ตอนที่ 639
ใช้พลัง
เปรี้ยง!!
ร่างของมังกรตนหนึ่งพุ่งวาบเข้ามาใส่หลินเฟยอย่างรวดเร็วพร้อมกรงเล็บที่พร้อมจะโจมตีหลินเฟยให้ถึงตายได้ในครั้งเดียว แต่น่าเสียดายที่หลินเฟยนั้นสามารถหลบหลีกได้สบาย
เปรี้ยง!! เปรี้ยง!
ทั้งปากทั้งกรงเล็บของมังกรตนนั้นยังโจมตีหลินเฟยไม่เลิก แต่หลินเฟยยามนี้ไม่ได้มีสภาพเหมือนคนกำลังบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย มันยิ้มและยืนมองการโจมตีด้วยท่าทีร่าเริงและสนุกสนาน ตั้งแต่มาที่อาณาจักรซานแห่งนี้หลินเฟยก็แทบไม่ได้ต่อสู้จริงๆจังๆเลยแม้แต่ครั้งเดียว ราชาของเขตอสูรแห่งนี้มีพลังระดับบรรพกาลขั้นที่ 1 นับว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อกับหลินเฟยในยามนี้มาก
“ไม่เอาน่า เจ้าทำได้ดีกว่านี้”หลินเฟยหัวเราะพลางใช้กระบี่รับกรงเล็บของมังกรตรงหน้าอย่างรวดเร็ว แม้หลินเฟยจะมาที่นี่เพื่อหามังกรบินสักตัวเป็นพาหนะ แต่หลินเฟยก็อยากจะมั่นใจก่อนว่ามังกรที่จะเอาไปมีความคล่องตัวมากพอ
“ท่านพ่อ ให้ข้าจัดการมันเอง”เสียงของมังกรอีกตัวดังขึ้นมาจากด้านหลังของหลินเฟย ท่าทางมันจะเป็นบุตรชายของราชามังกรของเขตนี้สินะ
เปรี้ยง!!
หลินเฟยรับกรงเล็บของมันอย่างง่ายดายไม่ต่างจากของตัวพ่อ เจ้าตัวลูกนั้นพลังอ่อนด้อยกว่าตัวพ่อหลายเท่า แต่อาจจะเพราะตัวเล็กกว่าก็เลยคล่องตัวกว่าก็เป็นได้ แต่ถึงจะโดนมังกรสองพ่อลูกไล่เล่นงานหลินเฟยก็ยังรับมือได้อย่างสนุกสนานทำเอามังกรทั้งสองตนมีท่าทีจริงจังอย่างมากเพราะไม่ทราบว่าหลินเฟยเข้ามาทำอะไรในเขตอสูรของตนยามค่ำคืนกันแน่
.
.
“น้องเซี่ย”อีกด้านหนึ่งทางฝั่งของอาทู้ที่โดนทิ้งเอาไว้คนเดียวภายในที่พัก ตัวนางพอเห็นทั้งสองไม่อยู่ก็พอจะเดาได้ทันทีว่าทั้งสองไปไหนทำให้ยามนี้อาทู้เดินทางขึ้นเขามาทางยอดเขาศิลาครามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคนที่นางเจอเป็นคนแรกก็คือเซี่ยจินเย่ที่กำลังมุ่งหน้าขึ้นไปบนยอดเขาศิลาครามเช่นเดียวกัน
“พี่อาทู้ ท่านมาทำอะไรที่นี่”เซี่ยจินเย่เบิกตากว้างด้วยท่าทางตกใจเพราะไม่คิดว่าอาทู้จะตามตนเองมาไวแบบนี้ ไม่ทราบเป็นเพราะวิชาตัวเบาของเซี่ยจินเย่ช้าเกินไปหรือเพราะอาทู้ไวกว่าระดับพลังที่มีก็ไม่ทราบ
“ข้าต่างหากล่ะที่ต้องถามเจ้า แล้วอาจารย์ล่ะมากับเจ้าหรือเปล่า”อาทู้ถามพลางมองไปรอบๆ อาจารย์มักจะปกปิดพลังของตนเองเลยใช้การตรวจสอบพลังไม่ได้
“อาจารย์ไม่ได้อยู่ที่ที่พักหรอกหรือเจ้าคะ”เซี่ยจินเย่ได้ยินก็มีสีหน้างุนงงออกมาทันที เพราะตัวเซี่ยจินเย่คิดจะเดินทางเข้าไปในเขตอสูรตามลำพังเพื่อตามหาสมุนไพรกลับไปให้อาจารย์ที่กำลังบาดเจ็บ ไม่ได้ออกมาพร้อมกับอาจารย์อย่างที่อาทู้เข้าใจเสียด้วย
“งั้นอาจารย์ก็ออกไปคนเดียวนะสิ”อาทู้ได้ยินเช่นนั้นก็มีท่าทีตกใจออกมาเช่นกัน หากอาจารย์ไม่ได้ออกมาพร้อมเซี่ยจินเย่งั้นก็หมายความว่าอาจารย์น่าจะเข้าเขตอสูรไปคนเดียวเสียแล้ว เพราะระหว่างทางมานางก็ไม่พบใครจนกระทั่งมาพบเซี่ยจินเย่เข้า หากไม่ใช่เพราะอาจารย์เสียเวลาอ้อมไปเส้นทางอื่นก็หมายความว่ายามนี้อาจารย์อยู่ในเขตอสูรแล้วนั่นเอง
“แย่แล้ว อาจารย์ยังบาดเจ็บอยู่รีบเข้าไปช่วยอาจารย์กันเถอะ”เซี่ยจินเย่เองก็คิดเช่นเดียวกัน ด้วยความเป็นห่วงอาจารย์นางจึงรีบหั้นหน้าวิ่งเข้าไปในเขตอสูรต่อทันที น่าเสียดายที่เซี่ยจินเย่ไม่ถนัดวิชาตัวเบาเอาเสียเลยทำให้ความเร็วของนางมีน้อยกว่าอาทู้เสียอีก
“น้องเซี่ย เจ้าแน่ใจนะว่าจะเข้าไปจริงๆ”พอเห็นเซี่ยจินเย่จะขึ้นไปบนเขาอาทู้ก็ถามนางเพื่อความแน่ใจเสียก่อน บนนั้นมีอสูรจำนวนมากแน่ๆ หากมีอาจารย์อยู่ยังช่วยสู้กัน 3 คนได้แต่ตอนนี้มีกันแค่ 2 คนแถมอาทู้ยังมีพลังเพียงน้อยนิดเกรงว่าจะสู้ไม่ได้
“ถ้าอาจารย์อยู่ข้างใน พวกเราก็ต้องไป”เซี่ยจินเย่ตอบโดยไม่มีอาการลังเลเลยแม้แต่น้อย เมื่อเดิมพันด้วยชีวิตของอาจารย์ เซี่ยจินเย่ก็ไม่มีท่าทีจะกลัวเขตอสูรเลยแม้แต่น้อย
“……”ส่วนทางด้านอาทู้นั้นพอเห็นท่าทีเป็นห่วงอาจารย์ของเซี่ยจินเย่เข้าตนเองก็พลันนึกถึงหลินเฟยขึ้นมา นางยังจำวินาทีที่หลินเฟยเข้ามาปกป้องตนเองและจัดการศัตรูของนางไม่มีวันลืม บุญคุณที่นางมีต่อหลินเฟยนั้นคือบุญคุณช่วยชีวิต นางจะมัวแต่กลัวไม่กล้าเข้าไปในเขตอสูรทั้งๆที่หลินเฟยอาจจะกำลังลำบากอยู่งั้นหรือ
“ได้…..งั้นพวกเราไปด้วยกันเถอะ”อาทู้ว่าพลางกำหมัดแน่นเดินตามหลังเซี่ยจินเย่เข้าไปในเขตอสูรช้าๆ เขตอสูรแห่งนี้มีราชาเป็นถึงระดับบรรพกาลขั้นที่ 1 ลูกน้องในเขตอสูรย่อมไม่ธรรมดา แทบไม่มีทางเลยที่เซี่ยจินเย่กับอาทู้จะรับมือได้ ทางเดียวที่อาทู้พอจะคิดออกเพื่อเอาตัวรอดคือพยายามหลีกเลี่ยงอสูรตามที่อาจารย์เคยสอนเอาไว้เมื่อเย็นเท่านั้น หวังว่าวิธีของอาจารย์จะใช้ได้ผลนะ….
.
.
ตุบ…..
หลังจากต่อสู้กันมาพักใหญ่ ในที่สุดหลินเฟยก็พอใจเสียที มังกรสองพ่อลูกนั้นเป็นมังกรลำตัวยาวสามารถบินได้โดยไม่ต้องมีปีกทำให้ความคล่องตัวสูงมาก แม้จะบอกว่าตัวลูกนั้นตัวเล็กกว่าพ่อ แต่ขนาดของมันก็ให้หลินเฟยขึ้นไปยืนบนหัวได้สบาย หลินเฟยไม่เคยสังหารราชาของเขตอสูรเพราะไม่ต้องการทำให้เขตอสูรเสียสมดุล และการนำตัวอสูรไปเป็นพาหนะก็ไม่ควรเลือกตัวราชาเช่นเดียวกัน ทำให้หลินเฟยนั้นสนใจตัวลูกเป็นอย่างมาก ที่เหลือก็เพียงสงบศึกและตกลงกันให้เรียบร้อยเท่านั้น
“ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้มาร้าย”พอหลินเฟยเก็บถุงไม้หอมเข้ามิติส่วนตัวและรอเวลาให้พลังดึงดูดเหล่าอสูรทำงาน มังกรสองพ่อลูกที่กำลังรุมเล่มงานหลินเฟยอยู่ก็มีท่าทีเปลี่ยนไปทันที พวกมันชะงักการโจมตีและไม่ทำอะไรหลินเฟยอีก
“ขอโทษเรื่องก่อนหน้านี้ด้วย ข้าเพียงต้องการทดสอบพวกท่านเท่านั้น”หลินเฟยว่าพลางยื่นมือออกไปสัมผัสใบหน้าของมังกรตัวพ่อช้าๆ
“ไม่ต้องใส่ใจหรอกขอรับ ว่าแต่ท่านเข้ามาที่นี่ต้องการอะไรงั้นหรือ”ราชามังกรของเขตอสูรศิลาครามถามด้วยท่าทีอ่อนน้อมลงอย่างเห็นได้ชัด สมแล้วที่เป็นความสามารถดึงดูดเหล่าอสูรของตระกูลไป๋
แน่นอนว่าสิ่งที่หลินเฟยต้องการก็คือตัวของมังกรตัวลูกที่อยู่ระดับมายาขั้นที่ 8 นั่นเอง เพียงแต่หลินเฟยไม่คิดจะบังคับอะไรกัน จึงต้องการจะถามความสมัครใจของมังกรตัวลูกว่าต้องการจะไปกับหลินเฟยหรือไม่
“………….ท่านพ่อ มีผู้บุกรุกอีกแล้ว”ยังไม่ทันได้เจรจา มังกรตัวลูกก็เงยหน้าขึ้นมองไปทางป่าที่หลินเฟยเดินทางผ่านมา
“เป็นอสูรต่างถิ่นหรือไง แต่พลังระดับนั้นคงผ่านพวกลูกน้องมาไม่ได้หรอก”มังกรตัวพ่อตอบพลางมองไปทางเดียวกันกับที่มังกรตัวลูกมอง แต่เพราะคำพูดของทั้งสองทำให้หลินเฟยรู้สึกไม่ดีนัก ปกติอสูรต่างถิ่นไม่บุกเข้ามาในเขตอสูรของผู้อื่นหรอกหากไม่ใช่ศัตรูกันจริงๆ ยิ่งอสูรที่มีพลังอ่อนกว่าราชาของเขตอสูรนั้นๆก็ยิ่งไม่กล้าบุกเข้ามาเข้าไปใหญ่ เพราะความแปลกประหลาดนี้เองหลินเฟยเลยใช้ดวงตาสีน้ำเงินที่ทำให้มองได้ไกลขึ้นและดวงตาสีม่วงผสมเข้าด้วยกันเพื่อตรวจสอบพลังจากระยะไกล พริบตานั้นร่างของหลินเฟยก็สั่นสะท้านไปทั้งร่างทันทีเพราะพลังอสูรที่มังกรสองพ่อลูกพูดถึงคือเซี่ยจินเย่นั่นเอง แถมอาทู้ยังตามมาด้วยอีกคน และที่น่าใจหายที่สุดก็คือรอบๆตัวพวกนางมีมังกรลูกน้องของราชามังกรล้อมเอาไว้แม้จะยังไม่โจมตี แต่ถ้าหากพวกนางเข้ามาใกล้กว่านี้มีหวังโดนเล่นงานแน่ๆ
.
.
“น้องเซี่ย อาจารย์เข้าไปลึกขนาดไหนกันเนี่ย”อาทู้เดินตามเซี่ยจินเย่ด้วยท่าทีกล้าๆกลัวๆ ยามนี้ทั้งพลังของเซี่ยจินเย่ก็มากกว่านางแถมประสบการณ์เข้าเขตอสูรก็มากกว่านาง ทำให้อาทู้ได้แต่เดินตามเซี่ยจินเย่ไปเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะเดินเข้าไปลึกเท่าไหร่ก็ไม่พบหลินเฟยเสียที แถมรอบๆข้างอาทู้ยังรู้สึกว่ามีสายตากำลังมองมาที่พวกตนอีกต่างหาก แบบนี้มันไม่เป็นไรแน่หรือ
กึก…..
อยู่ๆอาทู้ก็ได้ยินเสียงเหมือนกิ่งไม้หักดังมาจากด้านหนึ่งของป่า แต่พอมองไปรอบๆก็ไม่พบอะไรเลยทำเอานางแทบจะเป็นบ้า ความรู้สึกเหมือนแมงเม่ากำลังบินเข้ากองไฟมันเป็นเช่นนี้นี่เอง
“………..”ระหว่างกำลังสอดส่องดูรอบๆอยู่นั้น อยู่ๆอาทู้ก็เห็นร่างของมังกรตนหนึ่งที่กำลังขยับผ่านต้นไม้ที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร ตัวของมันลอยอยู่เหนือต้นไม้ทำให้เห็นร่างกายส่วนอื่นกำลังเลื้อยผ่านกิ่งไม้อย่างเชื่องช้าทำให้อาทู้ นึกขึ้นมาได้ว่ามังกรพวกนี้สามารถบินได้นี่นา หรือว่าพวกมันจะอยู่……..
“…….!!!!”อาทู้มองขึ้นไปบนท้องฟ้าก็แทบหัวใจหยุดเต้น เหนือหัวของพวกนางนั้นมีร่างของมังกร 3 ตัวกำลังลอยวนเวียนอยู่รอบๆ แถมพวกมันยังจ้องมาที่พวกนางไม่วางตาอีกต่างหาก เห็นได้ชัดเลยว่าพวกนางโดนจ้องเล่นงานเข้าให้แล้ว
“นะ นะ น้องเซี่ย…..”อาทู้ไม่ทราบหรอกว่ามังกรพวกนี้ระดับพลังเท่าไหร่ แต่ขนาดตัวของพวกมันคงบดขยี้ร่างของนางได้สบาย แต่เซี่ยจินเย่ที่อยู่ตรงหน้ากลับไม่มีท่าทีตกใจเลย หรือว่านางไม่เห็นเจ้าพวกนี้กันแน่
“พี่อาทู้ ท่านไม่ต้องกลัวหรอก”เซี่ยจินเย่ว่าพลางมองขึ้นไปบนท้องฟ้าเช่นกัน ยามนี้มังกรทั้ง 3 กำลังลดระดับลงมาหาพวกเซี่ยจินเย่พอดี แต่ถึงจะเข้ามาหาพวกมันกลับไม่มีท่าทีดุร้ายเลย
“พวกมันไม่ทำร้ายเราหรอก”เซี่ยจินเย่ว่าพลางยื่นมือเข้าไปแตะที่ใบหน้าของมังกรตัวหนึ่งที่กำลังลอยเข้ามาใกล้ มันไม่มีท่าทีดุร้ายเลย แถมยังยอมให้เซี่ยจินเย่สัมผัสได้อย่างง่ายดายอีกต่างหากทำเอาอาทู้ไม่ทราบจะทำตัวอย่างไรดี หรือว่ามังกรพวกนี้จะไม่ทำร้ายคนกัน?
“ขอพวกเราผ่านทางได้หรือเปล่าเจ้าคะ”เซี่ยจินเย่ถามพลางมองมังกรตรงหน้าด้วยท่าทีขอร้อง ขณะที่อาทู้กำลังจะถามว่าอสูรฟังพวกตนรู้เรื่องด้วยงั้นหรือเจ้ามังกรตรงหน้าก็ขยับหัวลงน้อยๆเป็นการตอบรับ ก่อนจะค่อยๆถอยห่างออกจากเซี่ยจินเย่และอาทู้ช้าๆ
“หยุด”ขณะมังกรกำลังถอยอยู่นั้น อยู่ๆร่างของหลินเฟยก็ปรากฎขึ้นตรงหน้าพวกเซี่ยจินเย่พอดี หลินเฟยที่คิดว่าพวกมังกรกำลังจะโจมตีพวกเซี่ยจินเย่เอาตัวเองเข้าไปขวางก่อนจะยกมือขึ้นห้ามเอาไว้
“อาจารย์..”เซี่ยจินเย่กำลังจะบอกว่ามังกรพวกนี้ไม่โจมตีพวกนางหรอก แต่ด้านหลังหลินเฟยกลับปรากฎร่างของราชามังกรของยอดเขาศิลาครามและบุตรชายที่ตามหลินเฟยมาเสียก่อน พลังของพวกมันที่เซี่ยจินเย่สัมผัสได้ทำเอานางเองยังหวั่นใจเลยทีเดียว
“พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว คนเหล่านี้ไม่ใช่ศัตรู”ทันทีที่มาถึงราชามังกรก็ออกคำสั่งทันทีทำให้มังกรรอบๆลอยออกไปอย่างว่าง่ายก่อนที่ราชามังกรจะโน้มตัวลงมาหาหลินเฟยอีกครั้ง
“ต้องขอโทษด้วย ลูกน้องของเราไม่ทราบว่าพวกนางคือคนของท่าน”ราชามังกรพูดคุยกับหลินเฟยราวกับคนด้วยกันทำเอาอาทู้ประหลาดใจหนักเข้าไปอีก เพียงแต่นางไม่ได้ประหลาดใจเรื่องที่มังกรไม่โจมตีหรือพูดคุยได้ แต่นางประหลาดใจเรื่องที่มังกรตัวใหญ่นั่นทำกับหลินเฟยเหมือนที่พวกมังกรก่อนหน้านี้ทำกับเซี่ยจินเย่เลย