเธอก็ได้ริเริ่มที่จะเข้าปะทะกับการโจมตีของเทียนเฉิงโดยตรง

เมื่อการโจมตีของเทียนเฉิงกำลังจะเข้าถึงตัวเธอ ไวโอเล็ตคลาวด์ก็ได้เหวี่ยงคทาของเธอเป็นแนวนอน ก่อนที่จะยกมือข้างที่ว่างของเธอขึ้นเพื่อรับการโจมตีที่รุนแรงนี้

ผู้เล่นนักเวทย์ที่พยายามจะรับการโจมตีของผู้เล่นระยะประชิดโดยไม่ใช้เวทย์นั้นมันเป็นเพียงการฆ่าตัวตายชัดๆ !!!

อย่างไรก็ตามในขณะที่มือของไวโอเล็ตคลาวด์กำลังจะสัมผัสกับหอกของเทียนเฉิง วงเวทย์ขนาดใหญ่ที่ซ้อนทับกันสองชั้นก็ปรากฎขึ้นบนฝ่ามือของเธอ

เวทย์ป้องกันขั้นสาม Amethyst Barrier!

หลังจากเรียกบาเรียออกมาแล้ว ไวโอเล็ตคลาวด์ก็โบกมืออีกครั้งเพื่อผลักบาเรีย
ออกไป

ช่วงเวลาต่อมา ไม่เพียงแต่บาเรียนี้จะทำให้การโจมตีของเทียนเฉิงไร้ผล แต่บาเรียนี้มันยังคงพุ่งไปข้างหน้า และบังคับให้เทียนเฉิงต้องหลบมันด้วย

“เวทย์ป้องกันขั้นสามสามารถใช้แบบนี้ได้ด้วยงั้นหรอ ?” เครุยตกตะลึง เมื่อเธอได้เห็นไวโอเล็ตคลาวด์ทำให้การโจมตีของเทียนเฉิงไร้ผล

เวทย์ป้องกันใน God domain นั้นมักจะอยู่กับที่ และไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้เมื่อร่าย เหตุผลหลักก็คือความยากในการควบคุมมานาที่ต้องใช้ในการดำเนินการเคลื่อนย้ายแบบนี้มันสูง และซับซ้อนมากๆ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตโดเมนบางคนก็ยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ไวโอเล็ตคลาวด์กับทำได้ ในขณะเดียวกันขณะที่เทียนเฉิงหลบบาเรีย และกำลังจะทำการโจมตีเครอลิคอีกครั้ง เขาก็ต้องตัวแข็งค้างด้วยความตกใจ

ใบดาบเวทย์มนต์มากกว่าสามร้อยเล่มปรากฎขึ้นรอบๆไวโอเล็ตคลาวด์ และทุกเล่มมันก็มีพลังมากพอจะทำลายสวรรค์และโลกได้เลย และโดยไม่ได้ให้เทียนเฉิงตั้งตัวใดๆใบดาบพวกนี้ก็พุ่งเข้าโจมตีเขาทันที
เทคการร่ายเวทย์อย่างรวดเร็วสองเวทย์พร้อมกันงั้นหรอ ? เทียนเฉิงรีบใช้เทคนิคการต่อสู้ป้องกันทันที ในขณะที่เขาเปิดใช้งานสกิลป้องกันขั้นสามร่วมด้วย

วินาทีต่อมา ใบดาบเวทย์มนต์ทั้งหมดของไวโอเล็ตคลาวด์ก็ระดมโจมตีเข้าใส่เทียนเฉิงทันที

ตู้ม … ตู้ม … ตู้ม …

เกิดการระเบิดเป็นชุดๆจนมีเสียงดังสนั่นขึ้นหลายครั้งในสนามรบ และความผันผวนเชิงพื้นที่ก็สามารถมองเห็นได้ชัดเลยบนหน้าจอโฮโลแกรมแพลตฟอร์มการต่อสู้เสมือนจริง

การป้องกันของเทียนเฉิงนั้นอาจกล่าวได้ว่าสมบูรณ์แบบ เพราะเขาได้บรรลุความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้อย่างสมบูรณ์ด้วยโดเมนของเขาแล้ว ทุกการเคลื่อนไหวของเขานั้นถูกทำให้เรียบง่ายจนถึงขีดสุด ซึ่งมันราวกับว่าเขาได้สร้างกำแพงเหล็กขึ้นมาป้องกันเขา

อย่างไรก็ตามสามวินาทีต่อมา ร่างของๆคนหนึ่งก็ปลิวกระเด็นออกมาจากบริเวณที่ฟุ้งไปด้วยฝุ่นควันซึ่งเป็นพื้นที่ของการปะทะกัน และกระแทรกลงกับพื้น

“เป็นไปได้ยังไงกัน ?!”

เครุยนั้นรู้สึกมึนงงมากๆ เมื่อเธอสามารถระบุได้ว่าร่างๆนี้เป็นใคร

เพราะท้ายที่สุดแล้วร่างๆนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเทียนเฉิง !!!