บทที่ 1347 สายที่ไม่น่าเชื่อ / บทที่ 1348 ไปบ้านฉันเถอะ

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1347 สายที่ไม่น่าเชื่อ

ที่เยี่ยหวันหวั่นคิดคือสวนข้างนอก แต่เป่ยโต่วกลับปรับปรุงที่ชั้นเจ็ดโดยตรง…

“แต่ว่า…พี่เฟิง ชั้นเจ็ดเป็นอาณาเขตของผู้อาวุโสพวกนั้น พี่ต้องคิดให้ดีๆ …แน่นอนว่าถ้าพี่ยืนกรานจะปรับปรุง…” เป่ยโต่วมองเยี่ยหวันหวั่นพลางหัวเราะซุกซน

เวลานี้เยี่ยหวันหวั่นมุมปากกระตุกเล็กน้อย ตั้งแต่ต้นจนจบเธอพูดอะไรเหรอ ใครกันที่อยากปรับปรุงชั้นเจ็ด

“ไม่เห็นเป็นไร” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยเสียงเรียบ “ทั้งพันธมิตรอู๋เว่ยเป็นของฉัน อย่าบอกนะว่าฉันจะลงมืออะไรในที่ของฉันยังต้องผ่านการอนุมัติจากผู้อาวุโสพวกนั้นก่อน นายจัดการเรื่องนี้ ปรับปรุงชั้นเจ็ดให้ฉัน ต้องใช้เงินเท่าไรก็ไปที่ฝ่ายการเงิน”

ได้ยินดังนั้นเป่ยโต่วก็หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย ให้เขาทำภารกิจนี้ ก็ไม่เท่ากับว่าให้เขาไปล่วงเกินพวกตาแก่นั่นหรอกเหรอ…

แต่เยี่ยหวันหวั่นพูดออกมาแล้ว เป่ยโต่วย่อมไม่อาจพูดอะไรได้อีก

เวลานี้เป่ยโต่วแทบอยากจะตบปากตัวเองแรงๆ สองที ปากเขาจะวอนหาเรื่องทำไม…

“ตกลงครับ…พี่เฟิง เอาเป็นตามนี้…ไม่มีธุระผมก็จะไปทำงานแล้ว…” เป่ยโต่วถอนหายใจแล้วเอ่ยอย่างหมดอาลัยตายอยาก

“ไปเถอะๆ” เยี่ยหวันหวั่นโบกมือให้เป่ยโต่วไสหัวไป

หลังเป่ยโต่วจากไปแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็ไปถูไถบีรุสกับต้าไป๋แป๊บหนึ่ง

แต่ผ่านไปชั่วครู่ มือถือของเยี่ยหวันหวั่นก็พลันดังขึ้นมา

มองชื่อคนโทรเข้าบนมือถือ เยี่ยหวันหวั่นชะงักเล็กน้อย

มือถือกับเบอร์โทรนี้เป็นของที่เป่ยโต่วให้เธอมาตอนเยี่ยหวันหวั่นเพิ่งเข้าพันธมิตรอู๋เว่ยแรกๆ ก็มีแค่เป่ยโต่ว ชีซิงกับอีกไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้

เวลานี้เยี่ยหวันหวั่นรับสายแล้วเอ่ยเสียงเย็น “ว่ามา”

“ผู้นำประตูไหม” เสียงของปลายสายออกเย็นชาและแปลกหน้าเล็กน้อย

เป็นสายจากไอ้โง่ที่ไหนโทรมา ยังมาถามเธอว่าเป็นเจ้าประตูหรือเปล่า?

“เหลวไหล” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยเสียงเย็น “พวกแกมาจากฝ่ายไหน”

ได้ยินแบบนั้นฝ่ายตรงข้ามเงียบไปครู่หนึ่ง “หมายความว่าไง”

“หมายความว่าไง?” เยี่ยหวันหวั่นมุมปากกระตุกเล็กน้อย “คุณเป็นใคร”

“อี้สุ่ยหาน” เสียงเรียบนิ่งดังออกมาจากในมือถือ

“ว่าไงนะ…เจ้าสวะหมา!?” หลังได้รู้ตัวตนของฝ่ายตรงข้าม เยี่ยหวันหวั่นประหลาดใจทันควัน ไม่อยากจะเชื่อ

เวลานี้มาคิดดู เจ้าสวะหมาเรียกเธอว่าผู้นำประตู ไม่ใช่ผู้นำพันธมิตร…

อี้สุ่ยหาน “?”

“เปล่าๆ …ท่านหมา…ไม่ใช่ จอมยุทธอี้…ที่แท้ก็เป็นคุณนี่เอง วันนี้ทำไมจอมยุทธอี้จู่ๆ ก็ว่างได้ล่ะ” รอยยิ้มเย็นชาบนใบหน้าเยี่ยหวันหวั่นพลันสลายหายไปไม่เหลือแต่เงา

เยี่ยหวันหวั่นฉุกคิดขึ้นได้ว่า ที่คาสิโนคืนนั้น ตัวเองแลกเบอร์โทรกับเจ้าสวะหมา…

แต่เธอกลับไม่คิดมาก่อนว่า เจ้าสวะหมาจะเป็นฝ่ายโทรมาหาตัวเอง ซึ่งเธอเกือบจะลืมเรื่องพวกนี้ไปแล้ว

“ธุรกิจ” เจ้าสวะหมาเอ่ยเสียงเรียบ

“จอมยุทธอี้มีธุรกิจอะไร”

ได้ยินคำพูดนี้ของเจ้าขยะหมา เยี่ยหวันหวั่นก็ขมวดคิ้วน้อยๆ หรือว่าเจ้าสวะหมามองทะลุตัวตนของเธอแล้ว?

“ฉันจะส่งที่อยู่ให้ มาแล้วค่อยว่ากัน”

พูดจบประโยคนี้ เจ้าสวะหมาก็วางสายไปโดยตรง

ได้ยินเสียงสายไม่ว่างในโทรศัพท์ เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้างงงัน ยังไม่ให้…ที่อยู่เลยนะ…

เยี่ยหวันหวั่นส่งข้อความไปอย่างรวดเร็ว ให้เจ้าสวะหมาส่งที่อยู่มา

มองที่อยู่บนข้อความ เยี่ยหวันหวั่นเข้าสู่ห้วงความคิด

เผชิญหน้ากับสุดยอดบอสของรัฐอิสระผู้นี้ เธอจะไปเองดี หรือพากองทัพคนกลุ่มใหญ่ไปด้วยดี

ใคร่ครวญอยู่นาน ในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นก็ตัดสินใจ ว่าเธอไปคนเดียวดีกว่า

——————————————————————————————————–

บทที่ 1348 ไปบ้านฉันเถอะ

ตอนนั้นผู้นำพันธมิตรอู๋เว่ยทำการซุ่มโจมตี เตรียมหลอกเจ้าสวะหมาให้ติดกับ แต่ท้ายที่สุดเธอกับติดกับเอง เรื่องอย่างข้อได้เปรียบด้านจำนวนคนเหมือนไม่ส่งผลอะไรเลยกับเจ้าสวะหมา…

สุดท้ายภายใต้ความจนปัญญา เยี่ยหวันหวั่นก็ได้แต่ขับรถมุ่งหน้ามายังที่อยู่ที่เจ้าสวะหมาส่งมา

ที่ไม่น่าเชื่อที่สุดคือ รัฐอิสระไม่มีระบบนำทางแผนที่ เธอไม่รู้ว่าตัวเองเลี้ยวผิดมากี่ครั้งแล้ว

เยี่ยหวันหวั่นกว่าจะมาถึงที่หมายก็เป็นช่วงใกล้ตกเย็น

หลังลงจากรถ เยี่ยหวันหวั่นพินิจมองรอบด้าน หว่างคิ้วผุดแววสงสัย

ที่นี่คุ้นมากจริงๆ เหมือน…

เยี่ยหวันหวั่นพลันหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย ที่นี่ ก็ไม่ใช่ละแวกใกล้ๆ คฤหาสน์ผีสิงหลังนั้นของเธอหรอกเหรอ!

“คุณเยี่ย” ทันใดนั้นเสียงของเจ้าสวะหมาก็ดังมาจากด้านหลัง

เยี่ยหวันหวั่นหันไปโดยจิตใต้สำนึก

ผมสีน้ำหมึกยาวถึงเอวราวกับม่านน้ำตก สวมชุดออกกำลังกาย ดูยังไงก็ง่ายๆ สบายๆ แต่ก็เข้ากับใบหน้านั้น ชวนให้คนเกิดความรู้สึกอยากร้องกรี๊ดเล็กน้อย

แม่เจ้าสวยเกินไปแล้ว ผู้ชายตัวใหญ่หนึ่งคน ทำไมถึงได้หน้าตาสวยขนาดนี้

ถ้าเจ้าสวะหมาแต่งหญิง นอกจากว่าไม่มีหน้าอก ก็สวยสมบูรณ์แบบเลยทีเดียวเชียว…

“ท่านหมา…” มองเจ้าสวะหมาเดินมาหาตัวเอง เยี่ยหวันหวั่นรีบเข้าไปทักทาย ใบหน้าสวมรอยยิ้มแย้ม

ได้ยินชื่อเรียกของเยี่ยหวันหวั่น เจ้าสวะหมาขมวดคิ้วน้อยๆ

“ท่านหมา คุณเรียกฉันมา…ไม่ทราบมีอะไรจะสั่งเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มเอ่ย

เจ้าสวะหมามองเยี่ยหวันหวั่นที่ตรงหน้าพลางเอ่ยเสียงเรียบ “คุณหนูเยี่ยไม่ต้องเกรงใจแบบนี้ เรียกฉันว่าอี้สุ่ยหานก็พอ”

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก

เธอดันลืมเรื่องนี้เสียได้ เจ้าสวะหมาไม่ชอบฉายานี้ของตัวเอง แต่…นี่เกี่ยวอะไรกับเกรงใจกัน

“ไปบ้านฉันเถอะ” เจ้าสวะหมามองเยี่ยหวันหวั่นพร้อมเอ่ยปากเสียงเบา

“ไปบ้านคุณ…” เยี่ยหวันหวั่นชะงัก เจ้าสวะหมาแม่งคือเพื่อนบ้านเธอ!? โคตรเพื่อนบ้างของเธอจริงๆ!?

ผ่านไปครู่หนึ่ง เยี่ยหวันหวั่นก็จามเจ้าสวะหมามาถึงบริเวณใกล้กับบ้านผีสิง

ตอนที่ทั้งสองเดินผ่านบ้านผีสิงของเยี่ยหวันหวั่น เจ้าสวะหมากลับพลันหยุดฝีเท้าแล้วชี้บ้านผีสิงหลังนั้นพลันเอ่ย “นั่นเป็นบ้านผีสิง เกิดคดีฆาตกรรมหั่นศพ ข้างในน่าจะมีผี”

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก

แม่แกสิ…พูดภาษาคนเป็นไหม มีผีบ้าบออะไรกัน! ฉันอยู่ที่นี่โอเคไหม!

“อืม…นั่นน่ากลัวมาก…แต่ว่า สิ่งมีชีวิตอย่างผี…ไม่เป็นวิทยาศาสตร์สุดๆ ไม่น่ามีหรอก” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มเอ่ย

ได้ยินแบบนั้น เจ้าสวะหมามองเยี่ยหวันหวั่น “เรื่องไม่เป็นวิทยาศาสตร์มีตั้งมากมาย ฉันก็เคยเห็นกับตาว่าที่นี่มีผี”

เยี่ยหวันหวั่นหมดคำพูด

ดีเลวยังไงนายก็เป็นสุดยอดบอสที่น่ากลัวที่สุดในรัฐอิสระ มาพูดไร้สาระจริงจังอยู่ที่นี่จะดีจริงๆ เหรอ!?

ถึงแม้เยี่ยหวันหวั่นกลัวผี แต่…ในใจก็กลับรู้ดีว่า บนโลกนี้ไม่มีแต่แรกแล้ว เจ้าสวะหมานี่พูดเสียจริงจังว่าด้านในมีผี…ยังจะให้คนอยู่หรือเปล่าหา

“ท่านหมา พวกเรามาเข้าธุระกันเถอะ” เยี่ยหวันหวั่นยิ้มเอ่ยอย่างจนใจ เธอไม่อยากพูดถึงเรื่องบ้านผีสิงต่อแล้วจริงๆ …

ไม่นานภายใต้การนำทางของเจ้าสวะหมา ทั้งสองก็เดินเคียงข้างกันมาถึงบ้านอีกหลังที่อยู่ใกล้กับบ้านผีสิง

จะว่าไปก็น่าบังเอิญ บ้านหลังนี้อยู่ด้านหลังบ้านผีสิงพอดี ถ้าเยี่ยหวันหวั่นยืนอยู่บนชั้นสูงสุดของคฤหาสน์แล้วมองผ่านหน้าต่าง ก็จะกระทั่งสามารถเห็นที่นี่ได้ชัดเจน

เวลานี้เยี่ยหวันหวั่นพิจารณาที่แห่งนี้ บ้านหลังนี้กลับมีความพิเศษ มันไม่มีประตู…