ถึงตอนนี้ ราชสำนักก็ยังไม่ได้ตัดสินความผิดของหมอเทวดาโม่  

       ดังนั้น จึงมีลูกศิษย์หลายคนที่วิ่งไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากวิ่งไปสองสามวัน พวกเขาก็ยังไม่ได้อะไรเลย ลูกศิษย์เหล่านี้จึงช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกท้อแท้ พวกเขาสูญเสียแรงจูงใจ เมื่อพวกเขานึกถึงโม่ อวี้เอ้อร์ที่ไม่ได้ทำอะไรเลย

       พวกเขาเป็นเพียงลูกศิษย์ แต่พวกเขาก็วิ่งไปทุกที่เพื่อช่วยเหลืออาจารย์ของพวกเขา อย่างไรก็ตามบุตรสาวของอาจารย์กลับไม่ได้ทำอะไรเลย นางมีค่าคู่ควรที่จะเป็นบุตรสาวของอาจารย์หรือไม่?

“แม้แต่แม่นางโม่ก็ยังไม่ร้องขอความเมตตาจากฮ่องเต้ แล้วสิ่งที่พวกเราทำมันคืออะไร” ลูกศิษย์หลายคน คนที่ไม่แม้แต่จะได้หลับมาสองสามวันแล้ว ตอนนี้กำลังเดือน

       ลูกศิษย์เก่าๆ ยังคงต้องการชักชวนพี่น้องของพวกเขา แต่พวกเขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ในท้ายที่สุดพวกเขาก็ทำได้เพียงแค่มองเข้าไปในวังอย่างเงียบ ๆเท่านั้น

       ในความเป็นจริง ลูกศิษย์เหล่านั้นกล่าวหาโม่ อวี้เอ้อร์อย่างผิด ๆโม่ อวี้เอ้อร์ ไม่ได้ร้องขอความเมตตาจากฮ่องเต้ เพราะนางไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก

       ครั้งที่แล้วเมื่อนางทำเรื่องเอาไว้ นางก็ถูกกัดขังโดยฮ่องเต้ ตั้งแต่นั้นมานางก็ไม่ได้ออกไปไหนอีกเลย นางถูกกัดขังไว้ในตำหนักในพระราชวังโดยฮ่องเต้ นางไม่มีคนของตัวเอง ดังนั้นจึงไม่มีข่าวมาถึงหูของนาง

       วันนี้ เป็นวันเปิดคดีของหมอเทวดาโม่ ชายชราที่มีผมสีเงินและตระกูลเมิ่งต่างก็มาอยู่ในศาล การเปิดคดีไม่ได้มีการประกาศไปในที่สาธารณะ ดังนั้นคนธรรมดาจึงไม่สามารถมารับฟังได้ แต่เสี่ยวเทียนเหยา กลับได้รับเชิญให้มา แต่……

       เขาบอกให้หลิน ชูจิ่ว มาแทนแต่ หลิน ชูจิ่ว ไม่สนใจคดีนี้ จึงเป็นผลให้ไม่มีใครมา

       หมอหลวงฉินต้องการที่จะมา แต่เขาไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่จะทำเช่นนั้นได้ เขาจึงทำได้แค่รออยู่ใกล้ๆ กับศาลยุติธรรมและรอผลออกมาเท่านั้น

       ชายชราที่มีผมสีเงินถูกนำตัวไปที่ศาลเร็วมาก แต่เนื่องจากความพิการของเขา เขาจึงสามารถนั่งอยู่ในศาลได้เท่านั้น หัวหน้าตระกูลเมิ่งเองก็มาด้วย เจ้าหน้าที่ศาลตุลาการไม่กล้าที่จะเมยเฉยต่อพวกเขาและเตรียมที่นั่งให้พวกเขาทันทีที่เข้ามา

       นอกเหนือจากสองแถวของเจ้าหน้าที่ศาลตุลาการแล้ว บุคคลที่ยืนอยู่ตรงกลางก็คือหมอเทวดาโม่เท่านั้น

       เพียงสองวันผ่านไป นับตั้งแต่ที่หมอเทวดาโม่ ถูกนำตัวไปยังศาลยุติธรรม แต่รูปร่างหน้าตาของหมอเทวดาโม่ ก็ดูเหมือนว่าเขาได้อยู่ในคุกมาเป็นเวลา 20 ปีแล้ว รูปร่างหน้าตาที่สะอาดและเป็นระเบียบของเขาไม่สามารถมองเห็นได้อีกต่อไป ตอนนี้เขาดูสกปรกและยุ่งเหยิง หนวดเครายาวสีขาวของเขาเกาะติดกันและไม่น่าดูนัก

       สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือผิวที่ถูกเปิดเผยของเขา แม้ว่าผมของหมอเทวดาโม่ จะมีสีขาว แต่ใบหน้าและมือของเขาก็ดูไม่แก่

       แต่ในเวลาเพียงสองวัน ผิวหนังของหมอเทวดาโม่ เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แก้มของเขาจมลง ผิวของเขาบนใบหน้าและแขนเหี่ยวย่น เขาดูแก่มาก

       เจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรมเคยเห็นหมอเทวดาโม่มาก่อน ในเวลานั้นหมอเทวดาโม่ ดูภาคภูมิใจและหยิ่งยโส แต่โดยไม่คาดคิด ในเวลาเพียงสองวันเขาก็กลายเป็นเช่นนี้แล้ว เจ้าหน้าที่ของศาลยุติธรรมช่วยไม่ได้ ที่จะถอนหายใจ: นี่คือการลงโทษอันศักดิ์สิทธิ์!

*ปังๆ * เจ้าหน้าที่ของศาลยุติธรรมกระแทกไม้ลงไปบนโต๊ะและประกาศจุดเริ่มต้นของการพิจารณาคดีขึ้น

       ชายชราที่มีผมสีเงินมองไปที่หมอเทวดาโม่ ซึ่งอยู่ข้างเขา ใบหน้าของเขากระตุกขึ้นเล็กน้อยในขณะที่เขายิ้มอย่างเย็นชาและพูดขึ้น“ อาจารย์หลังจาก 20 ปีผ่านไป ในที่สุดเราก็พบกันอีกครั้ง”

       หมอเทวดาโม่ไม่ได้พูดอะไร ไม่มีร่องรอยของความโกรธแม้แต่น้อย

       ชายชราผมสีเงินรู้สึกมีความสุขกับรูปลักษณ์ที่น่าสังเวชของหมอเทวดาโม่ ดังนั้นเขาจึงพูดขึ้น “ ท่านอาจารย์ มาพูดคุยเกี่ยวกับความตายของผู้อาวุโสเมิ่ง เมื่อ 20 ปีก่อน ข้าแน่ใจว่าท่านจะไม่มีวันลืมเหตุการณ์นั้น”

       ผู้นำตระกูลเมิ่งแต่งตัวในชุดคลุมสีน้ำเงินยาว เขานั่งเงียบ ๆ นับตั้งแต่เขาเข้ามา เขารออย่างอดทนสำหรับอาจารย์และลูกศิษย์ ที่จะพูดถึงเรื่องนี้เมื่อ 20 ปีก่อน……