ตอนที่ 1608 ความเกลียดกำจัดยาก

Pet King นักล่าสัตว์เลี้ยง

จางจื่ออันเดินกลับมายังทุ่งนา ก็เห็นหมูป่าฝูงนั้นยังโค้งก้นใส่เขา สะบัดหางเล็กๆ พร้อมกับร่างกายที่ส่ายไปมา เหมือนคลายความตึงเครียดลงบ้างแล้ว มันหันมามองเขาช้าๆ แต่มันที่สายตาสั้นคงจะมองเห็นแค่ร่างคนเลือนราง จากนั้นก็กินธัญพืชต่อ  

 

 

ก่อนหน้านี้ฝูงหมูป่ายังทีท่าทางก้าวร้าว ทำไมตอนนี้…  

 

 

เขาไม่กล้าเดินผ่านข้างตัวหมูป่าจาก จึงได้แค่เดินอ้อมจากทางทุ่งนาอยู่ไกลๆ เดินมาได้ครึ่งทางแล้วก็ได้ยินเฟยหม่าซือตะโกนเรียกให้เขาเข้าไปโดยเร็ว  

 

 

เขาเห็นเฟยหม่าซือปลอดภัย ไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหน เขาก็สบายใจขึ้นมา แต่ก็สังเกตเห็นทันทีว่าฟราเทอร์ไม่ได้อยู่ตรงนี้ หรือว่ามันวิ่งไปขับถ่ายในป่า?  

 

 

“เมื่อกี้ใครร้องโหยหวน”  

 

 

“เฟยหม่าซือ ฟราเทอร์ล่ะ?”  

 

 

เขากับเฟยหม่าซือแทบจะพูดขึ้นพร้อมกัน แล้วก็ปิดปากพร้อมกัน รอให้อีกฝ่ายถามก่อน สุดท้ายก็เป็นจางจื่ออันที่ตอบคำถามของเฟยหม่าซือก่อน สรุปเหตุการณ์ทางฝั่งของเขาเมื่อครู่ให้ฟังสั้นๆ  

 

 

ส่วนเฟยหม่าซืออธิบายเหตุการณ์ที่มันกับฟราเทอร์ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของผู้หญิง จากนั้นฟราเทอร์ก็ไปช่วยคน  

 

 

“มีคนร้องขอความช่วยเหลือ? เมแกนเหรอ?” เขาขมวดคิ้วถาม ความคิดแวบแรกคือเมแกนออกจากหมู่บ้านอินเดียแดงโดยพลการ  

 

 

“ไม่รู้สิ ฟังไม่ออก” เฟยหม่าซือตอบ  

 

 

“ฟราเทอร์ไปนานหรือยัง”  

 

 

“อืม…” เฟยหม่าซือไม่ได้ใส่นาฬิกา ทำได้แค่กะเวลาคร่าวๆ เพราะมันเป็นห่วงสถานการณ์ทางฝั่งจางจื่ออัน แล้วก็เป็นห่วงว่าฟราเทอร์จะเจออันตราย มันจึงเคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา เวลาจะดูจะผ่านไปช้าด้วย จึงพูดอย่างไม่ค่อยมั่นใจ “พูดยากเหมือนกัน น่าจะสิบกว่านาทีแล้วมั้ง?”  

 

 

มีทางเลือกอยู่ข้างหน้าจางจื่ออันสองทาง หนึ่งคือตามไปดูตอนนี้ สองคือขนกระเป๋าใส่อาหารกลับไปวางที่หมู่บ้านก่อน เพื่อยืนยันสถานการณ์ของเมแกน จากนั้นค่อยไปตามหา  

 

 

เขาคิดอยู่สักพักหนึ่ง รู้สึกว่าเมแกนไม่เหมือนวัยรุ่นที่หัวรั้น นอกเสียจากเกิดอุบัติเหตุอย่างไฟไหม้หมู่บ้าน ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่น่าจะขัดคำสั่ง แถมยังออกจากบ้านอีก  

 

 

“พวกเราไปเรียกฟีน่ากันก่อน แล้วค่อยไปดูพร้อมกัน” เขาซ่อนกระเป๋าสะพายไว้บนแง่งกิ่งไม้ที่แยกออกไปทางซ้ายและขวากิ่งหนึ่ง ทั่วไปแล้วไม่ค่อยมีใครเงยหน้าเวลาเดินป่าตอนกลางคืน คงไม่น่าถูกพบง่ายๆ  

 

 

เขากับพวกภูตสัตว์เลี้ยงกลับไปในป่า เห็นฟีน่ากับเสวี่ยซือจื่อยังอยู่ดี อีกทั้งเสวี่ยซือจื่อยังคลอเคลียถูไถกับตัวฟีน่าอีก้วย ท่าทางรุ่มร่าม เป็นแมวลามกจริงๆ คิดจะใช้ป่าลึกไร้คนยามค่ำคืนทำเรื่องที่พวกคู่รักชอบทำกัน  

 

 

ฟีน่ากลับไม่ได้สบายใจเหมือนเสวี่ยซือจื่อ มันจับตามองแมวที่หันหน้าหาต้นไม้เพื่อสำนึกผิดพวกนั้นอย่างเข้มงวด แต่ก็ว้าวุ่นใจขึ้นเรื่อยๆ เพราะคิดไม่ถึงว่าพวกมันยังมีท่าทางลับๆ ล่อๆ ทั้งที่อยู่ใกล้แค่คืบ พวกมันไม่รู้จักกลัวเลย ยังกล้าขับถ่ายต่อหน้ามันด้วย  

 

 

ไม่เพียงเท่านั้น มันรู้สึกว่าพวกมันกำลังจะก่อเรื่องอีกครั้ง ยังมีกลิ่นอายแปลกๆ ตลบอบอวลอยู่ในอากาศ มันรู้สึกว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ถึงแม้พวกมันขัดคำสั่งของมันขึ้นมากะทันหันก็ไม่แปลก  

 

 

“ฟีน่า พวกเธอไม่เป็นไรใช่ไหม”  

 

 

การปรากฏตัวของจางจื่ออันทำให้ฟีน่าสบายใจแล้ว  

 

 

“ข้าจะเป็นอะไรได้อย่างไร เจ้าเสียมากกว่า จัดการเรื่องที่ควรจัดการเรียบร้อยแล้วใช่ไหม” ฟีน่าร้องเฮอะเสียงหนึ่ง แล้วชำเลืองมองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่แสดงความกระวนกระวายแบบเมื่อครู่เลยสักนิด  

 

 

“เรื่องของฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว ฟราเทอร์ได้ยินว่ามีคนร้องขอความช่วยเหลือ ก็เลยวิ่งไปช่วยแล้ว ฉันเป็นห่วงว่ามันจะเจอเรื่องยุ่ง ก็เลยมาเรียกพวกเธอให้ไปด้วยกัน” จางจื่ออันอธิบายสถานการณ์  

 

 

“แล้วจะทำอย่างไรกับแมวพวกนี้? ถ้าข้าไป พวกมันน่าจะทำเรื่องเจ้าเล่ห์” ฟีน่ามองแมวพวกนี้ด้วยสีหน้าลำบากใจ  

 

 

“เธออยู่เฝ้ามันที่นี่ตลอดไปไม่ได้” จางจื่ออันโน้มน้าว “พวกมันก็แค่ลูกกระจ๊อก ลูกน้องตัวเล็กๆ แบบพวกมันต้องมีอีกมากแน่นอน หรือว่าเธอต้องสนใจทุกตัว?”  

 

 

เขาจัดการเรื่องที่ควรทำเสร็จแล้ว และไม่กลัวว่าแมวพวกนี้จะรายงานข่าวผ่านสายลมหรือเล่นลูกไม้เล็กๆ  

 

 

ฟีน่าก็รู้ว่าเขาพูดมีเหตุผล แต่มันเกลียดที่ตอนนี้มันอยู่ลำพัง ถ้าอยู่นอกป่า มันจะต้องรวบรวมแมวบ้านแถวนี้มาตัดสินและลงโทษแมวพวกนี้แน่นอน  

 

 

“ได้ เช่นนั้นก็ไปเถอะ นับว่าพวกเจ้าได้เปรียบแล้ว” มันบ่นอย่างเกลียดชัง และไปจากป่าแห่งนี้กับจางจื่ออัน  

 

 

เดินไปได้พักหนึ่ง มันก็หันไปมองแมวพวกนั้น เห็นว่าพวกมันหยุดหันหน้าสำนึกผิดให้ต้นไม้แล้วจริงๆ ก็กระซิบกันสองสามคำ แล้วออกจากป่าไปยังทิศทางตรงกันข้าม  

 

 

ฟีน่าหยุดฝีเท้า เปลี่ยนใจแล้ว “พวกเจ้าไปเถอะ ข้าต้องไปตามรอยแมวพวกนั้น”  

 

 

จางจื่ออันอดขมวดคิ้วไม่ได้ ในป่ามีอันตรายรอบด้าน ศัตรูเหมือนเสือจ้องเหยื่อ ไม่ควรแยกกลุ่มกันเลย  

 

 

“แบบนี้ไม่ค่อยดีมั้ง…”  

 

 

เขากำลังจะเอ่ยปากโน้มน้าว แต่ฟีน่ารู้ว่าเขาจะทำอย่างนั้น จึงปฏิเสธอย่างแน่วแน่ “ไม่ต้องพูดมาก! ข้าตัดสินใจแล้ว! หากหาตัวการหลังฉากที่สั่งการแมวพวกนี้ไม่เจอ ข้าก็ไม่มีหน้าจะออกจากป่าแห่งนี้!”  

 

 

มันเกลียดผู้สั่งการหลังฉากเข้ากระดูกดำ ตั้งใจแล้วว่าจะต้องให้อีกฝ่ายชดใช้ มันอดกลั้นความโกรธนี้ไม่ได้  

 

 

ฟีน่าไม่ได้สนใจเรื่องไปช่วยฟราเทอร์เท่าไร เพราะมันไม่ได้สนิทกับฟราเทอร์ และไม่คิดว่าฟราเทอร์จะเจอเรื่องอันตราย ข้างกายจางจื่ออันยังมีภูตสัตว์เลี้ยงคอยช่วยอยู่ ขาดมันแค่ตัวเดียวคงไม่เป็นไร  

 

 

จางจื่ออันทั้งร้อนใจทั้งจนใจ เมื่อครู่ฟีน่าต้องอยู่เฝ้าแมวพวกนั้นที่นี่ เพราะอยู่ห่างกันไม่ไกล ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นยังรับมือได้ทัน แต่ตอนนี้มันอยากตามรอยแมวพวกนั้นเข้าไปในป่าลึก มีแต่สวรรค์ที่รู้ว่าพวกมันวิ่งไปที่ไหน ป่ากว้างใหญ่ขนาดนี้ เขาจะไปเจอกับฟีน่าได้ที่ไหน  

 

 

“เมี๊ยวๆๆ! ฝ่าบาท! ไม่ว่าท่านจะขึ้นเขาลงห้วย ข้าน้อยยินยอมร่วมทางไปด้วย เคียงข้างกันไปกับท่าน!” เสวี่ยซือจื่อรู้สึกว่านี่เป็นโอกาสจะสลัดจางจื่ออันทิ้ง จึงขออาสาอย่างกระตือรือร้น  

 

 

“ไม่ เจ้าตามเขาไป เจ้าตามข้าไม่ทัน จะถูกพวกมันพบเข้า” ครั้งนี้ฟีน่ากลับปฏิเสธ  

 

 

ทุกคนรู้ว่าเสวี่ยซือจื่อขาสั้นวิ่งช้า และเพราะมันขนยาวเกินไป ระหว่างทางถูกหนามพุ่มไม้และกิ่งไม้พันขนไม่น้อย เจ็บจนต้องร้องซี๊ดๆ ไม่มีทางทำภารกิจลับอย่างการตามรอยได้  

 

 

เสวี่ยซือจื่อนอนลงบนพื้น เริ่มกลิ้งไปทั่ว ขนสีขาวราวกับหิมะจึงมีใบไม้แซมติดอยู่เต็มไปหมด กลิ้งเสียจนเนื้อตัวสกปรก “ไม่เอา! ไม่เอา! ข้าน้อยจะไปกับฝ่าบาท!”  

 

 

แต่น่าเสียดาย ไม่ว่ามันจะอ้อนวอนอย่างไร ฟีน่าก็ไม่ไหวติง ปกติมันยอมตามใจเสวี่ยซือจื่อ แต่ตอนนี้เป็นเวลาพิเศษ ให้เสวี่ยซือจื่อมาถ่วงเวลาไม่ได้  

 

 

เวลาคับขัน ไม่รู้ว่าทางฟราเทอร์เจออุบัติเหตุหรืออันตรายเข้าหรือเปล่า ส่วนทางแมวพวกนั้นก็เดินห่างออกไปเรื่อยๆ และเริ่มหายเข้าไปในป่าแล้ว  

 

 

จางจื่ออันกำลังลำบากใจว่าต้องโน้มน้าวฟีน่าที่จิตใจเด็ดเดี่ยวอย่างไร ตอนนี้เองเหล่าฉาก็ก้าวออกมาพูดว่า “แม้ฝ่าบาทจะเชียวชาญทั้งบู๊บุ๋น แต่อยู่ลำพังก็ยากจะสำเร็จเพราะขาดกำลังสนับสนุน หาไม่รังเกียจที่ข้าอายุมาก ข้าก็อยากร่วมทางไปกับฝ่าบาท”