หลิน ชูจิ่วมาเพื่อขอบคุณเสี่ยวเทียเหยา!
ไม่ว่าจะอย่างไร ผลไม้เย็นของเสี่ยวเทียนเหยา ก็ดีต่อร่างกายของเธอ เธอควรขอบคุณเขาสำหรับความตั้งใจที่ดีของเขา
แม้หลังจากที่หลิน ชูจิ่วเข้ามาในห้อง เธอก็ยังคงคิดว่าเธอจะเปิดหัวข้ออย่างไรมันถึงจะไม่ฟังขวานผ่าซากเกินไป อย่างไรก็ตาม เธอเห็นเสี่ยวเทียนเหยานั่งด้วยท่าทางที่อวดดีอยู่ตรงนั้นและจากนั้นเธอก็ได้ยินเขาพูดขึ้น“ ถ้าเจ้ามาเพื่อขอบคุณเปิ่นหวาง เจ้าไม่จำเป็นต้องทำ เปิ่นหวางไม่ยอมรับการขอบคุณโดยปราศจากความจริงใจ”
เธอบอกว่าเธอจะมาขอบคุณเขาหรือ?
หลิน ชูจิ่วมองไปที่เสี่ยวเทียนเหยา แต่ไม่ได้พูดอะไร …
“อะไร? เจ้าไม่ได้มาเพื่อขอบคุณเปิ่นหวางเหรอหรือ? เจ้าคิดว่าเปิ่นหวางจะยินดีหรือถ้าเจ้าพูดคำว่าขอบคุณ?” เสี่ยวเทียนเหยาเปิดปากของเขาอีกครั้ง แต่เขาก็ยังมีคำพูดที่ทิ่มแทงและน่ารำคาญมาก ความรู้สึกขอบคุณของ หลิน ชูจิ่ว นั้นหายไปในทันที
“ท่านต้องการให้ข้าทำอะไรเพื่อแลกเปลี่ยนหรือไม่” การได้ยินเสี่ยวเทียนเหยาพูดโดยตรงเช่นนี้ ก็ทำให้หลิน ชูจิ่วตัดสินใจที่จะพูดตรงๆ กับเขาเช่นกัน
“เจ้าไม่กลัวหรือว่าเปิ่นหวาง อาจตัดสินใจที่จะขายเจ้า” เสี่ยวเทียนเหยาพูดพร้อมกับหัวเราะเยาะ แล้วก็เอนหลังพิงเก้าอี้ของเขาและมองดูหลิน ชูจิ่วต่อไป
“แม้ว่าท่านจะขายข้า ท่านก็จะได้แค่ไม่กี่เหรียญเท่านั้น” หลิน ชูจิ่วยืนเงียบ ๆ และดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของเสี่ยวเทียนเหยา
“เจ้ารู้ว่าเจ้ามีค่าแค่ไหนดีจริงๆ เปิ่นหวางไม่มีเวลาคุยเรื่องไร้สาระกับเจ้า ถ้าไม่มีอะไรอีกก็ออกไป เปิ่นหวางกำลังยุ่งมาก” เสี่ยวเทียนเหยาดูใจร้อนมาก
ใครที่พูดเรื่องไร้สาระ?
หลิน ชูจิ่ว ต้องการที่จะจากไปในทันที แต่จำได้ว่าเสี่ยวเทียนเหยา ยังไม่ได้พูดถึงความต้องการของเขา เธอจึงถามขึ้นอีกครั้ง“ ท่านต้องการให้ข้าทำอะไร?”
“เจ้าจะทำอะไรเพื่อเปิ่นหวางได้ หลิน ชูจิ่ว อย่าให้ความสำคัญกับตัวเองมากเกินไป มันก็เป็นเพียงผลไม้เย็นธรรมดาที่เปิ่นหวางมอบให้เป็นรางวัลแก่เจ้าเท่านั้น”
คำพูดเหล่านี้…โดยทั่วไปไม่ถือว่าน่ารำคาญ
หลิน ชูจิ่ว หายใจเข้าลึก ๆ หลังจากนั้นเธอก็รู้สึกว่าอารมณ์ของเธอดีขึ้นเล็กน้อย แต่เธอกลับทำความเคารพอย่างไม่สุภาพและจากไปพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ดัง เสี่ยวเทียนเหยาถึงกับส่ายหัวและไม่ได้พูดอะไรอีก
ในเวลากลางคืน ก็เหมือนกับเช่นเคยที่เสี่ยวเทียนเหยาจะกอดหลิน ชูจิ่วไปพร้อมกับการนอนหลับของเขา แต่เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ พวกเขาทั้งสองใกล้ชิดกว่าที่เคย …
หลังจากที่ขาของเสี่ยวเทียนเหยาหายจากอาการบาดเจ็บ ไม่เพียงแต่แคว้นตะวันออก แต่ยังรวมถึงแคว้นทางใต้ ตะวันตกและเหนือ ต่างก็กำลังจับตาดูเขา เมื่อเสี่ยวเทียนเหยา ทำลายหอเถียนชางแห่งแคว้นตะวันออก แคว้นต่างๆ เหล่านี้ต่างก็รอให้นิกายลับตัดหัวของเสี่ยวเทียนเหยาออก
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีข่าวแพร่ออกไปว่านิกายลับที่ปล้นธัญพืชและยาของเสี่ยวเทียนเหยาต่างก็ถูกทำลาย พวกเขาทุกคนต่างก็ตกใจ แต่พวกเขาก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดขึ้น
“ นี่คือความภาคภูมิใจของเทพเจ้าแห่งสงครามของแคว้นตะวันออก”
“ ผู้ที่ทำบาปจะต้องถูกลงโทษ!”
“ตอนนี้ทางตอนเหนือของแคว้นกำลังตกอยู่ในอันตราย!”
หลังจากที่ข่าวเกิดขึ้น ใครบางคนดีใจมากจนอุทานขึ้น“ โชคดีที่ข้าไม่ฟังคำพูดของหมอเทวดาโม่ในเวลานั้น”
“แม้ว่าจะได้ความดีความชอบกลับมา แต่ก็ไม่คุ้มค่าที่จะจบชีวิตทั้งหมดของนิกายลับ”
“ข้าจะไม่ช่วยหมอเทวดาโม่ สิ่งที่เขาทำนั้นมากเกินไปจริงๆ”
เดิมที หลังจากกรณีของหมเทวดาโม่ กระจายออกไป ใครบางคนที่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเขา ก็ต้องการที่จะช่วย แต่เมื่อพวกเขาได้ยินการเคลื่อนไหวที่ดุเดือดของเสี่ยวเทียนเหยา เกือบ 90% ของพวกเขาก็ไม่สนใจความคิดนั้นอีก
ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ต้องการที่จะช่วยหมอเทวดาโม่ แต่พวกเขาไม่กล้าที่จะช่วย
ลูกศิษย์ของหมอเทวดาโม่ เดินไปรอบ ๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ ในตอนแรกมีหลายคนบอกว่าพวกเขาจะคิดเกี่ยวกับมัน แต่เมื่อพวกเขาได้ยินจากคนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง พวกเขาก็ปิดประตูบ้านทันที
“ ไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการที่จะช่วย แต่หมอเทวดาโม่ก็ทำอะไรบางอย่างที่ผิดต่อธรรมชาติจริงๆ เราไม่ได้คาดหวังว่าหมอเทวดาโม่ จะเป็นคนแบบนั้น” คนที่พูดเป็นคนที่ติดหนี้หมอเทวดาโม่ เขาเป็นหนึ่งในคนที่สาบานว่าจะช่วย หมอเทวดาโม่ ภายในความสามารถของเขา แต่ท้ายที่สุด พวกเขาก็หันหน้าของพวกเขาออกไปทีละคนๆ