ติดตามการแจ้งเตือนตอนใหม่ที่แฟนเพจ Facebook Fanpage กดเลย
••••••••••••••••••••
นิยายอื่นที่ทางค่ายแปล
••••••••••••••••••••
บทที่ 293: พ่ายแพ้ต่ออสูรกาย (1)
แน่นอนว่าไม่มีใครคิดจะกล่าวคำพูดในใจของตนเองออกมาว่าบุคคลตรงหน้าของพวกเขายากจนข้นแค้นขนาดไหน ในตอนนี้น้องสาวตัวเล็กเดินวนไปรอบๆพี่ชายของนาง ให้ภาพนั้นดูอบอุ่นอย่างยิ่ง แม้ว่านางจะไม่ได้ซื้อสิ่งใดเลยบนแผงลอยแต่เด็กสาวคนนี้น่ารักเกินกว่าใครจะกล้าตำหนินาง
อย่างไรก็ตามในขณะที่พี่น้องทั้งคู่กำลังเดินเล่นอย่างมีความสุข เกิดจุดสีดำขึ้นในอากาศที่ห่างออกไป มีดาบจักรพรรดิกำลังพุ่งมาราวกับพายุ เหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่มองเห็นฉากเหล่านั้นอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น
เหล่าผู้ฝึกตนที่ท่าทางซื่อๆคนหนึ่งกล่าวกับพี่น้องคู่นี้เบาๆว่า “น้องชาย เจ้าจงพาน้องสาวเจ้าไปจากที่นี่โดยเร็วเถิด มิฉะนั้นพวกเจ้าจะต้องพบกับภัยพิบัติที่ร้ายแรง!”
“ภัยพิบัติงั้นหรือ?” บุรุษชุดดำกล่าวตอบด้วยความแปลกใจ “ภัยพิบัติอะไรกันที่กำลังมาถึง?”
“โอ้ นี่เจ้าโง่หรือเปล่า? นั่นคือหนึ่งในสามปีศาจแห่งทะเลตะวันออก ไม่หยินไม่หยาง เหลียวเซียวเย่า! เจ้าไม่รู้จักเขางั้นหรือ?” ชายผู้นั้นตอบกลับอย่างเร่งรีบ
“แน่นอน ข้ารู้!” บุรุษชุดดำตอบกลับอย่างสบายใจพร้อมกล่าวต่อ “แต่เหลียวเซียวเย่านั้นอยู่ห่างไกลออกไปตั้งมาก แล้วเขาจะสร้างปัญหาให้กับข้าได้อย่างไรกัน?”
“โง่เขลายิ่งนัก!” ชายผู้นั้นกล่าวออกมาอย่างกังวล “เหลียวเซียวเย่านั้นชอบบุรุษที่แข็งแรงและหญิงสาวที่งดงาม อีกทั้งเขายังชื่นชมลิ้มรสอาหารใหม่ๆตามฤดูกาล เจ้าจงดูบุคคลกลุ่มนั้นที่กำลังมาที่นี่ พวกเขาล้วนแต่เป็นลูกน้องของเหลียวเซียวเย่า! นั่น! สายไปเสียแล้ว พวกเขามาแล้ว เจ้าไม่ได้ฟังที่ข้ากล่าวเลยสินะ!” ชายหนุ่มผู้นั้นเงียบในทันที พร้อมหลีกทางให้กับบุคคลที่กำลังเดินมาอย่างรวดเร็ว
พี่น้องทั้งสองนั้นรู้ได้ทันทีว่าพวกเขากำลังตกอยู่ในอันตราย ทั้งสองหันหลังและคิดจะวิ่งทันที แต่ทว่าทุกอย่างได้สายเกินไปแล้ว ในขณะที่พวกเขากำลังพูดกันเมื่อครู่ บุคคลที่สามได้มาถึงพื้นที่แห่งนี้เรียบร้อยแล้ว สายตาของเขารวดเร็วและแหลมคมราวกับเหยี่ยว แน่นอนว่าหญิงสาวน่ารักเช่นนั้นไม่อาจรอดพ้นสายตาคู่นั้นไปได้ พี่น้องทั้งสองถูกเหล่าลูกน้องของเหลียวเซียวเย่าล้อมรอบในทันที
เห็นได้ชัดว่าเหล่าพี่น้องคู่นี้ไม่ใช่บุคคลที่แข็งแกร่งแต่อย่างใด พี่ชายอยู่ในระดับเซียนเทียนขั้นเจ็ดเท่านั้นและน้องสาวของเขาอยู่ในระดับเซียนเทียนขั้นสี่ แต่บุคคลทั้งเจ็ดถึงแปดคนที่ล้อมรอบเขาอยู่นั้นอยู่ในระดับเซียนเทียนขั้นสิบ และผู้นำกลุ่มนี้อยู่ในระดับปฐมภูมิซึ่งเขาอยู่ในชุดคลุมสีเหลือง
“ฮ่าฮ่า ไม่คิดเลยว่าในวันนี้ข้าจะได้พบสินค้าอื่นที่งดงามเช่นนี้ นับว่าเป็นโชคจริงๆ!” ผู้ฝึกตนในชุดคลุมสีเหลืองกล่าวออกมาอย่างพอใจ “น้องชายเจ้านั้นโชคดีจริงๆ! ตามข้ามา!”
“อาวุโสจะพาข้าไปที่ใดงั้นหรือ?” ผู้ที่เป็นพี่ชายพยายามอย่างยิ่งที่จะปกป้องน้องสาวของตนเองไว้ แต่เขาไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรถึงกล่าวออกไปเช่นนั้น
“ไปไหนน่ะหรือ? ฮ่าฮ่า แน่นอนว่าก็ต้องพาไปพบกับผู้นำของเราน่ะสิ!” บุรุษชุดคลุมสีเหลืองกล่าวออกมาพร้อมกับหัวเราะ “ผู้นำของเรานั้นชื่นชอบชายหนุ่มที่มีร่างกายเช่นเจ้าที่สุด ตราบใดที่เจ้าไม่ดื้อรั้น แน่นอนว่าความร่ำรวยและชื่อเสียงย่อมไม่มีทางหลบหนีเจ้าไปได้อย่างแน่นอน!”
“ข้าไม่คิดว่ามันคือความร่ำรวยหรือชื่อเสียง ถามทุกคนดูได้เลยว่าคิดเหมือนข้าไหม!” ชายผู้นั้นเร่งตอบโต้อย่างรวดเร็ว
“เจ้าพล่ามบ้าอะไร! เจ้าไม่มีสิทธิ์จะพูดอะไรทั้งนั้น!” ชายในชุดคลุมสีเหลืองกล่าวออกมาอย่างดุเดือดพร้อมทั้งกลับสู่ความสงบอย่างรวดเร็ว เขากล่าวต่ออย่างเย็นชา “ผู้นำของข้าชื่นชอบเจ้า แน่นอนว่ามันจะส่งผลดีกับเจ้าในอนาคต ถ้าหากเจ้าคิดจะต่อต้าน บิดาผู้นี้ก็จะเฉือนเนื้อของเจ้าโยนให้หมากินซะ!”
บุคคลที่ยืนอยู่โดยรอบล้วนแต่หลั่งเหงื่อเย็นเฉียบออกมา ชายหนุ่มที่ประคองน้องสาวของตนเองไว้ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความอึดอัดใจ จากนั้นเขากัดฟันพูดออกไปอย่างช่วยไม่ได้ “ยอดเยี่ยม ข้าสามารถไปกับท่านได้ แต่… แต่ข้าขอฝากน้องสาวข้าไว้ที่นี่ นางยังเด็กอยู่ ข้าไม่ต้องการให้นางถูกทำร้าย!”
“เฮ้! เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่? ไม่มีทางที่จะทำเช่นนั้นได้ น้องสาวของเจ้านั้นเป็นสิ่งที่ผู้นำของข้าชื่นชอบเช่นกัน!” ชายชุดคลุมสีเหลืองกล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโลภ “ข้าผู้นี้ได้ค้บพบสิ่งของที่ท่านผู้นำถูกใจถึงสองอย่างในครั้งเดียว ไม่อาจรู้ได้เลยว่าท่านจะมอบสมบัติอะไรให้กับข้า! ฮ่าฮ่า! โชคดีจริงๆ!”
“ยินดีกับอาวุโสอย่างยิ่ง ยินดีด้วย!” เหล่าลูกน้องที่อยู่รอบๆต่างพากันชื่นชมและแสดงความยินดีต่อบุรุษชุดคลุมสีเหลืองด้วยความครื้นเครง
แต่ในตอนนี้บุรุษร่างใหญ่นั้นเฉยเมยราวกับว่าเขาได้ตายไปแล้ว ส่วนเด็กสาวตัวน้อยนั้นยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ดวงตาคมโตเป็นประกายกำลังจ้องมองไปที่บุคคลเหล่านั้นอย่างสงสัย
“เอาล่ะ ขอบคุณมาก ฮ่าฮ่า!” ชายชุดคลุมสีเหลืองกวักมือของเขาพร้อมกับกล่าวว่า “มาเถิด ตามข้ามา อย่าให้ท่านผู้นำรอนานเลย!”
“ใช่แล้ว ไปกันเถอะ รีบไป!” เหล่าลูกน้องกล่าวตอบรับอย่างพร้อมเพรียง
บุรุษร่างใหญ่เมื่อเห็นว่าสถานการณ์วิกฤติแล้ว เขาโอบกอดน้องสาวของตนเองไว้อย่างมั่นคงพร้อมกับวิ่งหนีออกไปอีกด้านอย่างไม่คิดชีวิต นี่คือวิธีต่อสู้กับความตายเพียงทางเดียวที่เขาคิดออกในตอนนี้
ชายชุดคลุมสีเหลืองเห็นเช่นนั้น เขาถอนหายใจออกมาพร้อมกับใบหน้าที่เหยียดหยาม เขาสะบัดมือขวาเพียงครั้งเดียวเพื่อปลดปล่อยตาข่ายสีเหลืองขนาดใหญ่ออกไป ทุกคนโดยรอบเห็นมันอย่างชัดเจนว่ามันเป็นอุปกรณ์วิเศษที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้จับกุม และในตอนนี้หน้าที่ของมันคือจับกุมสองพี่น้อง ภายในเส้นใยนั้นเต็มไปด้วยยาชาที่ใช้หยุดการเคลื่อนไหว สุดท้ายแล้วสองพี่น้องถูกจับและหมดสติไปอย่างรวดเร็ว
ชายชุดคลุมสีเหลืองกล่าวออกมาอย่างเย้ยหยันเมื่อทั้งสองถูกจับได้อย่างรวดเร็ว “ข้านั้นจะทำให้พวกเจ้าหลุดพ้นจากสถานะยาจก แต่พวกเจ้ากลับวิ่งหนีไปอย่างโง่เขลา! ปัญญาของพวกเจ้านั้นช่างดักดานยิ่งนัก! พามันไปเดี๋ยวนี้!” เขาออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว
จากนั้นผู้ฝึกตนชุดคลุมเขียวหยิบดาบจักรพรรดิของตนเองออกมาและบินออกไปหาเหลี่ยวเซียวเย่าทันที
หลังจากที่เหล่าคนพวกนั้นได้กลับออกไป เหล่าผู้ฝึกตนที่หลบซ่อนตัวอยู่เดินออกมาพร้อมกับพึมพำอย่างหดหู่ “บัดซบจริงๆ!”
“คู่พี่น้องนั้นช่างน่าสงสารยิ่งนัก จบสิ้นกันแล้วสินะ! พวกเขาทั้งสองถูกเลือกโดยเหลียวเซี่ยวเย่า ข้าเกรงว่าพวกเขาคงจะไม่มีพลังเหลือที่จะเดินต่อไปเพื่อมีอนาคตที่สดใสหรอก!”
“แต่เจ้าพวกนั้นพาสองพี่น้องนั้นไปจนลืมว่าพวกเรากำลังขอร้องให้ลดราคาของหินจิตวิญญาณอยู่ ฮ่าฮ่า มันก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ!”
“ฮ่าฮ่า ใช่แล้ว มันยอดเยี่ยมที่สุด!” ผู้คนโดยรอบโห่ร้องออกมาด้วยรอยยิ้ม
ชีวิตของผู้บริสุทธิ์สองคนกำลังจะหายไปในไม่ช้านี้ แต่บุคคลเหล่านี้ยังคิดถึงการสูญเสียเล็กน้อยของตนเอง สิ่งเหล่านี้ทำให้ทะเลตะวันออกถูกเรียกว่าดินแดนแห่งความป่าเถื่อนและไร้ซึ่งความยุติธรรม เห็นได้ชัดว่าคำเหล่านี้ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาโดยไร้เหตุผล
หัวใจของผู้คนได้ถูกตัดออกจากคุณธรรมทั้งหมดโดยสิ้นเชิง
ทะเลตะวันออก ณ เกาะหิน
เหลียวเซียวเย่าอาศัยอยู่ที่นี่ วังของเขานั้นยิ่งใหญ่และสวยงามอย่างยิ่ง ทั่วทั้งบริเวณเต็มไปด้วยชายหญิงมากมายราวกับผักปลา
ในเวลานั้นเหลียวเซียวเย่ากำลังเบื่อกับการดื่มอยู่ในห้องโถงใหญ่ รอบข้างของเขาเต็มไปด้วยชายหนุ่มรูปร่างกำยำสวมใส่ชุดคลุมสีแดงให้บริการเขาอย่างเต็มที่ เหล่าบุรุษรูปงามเทเหล้าเพิ่มให้กับเหลียวเซียวเย่า แต่จู่ๆเหลียวเซียวเย่าที่ยิ้มแย้มกลับบึ้งตึงโดยไม่ทราบสาเหตุ เขาเตะบุรุษผู้นั้นกระเด็นจนกระอักเลือดออกมาคำใหญ่พร้อมกล่าวออกมาอย่างน่ารังเกียจ “ข้าเบื่อเนื้อเน่าๆพวกนี้เสียจริง ทำไมถึงไม่มีอะไรใหม่ๆบ้าง! ข้าต้องการสินค้าใหม่!”
ในขณะที่เหลียวเซียวเย่ากำลังก่นด่าอย่างไม่พอใจ ผู้ฝึกตนจำนวนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างเงียบๆเพื่อลากบุรุษที่นอนจมกองเลือดนั้นออกไป เห็นได้ชัดว่าเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ใช่ครั้งแรก
สำหรับหญิงสาวที่หน้าตางดงามได้แต่หลบซ่อนตัวอย่างรวดเร็ว ร่างกายของพวกนางสั่นเทิ้มเล็กน้อยจากความหวาดกลัว เหลียวเซียวเย่านั้นมีอารมณ์ที่แปรปรวนและเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเผชิญหน้ากับมัน เขามักจะกลายร่างเป็นปีศาจที่ชื่นชอบการสังหาร แล้วผู้ใดกันเล่าจะไม่เกรงกลัวเมื่อเขาอยู่ในสภาวะเช่นนี้? แต่ทว่าแม้พวกเขาทั้งหมดจะหวาดกลัวมากเพียงใด ก็ไม่อาจวิ่งหนีไปได้ นอกจากยืนรอความตายอยู่ตรงนี้เท่านั้น
โชคดีที่ในเวลานั้น ผู้ฝึกตนที่งดงามคนหนึ่งได้เดินเข้ามาพร้อมคุกเข่าลงต่อหน้าของเหลียวเซียวเย่าและกล่าวว่า “รายงานท่านผู้นำ อาวุโสเซ็นได้จับกุมพี่น้องชายหญิงที่งดงามคู่หนึ่งได้ ความงามของทั้งสองนั้นหาตัวจับได้ยากยิ่ง ผู้ชายนั้นรูปร่างราวกับหมียักษ์ ผู้หญิงนั้นบอบบางราวกับตุ๊กตา เรียกได้ว่าเป็นความงามที่สวรรค์ประทานมาโดยแท้จริง!”
“จริงหรือ? เป็นเรื่องจริงงั้นหรือ?!” เหลียวเซียวเย่าตื่นเต้นจนไม่สามารถเก็บอาการได้ เขากล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว “ยอดเยี่ยมมาก ในที่สุดเซ็นก็ทำตัวเป็นประโยชน์สักที ไปบอกเขาให้พาทั้งสองเข้ามาหาข้าโดยเร็ว ถ้าหากข้าพึงพอใจ แน่นอนว่าเขาจะได้รับรางวัลที่ยอดเยี่ยม!”
“รับทราบ!” ผู้ฝึกตนรีบตอบรับอย่างรวดเร็ว จากนั้นลุกออกไปอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปชั่วครู่ ชายชุดคลุมสีเหลืองถือตาข่ายที่จับกุมสองพี่น้องเดินเข้ามาด้านใน เขาหยุดอยู่ตรงหน้าของเหลียวเซียวเย่าพร้อมกล่าวอย่างรวดเร็ว “ข้ามีของขวัญมามอบให้กับท่าน นี่เป็นสินค้าระดับสูงอย่างแน่นอน!” เมื่อกล่าวเช่นนั้น ฮ่วงเซ็นเปิดตาข่ายออกเผยให้เห็นสองคนที่อยู่ด้านในอย่างไม่ชักช้า
เหลียวเซียวเย่าที่ยืนรออยู่ด้วยดวงตาที่เป็นประกาย การเฝ้ารอที่จะได้เห็นสินค้าภายในทำให้เขาตื่นเต้นอย่างมาก แววตาของเขาลุกโชนระบำราวกับเปลวไฟ จากนั้นเขาขยี้ตาพร้อมกับมองอีกครั้งอย่างไม่เชื่อสายตาตนเองและกล่าวออกมาว่า “อืม ทำไมข้ารู้สึกว่าคุ้นหน้าคุ้นตาพวกมันยิ่งนัก?”