บทที่ 1345 ขี้คุยขนาดนี้ / บทที่ 1346 ไม่ได้ออกไปเที่ยวนานแล้ว

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1345 ขี้คุยขนาดนี้

ได้ยินเยี่ยหวันหวั่นอธิบายอย่างนั้น เป่ยโต่วกลับไม่มีอะไรจะเถียง เหมือนจะมีเหตุผลอยู่เหมือนกันแฮะ…

“พี่เฟิ่ง พวกเราจะเปิดศึกกับอาชูร่าจริงเหรอ…แต่ถ้าสมาคสหพันธ์วิทยายุทธ์ออกทั้งเงินแล้วก็กำลังคนจริง ฉวยโอกาสตอนนี้ที่นายแห่งอาชูร่าเพิ่งกลับมาไม่นาน อาชูร่ายังฟื้นตัวไม่เต็มที่ พวกเราก็ลองคิดดูได้จริงๆ นั่นแหละ” เป่ยโต่วมองเยี่ยหวันหวั่นแล้วพูดเสียงเบา

สมาชิกระดับสูงที่อยู่ในห้องพากันพยักหน้าเห็นด้วยกับเป่ยโต่ว

“เปิดศึกบ้าบออะไร! เอาเงินมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน” เยี่ยหวันหวั่นตวัดสายตามองพวกเขา

“เอิ่ม…พี่เฟิ่ง พี่คงไม่คิดจะเอาเงินของสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์มาแล้วไม่ทำงานให้เขาหรอกนะ…ถึงพันธมิตรอู๋เว่ยของเราจะชื่อเสียงไม่ค่อยดี แต่ก็รักษาสัจจะมาตลอด พี่ดูสิ คำสั่งฆ่าล้างโคตรของพวกเรา ถ้ากลุ่มอำนาจไหนโดนคำสั่งกวาดล้างภายในเจ็ดวัน แม้แต่เทพเจ้าก็ยังช่วยพวกเขาไม่ได้ ยังไงก็ต้องโดนกวาดล้างภายในเจ็ดวัน พูดคำไหนคำนั้น…ถ้าพวกเราเอาเงินมาแล้วไม่ทำงานให้เขา ไม่รักษาคำพูด ข่าวลือแพร่ออกไปจะไม่แย่เอาเหรอพี่…” เป่ยโต่วมองเยี่ยหวันหวั่นแล้วบอก

เยี่ยหวันหวั่นเงียบ รักษาสัจจะบ้านเอ็งสิ กวาดล้างตระกูลคนอื่นเขาเกี่ยวอะไรกับรักษาสัจจะไม่ทราบ…

“ใครบอกว่าพันธมิตรอู๋เว่ยของเราจะไม่รักษาคำพูด” เยี่ยหวันหวั่นหันไปมองเป่ยโต่ว “หูข้างไหนของนายได้ยินว่าฉันจะไม่ทำงานให้พวกนั้น?”

เป่ยโต่วทำหน้าประหลาดใจ “งั้นที่พี่เฟิ่งพูดเมื่อกี้หมายความว่า…”

“ฉันรับปากสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์ว่าจะทำ แต่ได้บอกด้วยเหรอว่าจะทำเมื่อไหร่?” เยี่ยหวันหวั่นแค่นเสียง

“เหมือนจะไม่ได้บอก” เป่ยโต่วส่ายหน้าโดยสัญชาตญาณ

“ในเมื่อฉันไม่เคยบอกว่าจะลงมือเมื่อไหร่ แล้วจะร้อนใจไปทำไม ถ้าฉันอารมณ์ไม่ดี อีกสิบปียี่สิบปีค่อยลงมือก็ยังไม่สาย” เยี่ยหวั่นหวั่นแสยะยิ้ม

“งั้นพี่เฟิ่ง ตอนนี้พี่อารมณ์ดีไหม?” เป่ยโต่วถาม

“ไม่ดี” เยี่ยหวันหวั่นเหล่มองเป่ยโต่ว

เป่ยโต่วได้ยินก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก “ไม่ดีก็ดีแล้ว ผมว่าอีกยี่สิบปีพวกเราค่อยไปจัดการกับอาชูร่าดีกว่า”

เยี่ยหวันหวั่นไม่ตอบ ถึงยังไงเธอก็ไม่ใช่หัวหน้าพันธมิตรอู๋เว่ย เอาเงินของสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์มาก่อน พอถึงตอนที่สมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์มาเอาเรื่อง เธอก็ไม่อยู่แล้ว คนที่โกงเงินพวกเขาไปก็คือหัวหน้าไป๋เฟิ่งแห่งพันธมิตรอู๋เว่ย ไม่ใช่เธอซักหน่อย…

“แยกย้าย!”

เยี่ยหวันหวั่นโบกมือแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องไป

……

ผ่านไปครู่หนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นกลับมาถึงห้องทำงาน ชายหนุ่มที่เยี่ยหวันหวั่นสั่งให้เฝ้าเจ้าบีรุสกับต้าไป๋ในห้องทำงานยังไม่ไปไหน เขายืนกล้าๆ กลัวๆ อยู่มุมหนึ่งของห้อง จ้องมองเจ้าบีรุสกับต้าไป๋เขม็งอย่างไม่กล้าละสายตา

“ท่านหัวหน้า ในที่สุดท่านหัวหน้าก็กลับมาแล้ว…”

ชายหนุ่มเห็นเยี่ยหวันหวั่นเดินเข้ามาในห้องทำงาน ก็ทำหน้าตื้นตันใจเหมือนได้พบพ่อแม่ที่พลัดพรากจากกันไปหลายปี

“เจ้าบีรุสกับต้าไป๋ไม่ได้สู้กันใช่ไหม” เยี่ยหวันหวั่นหันไปถามชายหนุ่ม

ชายหนุ่มส่ายหน้าถี่ๆ “ไม่ครับ! ไม่ได้สู้กันเลย เรื่องที่ท่านหัวหน้ามอบหมายให้ผมทำ ผมต้องทำให้ได้อยู่แล้วครับ เจ้าบีรุสกับต้าไป๋ถึงแม้จะดุมาก แล้วก็เกือบสู้กันหลายครั้งแล้ว แต่ก็โดนผมเอ็ดไว้ก่อน มีผมอยู่ด้วยพวกมันก็เลยไม่กล้าสู้กัน”

แต่ทว่าเมื่อสิ้นเสียงชายหนุ่ม เจ้าบีรุสกับต้าไป๋ก็พร้อมใจกันหันไปมองชายหนุ่มอย่างสามัคคี ราวกับเข้าใจคำพูดของชายหนุ่มยังไงยังงั้น

เยี่ยหวันหวั่นเงียบ สมาชิกของพันธมิตรอู๋เว่ยขี้คุยอย่างงี้ทุกคนเลยเหรอ ไปเอาอย่างมาจากใครกันนะ?

“ท่านหัวหน้า ถ้าไม่มีอะไรแล้ว…ผมไปก่อนนะครับ…” ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้าประดักประเดิด

เยี่ยหวันหวั่นโบกมือเป็นเชิงบอกให้เขาไปได้

————————————————————————————-

บทที่ 1346 ไม่ได้ออกไปเที่ยวนานแล้ว

หลังปิดประตูห้องทำงาน เยี่ยหวันหวั่นก็วิ่งไปคว้าต้าไป๋มาขย้ำอย่างมันมือ

ต้าไป๋ทำหน้าเอือมระอา ได้แต่นอนหมอบอยู่ตรงนั้นเงียบๆ

ขณะเดียวกัน เจ้าบีรุสที่กำลังนอนหมอบอยู่อีกด้านก็ใช้อุ้งมือดันหลังเยี่ยหวันหวั่น แล้วจ้องเยี่ยหวันหวั่นด้วยนัยน์ตาดำขลับ

“เสี่ยวเฮย เป็นเด็กดีนะ” เยี่ยหวันหวั่นเกาคางเสี่ยวเฮย แล้วยิ้มบอก

เจ้าบีรุสหลับตาทั้งสองข้าง แล้วแหงนคอขึ้นสูง ทำหน้าฟินสุดขีด

หลังจากเกาคางให้เจ้าบีรุสกับต้าไป๋อยู่นาน เยี่ยหวันหวั่นก็หยุด เจ้าบีรุสกลับรีบลุกขึ้น ในขณะที่ต้าไป๋ยังคงนอนนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับ เพียงแต่สายตาของมันไม่เคยละออกจากตัวเจ้าบีรุสเลย

ภายใต้การจับตามองของเยี่ยหวันหวั่น เจ้าบีรุสบิดขี้เกียจ จากนั้นก็เดินนวยนาดไปหาต้าไป๋ แล้วทิ้งตัวนอนหมอบอยู่ข้างหน้าต้าไป๋

เพียงแต่…เจ้าบีรุสดันนอนหันก้นให้ต้าไป๋

ภาพที่เห็นทำให้เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก นี่คงเป็นวิธีที่เจ้าบีรุสประกาศความเป็นใหญ่ให้ต้าไป๋รู้…ว่าที่นี่เป็นถิ่นของมัน และมันก็คือลูกพี่

แต่ต้าไป๋กลับไม่สนใจเจตนาของเจ้าบีรุสแม้แต่น้อย มันแค่หันหน้าหนีไปทางอื่นเท่านั้น

ยังไงก็ตามแต่ หลังจากนั้นเจ้าบีรุสกับต้าไป๋ก็ไม่ได้สู้กันอีก…ที่นี่เป็นถิ่นของเจ้าบีรุสแต่แรกอยู่แล้ว ถ้างั้นก็ให้มันเป็นเจ้าถิ่นไปเถอะ…

ตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นนั่งใช้ความคิดเงียบๆ อยู่บนเก้าอี้ทำงาน

เธอยังมีเรื่องให้ทำอีกมากมาย แต่ตอนนี้กลับยังไม่สามารถระดมกำลังสำคัญของพันธมิตรอู๋เว่ยได้ ถ้าหากต้องการใช้กำลังสำคัญของพันธมิตรอู๋เว่ยตามหาซือเยี่ยหานคงจะเป็นไปได้ยก อีกอย่าง เป็นไปได้มากว่าจะทำให้ชีซิงกับจี้หวงสงสัย รวมถึงตาเฒ่าพวกนั้นในพันธมิตรอู๋เว่ยด้วย…

ถ้าหากเธอสามารถสร้างอำนาจที่เป็นของตัวเองขึ้นมาได้ล่ะ…

แน่นอนว่าถึงแม้จะเป็นความคิดที่ดี แต่หากจะทำให้เป็นจริงกลับไม่ใช่เรื่องง่าย

เยี่ยหวันหวั่นเองก็รู้ว่าการที่เธอสวมรอยเป็นไป๋เฟิ่งแห่งพันธมิตรอู๋เว่ยนั้น หากไม่ระวังตัวแค่นิดเดียวก็อาจตายจนศพไม่เหลือซากได้ อีกอย่าง ตอนนี้เธอตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบมากเกินไป

วันนี้สมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์มาหาเรื่อง พรุ่งนี้เจ้าหมาจรจัดมาหาเรื่อง ผ่านไปไม่กี่วันสี่ตระกูลใหญ่ก็คงจะมาหาเรื่องด้วย ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปแล้วเธอจะทำยังไงดีล่ะ?

แต่ถ้าดูจากสถานการณ์ตอนนี้ เธอโกงเงินจากสมาคมสหพันธ์วิทยายุทธ์มาได้ก้อนหนึ่ง บวกกับพันธมิตรอู๋เว่ยก็รวยอยู่แล้ว เธอในฐานะหัวหน้าพันธมิตร ถ้าจะใช้เงินซักหน่อยก็ไม่ใช่เรื่องยาก…

ถ้าหากใช้เงินคนอื่น มาสร้างอำนาจให้ตัวเองล่ะ…

“พี่เฟิ่ง!”

เยี่ยหวันหวั่นยังไม่ทันได้คิดอะไรมาก เสียงของเป่ยโต่วก็ดังมาจากนอกห้อง

เยี่ยหวันหวั่นรีบเก็บงำสีหน้า แล้ววางท่าเย็นชา “เข้ามา”

เป่ยโต่วเปิดประตูแล้วสาวเท้ามาหาเยี่ยหวันหวั่น แล้วพูดเสียงเรียบว่า “พี่เฟิ่ง คืนนี้ว่างไหม พวกเราออกไปเที่ยวกันเถอะ ไม่ได้ไปนานแล้ว!”

เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองเป่ยโต่ว เที่ยวแม่เอ็งน่ะสิ!

“ไปเที่ยวที่ไหน?” เยี่ยหวันหวั่นถาม

“พักนี้มีที่เปิดใหม่ ได้ยินมาว่ามีของเข้าใหม่เยอะมาก” เป่ยโต่วยิ้มอย่างนึกครึ้มใจ

เยี่ยหวันหวั่นเงียบ ให้ตายเถอะ คงไม่ใช่จะพาเธอไปภัตตาคารแปลกๆ แล้วให้เธอกินตั๊กแตนทอดอีกหรอกนะ!

“นายกับชีซิงจัดการแล้วกัน” เยี่ยหวันหวั่นกล่าว

“โอเค งั้นตกลงตามนี้นะ” พูดจบ เป่ยโต่วก็หมุนตัวเดินออกไป

“เดี๋ยวก่อน” เยี่ยหวันหวั่นเรียกเป่ยโต่ว “บอกให้คนสร้างสวนสาธารณะเล็กๆ ในที่ของเราด้วย”

คำพูดของเยี่ยหวันหวั่นทำให้เป่ยโต่วยืนอึ้ง “สร้างสวนสาธารณะ…หมายความว่าไง?”

“ทำบ้านให้ต้าไป๋กับบีรุส” เยี่ยหวันหวั่นพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ

เป่ยโต่วพูดอย่างประหลาดใจ “พี่เฟิ่ง มันจะฟุ่มเฟือยเกินไปมั้ง สร้างสวนสาธารณะให้เสือสองตัว ออกจะ…อ้อ ใช่สิ ผมว่าชั้นเจ็ดไม่เลวเลยนะ แสงสว่างกำลังดี พื้นที่ก็ใหญ่ เหมาะกับการสร้างสวนสาธารณะมากเลย”

เยี่ยหวันหวั่นหมดคำจะพูด