ตอนที่ 659: บรรพชนตระกูลไป๋ (1)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 659: บรรพชนตระกูลไป๋ (1)

เทียนเจี้ยนไม่ได้อยู่นาน เขาเปิดมิติออกโดยไม่ทันได้พบกับหมิงตง ผู้ชายอย่างเขานี่เลิกสนใจในเรื่องวัตถุดิบแล้ว พวกเขาใช้เวลาในการอาศัยอยู่ในที่ที่แยกตัวจากโลกนี้ หาได้ยากที่พวกเขาจะออกมาพบกับผู้คนและแม้ว่าจะเกิดเรื่องขึ้นบนโลก พวกเขาก็ไม่แม้แต่จะชายตาดู

หวงเทียนป้า นูบิส และเจียเต๋อไท่ ต่างก็ยังคงเงียบอยู่สักพักแม้ว่าเทียนเจี้ยนจะจากไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม เทียนเจี้ยนก็เป็นถึงผู้อาวุโสสูงสุดแห่งเมืองทหารรับจ้าง ผู้ชายอย่างเขาได้หยุดตระกูลโบราณ 2 ตระกูลและอีกหลายตระกูลที่ถือสันโดษ นั่นไม่ต้องเดาเลยว่าการที่กลุ่มของเจี้ยนเฉินได้มีความสัมพันธ์กับคนเช่นนี้นั้นจะเป็นผลดีกับพวกเขาอย่างมาก อย่างน้อย ๆ ตระกูลทั้งหลายต้องคิดทบทวนก่อนจะมาสู้กับพวกเขา

มีเพียงเจี้ยนเฉินเท่านั้นที่ยังแสดงท่าทีไม่ค่อยพอใจ ความแปลกใจในเรื่องจิตวิญญาณเหล็กภายในโลหะผสมทังสเตนนั้นยังทำให้มีเรื่องต้องคิดอีกมาก แม้ว่าตอนนี้เขาจะลอยอยู่ในอากาศ แต่เขาก็ยังคงคิดถึงชายชุดฟ้าที่ชื่อไป๋ไฮด้วย

“น้องเจี้ยนเฉิน พวกเราไม่ใช่แค่ปกป้องโลหะผสมทังสเตนไว้ได้ แต่เรายังบอกคนอื่น ๆ เกี่ยวกับพลังของผู้อาวุโสสูงสุด จากนี้เป็นต้นไปพวกเราไม่ต้องสนใจโลหะผสมทังสเตนให้มากก็ได้ ตอนนี้เรื่องน่าปวดหัวที่สุดได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว เจ้ายังจะกังวลเรื่องใดอีก ? ” หวงเทียนป้าถาม

เขาสลัดความคิดต่าง ๆ ทิ้งและยิ้มออกมา ” ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดในเรื่องของโลหะผสมทังสเตนได้รับการแก้ไขแล้วก็จริง เราไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะมีกลุ่มอื่นพยายามแย่งมันไปจากเรา ดังนั้นตอนนี้เราควรมุ่งหน้ากลับได้แล้ว เหตุการณ์ในวันนี้มันต้องมีการฉลอง “

จากนั้นเจี้ยนเฉินจึงได้หยิบขวดสีขาวออกมาจากแหวนจัดเก็บและส่งให้กับเจียเต๋อไท่ “เจียเต๋อไท่ นี่คือยาจิตวิญญาณธาตุแสงระดับ 6 จำนวน 5 เม็ด เจ้าจงเอาไปใช้รักษาบาดแผลของเจ้าเถอะ “

เจียเต๋อไท่รับยาไปแล้วเปิดขวดออกทันทีและจากนั้นจึงกิน 2 เม็ดเข้าไป เขามองไปที่ยาที่ยังเหลืออยู่อีก 3 เม็ด เขาลังเลชั่วครู่ก่อนจะเก็บเข้าในแหวนมิติของตนเอง บาดแผลที่เขาได้รับจากฝ่ามือของไป๋ไฮนั้นไม่ได้เบาเลย

ไม่นานหลังจากนั้นทุกคนจึงมุ่งหน้ากลับเข้าไปในเมือง ชาวเมืองนี้โชคร้ายที่โดนพิษของนูบิสนั้นได้ตื่นขึ้นมา พิษของอสรพิษทองริ้วเงินนั้นรุนแรงอย่างมาก แต่การปล่อยให้มันฟุ้งกระจายไปในอากาศ เมื่อรวมกับที่นูบิสได้เจือจางพิษนี้เอาไว้แล้ว ก็ทำให้พิษนั้นเบาบางจนไม่อาจฆ่าผู้คนได้

ตอนนี้ทั้งเมืองเริ่มปั่นป่วน ทุกคนต่างรวมกลุ่มพูดคุยกันเกี่ยวกับการต่อสู้ระหว่างเซียนผู้คุมกฎ

ม้าและสัตว์อสูรเวทมนตร์หลายตัวที่รับหน้าที่สำหรับขนส่งสินค้าต่างก็ตัวชาด้วยความกลัวนั้นเป็นผลจากความแข็งแกร่งระดับ 7 ของนูบิส มีหลายตัวไม่อาจขืนตัวไว้ได้และพวกมันก็ล้มตัวไปกองที่พื้นจนไม่สามารถขยับตัวได้ แม้ว่าเจ้าของของพวกมันพยายามดึงหรือตีพวกมันแล้วก็ตาม ผลก็คือถนนนั้นต่างก็อัดแน่นไปด้วยผู้คน

ในพระราชวัง เจี้ยนเฉินซึ่งใส่ชุดโชกเลือดเดินกลับไปหานูบิสและคนอื่น ๆ ไม่นานหลังจากนั้นพวกเขาก็ลงมาที่พื้น ผู้คนมากมายต่างก็แห่เข้ามาหาพวกเขา

“เจี้ยนเฉิน เจ้าสบายดีหรือไม่ ? เซียนผู้คุมกฎจากนิกายพยัคฆ์มังกรนั้นจากไปแล้วหรือ ? “

“เจี้ยนเฉิน เจ้าบาดเจ็บ ! เลือดมันช่างมากมายซะเหลือเกิน… “

“หัวหน้า เกิดอะไรขึ้น ? “

“หัวหน้า ท่านสบายดีหรือไม่ ? ให้ข้าแจ้งกับเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงให้มาที่นี่…”

“หัวหน้าได้รับบาดเจ็บ ! จงเรียกเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงมาเดี๋ยวนี้ ! “

…….

สหายของเจี้ยนเฉินและบุคคลสำคัญจากกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีต่างก็มาพูดคุยกับเขา ทุกคนต่างก็เป็นห่วงเขา ยังไงซะ เจี้ยนเฉินก็เป็นเสาหลักของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี ทุกคนรู้ว่าถ้าไม่มีเจี้ยนเฉิน กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีนั้นคงไม่มีทางเดินหน้าต่อไป ถ้าเจี้ยนเฉินตาย กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีก็ล่มสลายไปด้วย

เขาทำมือให้ทุกคนหยุดพูด เจี้ยนเฉินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอันทรงพลัง ” ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง การบาดเจ็บของข้าไม่ร้ายแรงนัก มันก็แค่รอยข่วนเท่านั้น แต่ข้ามีข่าวสำคัญจะบอกกับทุกคน จากวันนี้เป็นต้นไปจะไม่มีใครพยายามมายุ่งกับโลหะผสมทังสเตนของรา ดังนั้นโปรดวางใจได้ “

“นั่นจริงรึ ? เยี่ยมไปเลย ! “

ทุกคนต่างก็ร้องออกมาด้วยความดีใจกับคำพูดของเจี้ยนเฉิน โลหะผสมทังสเตนนั้นเป็นสมบัติล้ำค่าของ กลุ่มทหารรับจ้างอัคนี ตราบใดที่พวกเขามีมัน พวกเขาก็ไม่ขาดเงินในอนาคต

“ตอนนี้เมืองยังวุ่นวายอยู่ ถ้าทุกคนทำได้ โปรดกลับเข้าไปในเมืองและกลับไปทำธุระเถอะ” เจี้ยนเฉินสั่ง

“ได้ หัวหน้า ! พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้ ! ” เสียงของทหารรับจ้างหลายคนดังขึ้นทันทีพร้อมกับทำตามที่เขาสั่ง

ไม่นานหลังจากนั้น เจี้ยนเฉินก็ได้กลับไปที่ห้องของตัวเองและอาบน้ำล้างตัว เขาทำความสะอาดคราบเลือดก่อนจะสำรวจร่างกายตนเอง

มันยังคงขาวราวกับเกิดใหม่ นุ่มคล้ายผิวของสตรี รอยแผลที่เขาได้รับระหว่างต่อสู้นั้นหายไปแล้ว ไม่มีรอยแผลเป็นแม้แต่นิดเดียว

“พลังฟื้นฟูของร่างบรรพกาลนี่ทรงพลังเกินไปแล้ว ถ้าข้าได้รับบาดแผล ข้าคงต้องรักษาตัวอยู่หลายวัน พลังฟื้นฟูของร่างบรรพกาลนี่เกือบจะทันทีเลยก็ว่าได้ มันฟื้นฟูบาดแผลไม่ถึงชั่วอึดใจ” เจี้ยนเฉินถอนหายใจออกมาพร้อมกับชมร่างบรรพกาล

เขาเอาเสื้อผ้าที่สะอาดออกจากแหวนมิติและสวมมัน เขาเดินออกจากห้องอาบน้ำและเห็นว่าหมิงตงและคนอื่น ๆ ได้ไปรวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่น ในตอนที่พวกนั้นเห็นใบหน้าที่ดูมีเลือดฝาดของเจี้ยนเฉิน พวกเขาก็แปลกใจ

“เจี้ยนเฉิน บาดแผลของเจ้าไม่น่าฟื้นฟูได้เร็วเช่นนี้ ! เสื้อผ้าของเจ้าโชกไปด้วยเลือดไม่นานมานี้เอง อย่าบอกข้านะว่าเลือดนั่นเป็นเลือดของเซียนผู้คุมกฎจากนิกายพยัคฆ์มังกร ! ” หมิงตงอดถามออกมาไม่ได้ เขาไม่สามารถเชื่อได้ว่าเจี้ยนเฉินจะสามารถทนรับการโจมตีได้มากจากคนที่อยู่ในระดับเซียนผู้คุมกฎอย่างซิตูชิง

เจี้ยนเฉินหัวเราะออกมาแต่เขาไม่ได้ตอบคำถามของหมิงตง ” ตอนนี้ปัญหาเรื่องโลหะผสมทังสเตนก็แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ข้าต้องกลับไปที่บ้านเพื่อจัดการเรื่องสำคัญ ข้าจะให้พวกเจ้าจัดการเรื่องแทนในตอนที่ข้าไม่อยู่”

“พี่ชาย ท่านได้จากไปนานแล้วและเพิ่งกลับมาเอง ทำไมท่านจึงรีบไปนัก ? ” ไป๋เหลียนพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ

ใบหน้าของเจี้ยนเฉินนิ่งขรึมพร้อมกับตอบกลับ ” เหลียนเอ๋อ เรื่องนี้เกี่ยวกับตระกูลของเรา ญาติของเจ้าต้องไปและไปยืนยันบางอย่าง”

เมื่อเห็นท่าทีแบบนั้น ไป๋เหลียนก็ตระหนักได้ว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องเล็กแบบที่เธอคิดแน่ “ได้ งั้นพี่ชาย ท่านต้องกลับมาให้เร็วที่สุด ! “