จะทำอะไรดีล่ะ

 

เวลานั้นถึงแม้จะอยากให้มันผ่านไปอย่างช้าๆ ช้าจนอยากให้รู้สึกว่าผ่านเป็นปียังไงก็ตาม แต่ในโลกแห่งความจริงแล้วเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว ครึ่งชั่วโมงผ่านไปแล้วแต่มนุษย์แมงมุมก็ยังไม่ออกมา

 

เหล่าผู้คนที่ติดตามเรื่องการลักพาตัวนี้อย่างใกล้ชิดต่างเริ่มอยู่ไม่สุขแล้ว

 

“ได้ไงกัน ทำไมมนุษย์แมงมุมยังไม่โผล่ออกมาอีกล่ะ”

 

“ไม่ใช่ว่าไคจิ้งเป็นเพื่อนสนิทของมนุษย์แมงมุมหรอกหรอ ทำไมมนุษย์แมงมุมถึงไม่ออกมาล่ะ”

 

“เป็นไปได้รึเปล่าว่ามนุษย์แมงมุมจะไม่รู้เรื่องที่เกิดน่ะ”

 

“มนุษย์แมงมุมกลัวจนเป็นเต่าหดหัวไปแล้วรึเปล่า”

 

“ในความคิดฉันนะ ไคจิ้งไม่ได้รู้จักมนุษย์แมงมุมดีกว่าใครแน่นอน ไม่งั้นเขาคงออกมาแล้ว”

 

“ต่อให้ไม่รู้จักกันจริงก็ไม่ควรปล่อยให้เขาตายนะ”

 

“เอาไงดีล่ะ ดูเหมือนมนุษย์แมงมุมจะไม่ยอมมานะ” เจ้าหมิงเริ่มดูร้อนรนขึ้นมา

 

“ดูจากอารมณ์ของพวกคนที่ลักพาตัวแล้ว น่าจะเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ฉันว่าให้มนุษย์แมงมุม(ปลอมโดยตำรวจ)ออกมาได้แล้วล่ะ” หวังเซียวพูดออกมา เจ้าหมิงเลยรีบสั่งการออกไป

 

ไม่นานนัก มนุษย์แมงมุม(ปลอม) ได้ออกมาต่อปัญหาคือเขาจะทำให้คนร้ายลักพาตัวเชื่อได้ยังไง

ถ้าเป็นมนุษย์แมงมุมตัวจริงล่ะก็เขาก็คงโหนใยเข้าไปยังห้องแล้วอาจโดนบังคับให้เปิดหน้าออกมาเรื่องพวกนั้นก็ไม่เป็นปัญหาอะไรเพราะตัวปลอมของพวกเขาก็ไม่มีใครรู้จักอยู่แล้ว

แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดคือจะทำยังไงให้เชื่อว่ามนุษย์แมงมุม(ปลอม)ที่พวกเขาเตรียมไว้ว่าเป็นตัวจริง

เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะหาตัวคนที่มาปลอมเป็นมนุษย์แมงมุมอย่างสมบูรณ์แบบไม่ได้เพราะไอ้การที่จะให้คนทั่วไปมาโยนตัวโหนใยข้ามตึกแบบมนุษย์แมงมุมล่ะก็ร้อยทั้งร้อยต้องตายแน่นอนอยู่แล้ว

เพียงแค่ตัวปลอมออกมาเท่านั้นทุกคนในโลกต่างก็ตราหน้าได้ว่าของปลอมแน่นอน

 

ซึ่งในขณะเดียวกับที่การเตรียมมนุษย์แมงมุม(ปลอม)ของตำรวจกำลังดำเนินการไปนั้น พร้อมทั้งบอกกับคนร้ายไปว่าเจอตัวแล้วแต่อาจนานหน่อยเพราะเขาอยู่ไกลทำให้ยืดเวลาออกไปได้บ้าง แต่บรรยากาศหลังจากนั้นยิ่งหนักอึ้งขึ้นไปอีก

ซูจิ้งเองในตอนนั้นยังคงอยู่บ้านและนั่งดูเหล่าแอพแชททั้งหลายที่เขามี

เขาได้คุยกับเพื่อนๆของเขาทุกคนในเรื่องที่เกิดขึ้น ซูจิ้งเองนั้นไม่อยากกลับไปใส่ชุดมนุษย์แมงมุมอีกต่อไปแล้ว

เขาจินตนาการถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นถ้าเขาใส่ชุดมนุษย์แมงมุมไปช่วยไคจิ้งล่ะก็

จะเกิดเหตุการณ์วุ่นวายเหมือนตอนที่เขาเคยใช้ชื่อมนุษย์แมงมุมมาก่อนหน้านี้เหมือนตอนที่ช่วยเหม็งเม่ยเอ๋อ จะทำให้หวังเซียวและคนอื่นๆตกอยู่ในอันตรายแน่นอน

 

แต่พอนึกถึงว่าเจ้าคนที่ลักพาตัวสองคนนี้เขายังไม่รู้ว่าเป็นใครอีก พวกมันโง่พอที่จะก่อเรื่องซึ่งๆหน้าแบบนี้จริงๆหรือจะมีคนอยู่เบื้องหลังอีกทีก็ไม่รู้ ไม่ว่าจะออกไปช่วยหรือไม่แต่เรื่องนี้ต้องเป็นกับดักอย่างไม่ต้องสงสัย อีกอย่างไม่ไคจิ้งจะอยู่หรือตายไปแล้วจะเกี่ยวอะไรกับเขา ทำไมเขาต้องเอาตัวไปเสี่ยง เขาเองก็เตือนไคจิ้งไปแล้วแต่หมอนั่นไม่ฟังเอง แล้วจะไปโทษใครได้ถ้าไม่โทษตัวเอง

 

“แ-งเอ้ย ป่านนี้แล้วมนุษย์แมงมุมก็ยังไม่โผล่หัวมาอีก” คนร้ายเริ่มอารมณ์เสียขึ้นมา

 

“ไอ้หนู มนุษย์แมงมุมเพื่อนแกเป็นเต่าหดหัวไปแล้วรึไงกัน ป่านนี้ยังไม่มาอีก” คนร้ายอีกคนได้ตะคอกถามอย่างอารมณ์เสีย ดูเหมือนเขาเองคงต้องเติมเชื้อไฟอะไรซักหน่อยแล้ว

“รอ รอเขาอีกหน่อยนะ เขาต้องมาแน่นอน” ไคจิ้งเริ่มร้องไห้ออกมาจนเห็นเป็นน้ำตามไหลพราก ใบหน้าของเขาในตอนนี้ซีดขาว แต่ตากับแดงกล่ำและท่าทีรนลานอย่างมาก ตอนนี้เขาได้แต่ภาวนาขอให้มนุษย์แมงมุมยอมปรากฎตัวเพื่อช่วยเขา เขาก่อนยังมาเลย หวังได้เพียงมนุษย์แมงมุมจะยอมออกมาช่วยเขาอีกทีหนึ่ง

 

“ไม่คอยหว่ะ ฉันจะฆ่าแกเดี๋ยวนี้แหล่ะ” พูดจบ คนร้ายที่ถือปืนก็ได้หันปืนไปที่ไคจิ้งทันที

 

“ไม่ อย่า ได้โปรด ฉันบอกความจริงก็ได้ ฉันไม่รู้จักมนุษย์แมงมุมหรอก ฉันแค่อยากจะเกาะเขาดังแค่นั้นเอง ฉันรู้แล้วว่ามันผิด ปล่อยฉันไปเถอะนะ” ไคจิ้งร้องไห้จนหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเขียวจนคล้ำ เขารู้แล้วว่าได้ก่อปัญหาใหญ่จนไม่มีปัญหาใดในชีวิตเทียบได้เลย

 

“ห้ะ ก่อนหน้านี้แกบอกว่าแกรู้จักตอนนี้แกก็บอกว่าไม่รู้จักเอาง่ายๆแบบนี้แล้วจะมีคนเชื่องั้นรึ” คนร้ายลักพาตัวคนหนึ่งได้ตบไปที่หน้าไคจิ้งดังแปะๆในขณะที่พูดออกมา

 

“เอาเหอะ ไม่ว่าแกจะบอกอะไรมาก็ไม่สำคัญ เรื่องในตอนนี้มันมาไกลไปมากแล้ว ไม่ว่ายังไงพวกฉันก็จะใช้แกเป็นตัวประกันอยู่ดี ถ้าหมอนั่นไม่มาก็ยิ่งดีเข้าไปใหญ่เลย ตอนนี้ก็รอต่ออีกซักครึ่งชั่วโมงละกัน แล้วมารอดูกันว่าถ้ามันไม่มาล่ะก็ แกก็เตรียมตั๋วเที่ยวชมเมืองนรกได้เลย” คนร้ายอีกคนหนึ่งพูดขึ้นมาด้วยหน้าตาที่แสนบ้าคลั่ง

 

เมื่อคนร้ายตัดสินใจว่าจะยืดเวลาไปอีกครึ่งชัวโมง เหล่าตำรวจเองก็เริ่มเตรียมการแล้วเหมือนกัน นักแม่นปืนเองก็ได้ทำการส่องปืนไปยังเป้าหมายด้วยสายตาที่ไม่กระพริบ แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้วครึ่งชั่วโมงมนุษย์แมงมุมก็ยังไม่ปรากฎตัว คนร้ายก็เริ่มเคลื่อนไหว

 

“ฮ่าฮ่า ในที่สุดมนุษย์แมงมุมมันก็แค่เต่าหดหัว เราชนะแล้ว”

 

“ฟังให้ดีนะ ไคจิ้ง แกตายเพราะมนุษย์แมงมุม เป็นแกที่ฆ่าไคจิ้ง แกไม่ใช่ฮีโร่อะไรนั่นหรอก แกมันก็ฆาตกรดีๆนี่เอง”

 

“ไม่ดีแล้ว” หลังจากได้ยินคนร้ายลักพาตัวทั้งสองคนตะโกนลั่นห้อง ไคจิ้งถึงกับหน้าเปลี่ยนสีในทันที และพวกตำรวจเองก็เช่นกัน อย่างไรก็ตามก่อนที่จะมีใครรู้ตัวได้มีเสียงปืนดังขึ้นที่ยอดตึก ปัง หัวของไคจิ้งมีรูกระสุนปูนหนึ่งนัด สายตาของเขาเปิดกว้างในทันที และเขาได้ตายลงในขณะที่ตายังไม่หลับด้วยซ้ำ

 

ปัง ปัง นักแม่นปืนเองก็ได้ยิงไปคนร้ายลักพาตัวทั้งสองในทันที แม้แต่คนที่กำลังติดตามดูเหตุการณ์อย่างใกล้ชิดต่างก็เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน ชาวเนตไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นมา พวกเขาต่างก็ไม่คิดว่ามนุษย์แมงมุมจะไม่ยอมมาปรากฎตัวเลยซักนิดตั้งแต่ต้นยันจบแบบนี้

 

“พระเจ้า สรุปว่ามนุษย์แมงมุมกลายเป็นเต่าหดหัวไปซะอย่างนั้น”

 

“ฉันก็คิดมาว่าเขาเป็นฮีโร่มาตลอดเลยนะไม่คิดว่าเขาจะปล่อยให้เพื่อนเขาตายแบบนี้”

 

“ฉันคิดว่าคงมีคนเข้าใจผิดกันบ้างหล่ะนะ”

 

“สงสัยว่าคนพิมข้อความข้างบนต้องไปวัดไอคิวหน่อยแหะ ไคจิ้งเป็นบอกเองว่าเขากับมนุษย์แมงมุมเป็นเพื่อนกัน มันหมายถึงว่าเขาเป็นเพื่อนกันนะ ”

 

“เออออออ ก็ใช่ แต่ว่าฉันว่าไคจิ้งแค่เกาะมนุษย์แมงมุมดังเฉยๆ แกไม่เห็นหรอว่าไคจิ้งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมาทันทีที่เขาบอกทุกคนเรื่องนี้ แล้วตอนนี้เขาก็ตายด้วยเรื่องนี้จะไปโทษใครได้”

 

“ก็จริงนะ ถ้าเป็นเพื่อนกันจริงแล้วไม่ยอมออกมาช่วยแบบนี้ นายมีเพื่อนแบบนี้ด้วยหรอ”

 

“เฮ้ คนตายทั้งคนนะ อย่ามาทำเหมือนเขาสมควรตายสิ”

 

“ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ในเมื่อมนุษย์แมงมุมไม่ยอมออกมา นับแต่นี้ฉันจะไม่คิดว่าเขาเป็นฮีโร่อีกต่อไป”

 

ทุกคนในตอนนี้เมื่อเห็นว่านาลันเฟยและเลาชงเองก็มาเคลื่อนไหวแล้วต่างก็ไม่คิดว่าทั้งสองจะมีปฏิกิริยากับเรื่องนี้แบบนี้

นั่นก็คือทั้งสองได้มาอธิบายเหตุการณ์และชัดเจนในจุดยืนของทั้งคู่ว่ายืนอยู่ข้างมนุษย์แมงมุม

เหตุผลก็เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของมนุษย์แมงมุมเลยซักนิด

ถ้าพูดถึงสาเหตุของเหตุการณ์นี้จริงๆ ต้นเหตุมาจากไคจิ้งเองทั้งหมด

ทั้งๆที่รู้ความเสี่ยงนี้แต่ก็ยังทำทั้งๆที่เคยได้รับคำเตือนแล้วก็ยังเลือกที่จะเสียง พอผิดพลาดขึ้นมาแล้วมาโทษมนุษย์แมงมุมมันไม่ถูกต้องเลยซักนิด

แต่ยังไงซะสำหรับคนจีนแล้วเรื่องคนตายถือได้ว่าเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ว่าคนที่ตายจะเป็นคนเล็กๆแค่ไหนก็ตาม เรื่องแบบนี้ก็ยังเป็นข่าวแพร่ไปได้ทั่วอยู่ดี

 

แน่นอนอย่างที่สุดที่ต่อให้คนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้จะไม่พูดอะไรอีก แต่เป็นที่นอนว่าเหล่าแฟนคลับของพวกเขาจะพูดเรื่องนี้ไปอีกนาน ต่อให้เหล่าผู้คนที่ยืนอยู่ข้างมนุษย์แมงมุมไม่ทำอะไรแต่เรื่องนี้ก็จะเป็นที่พูดถึงอยู่ดี

 

“ดูเหมือนว่าการจะเรียกให้มนุษย์แมงมุมออกมาปรากฎตัวนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ” ณ ยอดตึกสูงที่อยู่ข้างๆไม่ไกลนัก มีชายสองคนกำลังพูดคุยกันในขณะที่เกิดเหตุการณ์ไคจิ้งถูกฆ่า โดยคนหนึ่งกำลังส่องกล้องส่องทางไกลไปยังตึกเพื่อสังเกตุการณ์

 

“มันไม่มีทางง่ายอยู่แล้วหล่ะน่า ฉันก็ไม่ได้หวังกับเรื่องนี้มากนักหรอก ฉันก็แค่อยากลองดูแล้วก็อยากจะหาเป้าหมายที่ดูเป็นไปได้สำหรับครั้งถัดไปแค่นั้นเอง มานี่ ลองดูนี่สิ” ชายวัยกลางคนอีกคนเรียกให้อีกคนมาดูกล้องที่กำลังสอ่งไปยังที่ๆหนึ่งอยู่

 

“ประชิดเป้าหมาย” ชายคนที่อยู่กับกล้องส่องทางไกลได้พูดบางอย่างผ่านไมโครโฟน ทันใดนั้น บริเวณหลังคาบนตึกโดยรอบ แม้แต่บนถนน และในรถกันกระสุนก็ได้มีคนพูดออกมาอย่างพร้อมเพรียงว่า “ครับ”