บางทีการหมดสติของผู้เข้าชมทั้งสิบคนอาจจะน่ากลัวเกินไปสักนิด ตลอดทั้งเช้า ไม่มีใครกล้าท้าทายเมืองไร้นามอีกเลย ทุกคนยอมติดอยู่ที่ฉากระดับต่ำอย่างว่าง่าย
ผู้เข้าชมรอบ ๆ บ้านผีสิงเริ่มสงบลงเป็นลำดับ เฉินเกอรู้สึกว่าบางทีสักวันหนึ่ง ผู้เข้าชมก็จะเคยชินที่ได้เห็นคนหมดสติอยู่แถว ๆ ทางเข้าบ้านผีสิง
บ่ายสอง มีคนที่อ้างว่ามาจากสถาบันฝันร้ายมาถามหาเฉินเกอ พวกเขาลากเพื่อนร่วมงานกลับขึ้นรถไป หนึ่งในนั้นเป็นฝาแฝดคู่หนึ่งที่มาขอโทษเฉินเกอด้วยตัวเอง เฉินเกอยอมรับคำขอโทษของพวกเขาอย่างใจกว้างมากและสัญญาว่าเขาจะไปเยี่ยมถ้ามีโอกาสในอนาคต
หลังจากคนจากสถาบันฝันร้ายกลับไปแล้ว นักศึกษาจากวิทยาลัยแพทย์จิ่วเจียงก็มา พวกเขาส่วนใหญ่เป็นเพื่อนของหวังตั้น เมื่อได้ยินว่าเพื่อนของพวกเขาหมดสติไปอีกแล้ว พวกเขาก็มาดูหลังจากเลิกชั้นเรียน
“นี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่– เดี๋ยวเขาก็ฟื้นแล้ว” เฉินเกอสรุปหลังจากตรวจดูร่างกายของหวังตั้น อันที่จริง หวังตั้นนั้นตื่นนานแล้ว ในฐานะผู้เข้าชมรุ่นพี่ ความสามารถของเขาในการทนรับความหวาดกลัวทางจิตใจนั้นดีกว่าผู้เข้าชมคนอื่น ๆ มา เมื่อรู้ว่าเฉินเกอให้โอกาสเขาได้รักษาหน้า ไม่ช้าหวังตั้นก็ ‘ฟื้น’ ขึ้นมา
“หวังตั้น ในที่สุดนายก็ฟื้นแล้ว!”
“นายกล้าท้าทายฉากระดับ 3.5 ดาวจริง ๆ เหรอเนี่ย? ขอชมเชยเลย!”
นักศึกษาจากวิทยาลัยเข้าไปล้อมหวังตั้น และพวกเขาก็ไม่คิดว่าการหมดสติอยู่ในบ้านผีสิงของเฉินเกอนั้นเป็นอะไรที่น่าอับอาย อันที่จริง พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาต้องพลาดอะไรไปแน่ ๆ หากไม่มาหมดสติอยู่ที่นี่ เหมือนมีบางอย่างหายไปจากชีวิตมหาวิทยาลัย
“ไม่ถึงกับพ่ายแพ้ทั้งหมด” หวังตั้นเค้นรอยยิ้มขึ้นมาบนใบหน้าซีดเซียว เขานอนอยู่กลางฝูงชนแล้วถูกมองอย่างประหลาดใจราวกับเป็นทหารหาญ “ผมเจอกุญแจของฉากระดับ 3.5 ดาว!”
หวังตั้นขยับหันไปทางเฉินเกอ เขายกมือขึ้น “บอสเฉิน ครั้งหน้าผมจะทำสำเร็จ!”
“ฉากพวกนี้สร้างเอาไว้ให้พวกคุณทุกคนได้สัมผัสและเคลียร์ฉาก ดังนั้นผมย่อมต้องยินดีต้อนรับพวกคุณกลับมาอยู่แล้ว” เฉินเกอนั้นชอบใช้เวลากับนักศึกษาพวกนี้– นี่ทำให้เขารู้สึกอ่อนเยาว์ลง หวังตั้นและแฟนสาวของเขานั้นมีนักศึกษาคนอื่น ๆ พาไป หลังจากที่พวกเขาหายลับไปจากสายตาเฉินเกอ พวกเขาก็เข้าไปล้อมหวังตั้นอีกครั้ง
“หวังตั้น ฉากระดับสามจุดห้าดาวนี่ข้างในดูเป็นยังไง? น่ากลัวแค่ไหน?”
“ฉันไม่คิดว่าฉันจะต้องอธิบายความน่ากลัวในเมื่อผู้เข้าชมทั้งสิบคนล้วนหมดสติจากการเข้าชม” หวังตั้นยังอ่อนแรง และขาของเขาก็เหมือนแป้งเปียก “ฉากใหม่เป็นเมืองเล็ก ๆ แต่ว่าพื้นที่ใหญ่อยู่นะ ฉันเชื่อว่าผู้เข้าชมเข้าพร้อมกันได้ยี่สิบคนเลย ที่นั่นเต็มไปด้วยกับดัก และที่น่ากลัวที่สุดก็คือ เมื่อเวลาผ่านไป เมืองก็เปลี่ยนตามไปด้วยตัวเอง”
“เมืองเปลี่ยนด้วยตัวเอง?” หยางเฉินหยิบสมุดจดออกมาแล้วเริ่มเขียน “ความยากเพิ่มขึ้นอีก?”
“ใช่! หมอกไหลไปตามถนน สัญญาณโทรศัพท์ถูกขัดขวาง และนักแสดงก็ปรากฏตัวออกมาเต็มถนนเลย”
“พูดอีกอย่างหนึ่ง ถ้าจะเคลียร์ฉากใหม่นี่ พวกเราต้องลงมือให้เร็วและหาคำใบ้ให้เจอมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนที่ความยากจะเพิ่มขึ้น” หยางเฉินจดทุกอย่างที่หวังต้้นพูดลงไปในสมุด นี่เป็นข้อมูลอันมีความที่หวังตั้นเสี่ยง ‘ชีวิต’ ได้มา
“ใช่ นอกเหนือจากนั้นแล้ว ผมยังได้ข้อมูลที่สำคัญมากมาระหว่างการเข้าชม” หวังตั้งคิด “เรื่องทางออก ผมเจอสามคำใบ้ พวกมันคือ ตู้เย็นที่มุมห้องครัว ห้องเก็บศพที่ท้ายโรงพยาบาล และก็ตู้ในห้อง ดังนั้น ถ้าพวกเราลองกันครั้งหน้า พวกเราก็แค่ต้องให้ความสนใจกับตู้เย็น ตู้ต่าง ๆ และห้องเก็บสพ”
“ได้ มีอย่างอื่นที่พวกเราต้องให้ความสนใจไหม?”
“มีอีกอย่างหนึ่ง ฉันไม่แน่ใจเรื่องนี้นะ แต่ฉันเชื่อว่ามันเป็นความจริง” หวังตั้นลังเล “เมื่อคิดถึงขนาดของฉากและความเป็นไปได้ที่จะเกิดอุบัติเหตุ บอสเฉินมีเขตปลอดภัยให้ในฉาก มันอยู่ตรงกลางเมือง เป็นโรงแรม”
“เขตปลอดภัย?”
“ใช่ เจ้าของโรงแรมเป็นชายวัยกลางคน ตอนนี้พอฉันมาคิด ๆ ดู เขาไม่ได้อยู่ต่อหน้าพนักงานคนอื่น ๆ ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องโกหกผม” หวังตั้นให้คำแนะนำสำคัญอีกข้อหนึ่ง
“นี่สำคัญมากเลย มันอาจจะเป็นเครื่องช่วยชีวิต” หยางเฉินจดมันลงไปแล้ววงสีแดงเอาไว้เหมือนข้อมูลสำคัญอื่น ๆ
เฉินเกอมองส่งเหล่านักศึกษาเดินออกไปก่อนที่จะหันมาหาผู้เข้าชมที่เหลือ “ผู้ชายในชุดเสื้อคลุมยาวคนนี้ละเมิดกฎหมาย ฉันควรจะรอให้ตำรวจมาพาตัวเขาไป”
ยังมีผู้เข้าชมอยู่เยอะเกินกว่าที่เขาจะเรียกตำรวจได้ เฉินเกอรอจนถึงห้าโมงเย็นตอนที่สวนสนุกกำลังจะปิดให้บริการและโทรหาหลี่ซานเป่าและบอกเขาทุกอย่าง ระหว่างนี้ ผู้เข้าชมสองสามคนก็ค่อย ๆ รู้สึกตัวขึ้น สภาพของจางเฟิงนั้นค่อนข้างแย่ แต่เขาก็ฟื้นขึ้นมาหลังจากที่เฉินเกอส่งเขาเข้าไปที่ห้องเก็บศพใต้ดินครู่เดียว ความรู้สึกอายตัวเองทำให้เขาปลีกตัวกลับออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ชิโนซากิและผู้ช่วยของเขานั้นก็ทำท่าประหลาดเช่นกัน หลังจากพวกเขาฟื้นขึ้นมา พวกเขาก็นั่งอยู่ข้าง ๆ บ้านผีสิงเหมือนกำลังรอเฉินเกอ หกโมงสี่สิบ หลังจากส่งผู้เข้าชมกลุ่มสุดท้ายลับไป ตอนที่เฉินเกอเตรียมจะปิดประตู ชิโนซากิกับผู้ช่วยของเขาก็วิ่งเข้ามา
“บอสเฉิน!” ชิโนซากิโขยกเขยกเข้ามาหา ผมของเขายุ่งเหยิง และสีหน้าของเขากระวนกระวาย ดูไม่เหมือนผู้เชี่ยวชาญอะไรเลย
“มีอะไรให้ผมช่วยหรือครับ?” เฉินเกอนั้นค่อนข้างประทับใจในตัวชิโนซากิ
“ผมเจอต้นฉบับการ์ตูนในบ้านผีสิงของคุณ” ชิโนซากิดึงต้นฉบับออกมาจากกระเป๋า ตอนที่เขาหมดสติไป เขากำกระดาษแผ่นนี้เอาไว้ในมือแน่น “ผมขอพบคนวาดได้ไหม? ผมชื่นชมเขามาก และผมก็มีเรื่องสำคัญอยากจะคุยกับเขา”
“คุณอยากพบเขา?” เฉินเกอรู้ดีเลยว่าเป็นเอี๋ยนต้าเหนียนที่วาดต้นฉบับนี่
“ใช่ครับ! ผมอยากจะร่วมมือกับเขาเผยแพร่งานของเขาไปให้ทั่วโลก อัจฉริยะอย่างนี้ไม่ควรแอบซ่อนอยู่ในบ้านผีสิง!” ชิโนซากิตื่นเต้น มันนานหลายปีแล้วที่เขาไม่ได้พบผลงานที่ส่งผลต่อเขาลึกซึ้งอย่างนี้ ทุก ๆ หน้านั้นเป็นศิลปะ และพวกมันก็มีอารมณ์อันไม่เหมือนใคร วาดโลกแห่งความจริงผ่านสายตาอันประหลาดและเหนือธรรมชาติ
“ตามผมมาสิ ศิลปินคนนี้เป็นคนแปลก ๆ และผมก็รับรองไม่ได้ว่าเขาอยากจะพบคุณหรือเปล่า” เฉินเกอให้ถงถงติดต่อเอี๋ยนต้าเหนียนและนำชิโนซากิและผู้ช่วยของเขากลับเข้าไปในชั้นใต้ดิน
หลังจากได้รับอนุญาตจากเอี๋ยนต้าเหนียน เขาก็ตัดสินใจจัดการประชุมเล็ก ๆ “นักวาดอยู่ในห้องนอนนี่ เขาไม่ชอบคนแปลกหน้า เพราะงั้นพวกคุณก็คุยกันผ่านม่านได้ไหม?”
ชิโนซากินั้นเป็นนักวาดการ์ตูนที่มีชื่อเสียงและรู้ทุกอย่างในวงการนี้ กระทั่งผู้ช่วยของเขาก็ยังดูเป็นมืออาชีพ พวกเขามีสตูดิโอของตัวเองและยังมีระบบการทำงานที่เพียบพร้อม
เฉินเกอเองก็คอยสังเกตอยู่ในตอนแรก แต่หลังจากที่เขาแน่ใจแล้วว่าชิโนซากินั้นต้องการร่วมงานกับเอี๋ยนต้าเหนียนอย่างจริงใจ และเขายังปรารถนาจะช่วยเอี๋ยนต้าเหนียนเผยแพร่งานของเขาออกสู่สายตาคนทั้งโลก เขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินกลับออกมา
นี่เป็นช่วงเวลาที่เอี๋ยนต้าเหนียนสามารถไขว่คว้าความฝันตลอดชีวิตของเขามาได้ ดังนั้นเฉินเกอย่อมไม่อยู่รบกวน เขายืนเฝ้าอยู่นอกห้อง ประมาณครึ่งชั่วโมงให้หลัง โทรศัพท์เครื่องดำของเฉินเกอจู่ ๆ ก็สั่น เขาเปิดมันดูอย่างสงสัยและเห็นว่ามีการอัพเดทเพิ่มขึ้นมาในแถบพนักงาน
ในส่วนของเอี๋ยนต้าเหนียน พลังพิเศษที่เดิมเป็นเครื่องหมายคำถามตอนนี้นั้นเปลี่ยนไปเป็นสีเทา มันยังใช้การไม่ได้ แต่ว่าเฉินเกอสามารถอ่านรายละเอียดได้
“ความปรารถนาเป็นจริง: พลังที่แข็งแกร่งที่สุดของกึ่งวิญญาณสีเลือด! ความปรารถนาในหัวใจของคุณจะผลิดอกออกผล ใช้ได้สัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ทุกการใช้จะทำให้จำนวนหน้าในหนังสือการ์ตูนลดลงหนึ่งหน้าอย่างถาวร!
“ชีวิตของฉันคือการ์ตูน: ทุกหน้าคือความทรงจำของฉัน สัญญาที่ฉันรักษาเอาไว้ไม่ได้จะถูกฉีกขาด โยนทิ้งไปในอากาศ ให้ปลิวไปกับสายลม…”