ช่วงเวลาแห่งความสงบสุข3 วันผ่านไปโดยไม่รู้ตัว ชิงสุ่ยค่อนข้างขาดใจ ถึงแม้ว่าข่าวการตายของผู้นำเทวะสูงสุดแต่ยังไปไม่ถึงหูของมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ภายในเวลาสั้นๆ แต่ก็ไม่น่าเกินเวลา 3 วัน หรือว่าเขาจะถึงอีกฝ่ายแล้วแต่อีกฝ่ายเลือกจะไม่ทำอะไร
แน่นอนว่าชิงสุ่ยก็ยังไม่ไว้วางใจในเหตุการณ์ปัจจุบันหรือมันอาจเป็นไปได้ว่ามหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์จะไม่ได้รับผลกระทบจากการสูญเสียผู้นำเทวะสูงสุดไปอีก 1 คน อย่างไรก็ตาม มันก็ควรส่งผลต่อศักดิ์ศรีของมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ เพราะผู้นำเทวะสูงสุดคนนี้ก็มีความสำคัญอย่างไรสำหรับพระราชวังอมตะเบญจพิษ
ตลอดเวลา3 วัน ชิงสุ่ยจะทำการฝึกฝนในตอนที่เขาไม่มีอะไรจะต้องทำ เขาไม่จำเป็นต้องทำความคุ้นเคยกับพลังเหล่านี้เลย เพราะว่าชิงสุ่ยเคยเผชิญหน้ากับการทะลวงพลังแบบฉับพลันเช่นนี้มาก่อนแล้ว
พลัง200 ล้านเต๋า
ชิงสุ่ยไม่รู้สึกเกรงกลัวไม่ว่าจะเป็นพระราชวังอมตะเบญจพิษหรือแม้แต่กระทั่งมหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ พวกมันไม่มีทางทำอะไรเขาได้แน่
พลังในปัจจุบันของเขาเพิ่มพูนขึ้นอย่างฉับพลันหลายเท่าตัวหากเทียบกับแต่ก่อนมันยิ่งทำให้บรรดาภรรยาของเขาต้องฝึกฝนอย่างหนักหน่วงเพื่ออะไรตาม และด้วยการช่วยเหลือของชิงสุ่ย พลังของพวกเธอก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังช้ากว่าชิงสุ่ย
ทางด้านของเหลียนหลิงเฟิงและหยินต่ง ทั้งสองที่เคยแข็งแกร่งเหนือใครหลายๆคน ได้ถูกบรรดาสาวๆแซงหน้าไปกันเกือบหมด ไม่ว่าจะเป็นอี่เย่เจี้ยนเก้อ ชิงห่านอี้ ถานท่ายหลิงเหยียน มูหยุนชิงเก้อ หรือแม้กระทั่งฉินชิง
แม้ว่าพวกเขาจะดูอ่อนแอกว่าคนอื่นอัตราความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นก็ไม่ใช่ธรรมดา การที่เพิ่มพลังเร็วเกินไปก็อาจจะส่งผลเสีย ทำให้แต่ละคนมีพลังในการเพิ่มพูนในระดับที่ไม่เท่ากัน
ถ้าหากชิงสุ่ยใช้วิธีพิเศษในการเพิ่มพูนพลังอย่างฉับพลันทุกคนจะไม่สามารถควบคุมพลังรากฐานของตนเองได้ เว้นเสียแต่โชคดีบรรลุดินแดนหยั่งรู้ มิฉะนั้น โอกาสในการทะลวงจุดติดขัดแห่งพลังจะยิ่งยากเป็นทวีคูณ จนไม่สามารถก้าวขึ้นสู่ระดับถัดไปได้
ชิงสุ่ยใช้เวลาแต่ละวันผ่านไปอย่างคุ้มค่าเหตุการณ์ผ่านไปโดยไม่น่าเป็นห่วง แม้จะมีความกังวลใจบ้างแต่เขาก็ยังเป็นกำลังหลักที่สามารถปกป้องทุกคนได้เพียงแต่ทุกคนไม่รู้ว่าพลังที่แท้จริงของเขามันแข็งแกร่งจนน่ากลัวมากเพียงใด
ชิงสุ่ยใช้ชีวิตเหมือนกับปลาที่เพิ่งเจอบ่อน้ำแหล่งใหม่หลายวันที่ผ่านมา ชิงห่านอี้โหยหาแต่ตัวของชิงสุ่ย หลังจากได้มีอะไรกันในครั้งแรก เธอเหมือนติดใจรสชาติความสนุก และมักจะเปิดประตูรอคอยเขาอยู่ตลอดทั้งคืน แน่นอนว่าทั้งคู่คือผู้ครอบครองกายาหยินและกายาหยาง เรื่องสนุกบนเตียงนอนไม่เพียงแต่ทำให้ทั้งสองคนอยู่ในอารมณ์แห่งความสุข แต่ยังทำให้พลังของทั้งสองคนเกิดการขัดเกลาได้มากขึ้น
ผู้นำเทวะตงฟ่างเหมือนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนหอคอยจักรพรรดิยิ่งเธออยู่ใกล้กับหญิงสาวคนอื่น ความสัมพันธ์ของเธอกับบรรดาหญิงสาวทั้งหมดก็ดีแบบดีวันดีคืน
อีเย่เจี้ยนเก้อก็ไม่ได้วางแผนว่าจะกลับไปยังพระราชวังอาทิตย์อัสดงในเร็ววันนี้ชิงห่านอี้กูยังไม่ได้วางแผนกลับไปที่พระราชวังหมาป่ามังกรเช่นกัน ทุกคนต่างก็เตรียมตัวฝึกฝนเพื่อเข้าประจันหน้ามหาจักรวรรดิราชันย์ปราชญ์ ทุกคนยังคิดอยู่ในใจว่าทุกคนยังไม่แข็งแกร่งมากพอ แต่อย่างน้อยก็เป็นกำลังคอยช่วยเหลือชิงสุ่ยยามจำเป็น
เด็กน้อยชิงซิ่วส่วนใหญ่จะใช้เวลาอยู่กับชิงสุ่ย แต่ตอนนี้เจ้าหนูตัวน้อยสามารถเดินด้วยตัวเองได้แม้แต่ยังโซซัดโซเซ ตัวของอีเย่เจี้ยนเก้อต้องทุ่มเทเวลาให้กับการฝึกฝน ชิงสุ่ยจึงกลายเป็นคนรับหน้าที่ดูแลเรื่องต่างๆของชิงซิ่ว แน่นอนว่าบรรดาหญิงสาวคนอื่นก็ต่างผลัดกันมาคอยดูแลเด็กตัวน้อย เพื่อทำให้ชิงสุ่ยมีเวลาฝึกฝนและอยู่ร่วมกับชิงสุ่ย
เด็กน้อยคนนี้ไม่เหมือนเด็กน้อยคนอื่นๆเขาไม่ร้องแม้จะล้มลงหรือถูกแกล้ง แต่เวลากินอาหารเด็กน้อยคนนี้ กินอาหารเก่งมากจนน่าตกใจ หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเด็กน้อยกว่าจะเริ่มหลับ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ชิงสุ่ยได้เรียนรู้การเลี้ยงเด็กจนรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด ยิ่งเขามีทักษะหมออันล้ำเลิศ ทันทีที่ลูกของเขาป่วยเขาสามารถรักษาได้ทันที ไม่ต้องพูดถึงความสามารถในการรักษาเลย ภายในชั่วพริบตาอาการป่วยต่างๆของเด็กก็หายไป
หยินต่งที่เห็นความสามารถในการเลี้ยงชิงซิ่วตัวน้อยของชิงสุ่ยเขาแทบอยากจะมอบลูกชายของเขาให้ชิงสุ่ยดูแลแทน
……………. วันเวลาแห่งการพักผ่อนจบสิ้นผ่านไป1 สัปดาห์ ในเช้าวันนี้ ชิงสุ่ยยังคงฝึกฝนเพลงหมัดไทเก๊กเหมือนที่เคยทำ เขาหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ตลอด 10 วันนี้ เมืองหลินห่ายถูกก้อนเมฆบดบังดวงอาทิตย์จนเหมือนว่าเมืองแห่งนี้กลายเป็นเมืองแห่งความมืด
ทันทีที่ชิงสุ่ยหยุดการฝึกฝนเขาเริ่มสังเกตเห็นจุดดำๆกำลังมุ่งหน้าตรงมาหาเขาด้วยความเร็วสูง
แม้ว่าสายตาของชิงสุ่ยจะล้ำเลิศเหนือมนุษย์แต่เขาก็มองเห็นจุดดำได้ไม่ชัดเจน เพราะจุดดำที่เขาเห็นยังคงอยู่ห่างไกลมาก จากความรู้สึกของเขาเขารู้ทันทีว่ามันมีบางอย่างจะเกิดขึ้น
ชิงสุ่ยสายหน้าและรีบวิ่งไปรอบหอคอยจักรพรรดิมือของเขาถือธงจำนวนมากมาย เพื่อเตรียมเปิดใช้งานรูปแบบผังแปดทิศ
ภายในไม่กี่นาทีค่ายกลทั้งหมดก็พร้อมใช้งาน รูปแบบผังแปดทิศคือหนึ่งในรูปแบบค่ายกลที่มีความสำคัญสามารถช่วยเหลือชิงสุ่ยให้รอดพ้นจากความตายยามวิกฤต แต่เขาก็เชื่อมั่นว่าค่ายกลกับดักอีกมากมายจะได้ผลกับศัตรู ในขณะเดียวกัน ถ้าเกิดเหตุผิดพลาด เขาก็พร้อมจะใช้ค่ายกลเพื่อตอบโต้พาทุกคนหลบหนี
บรรดาหญิงสาวและคนอื่นๆทั้งหมดได้ออกมารวมตัวกันด้านนอกตามคำเตือนของชิงสุ่ยจากสายตาของชิงสุ่ย ตอนนี้จุดสีดำอยู่ห่างจากเขาไม่ถึง 10 ลี้แล้ว
บทที่ 1914 – การปรากฏตัวของเหล่าราชันย์ปราชญ์ มีดแหลมคมซ่อนอยู่ภายใต้รอยยิ้ม
ทุกคนที่อยู่ในหอคอยจักรพรรดิลนลานมาตลอดหลายวันที่ผ่านมาทุกคนต่างทุกข์ร้อนมากกว่าชิงสุ่ย แน่นอนว่าถ้าหากพลังของชิงสุ่ยไม่พัฒนาก้าวหน้าอย่างฉับพลัน เขาเองก็คงจะอยู่แบบทุกข์ร้อนไม่ต่างจากคนอื่น
”ทุกคนอย่าได้ก้าวออกจากหอคอยจักรพรรดิเด็ดขาด”ชิงสุ่ยบอกกล่าวกับทุกคนด้วยรอยยิ้ม
”พวกเราควรร่วมมือกัน”ชิงห่านอี้เป็นคนแรกที่ออกมาขัดแย้ง
”สหายสุ่ยน้องสาวอี้และข้ามีความสามารถพอจะปกป้องตัวเองได้ ให้พวกเราไปกับเจ้าเถอะ!!”ตงฟ่างจือซิ่วที่รู้จักกันในนามผู้นำเทวะตงฟ่างกล่าวเสริม
ชิงสุ่ยไตร่ตรองอยู่สักพักใหญ่ก่อนจะเผยให้เห็นรอยยิ้ม”ก็ได้ แต่ถ้าเกิดเหตุร้าย